ข้องใจพ่อของหนุ่ม16 มาส่งลูกที่บ้านเกิดเหตุ ทำครอบครัว-พังพินาศ แจงใช้เงินที่คนบริจาค แบ่งทำบุญ-ทุนศึกษา
พี่ชายยังไม่รู้จะให้อภัยน้องสาววัย 14 หรือไม่ หลังก่อเหตุร่วมกับแฟนหนุ่มวัย 16 ปี รุมแทงแม่ดับคาห้องพักบ้านเอื้ออาทรบางพลี พิธีเชิญวิญญาณแม่กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ จ.เชียงใหม่ ยังคาใจพ่อฝ่ายชายที่พาลูกไปส่งก่อเหตุ ทั้งที่เจรจากันเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก ทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรม

เชิญวิญญาณ – นายกิตติ (ขอสงวนนามสกุล) จุดธูปเชิญวิญญาณแม่ที่ถูกน้องสาว วัย 14 ปี พร้อมแฟนหนุ่มวัย 16 ปี วางแผนฆ่า เพราะไม่พอใจที่ถูกกีดกันความรัก หน้าคอนโดฯ ย่านบางพลี สมุทรปราการ จุดเกิดเหตุ ก่อนนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 เม.ย. นายกิตติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี บุตรของนางจิราพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุลูกสาววัย 14 ปี พร้อมแฟนหนุ่มวัย 16 ปี ใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต คาห้องพักในอาคารบ้านเอื้ออาทรแห่งหนึ่งใน อ.บางพลี จ.สมุทร ปราการ เหตุไม่พอใจที่ผู้ตายและนายกิตติ พี่ชายกีดกันความรักของทั้งคู่ พร้อมญาตินิมนต์พระสงฆ์ไปทำพิธีเชิญวิญญาณนางจิราพรในจุดเกิดเหตุตามความเชื่อของครอบครัว

นายกิตติเผยว่า เตรียมนำศพมารดาไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพระเจดีย์ ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หลังเสร็จงานศพมารดาจะกลับมาจัดการเรื่องห้องที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า ใจอยากให้น้องมาขอขมาศพมารดา แต่คงเป็นไปได้ยากเพราะยังถูกควบคุมตัวอยู่ สำหรับเงินที่ได้รับบริจาคมาช่วยเหลือนำไปจัดงานศพและทำบุญให้มารดา ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาที่กำลังเรียนต่อในระบบการศึกษานอกโรงเรียน และยืนยันว่าจะไม่ทิ้งบ้านที่เกิดเหตุแน่นอน

ส่วนเรื่องให้อภัยน้องสาวหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของอนาคตยังตอบตอนนี้ไม่ได้ และทางญาติพี่น้องฝ่ายผู้ก่อเหตุยังไม่มีใครติดต่อมาเพื่อแสดงความช่วยเหลือ เห็นกันเพียงช่วงไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำเท่านั้น พร้อมฝากถึงนายสามารถพ่อของชายวัย 16 ปี เพราะยัง คาใจว่าทำไมเหตุใดถึงมาส่งลูกชายที่หน้าหมู่บ้าน ในเมื่อก่อนหน้านี้ช่วงไปรับน้องสาวกลับมาจากบ้านฝ่ายชาย ผู้เป็นพ่อรับปากว่าจะให้เลิกยุ่งกันเลิกติดต่อกัน หากวันนั้นทางพ่อไม่มาส่งลูกชายอาจจะไม่เกิดเหตุร้ายกับมารดาและตนเองก็ เป็นได้

นายกิตติยังเปิดใจเล่าเรื่องราวก่อนวันเกิดเรื่องว่า วันที่ 5 เม.ย. ช่วงเย็นมีข้อความไลน์จากฝ่ายชายเป็นคนทักมาบอกว่าเป็นคนเอาน้องสาวไปอยู่ด้วย ไม่ต้องให้มายุ่งกับน้องสาว ฝ่ายชายจะเป็นคนดูแลเอง ทำให้ต้องต่อว่าฝ่ายชายทางไลน์ไปว่าหากไม่ยอมคืนน้องจะไปแจ้งความ ตอนแรกอีกฝ่ายทำทีจะไม่คืนและไม่บอกสถานที่ที่น้องอยู่ ช่วงค่ำจึงชวนมารดาไปที่หน้า สภ.บางพลี ถ่ายรูปแล้วส่งไปบอกฝ่ายชายว่าจะแจ้งความ ทำให้ฝ่ายชายกลัวความผิดจึงยอมบอกจุดนัดหมายให้ไปรับน้อง

“ผมและแม่จึงเดินทางไปตามที่ส่งพิกัดมาคือที่วัดหนามแดง หลังจากที่รับน้องกลับมา ผมมาทราบว่าคนที่มารับน้องสาวไปอยู่กับฝ่ายชายนั้นคือพ่อฝ่ายชายเป็นคนมารับน้อง ผมจึงต่อว่าไป มองว่าจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แต่ทำไมยอมที่จะให้เด็กหญิงอายุเพียง 14 ปีไปอยู่กับลูกชายแบบนั้นมันเหมาะสมแล้วใช่หรือไม่ กระทั่งสุดท้ายต่างฝ่ายต่างบอกว่าจะไม่ติดต่อกันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก แต่สุดท้ายฝ่ายพ่อเป็นคนมาส่งลูกชายด้วย ตัวเอง” นายกิตติกล่าวในท้ายที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน