ระทึก!ใกล้เขตบ้านพักบิ๊กตู่ สอบเครียดก่อนส่งฝากขัง ฝ่ายค้านถกซักฟอกสิ้นเมย. จี้ปปช.เชือด18สส.รุกที่ดิน
ตำรวจจับ 3 วัยรุ่น 2 ชาย 1 หญิง ต้องสงสัยปาระเบิดปิงปองหน้าประตูกรมทหารราบที่ 1 ถนน วิภาวดีฯ ที่มีบ้านพักนายกฯ อยู่ข้างใน ฝากขังแล้ว 1 ราย ศาลไม่ให้ประกัน อีก 1 รายรอฝากขังวันนี้ เร่งตามตัวอีก 4 คน ‘บิ๊กตู่’ไม่สั่งการอะไรพิเศษ ปล่อยตำรวจทำตามขั้นตอน เลขาฯ สมช.ชี้สาเหตุมีหลายประเด็นน่าสนใจ ‘ปารีณา’ จี้ป.ป.ช.ฟันนักการเมืองถือครองที่ดินผิดกฎหมาย ดักคออย่าเลือกปฏิบัติ ‘ศรีสุวรรณ’ บุกป.ป.ช.บี้ เช็กบิลอีก 18 คนที่เคยยื่นสอบไว้แล้ว เพื่อไทยเผยสิ้นเม.ย.นัดฝ่ายค้านเคาะยื่นซักฟอก

รวบ 3 โจ๋ปาระเบิดใกล้บ้าน‘บิ๊กตู่’
จากกรณีเกิดเหตุปาระเบิดปิงปองหน้าประตูกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต ระเบิดข้ามเข้าไปตกบริเวณสนามหญ้า ตรงข้ามกองรักษาการณ์ ซึ่งมีบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 10 เม.ย.

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. รายงานข่าว เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น.ดูแลงานกฎหมายและคดี พร้อมด้วย พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผบช.น. ดูแลงานความมั่นคง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. และพล.ต.ต. อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ควบคุมชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุจนพบว่า มีรถจักรยานยนต์ 2 คัน บริเวณหน้าประตู ร.1 ทม.รอ. ซึ่งเป็นบริเวณอยู่ใกล้บ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์

จากนั้นผู้ซ้อนท้ายได้โยนระเบิดปิงปอง 2 ลูก เข้าไปบริเวณดังกล่าว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมพบว่า มีรถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้อง 3 คัน มีผู้ต้องสงสัยว่าจะก่อเหตุประมาณ 7 คน โดยรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยดังกล่าวได้เดินทางมาจากซอยหมอเหล็ง ใต้ทางด่วนดินแดง จากนั้นมุ่งตรงมาถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนจะผ่านหน้าร.พ.ทหารผ่านศึกไปบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 ก่อเหตุดังกล่าว

ตรวจสอบข้อมูลรูปพรรณสัณฐานและข้อมูลยานพาหนะรถจักรยานยนต์ใช้ในการก่อเหตุจนทราบว่า 3 ใน 7 คน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันแรก ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน คือ นายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ บุ๊ค Elevenfinger แร็พเปอร์ อายุ 20 ปี ซึ่งเคยพบประวัติร่วมการชุมนุม และมีที่พักอาศัยอยู่ที่ชุมชนร่มเกล้า แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมควบคุมตัวได้ที่บ้านพักบริเวณดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ควบคุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 รายคือ น.ส.ปฏิมา ฝากทอง อายุ 20 ปี ชาวจ.อุดรธานี และเยาวชนอายุ 15 ปี ชาวจ.เชียงราย ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 4 คนอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล

ปาบึ้ม – ตำรวจสน.บางซื่อควบคุมตัว 2 วัยรุ่นต้องสงสัยปาระเบิดปิงปองหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ที่มีบ้านพักนายกฯ อยู่ด้านใน โดยผู้ต้องสงสัยอีกรายถูกคุมตัวอยู่ที่สน.ท่าเรือ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.

ยื่นฝากขังผู้ต้องหา-ไม่ได้ประกัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ แจ้งข้อหาร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นเหตุอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของอื่น, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรต่อไป








Advertisement

ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอฝากขังครั้งที่ 1 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ น.ส.ปฏิมา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น พาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 221, 371

กรณีกล่าวหาเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2565 ภายหลังเลิกจากการรวมตัวชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วผู้ต้องหากับพวกขี่รถจักรยานยนต์มาทางถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปทางแยกสุทธิสาร แล้วเกิดระเบิดโดยระเบิดปิงปอง บริเวณประตู ร.1 ทม.รอ. จำนวน 2 นัด ระเบิดข้ามเข้าไปตกบริเวณสนามหญ้า ตรงข้ามกองรักษาการณ์

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยการฝากขัง พนักงานสอบสวนขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 เม.ย. เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัว ผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีอาชีพใด หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี และยากแก่การติดตามตัว มาดำเนินคดีในภายหลัง

ศาลพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้วอนุญาตฝากขังได้ โดยผู้ต้องหาไม่ได้รับการประกันตัว

ด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ทวีตข้อความว่า “ปฏิมา” แฟนสาวของ บุ๊ค ธนายุทธ ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ก่อนศาลอนุญาตฝากขัง ในวันนี้ต้องถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิง ปฏิมาถูกสน.บางซื่อแจ้งข้อหา “ทำให้เกิดระเบิด” โดยเข้าให้ปากคำในฐานะพยานเพียงลำพังก่อนถูกแจ้งข้อหาและฝากขัง

สำหรับวันนี้ บุ๊คจะยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่สน.ท่าเรือ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะถูกฝากขังในวันที่ 12 เม.ย.

นายกฯไร้ข้อสั่งการพิเศษ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบรายงานเหตุปาระเบิดปิงปองแล้ว ซึ่ง ร.1 ทม.รอ. เป็นเขตพระราชฐาน และบ้านพักนายกฯ อยู่ในพื้นที่นี้ด้วย นายกฯ ไม่มีความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ และไม่มีข้อสั่งการพิเศษใดๆ โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนสอบสวนตามขั้นตอน

ส่วนช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ นายกฯ ยังทำงานติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้านพัก เพื่อให้คำแนะนำหรือข้อสั่งการ หากมีความจำเป็นในช่วงเทศกาลสงกรานต์

สมช.ชี้มีหลายประเด็นน่าสนใจ
ด้านพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินหรือไม่ว่ามาจากสาเหตุใด เป็นการเมืองหรือต้องการก่อกวน พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า รอ เจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า เพราะมีหลายประเด็นที่น่าสนใจอยู่

ต่อข้อถามว่าประเด็นใดที่บอกน่าสนใจ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า ตอบไม่ได้ คาดเดาไปเดี๋ยวจะมีปัญหาได้ เอาเป็นว่ารอให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อน ดีกว่า เมื่อถามว่าจะรู้ผลเมื่อไหร่ พล.อ. สุพจน์กล่าวว่า รอเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาทำงานก่อน เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว

‘เอ๋’ บี้ป.ป.ช.ฟันนักการเมืองรุกป่า
วันเดียวกัน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) บอกว่าต้องดูว่าที่ดินได้มาถูกต้องหรือไม่ และแต่ละเคสมีความแตกต่างกัน แน่นอนว่าทุกเคสมีความแตกต่างกัน แต่คำพิพากษาชัดเจนว่ามิได้สนใจว่าได้ที่ดินมาได้อย่างไร แต่สำคัญว่านักการเมือง ไม่สามารถครอบครอง ยึดถือ หรือทำประโยชน์ในที่ดินรัฐได้ ผิดจริยธรรมร้ายแรง และต่อให้ส่งมอบที่ดินคืนให้กับรัฐแล้ว ก็ยังคงผิดจริยธรรม เนื่องจากจะต้องคืนทันที ที่ได้รับมอบ หรือง่ายๆ ว่า ไม่ว่าจะคุณจะได้โดยมรดก ไปซื้อมา หรือก่อนเคยเป็นเกษตรกร แต่หากเป็นนักการเมืองแล้ว คุณจะต้องคืนที่ทันทีให้กับรัฐ เพราะขาดคุณสมบัติในการยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์แล้ว ผิดจริยธรรมร้ายแรง

ส่วนความล่าช้าในการดำเนินคดีนั้น ช้าจริง เพราะตอนนี้ ป.ป.ช.ได้ใช้เวลาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งปกติ ป.ป.ช. จะใช้เวลาประมาณ 180 วันในการพิจารณา จึงขอให้ ป.ป.ช.ได้โปรดดำเนินการเร่งรัดและดำเนินคดีกับทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ

‘พี่ศรี’ จี้เช็กบิลอีก 18 ส.ส.
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานป.ป.ช. นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้เร่งรัดไต่สวนสอบสวนและวินิจฉัย 18 ส.ส.ที่ยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐในรูป ส.ป.ก.และภ.บ.ท.5 โดยเฉพาะที่ดินส.ป.ก. ซึ่งศาลฎีกา วางบรรทัดฐานไว้แล้วจากกรณีการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ของน.ส.ปารีณา ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดการลักลั่นหรือเลือกปฏิบัติ เพราะยังมีส.ส.หลายรายที่สมาคมได้ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. ในเวลาไล่เลี่ยกับการร้องเรียนกรณีน.ส.ปารีณา คือ

ครั้งแรกวันที่ 20 พ.ย.2562 จำนวน 3 ราย ครั้งที่ 2 วันที่ 27 พ.ย.2562 จำนวน 3 ราย ครั้งที่ 3 วันที่ 4 ธ.ค.2562 จำนวน 13 ราย รวม 19 ราย แบ่งเป็นส.ส.พรรค พลังประชารัฐ 5 ราย(รวมน.ส.ปารีณา) พรรคเพื่อไทย(พท.) 4 ราย พรรคภูมิใจไทย(ภท.) 5 ราย พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) 2 ราย พรรคก้าวไกล(ก.ก.) 2 ราย พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) 1 ราย ซึ่งถือครองที่ดิน ส.ป.ก. 6 ราย ถือครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 จำนวน 12 ราย แต่เหตุใดป.ป.ช. จึงวินิจฉัยส่งให้อัยการฟ้องต่อศาลฎีกา กรณีของ น.ส.ปารีณาได้เร็วกว่า ส.ส.รายอื่น ทั้งที่สมาคมร้องเรียนไปในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน สมาคมจึงมายื่นคำร้อง เพื่อขอให้คณะกรรมการป.ป.ช. เร่งรัดไต่สวนสอบสวน และวินิจฉัย ส.ส.อีก 18 รายที่เหลือที่ถือครองที่ดินส.ป.ก. และภ.บ.ท.5 เพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน เหมือนกัน โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ

‘ชินวรณ์’แจงไม่เข้าเกณฑ์-ขายแล้ว
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรี ธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีของตนต่างจากกรณีของ น.ส.ปารีณา พื้นที่ดังกล่าวเป็นของภรรยาตน ซึ่งได้รายงานทรัพย์สินตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเป็น ผู้แทนราษฎร อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา เพราะพื้นที่รอบบริเวณดังกล่าว ไม่ว่าจะ อ.ทุ่งใหญ่ หรืออ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ต่างเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะแบบ ภ.บ.ท.5 ซึ่งในชุมชนต่างๆ มีเยอะมาก โดยไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าและไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ส.ป.ก.

ตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้ในปี 2562 หน่วยงานต่างๆ รวมถึง ป.ป.ช.ได้มาตรวจสอบพื้นที่ ดังกล่าวของภรรยาตน ซึ่งไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ ว่าเข้าข่ายบุกรุกป่าหรือผิดกฎหมาย ส.ป.ก. และจากเดิมที่ ป.ป.ช. ได้ให้ทุกคนที่มีพื้นที่ดังกล่าว ชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ทั้งหมด ตนก็ได้ชี้แจงตลอด แต่ช่วงหลัง ป.ป.ช. มีข่าวที่อาจจะมีปัญหาในทางข้อกฎหมาย ดังนั้น เพื่อตัดปัญหาภรรยาตนได้ขายที่ดินให้คนอื่นไปแล้ว ตนจึงไม่มีความกังวลกรณีที่ นาย ศรีสุวรรณยื่นหนังสือถึงป.ป.ช. เพื่อขอให้เร่งรัดการไต่สวน

‘ประเสริฐ’ยันได้ที่ดินมาถูกต้อง
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้ลงพื้นที่ไปดูที่ดินที่ตนได้ยื่นต่อ ป.ป.ช.ไป และตนได้ชี้แจง ป.ป.ช.ไปแล้วส่วนหนึ่ง เรื่องนี้ตนมีความมั่นใจว่า สามารถตอบทุกคำถามได้ ยืนยันว่า ที่ดินแปลงนี้เป็น ภ.บ.ท.5 เดิมอยู่ในการดูแลของราชพัสดุ ต่อมาราชพัสดุเปิดให้พี่น้องประชาชนเข้าไปเช่าเราก็ยื่นเรื่องขอ ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง มั่นใจว่าที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ได้มีปัญหา

เมื่อถามว่าเมื่อเทียบคำพิพากษากรณีน.ส.ปารีณา กับที่ดินของตนเองมีความใกล้เคียง หรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร นายประเสริฐกล่าวว่า แตกต่างกันเรื่องที่มาที่ไปของที่ดิน ตนไม่แน่ใจว่าที่ดินของน.ส.ปารีณาเป็นอย่างไร ตนดูเฉพาะที่ดินของตัวเอง ซึ่งเรามั่นใจที่มาที่ไปของเราเป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งไม่ได้เป็นการบุกรุก และได้มาโดยชอบ ก่อนหน้านี้ตนยื่นแสดงบัญชีมาทุกครั้ง ทั้งยังเคยถาม ป.ป.ช.ด้วยว่าควรยื่นหรือไม่ ได้คำตอบว่าควรยื่น เพราะถ้าไม่ยื่นแล้วรู้ภายหลังจะกลายเป็นการปกปิด เราจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการยื่น

‘เกียรติ’เผยไม่ได้ถือครองแล้ว
นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตอนที่ยังไม่ได้เป็นส.ส. ตนมีอาชีพทำเกษตรกรรม และได้ซื้อที่มาทำไร่อ้อย โดยพื้นที่จ.ลพบุรี ส่วนใหญ่เป็นที่ส.ป.ก.กับภ.บ.ท.5 ทำให้คนดำรงชีพอยู่ได้ด้วยอาชีพทำการเกษตร โดยใช้ ภ.บ.ท.5 ทำมาหากินกัน และมีรายได้ เมื่อตนมาเป็นส.ส. ป.ป.ช.ได้ให้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งต้องแจ้งตามความเป็นจริง และมีคนร้องเรียนมาว่าตนทำผิด ตนได้สอบถามไปที่ส.ป.ก.ว่าผิดตรงไหน เขาแจ้งว่ารายได้ตอนที่ตนเป็นเกษตรกรทำได้ แต่ตอนนี้ทำไมไม่ถ่ายโอนให้ญาติพี่น้อง จะได้ไม่ต้องถือครองเอง ซึ่งตนชี้แจงไปว่าตนไม่ทราบ และมีความบริสุทธิ์ใจในการทำงาน หากจะถ่ายโอนไปก็คงไม่ทัน จึงได้คืนที่ในส่วนที่เหลือให้กับส.ป.ก.ไปทั้งหมดเกือบ 100 ไร่

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ที่นาย ศรีสุวรรณ ยื่นหนังสือถึงป.ป.ช. ให้เร่งรัดการไต่สวน นายเกียรติกล่าวว่า เราต้องคิดว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพราะเราเกิดมาก็ต้องทำดีให้ประเทศของเราแค่นี้ ซึ่งไม่ได้กังวล แล้วแต่กลไกของกฎหมายจะพาไปอย่างไร เพราะถ้าเรากังวลมากไป เราก็ทำอะไรไม่ได้

‘ศักดินัย’โอนสิทธิให้ลูกชายแล้ว
นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรค ก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า พอมีข่าว ที่ดินของน.ส.ปารีณา มักมีชื่อของตนและส.ส. ส.ว.คนอื่นๆ จะถูกตรวจสอบแทบ ทุกครั้ง ตนขอชี้แจง 1.ตนถือครองที่ดินส.ป.ก.4-01 ก. จำนวนเนื้อที่ประมาณ 22 ไร่ 47 ตารางวา ที่ดินตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินส.ป.ก.ทั้งระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ออกให้เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2541 รวมเป็นเวลา 24 ปีมาแล้ว มีราษฎรในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงจำนวนมากที่ได้รับเอกสาร ส.ป.ก.ที่ทางราชการมอบให้พร้อมกันกับ ตน ซึ่งในขณะนั้นทำอาชีพเกษตรกรรมและไม่ได้ถือครองที่ดินใดๆ อีก ตนจึงมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะได้รับสิทธิในส.ป.ก.4-01 ดังกล่าว

2.ในที่ดินแปลงดังกล่าวได้ใช้ทำประโยชน์ด้านการเกษตรตลอดมาจากวันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ 3.เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 ตนได้ยื่นเรื่องขอสละสิทธิที่ดินแปลง ดังกล่าวต่อเจ้าพนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดตราด เพื่อมอบสิทธิให้กับนายพรรณเศรษฐ์ นุ่มหนู บุตรชาย และ 4.เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2564 ทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดตราด ได้มีหนังสือที่ ตร 0011/2554 ตอบกลับมาว่าได้อนุญาตให้นายพรรณเศรษฐ์ ได้รับการจัดที่ดินแทนแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้รับแจ้งให้ไปรับหนังสืออนุญาตแล้ว

“ผมเป็นเพียงเกษตรกรธรรมดาๆ คนหนึ่งไม่ได้มีอิทธิพล บารมีใดๆ ที่จะไปบุกรุกหรือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบ หากวันใดที่ผมหมดหน้าที่ของการเป็นผู้แทนราษฎรแล้ว ต้องมาอยู่กับไร่กับสวน ทำกินเลี้ยงชีพ และเลี้ยงครอบครัวเหมือนเดิม” นายศักดินัยกล่าว

เวลคัมโฮม – นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค แถลงจัดกิจกรรม ‘เวลคัมโฮม’ ประเดิมที่จ.นครราชสีมา และเดินสายไปจังหวัดภาคกลาง เชิญชวนประชาชนสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ร่วมทวงคืนอนาคตที่สดใส ที่พรรคเพื่อไทย

เพื่อไทย ‘เวลคัมโฮม’ โคราช
เวลา 11.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการดำเนินกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยคือบ้านหลังใหญ่ที่มีหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง วันนี้ประชาชนต้องทนทุกข์ทรมานจากความบกพร่องผิดพลาด และไร้ศักยภาพของรัฐบาลชุดนี้ พรรคพร้อมยืนเคียงข้างประชาชน และพร้อมเป็นบ้านหลังใหญ่ให้ประชาชนกลับมาอยู่ดีกินดีอีกครั้ง

เรามุ่งมั่นสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อคืนประชาธิปไตย คืนความหวัง ความฝัน และโอกาส ให้ประชาชน จึงกำหนดให้มีตัวแทนพรรคทั่วประเทศลงพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชน ภายใต้กิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม” โดยจะลงพื้นที่ทั่วประเทศ ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.2565 ภายใต้กรอบแนวคิดเข้าถึงตัว เข้าถึงใจ ห่วงใยกัน

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยจะเริ่มที่ จ.นครราชสีมา ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 2 ในวันที่ 12 เม.ย. ในชื่อ “เวลคัมโฮม” ซึ่งการเลือกจัดที่นครราชสีมา เป็นที่แรก เพราะเป็นประตูสู่ภาคอีสาน จึงเป็นโอกาสดีที่ครอบครัวเพื่อไทยจะไปแสดงความรู้สึกรักและผูกพัน เพื่อต้อนรับพี่น้องกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากนั้นจะจัดกิจกรรมอีก 3 แห่ง ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ส.ส.ของพรรคยังจัดกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อพบปะประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า หรือกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเราจะคุยทุกมิติ

รายงานตัว – นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคเพื่อไทย เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หลังได้รับการรับรองจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.

สิ้นเม.ย.ฝ่ายค้านถกยื่นซักฟอก
นายประเสริฐกล่าวถึงการยื่นอภิปราย ไม่ไว้วางใจว่า สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเม.ย. จะนัดปรชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดเพื่อสรุป เดิมเคยคุยกันว่าเปิดประชุมสภาในวันที่ 22 พ.ค. แล้วยื่นเลย หรือจะพิจารณากฎหมายที่ค้างคาอยู่ให้เสร็จก่อน ปรากฏว่ามีอยู่ 2 ความคิด ดังนั้น เราจึงนัดคุยกัน แล้วหารือในเรื่องนี้

เมื่อถามว่ามีแผนจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้เพื่อให้นายกฯ ประกาศยุบสภาไม่ได้หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เราเน้นข้อมูลที่จะอภิปรายมากกว่า เรามั่นใจทุกครั้งว่าการอภิปรายจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล ซึ่งครั้งที่แล้วเราก็ทำได้ดี สังเกตว่าหลังจากเรายื่นอภิปรายไป การเมืองมีการเปลี่ยนแปลงเลย ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน คิดว่าเมื่อได้ข้อยุติช่วงปลายเดือนเม.ย.แล้วเราจะยื่นทันที

ชทพ.-ก.ก.เตรียมประชุมใหญ่
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยว่า พรรคก้าวไกลจะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ใน วันที่ 30 เม.ย. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต นอกจากวาระตามกฎหมายแล้ว จะนำเสนอนโยบายและวิสัยทัศน์สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า แนวทางในการ พลิกฟื้นประเทศหลังจากวิกฤตโควิด-19 ในแบบของก้าวไกลคืออะไร

ด้านนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เปิดเผยว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 24 เม.ย. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ มีวาระสำคัญ คือน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค เตรียมเปิดใจและพูดถึงทิศทางทางการเมืองของพรรคต่อการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ด้านนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม แกนนำพรรค จะแจ้งถึงผลการดำเนินงานภายใต้กระทรวงและหน่วยงานที่ดูแล รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายของพรรค

กมธ.เร่งปิดจ๊อบให้ทันเปิดสภา
นายนิกร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงนพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความประเด็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า การยื่นศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลให้การทำงานของกมธ.ต้องชะลอหรือยุติ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับที่กำหนดให้รัฐสภาต้องทำร่างพ.ร.ป.ให้เสร็จภายใน 180 วัน

ประเด็นการแก้ไขเรื่องบัตรเลือกตั้ง จาก 1 ใบ เป็น 2 ใบ รวมถึงการแก้ไขจำนวน ส.ส. เป็นส.ส.แบบแบ่งเขต 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) 100 คนนั้น มีเหตุผลที่ชัดเจนตั้งแต่การเสนอแก้ไขแล้ว เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เจตจำนงเลือกตั้งสอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งการแก้ไขให้มี ส.ส. 400 เขต เพื่อให้ดูแล แก้ปัญหาประชาชนได้ใกล้ชิดมากขึ้น

“ยืนยันว่าการทำงานแก้ไขรัฐธรรมนูญทำถูกต้อง และทุกฝ่ายเข้าใจ ในการประชุม กมธ.ไม่เคยมีใครยกประเด็นของ นพ.ระวี มาพิจารณา เพราะเป็นเรื่องภายนอกกมธ. ไม่มีความเชื่อมโยงกัน และไม่มีเหตุผลให้การทำงานของกมธ.ต้องหยุดลง เว้นแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินว่าทำไม่ได้ การทำงานของกมธ.ที่ผ่านมาจะถือว่าโมฆะ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าไม่เป็นเช่นนั้น ส่วนการ ประชุมกมธ.วันที่ 20-21 เม.ย. จะประชุมเต็มวัน มีวาระพิจารณาสำคัญทั้งเรื่อง ไพรมารีโหวต และการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งกมธ.กำหนดกรอบว่าต้องทำงานให้เสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมสภา ช่วงปลายพ.ค.” นายนิกรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน