‘เครือมติชน’ผนึกกำลังองค์กรสื่อ ภาครัฐ-เอกชน 32 องค์กรส่งอาสาสมัคร 2,500 คนรายงานผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ส.ก.แบบเรียลไทม์ 6,817 หน่วยเลือกตั้ง ใน 50 เขต ใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มรายงานผลที่ถูกต้อง แม่นยำ ไม่เกิน 6 โมงเย็นรู้ผล 80% ขณะที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ลุยหาเสียงขอคะแนน โค้งสุดท้าย

32สื่อรายงานผลผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. สื่อเครือมติชน ประกอบด้วย น.ส.พ.มติชน, มติชนทีวี, น.ส.พ.ข่าวสด และน.ส.พ.ประชาชาติธุรกิจ เกาะติดการ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 22 พ.ค.นี้อย่างใกล้ชิด ล่าสุดผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรสื่อ องค์กรภาครัฐและเอกชน เดินหน้า “โครงการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพ มหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร 2565 (อย่างไม่เป็นทางการ)”

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญขององค์กรวิชาชีพสื่อ และสถาบันวิชาการ ประกอบด้วย สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ประเทศไทย), สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์, อาสาพัฒนาการเมือง และคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร, สถาบันวิชาการ, มหาวิทยาลัย ต่างๆ, องค์กรสื่อของไทย 32 สำนัก อาทิ มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม และได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ได้แก่ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

“โครงการรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร 2565 (อย่างไม่เป็นทางการ)” จะจัดส่งอาสาสมัครในนาม “อาสาพัฒนาเมือง” กว่า 2,500 คนลงทุกพื้นที่คูหาเลือกตั้ง เพื่อรายงานผลคะแนนของผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. อย่างไม่เป็นทางการแบบ เรียลไทม์ จากหน้าหน่วยลงคะแนนทั้ง 50 เขต รวม 6,817 หน่วย ซึ่งนอกจากประชาชน จะได้รับทราบผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และส.ก. อย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นการสนับสนุน การมีส่วนร่วมของประชาชนตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอีกด้วย

ประชาชนสามารถติดตามผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ได้ทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ของมติชน ข่าวสด และประชาชาติ ธุรกิจ รวมถึงยูทูบมติชนทีวี ในวันที่ 22 พ.ค. ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. หรือหลังจากปิดหีบเลือกตั้งเป็นต้นไป

ส่งอาสาฯ 2,500คนรายงานผล
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งธนกิจ ตัวแทนสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ หลังจากห่างหายไป 9 ปี ถือเป็นความรับผิดชอบของสื่อที่จะต้องรายงาน ผลคะแนนอย่างรวดเร็วและถูกต้องมากที่สุด โครงการนี้เป็นการร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยได้รับการสนับสนุนจากกรรมาธิการพัฒนาการเมือง และมหาวิทยาลัยที่ช่วยเรื่องอาสาสมัคร และหน่วยงานเอกชน ความร่วมมือดังกล่าว เราหารือในกลุ่มของสื่อที่ทำข่าวเลือกตั้ง เพื่อให้การรายงานผลคะแนนเป็นไปอย่างถูกต้อง หากรอคะแนนจากคณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.) หรือ กกต.กทม.จะค่อนข้าง ช้า อีกทั้งคนกทม.ใจร้อนอยากรู้ผลโดยเร็ว จึงส่งอาสาสมัคร 2,500 คน ลงไปยังหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย และรายงานเป็นเรียลไทม์ 1 ต่อ 1 โดยมีแอพพลิเคชั่นบันทึกคะแนน โดยจะบันทึกเมื่อมีการขานคะแนนทันที หลังจากนั้นจะรายงานคะแนนที่เป็นยอดรวมของหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด มารวมกันเพื่อเป็น ยอดรวมของคะแนนทั้งหมด คาดว่าไม่เกิน 2 ชั่วโมง หรือ 18.00 น. จะรู้ผล 80% ซึ่งทุกสื่อที่ร่วมโครงการจะนำคะแนนดังกล่าวไปรายงานผลบนฐานคะแนนเดียวกัน ทั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. และประชาชนสามารถ เลือกดูคะแนนได้เป็นรายหน่วย หรือรายเขต

“อาสาสมัครของเราจะไปประจำการหน้าหน่วยก่อน 16.00 น. หลังจากรายงานคะแนนเสร็จแล้วจะถ่ายรูปกระดานนับคะแนน เพื่อ ครอสเช็ก ตรวจสอบการเลือกตั้ง และเก็บเป็นหลักฐาน หากมีการโต้แย้งการนับคะแนนในสื่อ สามารถใช้หลักฐานตรงนี้อ้างอิงได้ระดับหนึ่ง มั่นใจได้ว่าระบบนี้จะช่วยให้สื่อนำคะแนนไปรายงานต่อสาธารณะได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ไม่มีอคติใดๆ ทั้งสิ้น” นายอดิศักดิ์กล่าว

กระตุ้นใช้สิทธิรอบ 9 ปี
ด้านนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า เราอยากใช้เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาประเทศ ใช้เป็นโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศไทย ซึ่งโครงการนี้ เป็นสิ่งจูงใจที่ดีที่จะใช้เทคโนโลยี เพื่อทำให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี อยากให้ทุกคนออกมาเลือกตั้งกัน ซึ่งประชากรเปลี่ยนไปเยอะ

“อยากให้คนรุ่นใหม่ออกมาเลือกตั้ง ทุกๆ โหวตสามารถช่วยพัฒนาประเทศได้ และเราสามารถใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม บล็อกเชนพัฒนาระบบการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือปลอมแปลงผลโหวตได้ และตรวจสอบการโหวตได้ เราสามารถนำเทคโนโลยีรุ่นใหม่มาช่วยพัฒนา ประเทศ อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจที่ดีมากที่อาจมีมาตรการทางภาษีจูงใจให้คนมาเลือกตั้งได้”

32 องค์กรสื่อ – สื่อเครือมติชน-ข่าวสดผนึกพันธมิตรสื่อ 32 องค์กร ภาครัฐและเอกชน ร่วมส่ง ‘อาสาพัฒนาเมือง’ กว่า 2,500 คน รายงานผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก. ทุกคูหาลงคะแนนแบบเรียลไทม์ โดยนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งธนกิจ ในฐานะผู้จัดการโครงการรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง เป็นตัวแทนแถลงข่าวที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท เมื่อวันที่ 18 พ.ค.

สำหรับสื่อทั้งหมด 32 องค์กรที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วยกลุ่มสื่อออนไลน์ มติชน, ข่าวสด, ประชาชาติธุรกิจ, workpoint TODAY, Nation Online, Thairath Online, TNN Online, Amarin Online, The Matter, The Standard, MGR Online, Voice Online, The Reporters, 77 ข่าวเด็ด, Modernist, Bright Today, กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, Spring Online, ไทยนิวส์, คมชัดลึก และฐานเศรษฐกิจ รวมถึงกลุ่มสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ได้แก่ 3HD, 7HD, ThaiPBS, Workpoint TV, ไทยรัฐทีวี ช่อง 32, PPTV HD36, One31, Nation TV, 9MCOT HD30, TNN16, AMARIN TV HD34, JKN18, TOPNEWS, GMM25, true4U, NBT2HD, NEWS1

ทั้งนี้ คณะผู้จัดทำโครงการแจ้งให้กกต. และกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้จัดการการเลือกตั้งกทม. รับทราบแล้วและได้รับการสนับสนุนด้วยดี

‘ป้อม’ให้คนชิงส.ก.หนุนผู้ว่าฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวผู้สมัคร ส.ก.พรรคพลังประชารัฐ บางส่วนแยกไปสนับสนุนทั้งนายสกลธี ภัททิยกุล และพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางของผู้สมัครส.ก. พรรคพลังประชารัฐจะเชียร์ใคร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เชียร์พรรคพลังประชารัฐ เราไม่ส่ง ผู้ว่าฯ กทม.เพราะต้องการเอาเฉพาะส.ก.เท่านั้น ต่อข้อถามว่าจะเชียร์ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เชียร์ทุกคน เราสนับสนุนทุกคนที่ได้ผู้ว่าฯกทม.

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า ให้ผู้สมัครส.ก. ของพรรคสนับสนุนพล.ต.อ.อัศวินนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะตนและพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ เกี่ยวข้อง แต่เกี่ยวข้องกับส.ก.อย่างเดียว ส.ก.ของพรรคพร้อมทำงานกับผู้ว่าฯ กทม. ทุกคน

‘สกลธี’คุยส.ก.พปชร.-กล้าหนุน
ที่อาคาร R56 ถนนรัชดาภิเษก นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ในนามอิสระ แถลงข่าวพร้อมเปิดตัวผู้สมัคร โดยมีส.ก.ที่สนับสนุนมาร่วมงาน 14 คน จากพรรคพลังประชารัฐ 10 คน และผู้สมัครอิสระ 4 คน

นายสกลธีกล่าวว่า ที่มาเปิดตัววันนี้ มีผู้สมัคร ส.ก.จากพรรคพลังประชารัฐและอิสระ ส่วนพรรคกล้าก็มี แต่ไม่ได้มาเปิดตัวด้วยอาจติดปัญหาเรื่องความเป็นพรรค และคนที่มายืนยันว่าเห็นด้วยกับแนวทางของตนในนามสกลธีโมเดล จากที่ได้คุยกับพี่ๆ น้องๆ ในพรรคพลังประชารัฐ ในพรรคไม่มีธงสนับสนุนใคร ขึ้นอยู่กับส.ก.แต่ละคนว่าจะเห็นใครเหมาะสม ในการปราศรัยใหญ่ 20 พ.ค.นี้ที่วงเวียนใหญ่ จะมีอีกหลายคนที่ไม่แสดงตัวในวันนี้จะไปร่วม และปราศรัยด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีส.ก.พรรคพลังประชารัฐ มาเปิดตัวทั้งหมดกี่คน นายสกลธีกล่าวว่า ที่ได้คุยกันมาตลอดมีไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของส.ก.พรรคพลังประชารัฐ ที่เห็นว่าแนวทางของตนกับเขาไปด้วยกันได้ ส่วนพรรคกล้าส่งส.ก.ทั้งหมด 8 คน จากที่คุยกับนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ทราบว่า น่าจะมาสนับสนุนตนเกินครึ่งของผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค

ปชป.ระดมสมาชิกช่วย‘ดร.เอ้’
เวลา 09.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดกิจกรรม “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว” ปล่อยขบวนรถแห่หาเสียง นำโดยสาขาพรรคจากทุกภาค ร่วมประกาศสนับสนุนและออกรณรงค์เลือกตั้งให้กับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 และ ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 50 เขต โดยมีนายเมธี อรุณ หรือเมธี ลาบานูน ว่าที่ผู้สมัครส.ส. นราธิวาส มาร่วมงาน ซึ่งตัวแทนสาขาพรรคจากทุกภาคขึ้นกล่าวเป็นภาษาถิ่นของตนเอง เชิญชวนให้เลือกนายสุชัชวีร์

ที่เขตคลองเตย นายสุชัชวีร์ ลงพื้นที่พร้อมนายปานชัย แก้วอัมพรดี ผู้สมัคร ส.ก.หมายเลข 6 เพื่อขอคะแนนสนับสนุนจากชาวคลองเตย

‘ชัชชาติ’เล็งแก้จุดซ้ำซาก
วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ในนามอิสระ สวมบู๊ต ลุยน้ำท่วมชุมชนริมคลองบางบัว และชุมชนในซอยพหลโยธิน 46 เขตบางเขน หนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักทั่ว กทม. ตั้งแต่คืนวันที่ 17 พ.ค. และพบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากมาโดยตลอด พร้อมสำรวจพื้นที่ ริมคลองบางบัว หรือคลองลาดพร้าว พบปัญหา น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมขังบ้านเรือนประชาชน ระดับความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร

นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.ต้องทบทวน การใช้งบประมาณลงทุนโครงการใหญ่ แล้วจัดสรรงบมาแก้ไขปัญหาพื้นที่ตรอกซอย ที่น้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อให้การใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ จากสถิติพบว่าในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา กทม.ลงทุนงบประมาณด้านการป้องกันน้ำท่วมและระบบบริหารจัดการน้ำเป็นจำนวนเงินสูงกว่า 7 หมื่นล้านบาท

‘วิโรจน์’ชงเปลี่ยนงบอุโมงค์ยักษ์
เมื่อเวลา 11.10 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล หมายเลข 1 โพสต์เฟซบุ๊กว่าเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ฝนตกหนักแต่ระบบระบายน้ำกลับเป็นอัมพาต การบริหาร ของผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมาปล่อยให้ระบบการระบายน้ำของกรุงเทพฯ ขาดการดูแลแบบนี้ได้อย่างไร หัวใจของการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ อยู่ที่การจัดสรรงบประมาณ แต่ตัวเลขงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการ แก้ปัญหาน้ำท่วมกลับถูกตัดเหี้ยน ขณะที่ งบสร้างอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาท ที่ไม่มีการเบิกจ่ายเลยกลับไม่โดนตัดซักบาท

นโยบายลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง จบปัญหาน้ำรอระบาย ปัญหาน้ำท่วมแก้ได้ ไม่ต้องใช้เมกะโปรเจ็กต์ สิ่งที่เราจะทำคือเปลี่ยนงบอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาท เป็นขยายท่อระบายน้ำ ขุดลอกท่อและคูคลอง เพื่อให้น้ำรอการระบาย ระบายได้เร็วขึ้น เมื่อฝนตกน้ำไม่ท่วม แยกระบบท่อน้ำฝน- ท่อน้ำเสีย เพื่อให้สามารถบำบัดน้ำเสีย มีประสิทธิภาพ ตั้งศูนย์รวมการจัดการน้ำไว้ที่เดียว เพื่อให้ข้อมูลทันสถานการณ์ การตัดสินใจทำได้รวดเร็ว หน่วยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลอกท่อเมื่อฝนตกระดับวิกฤต ปรับปรุงสถานีสูบน้ำ โดยเพิ่มระบบสำรองไฟสถานีสูบน้ำที่ต้องใช้ Automatic transfer เปลี่ยนเฟสไฟ และใช้ระบบ iot ควบคุมเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติ ไม่ต้องรอไขกุญแจ

‘ศศิธร’อ้อนคนพระนคร
ด้านน.ส.ศศิธร ประสิทธิ์พรอุดม ผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 6 พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ลงสมัครชิงเก้าอี้ส.ก.ในเขตพระนครลุยหาเสียงในพื้นที่ช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมอ้อนขอคะแนนจากผู้หญิงในเขตพระนคร ให้เลือกผู้หญิงด้วยกันเข้าไปทำหน้าที่ในสภากรุงเทพ มหานคร

‘อัศวิน’ขอกลับมาแก้ไขให้จบ
เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 6 พร้อม นายปรุงศักดิ์ เชาวน์ชาติ ผู้สมัคร ส.ก.กลุ่มรักษ์ กรุงเทพ เขตบางคอแหลม หมายเลข 5 ลงพื้นที่ ขอคะแนนเสียงที่ตลาดเสรี เจริญกรุง 109 บริเวณหลังโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจมอบดอกไม้ตลอดการลงพื้นที่

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวถึงการแก้ไขปัญหา น้ำท่วมว่า ต้องมาแก้ไขต่อให้จบ อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าในกทม.มีจุดที่ยังมีน้ำท่วมซ้ำซากทั้งหมด 24 จุด ตอนเป็นผู้ว่าฯ แก้ปัญหาไปแล้ว 15 จุด ตอนนี้เหลือเพียง 9 จุดเท่านั้น ส่วนฝนที่ตกหนักเมื่อคืนวันที่ 17 พ.ค. ภาพรวมทั่วกทม.วัดได้ 132 มิลลิเมตร ถ้าเป็นเมื่อก่อน น้ำท่วมหนักทั่วกทม.อย่างแน่นอน แต่ในกทม.ส่วนใหญ่ระบายได้ใน 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะ 15 จุดเสี่ยงที่แก้ไปแล้ว แต่มีบางจุดที่มีปัญหา เช่น ลาดพร้าว บางซื่อ ซึ่งอยู่ในจำนวน 9 จุดที่ต้องแก้ไขปัญหาต่อให้จบ ด้วยการนำหลักโครงสร้างวิศวกรรมมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น pipe jacking แก้มลิง และ water bank ควบคู่ไปกับการขุดลอกคลอง คาดว่า จะแก้ไขได้ถาวรเหมือน 15 จุดที่ทำได้แล้ว

‘ศิธา’พบปธ.สมาคมอัญมณี
ด้านน.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 11 ลงพื้นที่ย่านสีลม พบปะนายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์สมาคมอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า(ประเทศไทย)

จากนั้นเดินพบปะผู้ค้าอัญมณี ผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจเครื่องประดับ ที่ซอยมเหศักดิ์ ตึก Jewelry Trade และตึก Gem Tower พร้อมรับฟังข้อมูลต่างๆ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน