เชียงใหม่หนักพบไฟ110 จุด

ลำปางจับแล้วรายแรก เผาป่า โคราชพบลอบเผาตอซังข้าวที่พิมายสถานการณ์ฝุ่นเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เครื่องบินอุปทูตสหรัฐร่อนลงจอดสนามบินแม่ฮ่องสอนไม่ได้ เหตุหมอกควันจากไฟป่าลอยคลุ้งปิดรันเวย์ ต้องบินกลับไปลงเชียงใหม่ เร่งฉีดพ่นละอองน้ำลดปริมาณฝุ่น หน่วยพิทักษ์ป่าระดมกำลังเร่งดับไฟป่า คาดเกิดจากการลอบเผาหวังเก็บของป่า พบจุดไฟป่าในแม่ฮ่องสอนรวม 59 จุด เป็นอันดับ 2 รองจากเชียงใหม่ที่พบ 110 จุด วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก 92 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง 5 วัน ผวจ.สั่งรับมือผลกระทบไฟป่า

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. เวลา 09.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ลอยปกคลุมท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอนในระดับต่ำจนมองไม่เห็นรันเวย์ ส่งผลให้เครื่องบินขนาดเล็ก แบบ Beechcraft king air 200 ซึ่งมีนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยโดยสาร บินจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปยังท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นประธานร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพิธีเปิดโครงการการอนุรักษ์โลงไม้โบราณที่ถ้ำผีแมนโลงลงรัก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ไม่สามารถบินลงท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอนได้ ต้องบินกลับไปลงท่าอากาศยานเชียงใหม่ตามเดิม โดยกำหนดแผนการบินใหม่อีกครั้งเมื่อทัศนวิสัยปกติ

ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื่นในอากาศและลดปริมาณฝุ่นละอองที่ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน โดยใช้ปริมาณน้ำรวม 60,000 ลิตร

ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานผลการตรวจวัดค่าทัศนวิสัยในการมองเห็นทางอากาศเช้าวันเดียวกันนี้ เวลา 06.00 – 10.00 น. วัดค่าทัศนวิสัยได้ 2,000 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับต่ำและส่งผลกระทบต่อการบิน ขณะที่รายงานของเครื่องตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พบค่าฝุ่น PM 2.5 เท่ากับ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) และพบจุดความร้อนจำนวนมากเนื่องจากการเผาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนรวมถึงในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้น

วันเดียวกัน นายอานุภาพ เปียงเรือน พนักงานพิทักษ์ป่า ส.3 หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าปางหมู/หัวหน้าสายตรวจที่ 3 อ.เมือง ขสป.ลุ่มน้ำปาย นำกำลังเข้าดับไฟป่าพื้นที่บริเวณป่าวัดภูสมะ บ้านกุงไม้สัก ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เหตุเกิดกลางดึกที่ผ่านมา คาดว่าเกิดจากการลอบเผาของราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อหวังเก็บหาของป่า ส่วนพื้นที่ อ.ปาย นายชิติพันธ์ พยายาม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปาย นำเจ้าหน้าที่สถานีเข้าตรวจสอบจุดความร้อนระบบดาวเทียม Suomi-Viirs ท้องที่บ้านสบแพม หมู่ 4 ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เริ่มดับเวลา 19.00 น. ดับเสร็จเวลา 20.15 น. พื้นที่เสียหายประมาณ 14 ไร่ ชนิดป่าเต็งรัง สาเหตุจากการหาของป่า

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่แม่ฮ่องสอนพบว่าหลังจากทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีประกาศคำสั่งห้ามเผาป่าเด็ดขาดในห้วงวันที่ 20 ก.พ. – 30 เม.ย. 2565 ยังคงมีการฝ่าฝืนคำสั่งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบจุดไฟป่าในแม่ฮ่องสอนรวม 59 จุด เป็นอันดับ 2 รองจากเชียงใหม่ที่พบจุดไฟป่า 110 จุด ส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ของจ.แม่ฮ่องสอน วัดได้ 92 มคก./ลบ.ม. โดยมีค่าเกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. ต่อเนื่องมาแล้ว 5 วัน

นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยว่าทางจังหวัดมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนสั่งการหน่วยงานป่าไม้ทุกแห่งหยุดและชะลอการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในเขตป่าทุกชนิดในช่วงนี้ ทั้งในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ชุมชน รวมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนสอดส่องดูแลเพื่อป้องกันการลักลอบจุดไฟเผาป่า โดยยังคงมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้

คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน สรุปการเปรียบเทียบสถิติการเกิดจุดความร้อนพบว่าในช่วงเดือนม.ค. – 1 มี.ค.2565 เกิดจุดความร้อนสะสมจำนวน 864 จุด ต่ำกว่าสถิติในช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่เกิดความร้อนสะสม 2,449 จุด มีแนวโน้มดีกว่าหลายปีที่ผ่านมา ส่วนอำเภอที่ยังต้องเฝ้าระวัง คือ อ.ปาย อ.เมือง และอ.ปางมะผ้า พบว่าค่าฝุ่นละอองเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ในปี 2565 จ.แม่ฮ่องสอนตั้งเป้าหมายจุดความร้อนสะสมต้องไม่เกิน 9,556 จุด ทั้งนี้ สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดสถานที่ให้เป็นห้องปลอดฝุ่น โดยประกาศให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมพร้อมดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อ.งาว จ.ลำปาง และ ตร. จับกุมนายภานุวัฒน์ ฉายถวิล อายุ 39 ปี ชาว ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง ในความผิดฝ่าฝืน เรื่อง ห้ามเผาป่าและพื้นที่โล่ง เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 1 มี.ค. บริเวณเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม นับเป็นรายแรกที่ฝ่าฝืนประกาศ จ.ลำปาง

ที่ จ.นครราชสีมา เวลา 19.30 น. วันที่ 1 มี.ค. เกิดเหตุไฟไหม้ตอซังข้าวบริเวณทุ่งนา ม.10 ต.ชีวาน อ.พิมาย กลุ่มควันลอยฟุ้งกระจายไปตามสายลม ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าสาเหตุที่มีชาวนาลักลอบเผาตอซังข้าวเพราะจะทำให้ไถนาง่ายขึ้นในการปรับพื้นที่เพื่อเพาะปลูกอีกครั้ง ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่ต้องจ้างรถไถหลายรอบ ทั้งนี้ ปกครองอำเภอพิมาย เร่งขอความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประกาศประชาสัมพันธ์ขอให้ชาวนาทุกหมู่บ้านและทุกตำบลงดจุดไฟเผาตอซังข้าวตามนโยบายภาครัฐ พร้อมเร่งตรวจสอบหาตัวบุคคลที่ลักลอบเผาตอซังมาดำเนินคดีรับโทษโดยเร็ว

ข้อมูลคุณภาพอากาศจากแอพพลิเคชั่น Air4thai รายงานค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 33-88 มคก./ลบ.ม. ส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ การตรวจวัดที่สถานีตรวจวัด ต.ในเมือ. อ.เมืองนครราชสีมา อยู่ที่ 52 มคก./ลบ.ม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบจุดความร้อนมากถึง 24 จุด ใน 14 อำเภอของจ.นครราชสีมา ทั้งในพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตรและเขตป่าสงวนแห่งชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน