ชงปรับโควิด-เฝ้าระวังภูเก็ตให้ถอดแมสก์แล้ว

เปิดผับบาร์-โอเกะ-อาบอบนวดวันแรกคึกคัก กทม.ย้ำต้องเข้มมาตรการป้องกัน โควิด ขณะที่บาร์เบียร์พัทยาวอล์กกิ้งสตรีต ลูกค้าคึกคัก ถนนข้าวสารก็คึกคัก ด้านภูเก็ตนำร่องถอดหน้ากากได้ขณะรับประทานอาหาร ยืนยันตัวตนกับจนท. ออกกำลังกายในที่โล่ง รวมทั้งบริเวณชายหาด สวนสาธารณะ สนามกีฬา แต่ต้องห่างจากคนอื่น 2 เมตร ส่วนอยู่ในสถานที่ปิด รวมกลุ่มคนมากยังต้องใส่หน้ากาก ‘อนุทิน’ ชี้ต้องประเมิน 2-3 สัปดาห์ก่อนชี้ขาดถอดหน้ากาก สธ.เตรียมพร้อม 4 ด้านลุยโรคประจำถิ่น ปรับระบบร.พ.สู่ภาวะปกติ

ติดเชื้อเพิ่ม 4,563-ตายอีก 28
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 4,563 ราย ติดเชื้อสะสม 4,455,020 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,125 ราย หายป่วยสะสม 4,385,702 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 28 ราย เสียชีวิตสะสม 30,047 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 39,271 ราย อยู่ร.พ.สนาม HI, CI 23,080 ราย และอยู่ในร.พ. 16,191 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 850 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 414 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 หรือสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 12.31% มีรายงานผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 11 ราย และไม่มีผู้ติดเชื้อเดินทางจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 28 ราย มาจาก 22 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สกลนคร จังหวัดละ 3 ราย, กทม. ลพบุรี จังหวัดละ 2 ราย, นนทบุรี ชัยภูมิ หนองบัวลำภู ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ พิษณุโลก พะเยา กำแพงเพชร ลำพูน สุราษฎร์ธานี ชุมพร ปัตตานี ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และราชบุรี จังหวัดละ 1 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 13 ราย หญิง 15 ราย อายุ 3-94 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 96%

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 2,347 ราย 2.ขอนแก่น 102 ราย 3.มหาสารคาม 97 ราย 4.บุรีรัมย์ 96 ราย 5.สมุทรปราการ 89 ราย 6.สมุทรสาคร 82 ราย 7.ชลบุรี 77 ราย 8.สกลนคร 63 ราย 9.นครพนม 61 ราย และ 10.ชัยภูมิ 55 ราย ส่วนจังหวัดติดเชื้อต่ำกว่า 100 ราย มีทั้งหมด 70 จังหวัด

ศบค.ปรับรายงานป่วยโควิด
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 31 พ.ค.65 จำนวน 120,739 โดส สะสม 137,763,012 โดส เป็นเข็มแรก 56,749,665 ราย คิดเป็น 81.6% เข็มสอง 52,672,798 ราย คิดเป็น 75.7% และเข็ม 3 ขึ้นไป 28,340,549 ราย คิดเป็น 40.7% ภาพรวมผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็ม 3 แล้ว 44.6% ส่วนเด็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มแรกแล้ว 3.02 ล้านคน คิดเป็น 58.6% และเข็มสอง 1.7 ล้านคน คิดเป็น 32.6%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขยังรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ แต่จะเริ่มปรับระบบรายงาน โดยเน้นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในร.พ. เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ลดความรุนแรงลง และเตรียมปรับเข้าสู่การเป็นโรคปกติที่เน้น เฝ้าระวังติดตามผู้มีอาการในร.พ.

ส่วนผู้ที่แนะนำให้ทำการตรวจด้วยชุดตรวจเอทีเคทุกสัปดาห์ มี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ 2.กลุ่มผู้ดูแลใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง และ 3.กลุ่มผู้ที่อยู่ในสถานที่รวมตัวจำนวนมาก








Advertisement

‘อนุทิน’ชี้โควิดขาลง
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) แถลงภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงสธ.ว่า วันนี้ที่ประชุมมีวาระเรื่องเตรียมความพร้อมโรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ในไทยดีขึ้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่ำกว่า 5,000 รายต่อวัน ผู้เสียชีวิตลดลงต่ำกว่า 50 รายต่อวัน ฉีดวัคซีน โควิดแล้วเกือบ 140 ล้านโดส ให้บริการเข็มกระตุ้นต่อเนื่องจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย ทำให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากองค์การอนามัยโลกและนานาประเทศว่าบริหารจัดการโรคได้ดี เผชิญปัญหาและปรับตัวตามสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

“ประชาชนจำนวนหนึ่งยังไม่ได้รับวัคซีนขอให้มารับ ซึ่งสธ.พร้อมจัดบริการเต็มที่ คนรับแล้วให้มารับเข็มบูสเตอร์โดส ซึ่งอาจเป็นเข็ม 3 เข็ม 4 หรือเข็ม 5 ตามความจำเป็นของแต่ละคนเรื่องความเสี่ยง ปัจจุบันกรมควบคุมโรคสรุปว่ากลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดเข็ม 3 แล้ว 3 เดือนมารับเข็ม 4 ได้ นอกกลุ่มเสี่ยง 608 รับเข็ม 3 แล้ว 4 เดือนมารับได้เช่นกัน หากจำเป็นเดินทางต่างประเทศ มีความสุ่มเสี่ยงกังวลติดเชื้อหรือไม่ ก็มารับบูสเตอร์เข็ม 5 ได้ ซึ่งไม่ได้มีผลเสียผลข้างเคียงต่อสุขภาพ” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวต่อว่า สธ.จะเสนอผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อคืนความสุขเป็นปกติแก่ประชาชน รองรับการไปสู่โรคประจำถิ่นอย่างปลอดภัย ใช้นโยบาย Health for Wealth สุขภาพสร้างความเข้มแข็งประเทศ มีเป้าหมายคืนระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขให้ประชาชนทุกคนผู้ป่วยทุกโรคใช้บริการตามปกติ เนื่องจากโควิดลดความรุนแรงลงมาก ไม่ใช่โรคติดต่ออันตรายร้ายแรง จนทำให้ระบบการรักษาต้องสะดุดหรือติดขัด อย่างวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ศบค.อนุมัติพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวังเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด หรือสถานบริการอื่นที่คล้ายกัน ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และ Thai Stop COVID 2+ เปิดบริการไม่เกินเที่ยงคืน หากเปิดเกินจะผิดกฎหมายทันที

เตรียม 4 ด้านสู่โรคประจำถิ่น
ทั้งนี้จะเตรียมความพร้อมรองรับโรคประจำถิ่น 4 ด้าน คือ 1.มาตรการด้านสาธารณสุข เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากกว่า 60% เฝ้าระวังการระบาดเป็นกลุ่มก้อนและผู้ป่วยปอดอักเสบ ผ่อนคลายมาตรการผู้เดินทางจากต่างประเทศ ปรับแนวทางการแยกกักผู้ป่วยและกักกันผู้สัมผัส

2.มาตรการด้านการแพทย์ ดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก เน้นผู้ป่วยโควิดที่เสี่ยงอาการรุนแรงและอาการรุนแรง ผู้ป่วยลอง โควิด ปรับการดูแลรักษาผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่มีอาการโควิดหรือสัมผัสเสี่ยงสูง เข้ารักษาแบบผู้ป่วยและผู้ป่วยในไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด ผู้เฝ้าไข้ไม่ต้องตรวจ ATK ทำให้ญาติเยี่ยมได้สะดวกขึ้น จะตรวจ ATK หรือ RT-PCR กรณีผ่าตัดหรือตรวจรักษาที่อาจมีการแพร่กระจายโควิดในอากาศ และผู้ป่วยฉุกเฉินตามความเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ป่วยรายอื่นและบุคลากรทางการแพทย์ จากนี้การบริการของร.พ.จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ พร้อมการป้องกันการติดเชื้อของโรคระบบทางเดินหายใจที่ดีขึ้น ย้ำว่าหากเกิดการระบาดเรื่องโรคระบบทางเดินหายใจ สธ.พร้อมมีบุคลากร เวชภัณฑ์ ทรัพยากรเตียง และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อทุกชนิดอย่างเพียงพอ และคงเครือข่ายระบบบริการสุขภาพพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

ชงโควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง
3.มาตรการด้านกฎหมาย สังคมและองค์กร ระยะต่อไปที่โควิด-19 จะเข้าสู่โรคประจำถิ่น คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติจะพิจารณาอย่างรอบคอบ เสนอให้ปรับโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง จะกำหนดแนวทางการควบคุมป้องกันโรคคล้ายกับโรคติดต่อทั่วไป ทั้งนี้ยังต้องเสนอที่ประชุม ศบค. เพราะยังอยู่ภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ทางปฏิบัติขอให้เกิดมั่นใจว่าสธ.มุ่งเน้นความปลอดภัยด้านสุขภาพประชาชน ให้มีภูมิคุ้มกันเพียงพอเหมาะสม ใช้ชีวิตเป็นปกติสุขได้ ห่างไกลจากการติดต่อของโควิด ส่วนเชิงนโยบายจะประกาศอย่างไร ประกาศโรคประจำถิ่นหรือไม่ยังมีอีกหลายขั้นตอน และต้องนำเสนอให้ได้รับความเห็นชอบที่ประชุมศบค.

และ4.มาตรการด้านการสื่อสาร ทุกภาคส่วนร่วมการสร้างความรู้ความเข้าใจและพฤติกรรมให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตร่วมกับโควิดได้ ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ใช้ชีวิตแบบใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ประเมินความเสี่ยงตามควรแก่เหตุและสถานการณ์ของแต่ละคน มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะลดความเสี่ยงการติดโควิดได้ เข็ม 4 ช่วยป้องกันติดเชื้อ 76% ป้องกันป่วยหนักใส่ท่อหายใจและเสียชีวิต 99% ถ้ามีผู้สูงอายุที่บ้านและปฏิเสธรับวัคซีนขอให้ช่วยชี้แจงว่าวัคซีนทำให้ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการประกาศเป็นโรคเฝ้าระวังต้องรอองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า สำคัญที่สุดรอศบค. เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร อะไรที่ทำแล้วเกิดความมั่นใจกับประชาชนมากที่สุด สธ.สามารถทำให้ศบค.มั่นใจว่า จากนี้ไป ถ้าเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว เข้าโหมดปกติ สธ.มีความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ ก็จะนำเสนอศบค.รับทราบพิจารณาต่อไป ส่วนจะเมื่อไรขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งเราเปิดผ่อนคลายมากขึ้น ผับบาร์เปิดวันนี้ ไม่น่าจะเสียหายอะไรถ้าจะขอศึกษาติดตามสถานการณ์จากการเปิดผับบาร์อีก 2-3 สัปดาห์ แต่มั่นใจว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่การติดเชื้อเป็นเรื่องปกติ คนติดเชื้อไม่มีอาการหนัก กลุ่มเสี่ยงป่วยอยู่ในกลุ่มเดิม ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ยังดำรงชีวิตปกติได้ ไม่มีอาการหนัก ตอนนั้นก็จะมานำเสนออีกครั้ง

ขอประเมินก่อนถอดแมสก์
นายอนุทินกล่าวถึงกรณีมีกลุ่มคนร้องเรื่องการถอดหน้ากาก สถานการณ์จะผ่อนคลายถึงระดับใดจึงเสนอถอดหน้ากาก ใช้ชีวิตตามปกติว่า การถอดหรือใส่หน้ากากไม่เคยเป็นข้อบังคับใดๆ แต่เป็นแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ วันนี้สถานการณ์คลี่คลายลง แต่การใส่หน้ากากไม่ได้เป็นผลเสีย ถ้าเราประเมินว่าสถานที่แต่ละแห่งมีความสุ่มเสี่ยงอย่างไร ถ้าไม่มีสุ่มเสี่ยง อยู่ท่ามกลางครอบครัว ญาติพี่น้อง ซึ่งไม่ได้ไปที่สุ่มเสี่ยงมาหรือไม่ได้มีความเสี่ยงใดๆ เราก็เปิดหน้ากากได้ ถ้าสมมติเรารู้ว่าไม่ปลอดภัย อย่างวันนี้จะไปผับบาร์คาราโอเกะ ก็ขอร้องให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ มีการสุ่มตรวจขอความร่วมมืออย่าเปิดเกินเที่ยงคืน หรืออย่ามีกิจกรรมอะไรที่ส่อไปในความสุ่มเสี่ยง ตรงนี้เป็นการประเมินแล้ว สุดท้ายที่เรายอมให้เปิดผับบาร์ กิจกรรมต่างๆ ขึ้นมา เพื่อบาลานซ์กับทางเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่ควรเป็น

ผู้ว่าฯโคราชติวเข้มผับ-บาร์
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา เป็นประธานประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติการเปิดให้บริการของสถานบริการในจังหวัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว เพื่อทำความเข้าใจถึงระเบียบ กฎ ข้อบังคับในการเปิดสถานบริการในพื้นที่เขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ที่มีกว่า 100 แห่ง ก่อนเปิดให้บริการในเย็นวันที่ 1 มิ.ย.

นายวิเชียรเปิดเผยว่า นครราชสีมาเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวพื้นที่สีฟ้า ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการสถานบันเทิงที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่มีอยู่ในพื้นที่ เขตอำเภอเมืองนครราชสีมากว่า 100 แห่ง ยังไม่รวมพื้นที่อำเภอท่องเที่ยวในจังหวัดอีก อาทิ อ.ปากช่อง อ.พิมาย อ.วังน้ำเขียว อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน เป็นต้น ซึ่งสถานบริการที่จะเปิดให้บริการได้นั้นจำเป็นต้องได้รับอนุญาตการเปิดให้บริการจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ส่วนการบริการลักษณะใกล้ชิดจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องไม่เกินเวลา 24.00 น. งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย งดใช้แก้วร่วมกัน ขณะที่พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ต้องมีการตรวจหาเชื้อพนักงานด้วย ATK ทุก 7 วัน และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หรือ UP อย่างเคร่งครัด และที่ต้องเน้นย้ำจะต้องไม่ให้กลุ่ม 608 หรือ ผู้สูงอายุ 60 ปี มีโรคประจำตัว 8 โรค เข้าใช้บริการโดยเด็ดขาด

เชียงใหม่ขอความร่วมมือผับบาร์
วันเดียวกัน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ พร้อมนพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ หารือกับผู้ประกอบการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการเพื่อทำความเข้าใจถึงแนวทางปฏิบัติการเปิดให้บริการในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 ตามมติของศบค.

นายประจญกล่าวเน้นย้ำถึงเวลาการเปิด-ปิด บริการว่าสามารถเปิดให้บริการนั่งดื่มและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. เท่านั้น พร้อมขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อให้กิจการกลับมาฟื้นตัวและสามารถเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19

สำหรับมาตรการที่สำคัญของการเปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการที่ผ่านหลักเกณฑ์และได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่แล้วนั้น ด้านผู้ให้บริการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) มีการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของพนักงานทุกวัน ด้วยระบบ Thai Save Thai (TST) ตรวจ ATK พนักงานทุกคน ทุก 7 วัน และเมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง พร้อมปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention (UP) ส่วนผู้รับบริการจะต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention (UP) และขอแนะนำให้ประชากรกลุ่มเสี่ยง 608 งดหรือเลี่ยง การเข้าไปใช้บริการ

ภูเก็ตนำร่องถอดแมสก์แล้ว
วันเดียวกัน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เผยแพร่ คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 3660/2565 ลงวันที่ 31 พ.ค.2565 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จ.ภูเก็ต โดยมีสาระสำคัญระบุว่า ยังคงให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่ปิดที่อากาศไม่ถ่ายเท และการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก

แต่สามารถถอดหน้ากากได้ในขณะรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม, ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่รัฐ, ออกกำลังกาย อยู่ในที่โล่งแจ้งที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และบริเวณชายหาด สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาซึ่งห่างจากบุคคลอื่นไม่ต่ำกว่า 2 เมตร

ชีวิตพัทยา – บาร์เบียร์ ซอย 6 พัทยา จ.ชลบุรี เริ่มกลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอีกครั้ง หลังศบค.ปลดล็อกให้เปิดสถานบันเทิงนำร่องในพื้นที่ ท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.

บาร์เบียร์พัทยาคึกคัก
ตามที่ศบค.ปลดล็อกให้เปิดสถานบันเทิงพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวัง 14 จังหวัด ขายและนั่งดื่มได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยผู้ใช้บริการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรี ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้น พนักงานต้องตรวจ ATK ทุก 7 วันหรือเมื่อมีความเสี่ยงนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบาร์เบียร์ ซอย 6 พัทยา จ.ชลบุรี เริ่มกลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก แต่มีบางร้านที่ยังไม่พร้อมเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ขณะที่ผับ บาร์ ย่านวอล์กกิ้งสตรีตพัทยาบางส่วนเริ่มกลับมาเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

ถนนข้าวสาร – บรรยากาศถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวดังกรุงเทพฯ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาดื่มกินในสถานบันเทิงยามค่ำคืน ภายหลังศบค.ปลดล็อกให้เปิดสถานบริการได้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.

‘ถนนข้าวสาร’ก็คึกคัก
วันเดียวกัน นายวสันต์ บุญหมื่นไวย์ ผู้อำนวยการเขตพระนคร พร้อมกับตำรวจสน.ชนะสงคราม ทหาร และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่ถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทย เพื่อตรวจซักซ้อมทำความเข้าใจกับสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ ซึ่งเตรียมเปิดให้บริการในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ ภายใต้มาตรการป้องกันป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด หลังจากศบค.ผ่อนคลายให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 24.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำบรรยากาศบนถนนข้าวสารคึกคัก มีนักท่องเที่ยว ทั้ง ชาวไทยและต่างชาติมาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยมีมาตรการคุมเข้มโควิดอย่างเคร่งครัด

‘บิ๊กตู่’สั่งคุมเข้มสกัดโควิด
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกำชับหน่วยงานติดตาม ตรวจสอบสถานประกอบการ หลังศบค.มีมติให้สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดให้บริการวันนี้เป็นวันแรก โดยยังต้องผ่านมาตรฐาน Thai Stop COVID 2 Plus และที่ยื่นขออนุญาตกับสำนักงานเขตพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

พร้อมทั้งต้องปฏิบัติตาม COVID Free Setting ได้แก่ 1.เปิดให้บริการและจำหน่าย และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 24.00 น. งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัด 2.ผู้ประกอบการ หรือผู้ให้บริการ ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้นตรวจ ATK ทุก 7 วัน 3.ผู้ประกอบการต้องจัดให้มีการตรวจสอบประวัติการรับวัคซีนของผู้รับบริการ โดยต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้นเท่านั้น โดยนายกฯ กำชับทั้งผู้ให้บริการ และผู้เข้ารับบริการ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย แม้ภาพรวมของสถานการณ์จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นแต่ยังต้องเฝ้าระวัง ไม่ให้กลับมาระบาดจากคลัสเตอร์ใหม่โดยเด็ดขาด

กทม.เข้มผับบาร์-อาบอบนวด
ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพ มหานคร มีมติเห็นชอบประกาศกรุงเทพ มหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน สามารถเปิดให้ดำเนินการได้เฉพาะสถานที่ที่ผ่านมาตรฐาน ไทย สต็อป โควิด พลัส (Thai Stop COVID 2Plus) และยื่นขออนุญาตกับสำนักงานเขตพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยปฏิบัติตามโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง ดังนี้ 1.เปิดให้บริการ และจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. และงดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัด 2.ผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการ (พนักงาน นักร้อง นักดนตรี บุคคลที่เกี่ยวข้อง) ต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้น ตรวจ เอทีเค ทุก 7 วัน และคัดกรองความเสี่ยงด้วยไทยเซฟไทย (Thai Save Thai หรือ TST) และ 3.ผู้ประกอบการต้องจัดให้มีการตรวจสอบประวัติการรับวัคซีนของผู้รับบริการ โดยต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์และเข็มกระตุ้นเท่านั้น และผู้รับบริการต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันติดเชื่อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention)

ทั้งนี้ กลุ่ม 608 แนะนำเลี่ยงการเข้ารับบริการสถานที่ที่เปิดดำเนินการได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ได้แก่สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ตัดผม ทำเล็บ สัก สปา นวดแผนไทย ยิม ฟิตเนสที่เป็นห้องปรับอากาศ โรงมหรสพ โรงละคร สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบสมุนไพร

รวมถึงกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่ 1 มิ.ย.65 เป็นต้นไป ดังนี้ ผู้มีสัญชาติไทยไม่ต้องลงทะเบียน ไทยแลนด์ พาส เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวและไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 เมื่อมาถึง ต้องแสดงเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน หรือหากไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนไม่ครบ ให้แสดงผลตรวจอาร์ที พีซีอาร์ หรือเอทีเค ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง สามารถเดินทางเข้าได้ ณ จุดผ่านแดนถาวรทุกจุด (สำหรับผู้เดินทางเข้าทางบก)

ส่วนชาวต่างชาติ ให้ลงทะเบียน Thailand Pass พร้อมแนบเอกสาร ได้แก่หนังสือเดินทาง เอกสารรับรองการได้รับวัคซีน หรือหากไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบ ให้แนบผลตรวจอาร์ที พีซีอาร์ หรือเอทีเคที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และหลักฐานการมีประกันที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลในไทยในวงเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน