ถกใหญ่คึก‘สันติ’เลขา ดึง2บิ๊กร่วมนั่งกก.บห. สูตร‘ปาร์ตี้ลิสต์’ไม่นิ่ง
ถกใหญ่ พปชร.คึก ‘ป้อม’ ร่ายยาวผลงาน 3 ปี ดึง พล.อ.ธัญญา อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 กับ พล.อ.กฤษณ์โยธิน อนุกรรมการป่ารอยต่อฯ ร่วมเป็นกก.บห.พรรค‘สันติ’ นั่งเลขาฯ พรรคเต็มตัว ลั่นกวาด 150 ส.ส.เย้ย พท.ประกาศแลนด์สไลด์ แค่ฝัน ‘พีระพันธุ์’ ยื่นลาออกแล้ว แต่ยังกั๊ก เข้าสังกัดรวมไทยสร้างชาติ กมธ.พิจารณากฎหมายลูก นัด 7 เม.ย. โหวต พ.ร.ป. พรรคการเมือง ปมคุณสมบัติผู้ก่อตั้งพรรค-ค่าสมาชิกพรรค ส่วนสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ชี้ขาดหลังสงกรานต์ ก้าวไกลเผยเสียงส่วนใหญ่ อาจเปลี่ยนใจหนุนสูตรหาร 500 โฆษกรัฐบาลแจง นายกฯ ลงพื้นที่ ไม่เกี่ยวช่วยผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หาเสียง

ถกใหญ่ – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมประชุมใหญ่พรรค พร้อมเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่ 4 คนแทนตำแหน่งว่าง ที่ห้องประชุม ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อ 3 เม.ย.

ป้อมถกใหญ่พปชร.ชูเป็นสถาบัน
เวลา 09.30 น. วันที่ 3 เม.ย. ที่โรงแรมเซ็นเตอร์ พอยท์ เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปีครั้งที่ 1/2565 มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเป็นประธาน โดยมีกก.บห.พรรค ส.ส. และสมาชิกพรรคจาก ทั่วประเทศกว่า 500 คนเข้าร่วม ขณะที่รัฐมนตรีของพรรคมาประชุมครบทุกคน ได้แก่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม

เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตรกล่าว เปิดประชุมพร้อมสรุปผลงานของพปชร. ว่า บ้านหลังนี้จะพัฒนาให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่มั่นคง เข้มแข็งสร้างประโยชน์ ให้ประเทศและประชาชน ผ่านโครงสร้างการทำงานภายในพรรค แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบเป็น 10 ภาค พรรคยังคงยึดมั่นการผลักดันนโยบาย 3 เสาหลักเพื่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตามที่ให้คำมั่นกับประชาชน ทั้งในเรื่องสวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ ช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เข้าไปดูแลประชาชน พร้อม ผลักดัน 3 โครงการที่ประสบความสำเร็จ ประชาชนตอบรับอย่างดีและเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

แจงยิบผลงานพปชร.-รัฐบาล
และในฐานะพรรครัฐบาลได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางราง น้ำ บก และอากาศ โครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการรถไฟรางคู่ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา รวมทั้งการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ใน พื้นที่กทม.และปริมณฑลเพื่อแก้ปัญหาจราจร พรรคประสบความสำเร็จในการผลักดันนโยบายการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และเรือไฟฟ้า การดูแลความปลอดภัยได้เร่งหน่วยงานของรัฐติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ทั่วประเทศ ส่วนปัญหาค้ายาเสพติด เป็นเรื่องที่พปชร.และรัฐบาลร่วมกันทลายวงจรค้ายาต่อเนื่อง การดำเนินงานทั้งหมดถือเป็นผลงานสำคัญของพรรค ผลงานของพปชร.ที่กล่าวมาขอให้ทุกคนนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ในสิ่ง ที่ตั้งใจ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนภายใต้ บ้านพลังประชารัฐหลังนี้ เราคือครอบครัวเดียวกัน จะรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ก้าวเดินไปด้วยกัน สร้างบ้านพลังประชารัฐ ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เราจะร่วมใจกันทุกสิ่ง ทุกอย่าง แม้ขณะนี้รัฐบาลจะเผชิญกับวิกฤตทั้งภัยสงครามโควิด-19 ต้องช่วยกันทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าพล.อ.ประวิตรใช้เวลากล่าวสรุปผลงานของพรรคและรัฐบาลนานกว่า 30 นาที รวมถึงถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊กพรรคเป็นครั้งแรก

ตั้ง 2 นายทหารคนสนิทนั่งกก.บห.
เวลา 10.30 น. ที่ประชุมมีการเสนอชื่อให้สมาชิกโหวตรับรองชื่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็นเลขาฯ พรรค นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชี รายชื่อ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค

ส่วนกก.บห.พรรค 4 ตำแหน่งที่ว่าง ที่ประชุมเสนอโหวต 4 รายชื่อ 1.พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาค 2 เคยถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีบทบาทเบื้องหลังทางการเมืองในพื้นที่ภาคอีสาน ช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา 2.นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ อนุกรรมการฝ่ายหารายได้มูลนิธิป่ารอยต่อฯ อดีตฝ่ายเสนาธิการของพล.อ.ประวิตรเมื่อครั้งเป็นรมว.กลาโหม 4.นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ

แต่งตั้งบุคคลเป็นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. ได้แก่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และผอ.พรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช รวมทั้งพล.อ.ธัญญา

รับทราบคำสั่งหัวหน้าพรรคแต่งตั้ง รองหัวหน้าพรรคและผอ.พรรค โดยให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองหัวหน้าพรรค และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นผอ.พรรค

ปัดตอบดึงอดีตแม่ทัพ 2 ช่วยอีสาน
พล.อ.ประวิตรกล่าวหลังการประชุม ถึงการแต่งตั้งนายทหาร 2 คน เข้าเป็นกก.บห.พรรคว่า เขาเป็นทหารที่ไหน เพราะออกมาแล้วต้องเป็นอดีตทหาร เมื่อถามย้ำว่าจะให้ทั้ง 2 คนมาช่วยงาน ด้านไหน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ก็มาช่วยผม มาช่วยธุรการ” เมื่อถามว่าหนึ่งในกก.บห.พรรคคนใหม่เคยเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 จะมาช่วยกลุ่มพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าวและขึ้นรถเดินทางกลับทันที หลังเปิดประชุมเนื่องจากมีภารกิจที่จ.กาญจนบุรี

พล.อ.ประวิตรกล่าวไว้ก่อนประชุม ถึงกระแสข่าวว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพปชร.ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคพปชร.ว่า นายพีระพันธุ์ยังไม่ได้มาแจ้งลาออกกับตน

ด้านนายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรักษาการ นายทะเบียนพรรค กล่าวว่า นายพีระพันธุ์ ไม่ได้มาแจ้งต่อนายทะเบียนพรรค แต่สามารถไปแจ้งกับกกต.ได้เลย

พีระพันธุ์ลาออกพปชร.แล้ว
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับได้ทำหนังสือเอกสารการลาออกจากสมาชิก พปชร. และที่ปรึกษาหัวหน้า พปชร.ไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนให้เจ้าหน้าที่ไปยื่นให้พปชร.และ กกต. การตัดสินใจลาออก ครั้งนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร แต่เป็นไปตามที่ตนเคยกล่าวไว้ตั้งแต่การเข้ามาสังกัดพปชร.ว่าจะเข้ามาเพื่อทำโครงสร้างพรรคให้เกิดความเข้มแข็ง ขณะนี้ทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงหมดหน้าที่และได้ตัดสินใจลาออก

หลังจากนี้จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา นายกฯ อย่างเดียว และยังไม่ตัดสินใจ ไปสมัครหรือเข้าสังกัดพรรครวมไทย สร้างชาติ ตามที่สื่อมวลชนวิเคราะห์ เหมือนตอนที่ตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิก พปชร.ก็ถูกมองว่าเป็นการสั่งการหรือมอบหมายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพื่อเข้ามามีบทบาทเป็นสายตรงของพล.อ.ประยุทธ์ ใน พปชร.ซึ่งไม่เป็นความจริง

สั่งลูกพรรคลงพื้นที่พบประชาชน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการ พปชร. กล่าวหลังประชุมว่า วันนี้พรรคประชุมใหญ่เรื่องผลงานและสิ่งที่พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคทำมาตลอด 3 ปีเศษ ให้ประชาชนทราบว่าได้ผลักดันโครงการ นโยบายที่ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และเลือกก.บห.พรรค ซึ่งชุดนี้มีบุคคล ทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชน ทหาร ธุรกิจ เข้ามาร่วมงานกัน

หัวหน้าพรรควางแนวทางยุทธศาสตร์และนโยบายเพื่อให้ กก.บห.พรรคร่วมกันประชุมและกระจายงานไปยัง ส.ส. สมาชิกแต่ละภูมิภาค ให้ลงไปดูว่าประชาชนเดือดร้อนอะไร ต้องการให้พรรคสนับสนุนอะไร และในฐานะเลขาฯพรรคอยากเชิญชวนทุกภาคส่วนในพรรคให้ลงไปดูปัญหาประชาชน ซึ่งหัวหน้าพรรคยังมีแนวคิดพัฒนาเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพิ่มศักยภาพ เมื่อจบการศึกษาเข้าสู่การแข่งขันในการประกอบอาชีพเพราะถือเป็นกำลังสำคัญของชาติ นอกจากนี้เราจะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนพัฒนารายได้ต่างๆ ในวงการอุตสาหกรรมของแต่ละภูมิภาค

ตั้งเป้ากวาด 150 ส.ส.
เป้าหมายเลือกตั้งครั้งหน้า หัวหน้าพรรค ให้โจทย์ว่าต้องให้ประชาชนสนับสนุนเรา 150 ที่นั่ง สิ่งแรกคือประชาชนมั่นใจว่า เราจะเป็นที่พึ่งพาให้พวกเขาได้ ตนตั้งใจพัฒนาพรรคให้ขับเคลื่อนไปได้โดยไม่มีรอยต่อ ไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะขาดตนหรือ กก.บห.พรรคคนใด ก็จะไม่มีปัญหาในการดูแลประชาชน และจะมีการเสวนาสัมมนากับสมาชิกทั้ง 400 เขตเป็นประจำ รวมถึงหัวหน้าทั้ง 10 ภาค เพื่อนำนโยบายของพรรคไปสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ได้

เมื่อถามว่าการลาออกของนายพีระพันธุ์ ไม่มีผลอะไรกับ พปชร.ใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ไม่ว่าในอนาคต พปชร.จะขาดตนหรือ กก.บห.คนใดก็จะไม่เป็นอุปสรรค ในการขับเคลื่อนนโยบาย

เย้ยแลนด์สไลด์แค่ฝัน
เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทย (พท.) ประกาศว่าจะชนะแลนด์สไลด์ พปชร.จะทัดทานอย่างไร นายสันติกล่าวว่า ตนมั่นใจใน พปชร. ส่วนเรื่องการแลนด์สไลด์อะไรต่างๆ เป็นแค่ความฝัน เป็นแค่คำพูด เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรระบุ ในที่ประชุมพรรคว่าพปชร.เป็นเหมือนบ้านจะไปล้อกับ พท. ที่ประกาศว่าเป็นครอบครัวเพื่อไทยหรือไม่ นายสันติกล่าวว่า คงไม่ก้าวก่ายพรรคอื่น จะสนใจแต่พปชร.ที่ตนสังกัดอยู่

เมื่อถามว่า กระแสพปชร.ตก การเลือกตั้ง ครั้งหน้าสู้ได้หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า ไม่ กระแสไม่ได้ตก และกระแสของพรรคเราขณะนี้ต้องบอกว่าดีมาก เมื่อดูจากโพลต่างๆ ก็ดี เรื่องการทำโพล ถ้าอยากทราบอะไรก็ไปทำในจุดนั้น แต่โพลที่มีความเป็นกลางและตรงไปตรงมา ตนดูแล้วพรรคเรากระแสดี แล้ววันนี้หากไม่ได้พล.อ.ประยุทธ์ ปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนจะลำบากกว่านี้ แต่ด้วยความกล้าหาญ จึงทุ่มงบประมาณดูแลประชาชน

กมธ.นัดโหวตกม.พรรค7เมย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รัฐสภา ที่มีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นประธานกมธ. ได้นัดประชุม วันที่ 7 เม.ย. เพื่อพิจารณาสาระของ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พร้อมนัดลงมติ 2 ประเด็นสำคัญ คือ การกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรค และประเด็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค ที่เรียกเก็บจากสมาชิก เบื้องต้นกำหนดเวลาลงมติเวลา 11.30 น.

กมธ.จ่อหนุนลดค่าสมาชิกพรรค
สำหรับแนวโน้มการลงมติประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ร่วมจัดตั้งพรรค ที่ยกเลิกการนำ มาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ลงสมัคร ส.ส. (1) (2) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) (11) (14) (16) (17) หรือ (18) มาใช้บังคับ และปรับให้ใช้ข้อห้ามของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา 96 ของรัฐธรรมนูญ แทน รวมถึงลดอายุ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคจาก 20 ปี เป็น 18 ปีนั้น เสียงข้างมากจะยอมให้แก้ไขได้บางประเด็น เช่น อายุของผู้ร่วมก่อตั้งพรรค

ทั้งนี้ มีประเด็นสำคัญที่ กมธ.ซีกส.ว. ไม่สนับสนุน คือ การให้สิทธิส.ว.หรือ ผู้เคยเป็นส.ว.ที่สมาชิกภาพสิ้นสุดไม่ถึง 2 ปี ร่วมก่อตั้งพรรคได้ ในมาตรา 98 (14) รวมถึง ผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าทำผิดต่อหน้าที่ราชการ หรือตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมทำผิดกฎหมายว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน, ยาเสพติด, การพนัน, ค้ามนุษย์, ฟอกเงิน ในมาตรา 98(10) เป็นต้น

ขณะที่ประเด็นการลดค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรค ให้เลือกปีละไม่น้อยกว่า 20 บาท จากเดิมปีละไม่น้อยกว่า 100 บาท และแบบตลอดชีพ ไม่น้อยกว่า 200 บาท จากเดิมไม่น้อยกว่า 2,000 บาทนั้น เสียงกมธ.ที่มาจากพรรคการเมือง ซึ่งเป็นเสียงข้างมากของกมธ. พร้อมจะลงมติ ให้แก้ไข

ถกสูตรคำนวณส.ส.หลังสงกรานต์
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) รองประธานกมธ.ให้สัมภาษณ์ ถึงการประชุมกมธ.สัปดาห์นี้ว่า 6 เม.ย. กมธ.งดประชุมเนื่องจากเป็นวันจักรี ส่วน 7 เม.ย.จะเป็นการประชุมร่างพ.ร.ป. พรรคการเมือง ลงมติเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้จัดตั้งพรรค และอัตราค่าธรรมเนียมสมาชิกพรรค ซึ่งมีอยู่ 2 แนวหลัก คือ ร่างหลักของรัฐบาลกำหนดให้ 20-200 บาท ซึ่งกำหนดไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองเลย ส่วนฝ่ายค้านเห็นว่า ไม่ควรกำหนดไว้ในกฎหมายพรรค การเมือง แต่ควรให้แต่ละพรรคไปกำหนดกันเองว่าให้มีจำนวนเท่าไร หรือจะมีหรือไม่มีก็ได้

ชี้เสียงเบนทิศหนุนสูตรหาร 500
ส่วนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เมื่อกลับมาประชุมวันที่ 20 เม.ย. เป็นการพิจารณามาตราถัดไป โดยเรื่องสำคัญที่จะพิจารณาคือ สูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเป็นแบบหาร 100 หรือ 500 คงจะมีการถกเถียงกันมาก ตอนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ก.ก.เป็นพรรคเดียวที่เสนอหาร 500 แต่ถูกตีตกไป ซึ่งระบบ MMP ไม่ว่าจะพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็ก ไม่มีใครได้เปรียบ แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไปพรรคหลักรัฐบาล มีขนาดเล็กลง กลายเป็นมีพรรคขนาดกลาง จำนวนมาก จึงมีหลายฝ่ายมองว่าหาร 500 จะดีหรือไม่

เมื่อทุกฝ่ายจะเอาแบบหาร 100 พรรคก.ก. จึงเสนอหาร 100 ไป แต่หากจะเสนอหาร 500 เราก็ยินดี เพราะเป็นประโยชน์ กับประชาชนมากกว่า ในที่ประชุมกมธ. ก็มีพรรคเล็กเสนอหาร 500 มาอยู่แล้ว ส่วนพรรคอื่นไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ทิศทางค่อนข้างมาทางหาร 500 พอสมควร

ซัด‘บิ๊กตู่’ – นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย แถลงวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เอาเวลาไป ออกรอบตีกอล์ฟช่วงวันหยุด ที่สนามกอล์ฟในจ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่ประเทศยังไม่พ้นวิกฤตโควิดระบาด ที่พรรคเพื่อไทย วันที่ 3 เม.ย.

รัฐบาลโต้ฝ่ายค้าน-ยันตู่เป็นกลาง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้า พท. และประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่พบปะประชาชนใน กทม. พร้อมประกาศให้เลือกผู้ว่าฯกทม.ที่เป็นนักปฏิบัติ เป็นการเอาตำแหน่งนายกฯไปใช้ในทางไม่เหมาะสม เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ว่า ขอให้ฝ่ายค้านตั้งสติ อย่ารีบตีอกชกหัว หรือเพราะเริ่มเห็นสัจธรรมแล้วว่าประชาชน เบื่อฝ่ายค้านที่ดีแต่พูด จ้องแต่จะเล่นเกมการเมือง จึงรีบออกมาตีโพยตีพาย ส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ผิดปกติเพราะใจที่อคติ ทั้งที่นายกฯ ลงพื้นที่เป็นปกติยังถูกมองว่าถี่ และร้องให้ กกต.ออกมาว่ากล่าวตักเตือนลงโทษนายกฯ เพื่อหวังดิสเครดิตรัฐบาล ไม่ได้เห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเลย

นายกฯ ทำงานเพื่อประชาชนตามปกติ มีแต่ฝ่ายค้านที่พยายามเอาเข้าไปพัวพัน ทุกเรื่อง แม้แต่ในการเลือกตั้งท้องถิ่น นายกฯก็หวังให้ประชาชนได้ผู้ว่าฯกทม. ที่ทำงานมากกว่าแค่ใช้ปากพูด อย่างที่ ฝ่ายค้านชอบทำ ซึ่งนายกฯวางตัวเป็นกลางทุกอย่างตามกฎหมาย แต่กลับพยายามโยงให้ประชาชนสับสน จึงอยากให้ฝ่ายค้านตั้งสติ เพราะฝ่ายค้านก็เปิดหน้าสนับสนุนผู้สมัครบางคนออกนอกหน้าเช่นกัน สุดท้าย อาจกลายเป็นว่าฝ่ายค้านที่อาจถูกยื่นร้องเอาผิด เพราะเอาตำแหน่งส.ส.ไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ และอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้งได้

หาเสียง – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมน.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 11 ของพรรค ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่สวนลุมพินี

ก้าวไกลชี้วิโรจน์-ชัชชาติคู่ชิง
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ ก.ก. ในฐานะผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ ถึงแผนการหาเสียงของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาผลตอบรับดีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อได้พูดคุยเรื่องนโยบายหลัก 12 ข้อ ก็ทำให้เห็นผลลัพธ์มากขึ้น ส่วนที่หลายโพล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 8 ในนามอิสระ ยังคงอันดับหนึ่งนั้น ก.ก.คงต้องปรับกลยุทธ์ ยังมีเวลาทำงานอยู่ มั่นใจว่ายังสามารถชนะนายชัชชาติได้ แม้กระแสตอนนี้นายชัชชาติจะเป็นที่หนึ่ง แต่นายวิโรจน์ก็เป็นแคนดิเดตหลักที่จะเป็น ผู้ท้าชิงของนายชัชชาติ ซึ่งทั้งสองน่าจะเป็น คู่ท้าชิงหลักผู้ว่าฯ กทม.

หาเสียง – นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หาเสียงชุมชนหลังตลาดน้ำวัดไทร เขตจอมทอง เมื่อ 3 เม.ย.

วิโรจน์ฝ่าฝนหาเสียง
วันเดียวกัน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล พร้อมผู้สมัคร ส.ก.ฝั่งธนฯ ขึ้นรถเครื่องเสียง ไปยัง 3 เขต (บางแค บางบอน จอมทอง) พื้นที่ฝั่งธนใต้ พบปะพี่น้องประชาชนและแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ก. ซึ่งจุดแรกเริ่มต้นที่ตลาดบางแค นายอำนาจ ปานเผือก ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางแค เบอร์ 6 ชูแก้น้ำท่วมในพื้นที่

จากนั้น นายวิโรจน์และนายนิธิกร บุญยกุลเจริญ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางบอน เบอร์ 2 พบปะประชาชนที่ตลาดเช้าปิ่นทอง ถ.เอกชัย ท่ามกลางฝนตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งนายนิธิกร เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มแจ้งปัญหาให้พรรค ทั้งน้ำท่วม ทางเท้า ล่าสุดเปิดตัวเว็บแจ้งปัญหาส่วยร่วมกับนายวิโรจน์ ปิดท้าย นายวิโรจน์ควงคู่นายธัญธร ธนินวัฒนาธร ผู้สมัคร ส.ก.จอมทอง เบอร์ 4 ขึ้นรถแห่ไปตามถนนจอมทอง เข้าไปที่ชุมชนหลังตลาดน้ำวัดไทร ชูนโยบายสวัสดิการคนเมือง เพิ่มเงินสวัสดิการผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน เด็กเล็กและผู้พิการ 1,200 บาทต่อเดือน

ปชป.หวังตีตื้นเบียดขึ้นที่ 1
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษก และรองผอ.ศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และส.ก.ฝ่ายการสื่อสาร พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่ง ม.ธรรมศาสตร์ สำรวจครั้งที่ 3 พบคะแนน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ยังคงได้รับความนิยมลำดับที่ 2 ไม่เปลี่ยนแปลงจากการสำรวจทั้ง 2 ครั้ง ที่ผ่านมา ยังพบมีสัดส่วนผู้ยังไม่ตัดสินใจกว่า 18% จึงมั่นใจว่ายังมีโอกาสตีตื้น และนายสุชัชวีร์มีกำลังใจที่ดีในการเดินหน้าพบปะกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง และมั่นใจว่า นโยบายหลายอย่างที่คิดแบบครบ และครอบคลุมสำหรับคนทุกกลุ่มที่ได้นำเสนอไป อย่างต่อเนื่องจะตอบโจทย์คนกทม. อาทิ นโยบาย “คนกรุงเทพต้องใช้อินเตอร์เน็ตฟรี”

อัศวินสั่งแก้ป้ายขวางทางเท้า
ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน พล.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ลงพื้นที่หาเสียงกับพ่อค้าแม่ค้า ระบุตลาดน้ำคลองลัดมะยมถือเป็นต้นแบบการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนที่ดี ใช้เอกลักษณ์ของชุมชนมาดึงดูด นักท่องเที่ยวได้ ช่วงเป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้ใช้ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดต้นแบบ เพราะเป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่จับต้องได้ อนาคตอยากนำโมเดลนี้ขยายไปตามชุมชน ริมคลองต่างๆ เพิ่มเติม ส่วนกรณีป้ายหาเสียงที่ไปกีดขวางทางเท้า ทำให้รถที่สัญจรไปมามองทางลำบาก พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ยอมรับและได้สั่งแก้ไขไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมด เพราะปัญหามาจากการจ้างผู้รับจ้างไปติดป้าย แล้วเกิดติดตั้งในจุดที่ไม่เหมาะสม หากเห็นจุดใดที่เป็นปัญหาให้แจ้งมาได้

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวกรณีนายกฯ ขอให้ประชาชนเลือกนักปฏิบัติที่ทำงานได้จริง มีผลงานปรากฏ ทำให้คนมองว่าได้แรงเชียร์ จากนายกฯ ว่า ไม่ได้กังวลอะไร อยู่ที่ ความชอบของนายกฯ เอง อาจพูดภาพรวมไม่ได้หมายถึงตนเอง ขออย่าเพิ่งตีความเยอะ แต่ถ้ามีใครมาชื่นชอบก็ยินดีขอบคุณ
จากนั้น พล.ต.อ.อัศวินไปหาเสียงชุมชน สุภาพงษ์ พูดคุยกับประชาชนและผู้นำชุมชน ก่อนไปมัสยิด อัล-อะติ๊ก เขตบางคอแหลม

เยี่ยมบูธมติชน – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 แวะเยี่ยมชมและหาซื้อหนังสือที่บูธสำนักพิมพ์มติชน ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 50 ที่สถานีกลางบางซื่อ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.

ชัชชาติปล่อยรถอีวีขอคะแนน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 พร้อม ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หัวหน้าทีมนโยบายเศรษฐกิจ “เพื่อนชัชชาติ” ปล่อยขบวนหาเสียงด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามแนวคิด “หาเสียงแบบรักเมือง” ขบวนหาเสียงขับไปตามเส้นทาง ถนนจันทน์ ถ.พระราม 3 ถ.เจริญราษฎร์ และถ.สาธุประดิษฐ์ ระหว่าง เส้นทาง นายชัชชาติแวะหาเสียงที่ตลาด รุ่งเจริญ เขตยานนาวา มีผู้ค้าและประชาชนต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายชัชชาติกล่าวว่า เพื่อนชัชชาติพยายามใช้รถไฟฟ้าหาเสียงให้มากที่สุด โดยในเบื้องต้นมีจำนวน 23 คัน แบ่งเป็น รถเมล์ไฟฟ้า 2 คัน รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า 5 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 7 คัน รถกระบะไฟฟ้า 1 คัน และรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ อีก 8 คัน มีเป้าหมายเพื่อลดมลพิษทางอากาศจาก ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) และส่งเสริมการใช้พาหนะไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร

นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.สามารถ ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ โดยร่วมมือ ภาคเอกชนพัฒนาจุดชาร์จไฟฟ้าใน กทม. เช่น สำนักงาน สวนสาธารณะ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เชื่อมั่นว่า กทม.สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะเอกชนมีความรู้ความเชี่ยวชาญและพร้อมให้ความร่วมมือ

กกต.ยันตู่ลงพื้นที่กทม.ไม่ผิด
นายสำราญ ตันพานิช ผอ.กต.กทม. กล่าวกรณีพรรคการเมืองเรียกร้องให้ ตรวจสอบการลงพื้นที่ในกทม. ของพล.อ.ประยุทธ์ เข้าข่ายช่วยเหลือผู้สมัครหรือไม่ว่า ส่วนตัวเห็นว่านายกฯลงพื้นที่ตามหน้าที่ ยังไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับผู้สมัครคนใด

สมัครชิงผู้ว่าฯกทม.เพิ่มอีก 2
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. ในฐานะ ผอ.การเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกทม. แจ้งผลการรับสมัครเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. และส.ก.ว่า วันที่ 4 ของการรับสมัคร มีผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. 2 คน ได้แก่ หมายเลข 28 นายสราวุธ เบญจกุล ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 29 นายกฤตชัย พยอมแย้ม สังกัดพรรคประชากรไทย รวมผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. 29 คน ส่วนการรับสมัครรับเลือกตั้งส.ก. ทั้ง 50 เขต มีผู้สมัครเพิ่มเติม 10 เขต รวมผู้สมัครส.ก. 369 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน