รับน้องโหดถึงดับ ตร.แจ้งข้อหา 7 รุ่นพี่ ทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต พ่อลั่นเอาเรื่องถึง ที่สุด อธิการบดีสั่งลงโทษ สูงสุด ลอบจัดทั้งที่สั่งห้าม ฟันวินัยหนักถึงไล่ออก เพื่อนชั้นปวส.ปี 1 มทร.อีสานเผย นัดน้องจัดกิจกรรมกลางไร่อ้อย มีซ้อม- ทุบหนัก

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ANTI SOTUS โพสต์รูปภาพ นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี ชาวตำบลกฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยข้อความระบุว่า ศพแรกของปี น้องเปรม นักศึกษาชั้น ปวส.ปี 1 แผนกช่างกลโรงงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) จ.นครราชสีมา เสียชีวิตจากการรับน้องใหม่ หลังถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายที่บริเวณทุ่งนาบ้านหนองระเวียง ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราช สีมา จนหมดสติและเสียชีวิตระหว่างนำส่ง ร.พ.ค่ายสุรนารี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ล่าสุดยังได้โพสต์คลิปภาพญาตินายพัสยศ แฟนสาวของนายพัสยศที่กำลังท้อง 3 เดือน และรุ่นพี่นักศึกษา เดินทางไปที่บริเวณทุ่งนาบ้านหนองระเวียง เพื่อประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณนายพัสยศกลับบ้านตามความเชื่อ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรมให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ทราบข่าวการเสียชีวิตรู้สึกเสียใจอย่างมาก แทบเป็นลม ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกชาย น้องๆ หลายคนที่ต้องมาเสียชีวิตเพราะการรับน้องโหด ไม่อยากให้เกิดขึ้น หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่มันเจ็บปวดมาก เพราะทุกคนต่างตั้งความหวังไว้กับลูก ส่งให้มาเรียนหนังสือ แต่สุดท้ายก็มาจบลงด้วยเหตุที่ไม่ควรเกิดแบบนี้ ยังทำใจไม่ได้ ส่วนประเด็นที่ลูกชายกำลังจะมีหลานให้ตนเองอุ้มนั้น ก็เพิ่งทราบ แต่ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับแฟนสาวของลูกชาย

“หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องเปรม ก็เดินทางกลับมาจาก จ.นครศรีธรรมราชมาดูศพน้องที่ ร.พ.ค่ายสุรนารี เมื่อมาถึงก็เจอกับกลุ่มรุ่นพี่ที่ทำร้ายน้องเปรมจนเสียชีวิตแล้ว มีด้วยกัน 6 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด โดยทั้ง 6 คนได้กราบเท้าขอโทษกับคุณพ่อ ก็ถามไปว่า ทำไมต้องทำกันรุนแรงอย่างนี้ และกล่าวต่อว่าไปหลายอย่าง โดยที่รุ่นพี่ทุกคนก็ยอมรับผิด” นายเอกชัยกล่าว

นายเอกชัยกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจร่างกายของน้องเปรมที่ ร.พ.ค่าย สุรนารี เบื้องต้นแพทย์แจ้งว่าน้องเปรมติดเชื้อ โควิด-19 แต่เป็นเชื้ออ่อนๆ ช่วงสายวันนี้ จะเดินทางไปรับศพน้องที่ ร.พ.ค่ายสุรนารี เพื่อนำศพส่งไปตรวจพิสูจน์ที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะทราบผลชันสูตรภายใน 7 วัน และหลังเกิดเหตุทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยติดต่อมาเบื้องต้นแล้ว และอธิบายว่าการรับน้องดังกล่าวอยู่นอกมหาวิทยาลัยนอกเหนือการควบคุม แต่จะขอร่วมแสดงรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยจะเยียวยาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยทางมหา วิทยาลัยจะเรียกรุ่นพี่ที่ก่อเหตุและผู้ปกครองมาสอบสวนข้อเท็จจริงและจะมีมาตรการลงโทษตามระเบียบมหาวิทยาลัยถึงขั้นให้ออกจากการเป็นนักศึกษา ส่วนคดีความก็จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งต้องรอพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะรับผิดชอบอย่างไร อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่และผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

ด้านนางนิตยา ชลภักดี อายุ 42 ปี มารดาของน้องเปรมกล่าวว่า น้องเปรมเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง เป็นนักกีฬาฟุตบอลของโรงเรียนในจังหวัดมาหลายปี ถ้าน้องเปรมถูกรุ่นพี่เพียง 1 คนทำร้าย ก็เชื่อว่าอาการคง ไม่หนัก แต่น้องเปรมกลับได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสจนถึงแก่ชีวิต เพื่อนที่ไปรับน้องด้วยกัน บอกกับตนว่า ทุกคนโดนรับน้องหมด โดยต่อยที่หน้าอก และน่าจะโดนที่จุดอื่นด้วย ที่สำคัญคือ น้องเปรมน่าจะโดนอย่างรุนแรงหลายครั้งจากหลายๆ คน จึงทำให้เสียชีวิตลงได้ เพราะจากภาพข่าวมีรุ่นพี่ที่มานั่งขอขมาก็เกือบ 20 คน ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้ว น้องเปรมโดนรุ่นพี่กี่คนรับน้องกันแน่ ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับลูกหลานของใคร ขอให้เป็นกรณีสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

สภ.มะเริง จ.นครราชสีมา แจ้งว่า ได้สอบปากคำผู้ปกครอง พร้อมกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ 7 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องเปรมจนเสียชีวิต พร้อมกับสอบปากคำนักศึกษา ปวส.ปี 1 เพื่อนของน้องเปรมที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์อีก 4 คน เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดี ทราบว่า วันเกิดเหตุมีกลุ่มรุ่นพี่กว่า 20 คน ประสานงานรุ่นน้องทั้งชาย และหญิง 38 คน ไปจัดกิจกรรมรับน้องใน ป่าที่เกิดเหตุ โดยเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยรุ่นพี่อ้างว่า เป็นกิจกรรมการรับน้องในรอบปี ซึ่งรุ่นพี่ได้ขับรถยนต์กระบะ 4-5 คันมารับกลุ่มรุ่นน้องไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นไร่อ้อยกลางทุ่งนาโล่งเตียน ซึ่งจุดเกิดเหตุมืดมาก

นักศึกษา ปวส.ปี 1 เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มรุ่นพี่ได้สั่งให้กลุ่มรุ่นน้องผู้ชายถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมด เปลือยกายล่อนจ้อน นอนเรียงแถวกับพื้น หากไม่พอใจก็จะถูกกลุ่มรุ่นพี่ชกที่หน้าท้องหรือถีบหลัง และก็มีการร้องเพลงประจำแผนก ใครร้องเพลงผิดเพี้ยนก็จะถูกทำโทษ ทั้งเตะ ถีบ ชก ตนก็ถูกรุ่นพี่ทำร้ายด้วยการชกที่หน้าท้องหลายครั้ง และถีบด้านหลังจนหัวคะมำ และถูกกลุ่มรุ่นพี่สั่งให้คลานปลาหมอหรือไถร่างไปกับพื้นดินที่แข็ง จนหัวไหล่ และข้อศอกของตนเป็นแผล ส่วนเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ทำร้ายเปรม ช่วงจังหวะนั้นพวกตน 5 คนยืนห่างกัน เวลารุ่นพี่เดินผ่านทุกคนก็พากันกลัว ซึ่งเปรมก็โดนหนักหลายรอบเช่นเดียวกับตน ทั้งโดนชกหน้าท้อง และหน้าอกไปหลายรอบ ถูกชกด้วยมือเปล่า จนตนถึงกับเอ่ยปากถามเปรมว่า ไหวมั้ย ทำให้มีรุ่นพี่คนหนึ่งชกเข้าที่ลิ้นปี่ของเปรม จนเปรมล้มทรุดลงกองกับพื้น และหมดสติไป แม้ทุกคนจะพยายามช่วยชีวิต และพาส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเปรมก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นพฤติกรรมของพวกรุ่นพี่ที่โหดร้ายเกินไป และตนรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียเพื่อนจากเหตุการณ์รับน้องครั้งนี้

พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผกก.สภ.มะเริง กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมรับน้อง ซึ่งเป็นกลุ่มรุ่นพี่มาสอบปากคำทั้งหมด 7 ปาก เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดได้ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุได้มีการจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่จริง โดยไม่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งกลุ่มรุ่นพี่ทุกคนก็มีความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยอมรับผิด โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายกับกลุ่มรุ่นพี่ทั้ง 7 คนแล้ว หากการสอบสวนพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ขณะที่การเจรจาพูดคุยหาทางเยียวยาให้กับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้นัดหมายทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต ทางกลุ่มรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรม และทางมหา วิทยาลัยมาพูดคุยเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง

รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายอย่างเด็ดขาดเคร่งครัดที่ห้ามมีการรับน้องไม่ว่าในสถานที่หรือนอกสถานที่หรือการประชุมเชียร์ใดๆ อย่างเด็ดขาด ส่วนการกระทำของกลุ่มนักศึกษาได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและควบคุมตัวผู้กระทำผิดเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีถึงที่สุดต่อไป จากการดำเนินการร่วมกับสภ.มะเริง และสภ.เมืองนครราชสีมา เบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดขึ้นในช่วงปิดภาคการศึกษา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค 65 เวลาประมาณ 23.00 น. มีนักศึกษา ระดับ ปวส. ชั้นปีที่ 1 และปีที่ 2 เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 60 คน สถานที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณ 10 ก.ม. ผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมนี้ มีประมาณ 6 ราย ขณะนี้ผู้ปกครองของนักศึกษาทราบเรื่องและเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสสภ.มะเริงและได้พบผู้บริหารของมหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ นอกจากนั้นมหาวิทยาลัยได้อำนวยความสะดวกและให้ความดูแลช่วยเหลือผู้ปกครองของนักศึกษา ผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิดและดีที่สุด

รศ.ดร.โฆษิตกล่าวต่อว่า มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตามระเบียบควบคุมความประพฤติ ซึ่งมีประกาศห้ามการจัดกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และบทลงโทษตามระดับความผิด ของแต่ละคน ตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออกและโทษสูงสุดคือไล่ออก โดยจะพิจารณาสอบสวนและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด มหาวิทยาลัยขอประณามการกระทำของนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียมหาวิทยาลัยเช่นนี้ และขอให้นักศึกษาทุกคนพึงสังวรถึงผลอันร้ายแรง และไม่พึงปรารถนาที่อาจจะเกิดขึ้นกับการ กระทำที่ละเมิดกฎระเบียบ ขอให้ทราบว่ามหาวิทยาลัยพร้อมจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุดกับนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้ต่อไปอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน