แม่หมอต่ายร้อง‘กมธ.’ช่วยติดตามคดีลูกสาว

ชนตายคาทางม้าลายอีก กระบะชนดับลุงวัย 68 ตร.ตรวจ สภาพรถคาดใช้ความเร็ว 80-90 ก.ม./ช.ม. แม่หมอต่ายยื่นขอกมธ.กฎหมาย ช่วยตรวจสอบการทำคดีลูกสาว ทนายฝากช่วยติดตามการบังคับใช้กม.คุมความเร็ว กทม.ทาสีแดงทางม้าลายหน้าสถาบันโรคไตเสร็จแล้ว รองผู้ว่าฯ กทม.ชี้ช่วยคนขับรถมองเห็นทางข้ามได้ชัดๆ

จากกรณีอุบัติเหตุรถชนคนเสียชีวิตบนทางม้าลายเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกรณีของพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ที่ถูกส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วชนเสียชีวิต หน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เขตราชเทวี ล่าสุดยังคงมีอุบัติเหตุชนคนข้ามถนนบนทางม้าลายเสียชีวิตอีกราย คือ นายสุรพันธ์ บุณยสุรักษ์ อายุ 68 ปี ถูกนายพิสิษฐ์ วัฒนสถิตย์ อายุ 51 ปี ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน 1 กร 8075 กทม. ชนเสียชีวิตอยู่ที่ทางม้าลาย บนพื้นถนนปากซอยเอกชัย 43/3 เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ.65 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่สน.บางขุนเทียน ร.ต.อ.จำรัส เนื้อไม้ รอง สว.สอบสวน สน.บางขุนเทียน และเจ้าหน้าที่กองช่างเครื่องยนต์และตรวจพิสูจน์ กองกำกับการ 5 บก.จร ได้ตรวจสอบสภาพรถกระบะ ทะเบียน 1 กร 8075 กทม. เบื้องต้นนายพิสิษฐ์คนขับแจ้งว่าขับรถด้วยความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ผลตรวจสอบพบว่า น่าจะใช้ความเร็ว 80 – 90 ก.ม./ช.ม. เนื่องจากสภาพรถที่ชนนั่นเสียหายรุนแรง แชสซีรถด้านในยุบ ตัวหม้อน้ำรถยนต์บุบจนถึงเครื่องยนต์ ทั้งนี้รายละเอียดจะทำข้อมูลสรุปส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป

ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ ศิริราช นายพงษ์ศักดิ์ บุณยสุรักษ์ อายุ 73 ปี พี่ชายนายสุรพันธ์ มารับศพน้องชายนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสิงห์ เขตจอมทอง กทม. โดยนายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ญาติได้พูดคุยกับคนขับรถกระบะบ้างแล้ว เบื้องต้นทางประกันจะดูแลในส่วนที่รับผิดชอบ คนขับก็ได้เข้ามาขอโทษ ตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่อยากจะฝาก ถึงคนขับรถ อยากให้ขับรถช้าๆ ดูคนข้ามทางม้าลายบ้าง ทางญาติและครอบครัวเอง ก็พูดไม่ออกกับเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียน้องชายไป อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดไฟส่องสว่างในจุดเกิดเหตุเพิ่มขึ้น

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล มารดาของพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย พร้อมด้วยนายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี พญ.วราลัคน์ถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ชนที่ทางม้าลายจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ. เป็นตัวแทนกมธ. มารับหนังสือ

นางรัชนีกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ลูกสาวของตนไม่ได้ข้ามถนนด้วยความประมาท หลายคนอาจจะมองว่าเวลาเกิดปัญหาแบบนี้ เป็นการโยนความผิดให้ผู้ใช้ถนน ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เพราะไม่มีโอกาสได้ป้องกันตนเอง หากขับรถมาช้ากว่านี้ก็อาจจะเป็นแค่การรักษา แต่นี่ไม่มีโอกาสได้รักษาเลย ลูกสาวตนเสียชีวิตคาที่ สิ่งนี้ทำให้ตนรับไม่ได้ จึงขอให้ประชาชนทุกคนช่วยให้กำลังใจ ให้ความเป็นธรรม และหน่วยงานต่างๆ ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เนื่องจากตนไม่อยากให้ลูกสาวตายฟรี และก็รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวอีกคนที่มีลูกน้อยที่ยังมีความหวาดกลัวไม่กล้าข้ามถนน จึงอยากให้สังคมพัฒนาและเปลี่ยนแปลง จึงมาขอความกรุณาจากรัฐสภาแห่งนี้ ช่วยชี้นำสังคมให้ร่วมกันพัฒนาประเทศและอย่าให้คดีนี้เป็นเหมือนคดีอื่นๆ ที่มันหายไป โดยไม่ส่งผลดีต่อประเทศ ลูกสาวของตนที่เสียชีวิตไปจะได้ภาคภูมิใจและเป็นแบบอย่างให้กับน้องและคนอื่นๆ ด้วย

นายณัฐพลกล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่การร้องเรียนแต่อยากให้กมธ.กฎหมาย ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานกับการดำเนินคดีอีกทางหนึ่ง เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยากให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้มีความละเอียด การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวและประเทศ เนื่องจากพญ.วราลัคน์ เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อสังคม ประเด็นที่ครอบครัวรู้สึกคาใจอยู่คือ การบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะจุดที่เกิดเหตุเป็นทางม้าลายแต่กลับมีรถวิ่งเร็วมาก จึงเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย เมื่อปี 2564 มีการออกกฎกระทรวงโดยนายกรัฐมนตรี เรื่องการจำกัดความเร็ว ถามว่ามันครอบคลุมแล้วหรือ เพราะจุดตรงนั้นควรใช้ความเร็วได้ 20-30 ก.ม. จึงอยากฝากให้กมธ.กฎหมาย ช่วยดูว่ากฎหมายลำดับรองเพียงพอแล้วหรือยัง การบังคับใช้กฎหมายมีอะไรบ้าง

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ทางกมธ.กฎหมาย ได้รับทราบและหารือกันแล้ว และจะได้เตรียมพูดคุยใน 2 ส่วน คือ 1.กฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการปรับแก้กฎหมายในส่วนไหนบ้าง และ 2.เรื่องเกี่ยวกับคดีความ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เข้าให้ข้อมูลทั้งส.ต.ต.นรวิชญ์ที่ขับชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และกรมการขนส่งทางบก ในวันที่ 10 ก.พ.นี้

ที่บริเวณทางม้าลาย หน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เขตราชเทวี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงทางข้าม (ทางม้าลาย) โดยพล.ต.ท.โสภณกล่าวว่า การแก้ไขบริเวณทางข้ามที่เกิดอุบัติเหตุนี้ ได้ทาสีแดงและขยายความกว้างเส้นทางข้าม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วภายใน 2 วัน ส่วนการติดตั้งสัญญาณไฟคนข้ามแบบกดปุ่ม พร้อมตัวเลขนับเวลาถอยหลัง จะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ นับจากวันที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุม ขณะนี้ได้ติดตั้งเสาสัญญาณแล้ว ซึ่งการติดตั้งกล้อง CCTV AI เพื่อตรวจจับผู้ฝ่าฝืนเส้นทางข้าม โดยจะใช้ระยะเวลาติดตั้งประมาณ 30 วัน

พล.ต.ท.โสภณกล่าวอีกว่า สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ มีทางข้ามรวมทั้งหมด 3,280 จุด ติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบ 1,277 จุด ติดตั้งสัญญาณไฟแบบกดปุ่มแล้ว 226 จุดและกำลังจะติดตั้งเพิ่มอีก 100 จุด ส่วนการทาสีแดงพื้นเส้นทางข้ามดำเนินการแล้ว 430 จุด ส่วนการแก้ไขปัญหาในภาพรวมของเส้นทางข้าม จะปรับปรุงป้ายเตือน ป้ายกำหนดความเร็ว ทาสีแดงพื้นเส้นทางข้าม เส้นชะลอความเร็ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ซ้ำหมอต่าย – จนท.ตรวจสอบรถปิกอัพทะเบียน 1 กร 8075 กทม. ขับชนนายสุรพันธ์ บุณยสุรักษ์ อายุ 68 ปี ขณะเดินข้าม ทางม้าลายเสียชีวิตกลางถนน ท้องที่สน. บางขุนเทียน ลักษณะเดียวกับคดีหมอกระต่าย เมื่อวันที่ 3 ก.พ.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน