ผู้ว่าฯสั่งจัดทีมอส.-ชรบ.-ตร. ระดมอารักขาเข้มทั่วทั้งวัด หมอปลา-โดนแจ้งจับเพิ่ม!
‘หลวงปู่แสง’ลงมาฉันภัตตาหารเช้า พร้อมทักทายญาติโยมเป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุ ศิษย์ปลื้มได้เข้าไหว้ สักการะ แต่ยังเข้มกฎ 5 ข้อรักษาระยะห้ามเข้าใกล้ ด้านผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ สั่งตั้งกองอำนวยการร่วมอารักขาหลวงปู่-บริเวณวัดป่าอรัญญาวิเวก โดยสนธิกำลังทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชรบ. มีปลัดจังหวัดเป็นหัวหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก ส่งรองผู้ว่าฯ ไปร่วมหารือร่วมทางวัดเพื่อจัดระเบียบ ขณะที่หมอปลายังอ่วมโดนแจ้งจับเพิ่มอีกที่นครปฐม กรณีบุกเข้าวัดจับพระกลางดึก

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายทวีป บุตรโพธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ มอบหมายให้นายกองเอกฤทธิ์สรรค์ เทพพิทักษ์ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดอำนาจเจริญ จัดตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย วัดป่าอรัญญาวิเวก ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ โดยสนธิกำลังร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ไม่คาดคิดขึ้นกับหลวงปู่แสง ญาณวโร อีก หลังถูกบุกรุกเข้าไปคุกคามที่ที่พักสงฆ์ป่าดงสว่างธรรม ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดในวันเดียวกันนี้ มีประชาชนเดินทางมาเพื่อกราบสักการะหลวงปู่แสง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไป พร้อมแจ้งให้มาใหม่ตามเวลาที่ประกาศคือเวลา 13.00-15.00 น.

ต่อมา นายธนูศิลป์ ไชยสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วย นายฤทธิ์สรรค์ เทพพิทักษ์ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ เดินทางมาเข้ากราบพระครูโสภณธรรมสโรช เจ้าอาวาสวัดป่าหัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าอรัญญาวิเวก เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการบริหารจัดการเวลาเข้ากราบนมัสการ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย

ลงจากกุฏิ – ศิษยานุศิษย์เข้ากราบนมัสการหลวงปู่แสง ใน วันแรกที่ทางวัดป่าอรัญญาวิเวก จ.อำนาจเจริญ เปิดให้ญาติโยมได้พบหลวงปู่หลังเกิดเรื่องราว ขณะที่ผวจ.ตั้งศูนย์รักษา ความปลอดภัยป้องกันเกิดปัญหาซ้ำ เมื่อ 17 พ.ค.

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้า หลวงปู่แสงได้ลงมาฉันภัตตาหารเช้าที่ศาลาด้านล่างข้างกุฏิ และไต่ถามญาติโยมถึงสภาพดินฟ้าอากาศว่าฝนตกหรือไม่ มีน้ำพอทำนาหรือยัง และหลังจากฉันเสร็จก็กลับขึ้นไปพักบนกุฏิเช่นเดิม ซึ่งหลวงปู่ยังมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลีย คณะพระลูกศิษย์จึงนิมนต์หลวงปู่กลับขึ้นไปพัก ซึ่งเมื่อช่วงเช้าพระคร้าว และพระทวีได้แยกไปทำวัตรปฏิบัติอื่นแทน ให้พระอุปัฏฐาก รูปอื่นมาทำหน้าที่แทน

จากนั้น หลวงปู่แสงได้ให้นายฤทธิสรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ได้มาคอยอำนวยความสะดวกเข้ากราบสักการะ รวมถึงตัวแทนสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้เข้ากราบ และหลวงปู่ได้เคาะหัวให้ทุกคน พร้อมเน้นย้ำว่าไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองใคร

ขณะเดียวกัน ยังคงมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมารอเข้ากราบสักการะ ซึ่งนายเฉลิมชัย จันทะโคตร โฆษกคณะกรรมการลูกศิษย์ ได้แจ้งบอกข้อปฏิบัติกฎเกณฑ์ในการเข้ากราบสักการะ คือ 1. เข้ากราบตามเวลา 13:00น.-15:00 น. (กรณีตามอัธยาศัยหลวงปู่ให้พิจารณาตามสมควรโดยผู้ดูแล) 2. สตรีเพศห้ามเข้าใกล้หลวงปู่โดยเด็ดขาด เข้ากราบให้ห่าง 5 เมตรถึงหลวงปู่จะเรียกหรือกวักให้เข้าไปรับของให้ผู้ชายเข้ารับแทนเท่านั้น 3. การบันทึกภาพให้บันทึกภาพระยะห่าง 5 เมตร 4. พึงเข้ากราบด้วยความเคารพสำรวม 5. หากฝ่าฝืนทางคณะศิษย์จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายสนธิญา สวัสดี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของนายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และพวก หลังนำกลุ่มสื่อมวลชนและข้าราชการ จาบจ้วงและข่มขืนใจหลวงปู่แสงให้รับสารภาพว่าจับเนื้อต้องตัวหญิงสาว

นายสนธิญากล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนขอให้ตำรวจกองปราบปราม รวบรวมหลักฐานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าคณะของ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร และนายอำเภอป่าติ้ว จ.ยโสธร ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เข้าข่ายการ กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ รวมถึงขอให้ตำรวจสืบสวนย้อนหลังด้วยว่าหลายคดีที่ทีมงานของนาย จีระพันธ์บุกเข้าไปในวัดและสึกพระสงฆ์หลายครั้งช่วงที่ผ่านมานั้นใช้วิธีการล่อซื้อที่ผิดกฎหมาย หรือสร้างพยานหลักฐานเท็จในลักษณะนี้ด้วยหรือไม่

วันเดียวกัน นายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับ “หมอปลา” หรือ นายจีระพันธ์ กรณีสร้างความเสื่อมเสียให้กับหลวงปู่แสงว่า นายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.สำนักพุทธฯ มอบหมายให้กลุ่มนิติการ ซึ่งได้รวบรวบข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ระดับหนึ่งแล้ว โดยนอกจากกรณีหลวงปู่แสงแล้ว จะดูในทุกกรณีที่หมอปลาบุกเข้าไปในกุฏิสงฆ์ด้วย ขณะนี้นำมาตรวจสอบแล้ว 8 กรณี เพราะอาจจะมีความผิดเข้าข่ายกฎหมายหลายเรื่อง เช่น การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล, ความผิดทางอาญา, ความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โดยกลุ่มนิติการ สำนักพุทธฯ จะดูแต่ละกรณีว่าทีมงานหมอปลา มีความผิดตามกฎหมายในเรื่องใดบ้าง โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกลุ่มนิติการแล้ว ต้องให้เวลาในการทำงานของฝ่ายนิติการก่อน

นายสิทธากล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร ในวันที่หมอปลาบุกไปที่พักสงฆ์ป่าดงสว่างธรรมนั้น สำนักพุทธฯ ได้ให้ ผอ.พศ.จ.ยโสธร รายงานข้อเท็จจริงมาที่สำนักพุทธฯ แล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายจีระพันธ์หรือหมอปลา พร้อมพวกกระทำการลบหลู่ใส่ความ ทำให้เกิดความเสียหายกับพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ว่า มีการสั่งการไปแล้วผ่านทางนายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ไปติดตามและกำชับในเรื่องเหล่านี้ เพราะเรื่องของการปกครองสงฆ์ก็มีระเบียบของพระสงฆ์อยู่ เช่นเดียวกัน เป็นการบริหารของเจ้าคณะเขต เจ้าคณะจังหวัด เรื่องนี้ก็ต้องเข้าไปดูแลด้วย

“สิ่งสำคัญก็คือคนของเราหรือประชาชน อย่าไปทำให้ท่านเสียหาย แต่ถ้าหากท่านทำเสียหายของท่านเองก็ต้องช่วยกันแจ้งมา เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบและนำเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งก็มีมหาเถรสมาคมดูแลตรงนี้อยู่แล้ว พระก็มีการปกครองของคณะสงฆ์เช่นเดียวกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าทางกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เสนอร่างแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพระสงฆ์ 4 ฉบับให้มีโทษอาญาทั้งพระสงฆ์และผู้หญิงที่ร่วมประพฤติผิด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขากำลังทำเรื่องนี้กันอยู่ เท่าที่ถามมาขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ

ด้านนายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างฆราวาสกับพระสงฆ์ รวมทั้งการเรียกศรัทธาคืนจากพุทธศาสนิกชนว่า ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ดำเนินการในส่วนที่จำเป็น ซึ่งตนมีคำสั่งให้สำนักพุทธฯ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดำเนินการตั้งแต่ต้นที่เกิดปัญหาขึ้นมาเพื่อตรวจสอบแต่ไม่ได้ให้ข่าวออกไป

เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินการกับนาย จีระพันธ์หรือหมอปลาอย่างไรบ้างเพื่อให้เป็นตัวอย่างไม่ให้เกิดการกระทำในลักษณะนี้อีก นายอนุชากล่าวว่า ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย อะไรที่ยอมไม่ได้เป็นอาญาแผ่นดินก็ต้องดำเนินการ ซึ่งในส่วนของสำนักพุทธฯ ที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตามมติของมหาเถรสมาคมมีการเข้าไปดูแลพระสงฆ์และศาสนาอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องการกำกับดูแลพระตามลำดับชั้น และอยู่ระหว่างที่จะตั้งโทษในส่วนที่จะเกิดขึ้นแต่ละลำดับชั้นลงไปในการดูแลของพระใต้การปกครอง ยืนยันว่าไม่ใช่ว่าสำนักพุทธฯ จะนิ่งเฉย หลายอย่างได้ทำไปแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เสนอร่างแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพระสงฆ์ 4 ฉบับให้มีโทษอาญาทั้งพระสงฆ์และฝ่ายญิงที่ร่วมประพฤติผิด นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ว่าจะอยู่เท่านี้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่อยากให้ลงลึกลงไปเกี่ยวกับศาสนา ซึ่งไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการ แต่ต้องมีการพูดคุยในวงกว้าง ไม่ใช่คิดว่าจะแก้ไขแล้วทำทันที เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนสอบสวน และเอาผิดนายอำเภอป่าติ้วและผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้หมอปลาและพวก พาทีมสื่อมวลชนบุกไปที่สำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม เพื่อกล่าวหาหลวงปู่แสง

หมอปลาอีกวัด – นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ‘หมอปลา’ นายจีระพันธ์ เพชรขาว กับพวก ร่วมกันบุกรุกกุฏิพระวิธีเทพมติ พระลูกวัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม และร่วมกันกล่าวหาว่าพระอยู่กับสีกาสองต่อสองซึ่งเป็นความเท็จ ที่สภ.เมืองนครปฐม เมื่อ 17 พ.ค.

ที่ สภ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม นาย ศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร อายุ 54 ปี ในนามของทนายความกองทัพธรรม ในฐานะนายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย ได้ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความกล่าวโทษนายจีระพันธ์ กับพวก กรณีร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เข้าไปในกุฏิของพระวัดห้วยจระเข้ จังหวัดนครปฐม โดยร่วมกันกล่าวหาว่าอยู่กับผู้หญิงสองต่อสอง ซึ่งเป็นความเท็จ และได้นำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปเผยแพร่ในเพจของตนด้วย น่าจะเป็นความผิดทางกฎหมาย

นายศุภภัทร์พจน์กล่าวต่อว่าในส่วนของพระสงฆ์ได้มาแจ้งความร้องทุกข์และบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งจะมาให้การตามหมายเรียกต่อไป ในส่วนของตน เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการคุกคามพระภิกษุสงฆ์ จึงเดินทางมากล่าวโทษ ในข้อหาบุกรุกเคหสถานตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป อนุมาตรา 1 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา 44 สอบสวนแล้ว ปรากฏว่า สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป กระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมาย จึงมากล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนหาข้อเท็จจริง และออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ว่ามีใครร่วมขบวนการบ้าง

นายศุภภัทร์พจน์กล่าวต่อว่าในส่วนของจังหวัดนครปฐมที่ดำเนินการนั้นถือเป็นคดีแรก และกำลังตรวจสอบย้อนหลังในกรณีอื่นๆ เช่น วัดโนนไทย หรือหลายๆ ที่ที่เคยปรากฏเป็นข่าว จะตรวจสอบว่าทำผิดถูกตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร หากเห็นว่าที่ผ่านมา ทำไม่ถูกต้องก็จะต้องดำเนินการ สำหรับวันนี้จะแจ้งข้อหาบุกรุกในเวลากลางคืน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เป็นอาญาแผ่นดินนอกจากนั้นจะเป็นพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์นำข้อมูลบิดเบือนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จะมีเรื่องของพ.ร.บ.คณะสงฆ์ทำให้คณะสงฆ์แตกแยก รวมถึงพิจารณาว่าการบุกรุกเข้าไปเกิน 5 คน เป็นการกระทำอัน มิชอบด้วยกฎหมาย จะเข้าข่ายซ่องโจรหรือไม่ อยู่ที่พนักงานสอบสวนจะตั้งข้อกล่าวหา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน