ตั้งสำนักในป่าชัยภูมิ อ้างพระบิดาทุกศาสนา ผู้ว่าฯ-หมอปลาบุกจับ เร่งชันสูตร-ฟันข้อหา ตรึงสภ.-กันบุกชิงตัว
ผู้ว่าฯ นำขบวนบุกจับสำนักฤๅษีเพี้ยน ที่อ.คอนสาร หลังหมอปลาประสานข้อมูล เผยเป็นลัทธิประหลาดกินขี้ไคล เสมหะ อุจจาระ รักษาโรค ผงะเจอศพใส่โลงไม้อีก 11 ศพ อ้างรอขึ้นสวรรค์ ผู้ว่าฯ สั่งเอาผิดรูด เจ้าลัทธิวัย 74 ปี ทั้งบุกรุกที่สาธารณะ พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ร.บ.สาธารณสุข พร้อมให้ตร.ตรวจสอบศพที่พบ เอาผิดเรื่องซ่อนเร้นศพเพิ่ม เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อหวั่นเกิดอันตราย แนะเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขดีกว่า
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา ประสานนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ช่วยสนธิกำลังนำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สำนักงานพระพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่ สสจ. และฝ่ายปกครองกองร้อย อส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมของฤๅษีประหลาดในพื้นที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
หลังพบมีพฤติกรรมอ้างตัวเองว่าเป็น พระบิดา ผู้เป็นใหญ่กว่าทุกศาสดา โดยจากการเข้าตรวจสอบภายในสำนักพบเจอร่าง ผู้เสียชีวิตถึง 11 ราย บรรจุใส่โลงเก็บไว้ภายในสำนักฤๅษีดังกล่าวเพื่อรอขึ้นสวรรค์ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอยู่ในสำนักฤๅษีลูกศิษย์กว่า 50 คน แจ้งว่าไม่สามารถนำใบยืนยันการเสียชีวิตมาให้ดูได้ 5 ราย จากที่พบทั้งหมด 11 ราย
นอกจากนี้ยังเจอชายสูงอายุ ผมยาว หงอกขาว อ้างตัวว่าเป็นพระบิดาผู้เป็นใหญ่สูงกว่าของทุกศาสนา ยังให้ลูกศิษย์กินปัสสาวะ กินเสมหะ กินอุจจาระ รวมถึงขี้ไคล เป็นยารักษาโรค เบื้องต้นทางตำรวจได้เชิญตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกจากสำนักท่ามกลางเสียงร้องตะโกนต่อต้านของลูกศิษย์ที่ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่นำตัวชายสูงอายุคนดังกล่าวออกไปจากสำนักฤๅษีดังกล่าว ต้องใช้เวลาพูดคุยอยู่นานหลายนาที
จับเจ้าสำนัก – ตำรวจ สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ บุกตรวจสอบสำนักสงฆ์ใน อ.คอนสาร พร้อมคุมตัวนายทวี หนันลา เจ้าสำนัก ที่อ้างเป็นพระบิดาทุกศาสนา ให้ผู้หลงเชื่อกินอุจจาระ-ปัสสาวะรักษาโรค ไปสอบสวน ทั้งยังพบมีการเก็บศพไว้ในโลงถึง 11 ศพ เมื่อ 8 พ.ค.
ก่อนที่จะขอควบคุมตัวผู้ที่อ้างตัวเป็นฤๅษีเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมแบบประหลาดครั้งนี้ไป สอบสวนที่ สภ.คอนสาร เบื้องต้น นายไกรสร ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายที่พบการ กระทำความผิด มีการแจ้งข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อช่วงโควิด-19 ระบาด การเปิดให้เป็นสถานรับการรักษาโรคที่ไม่ผ่านการอนุญาตจากสาธารณสุข ส่วนกรณีร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายและให้มีการดำเนินการสั่งปิดสำนักฤๅษีดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป
นายไกรสรเปิดเผยว่า สำหรับเรื่องของคดีความ ทางตำรวจเองก็ให้ได้ให้ชัดพิสูจน์ หลักฐาน ตรวจสอบ 11 ศพที่พบในสำนัก ดังกล่าว ดูว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะถึงจะ อ้างว่าเป็นศพญาติของตัวเอง ก็ไม่สามารถ นำไปไว้ที่ไหนก็ได้ รวมทั้งเรื่องของพ.ร.บ. สาธารณสุข การรักษาพยาบาลที่ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ การชุมนุมในลักษณะเสี่ยงโรคระบาดโควิด ขณะที่ฝ่ายปกครอง ดูแลเรื่องเกี่ยวกับการบุกรุกที่สาธารณะ อันเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของนายอำเภออยู่แล้ว เพราะพบว่าพื้นที่มีการปรับปรุง ก่อสร้างอาคาร ทั้งเพื่อพักอาศัย เลี้ยงสัตว์ ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายไกรสร ระบุว่า ต้องขอบคุณหมอปลา หรือนายจีรพันธ์ ที่ช่วยแจ้งข้อมูลดังกล่าว เพราะตนเพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ ชัยภูมิได้เพียง 7 เดือน ยอมรับว่ายังมีอีกหลายจุดในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องไปตรวจสอบไล่เรียงไปว่ามีการปล่อยปละละเลยหรือไม่อย่างไร และพร้อมดำเนินการให้ถูกต้อง ทั้งเรื่องของลัทธิที่มอมเมาล้างสมองประชาชน ซึ่งในยุคสมัยนี้ที่ระบบสาธารณสุขของไทยได้รับการยอมรับในระดับโลก ก็ไม่ควรจะมีการหลอกลวงให้หลงเชื่อว่าการรักษาโรคจากขี้ไคล ปัสสาวะ จะเกิดขึ้นได้ จากนี้จะตรวจสอบว่ามีกลุ่มคนในลักษณะนี้อีกหรือไม่อย่างไร เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้มีลัทธิพิสดารหลอกลวงประชาชนอีก
ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้ประสานกำลังอส.จากทั้งจังหวัด เพื่อลงพื้นที่ อ.คอนสาร ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลสถานการณ์ให้เกิดความสงบเรียบร้อย ขณะที่ผู้ต้องหาในคดี ทราบว่าชื่อนายทวี หนันลา อายุ 74 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่ที่ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ทั้งนี้เชื่อว่าจะทำความเข้าใจกับบรรดาสาวกได้ และไม่เกิดเหตุรุนแรงลุกลามบานปลายอย่างแน่นอน
พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ. คอนสาร จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า สถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นสำนักลักษณะเป็นลัทธิความเชื่อในกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง เปิดให้มีการรักษาโรคตามคำกล่าวอ้าง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มจากมีประชาชนร้องเรียนไปยังหมอปลา โดยประเด็นที่ร้องเรียนเข้าไปเป็นเพียงการร้องขอความช่วยเหลือว่ามีญาติเข้าไปทำการรักษาในสำนักแห่งนี้แล้วอยากให้มีการช่วยเหลือนำตัวกลับออกมา ด้านทีมงานหมอปลาและมี ผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักติดตามมาหลังจากการเข้าตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติจำนวนมาก รวมถึงพบว่ามีศพผู้เสียชีวิตที่นอนอยู่ใน โลงไม้ จำนวน 11 ศพ จากนั้นจึงได้มีการประสานเข้ามายังเจ้าหน้าที่ร้อยเวรของ สภ.คอนสาร เพื่อร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุในสำนักสงฆ์แห่งนี้ โดยพบว่ามีศพผู้เสียชีวิตจริง 11 ศพ
