ทำใจไม่ได้-ลูกรับใช้ชาติ แต่ถูกทารุณหนักในค่าย
แม่สุดทนพาพลทหารสังกัดนาวิกฯ เข้าแจ้งความถูกครูฝึกใช้สันมีดตีหัวบวมปูด แล้วยังทำร้ายร่างกายซ้ำซาก เผยเสียความรู้สึกมากอุตส่าห์ให้ลูกสมัครเป็นทหาร เพราะภูมิใจในเกียรติของทหาร กลับถูกครูฝึกทำร้ายคาค่ายทหาร
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นางรุนณี ธุระพันธ์ อายุ 40 ปี ชาว อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า บุตรชาย คือพลทหารวุฒิพงษ์ เจริญสุข ทหารกองประจำการ เข้ารับการฝึกที่ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ถูก ครูฝึกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง รวมถึงถูกใช้สันมีดตีเข้าที่ศีรษะบวมปูดระบมไปทั้งหัว กระทั่งถึงวันหยุดกลับมาที่บ้านจึงรู้ความจริงและพาเข้าแจ้งความที่สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไว้แล้ว
พลทหารวุฒิพงษ์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า สมัครเข้ารับราชการทหาร เข้าประจำการมาแล้ว 7 เดือน มีหน้าที่ประจำโรงครัวของค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน (พัน.ร.1 รอ. กรม ร.1 พล.นย.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.พ. พ.จ.ต. (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ครูฝึกทหารใหม่เข้ามาในโรงครัวไม่พูดพร่ำทำเพลง จู่ๆ ใช้ด้ามมีดตีเข้าที่ศีรษะอย่างแรงรู้สึกปวดมาก แต่ไม่กล้าพูดอะไร ครูฝึกมองหน้าแล้วเดินออกไป โดยไม่ให้เหตุผลว่าตีเพราะสาเหตุอะไร
อีกไม่นานย้อนกลับมาอีกครั้ง คราวนี้เดินเข้ามาใช้มือตบศีรษะและใบหน้าอีกหลายครั้ง จนมีอาการเจ็บและมึนงงไปหมด ทำร้ายเสร็จก็ออกไปจากโรงครัว แปลกใจมากว่ามาตบตีกันด้วยเรื่องอะไร จะถามก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะโดนทำร้ายอีก จนกระทั่งต่อมาเวลา 21.00 น.วันเดียวกัน ตนกับเพื่อนก็ถูกครูฝึกเรียกออกไปทำโทษอีก ด้วยการใช้ศีรษะปักลงกับพื้นดินที่มีแต่หิน ให้นับ 1-500 จึงหยุดได้ จนเจ็บศีรษะอย่างมาก
ต่อมาเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ขณะที่กำลังหั่นผักอยู่ครูฝึกคนเดียวกันเข้ามาที่โรงครัวอีกครั้ง คว้ามีดทำครัวขึ้นมาใช้สันมีดตีลงกลางศีรษะอย่างแรง จนปวดร้าวทั้งศีรษะ ก่อนเดินออกไปโดยไม่สนใจ พอช่วงหัวค่ำเรียกออกไปทำโทษอีก พร้อมทั้งถีบหลังอย่างแรงทำให้ไม่สามารถทนพฤติกรรมรุนแรงของครูฝึกคนนี้ได้อีกต่อไป จึงโทรศัพท์กลับไปหามารดา ในวันที่ 19 ก.พ. มารดาจึงมารับกลับและพาเข้าแจ้งความที่ สภ.พลูตาหลวง ชลบุรี พร้อมทั้งพาไปตรวจร่างกาย พบว่า ตรงกลางศีรษะบวมปูดได้รับความกระทบกระเทือนมาก
นางรุนณีกล่าวว่า เสียความรู้สึกมากกับการกระทำดังกล่าว ที่ออกมาร้องเรียนและดำเนินคดี เพราะไม่อยากให้ทหารเกณฑ์ คนอื่นๆ ถูกทำร้ายอีก ลูกหลานใครใครก็รัก และที่ให้ลูกไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ เพราะอยากให้ไปรับใช้ชาติ เป็นความภูมิใจของครอบครัว ถึงกับให้ลูกถ่ายรูปกับเครื่องแบบทหาร แล้วใส่กรอบติดฝาผนังบ้านไว้ดูด้วยความภูมิใจ
แต่กลับมาถูกครูฝึกใจร้ายทำร้ายร่างกาย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงอาการบาดเจ็บไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก และอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัว รวมถึงอยากให้ผู้กระทำออกมาแสดงความรับผิดชอบ และให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย เพราะไม่กล้าให้บุตรชายกลับไปในค่ายฝึก เพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก
วันเดียวกัน น.ท.ภัทรฉัตร รุ่งแสง ผบ.พัน.ร.1 รอ.กรม ร.1 พล.นย. ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เผยว่า หลังทราบเหตุก่อนที่สื่อมวลชนจะนำเสนอข่าวได้เชิญมารดา และพลทหารวุฒิพงษ์ เจริญสุข เข้าพบที่ สภ.พลูตาหลวง เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับจะได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายและทางวินัยกับ พ.จ.อ.เด่นชัย ศุภนิมิต อย่างเคร่งครัด และกำชับให้ข้าราชการทหารทุกนายอย่าได้กระทำการในลักษณะเช่นนี้อีก จนทำให้มารดาและพลทหารวุฒิพงษ์ เจริญสุข เกิดความสบายใจและไม่ติดใจเอาความกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ สมใจ ผกก.สภ.พลูตาหลวง กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าว ผู้เสียหายลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้น และลงบันทึกประจำวันต่อมา ว่าไม่ติดใจสงสัยเอาความ ซึ่งจะได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และในเรื่องนี้ทางกองทัพเรือทราบเรื่องแล้ว หลังจากที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว ซึ่งโฆษกกองทัพเรือจะได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป
ด้าน พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เผยว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน แม้ว่าพลทหารวุฒิพงษ์ และมารดาจะไม่ติดใจเอาความ ภายหลังจากที่ได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับทางครอบครัวและตัวของพลทหารวุฒิพงษ์ แต่เนื่องจากเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้ กองทัพเรือจึงขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและจะลงโทษทางวินัย โดยไม่ปกป้องคนผิด
พล.ร.ท.ปกครองกล่าวต่อไปว่า เจตนารมณ์ของ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. มีนโยบายที่จะให้กำลังพล มีระเบียบวินัย มีขวัญกำลังใจที่ดี ด้วยการปกครองบังคับบัญชาอย่างเป็นธรรม มีความรักความสามัคคี รู้หน้าที่มีความรับผิดชอบกอปรด้วยคุณธรรมจริยธรรมและมีความภาคภูมิใจในการเป็นทหารเรือ
“กองทัพเรือขอเรียนให้ทราบว่า กองทัพเรือไม่เคยมีนโยบายในการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยคำนึงถึงการใช้อำนาจตามขอบเขตของกฎหมายตามหลักสิทธิมนุษยชน และกำหนดเฉพาะบทลงโทษตามวินัยทหาร ซึ่งอาจมีกำลังพลบางนายที่ละเลยและฝ่าฝืน กองทัพเรือจะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับในส่วนของพลทหารวุฒิพงษ์ ทางหน่วยต้นสังกัดจะอนุญาตให้ลาพักชั่วคราวเพื่อให้อาการดีขึ้น รวมทั้งพิจารณาปรับเปลี่ยนตำแหน่งไปทำหน้าที่อื่นที่ไม่ใช่ในโรงครัวต่อไป” โฆษกกองทัพเรือกล่าว