เขินเสียงเชียร์นั่งนายกฯ พรรคอุตตมคึกลุยอีสาน สุชาติยันไม่กลัวซักฟอก ฉะฝ่ายค้านอย่านอกเกม

ชาวบ้านนับหมื่นแห่รับ ‘อุ๊งอิ๊ง’ควง‘เต้น’ ยกทัพเพื่อไทย บุกไล่หนูตีงูเห่าที่ศรีสะเกษคึกคัก ย้ำต้องแลนด์สไลด์ ‘อิ๊งค์’ลั่นไม่ยอมให้ใครปล้นอำนาจอีก ขอบคุณเสียงเชียร์ นั่งนายกฯ ‘อุตตม’นำทีมพรรคสร้างอนาคตไทยลุยอุดรธานี ชูยุทธศาสตร์ช่วยชาวอีสานปลอดหนี้ ปธ.‘ชวน’สั่งตรวจสอบข้อร้องเรียน‘สุชาติ’ที่โวยญัตติซักฟอกเถื่อน ‘รมต.เฮ้ง’ว้ากอีกญัตติซักฟอกเถื่อน รับไม่ได้ฝ่ายค้านแหกกฎ เล่นนอกกติกา มั่นใจผลงานเป็นเกราะกำบัง ก้าวไกลไล่ย้อนดูตัวเอง ทำไมถูกจองกฐินทุกรอบ กลุ่ม 16 เผยโหวตแนวทางเดียวกับพรรคธรรมนัส เล็งคว่ำสันติ-ชัยวุฒิ-สุชาติ-นิพนธ์

‘ชวน’สั่งตรวจสอบญัตติเชือดเถื่อน
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขอให้มีการตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ของฝ่ายค้านเป็นญัตติเถื่อน เพราะมีการสอดไส้เพิ่มชื่อรัฐมนตรีจาก 10 คน เป็น 11 คน จะมีผลต่อญัตติของฝ่ายค้าน หรือไม่ว่า เมื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภา รับญัตติของฝ่ายค้านมา เราก็ตรวจสอบความถูกต้องของตัวญัตติว่ามีส่วนไหนบกพร่องต้องแก้ไขบ้าง และตรวจสอบรายชื่อว่าครบถ้วนหรือไม่ ต้องทำให้เสร็จภายใน 7 วัน ถ้าไม่ถูกต้องเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งไปที่ฝ่ายค้านเพื่อขอหลักฐาน เพิ่มเติม

ส่วนกรณีของนายสุชาติ ประธานสภาได้รับเรื่องไปแล้วและส่งให้หน่วยงานที่ตรวจสอบญัตติของฝ่ายค้าน โดยขอให้นำญัตติของนายสุชาติมาพิจารณาประกอบด้วย ดังนั้น ต้องรอการตรวจสอบว่าผล จะออกมาเป็นอย่างไร

เมื่อตรวจสอบแล้ว หากหน่วยงานที่ตรวจสอบติดใจอะไรสามารถส่งข่าวไปยังหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านได้ว่าต้องการเพิ่มเติมอะไร หรืออะไรไม่ถูกต้องก็แก้ไขได้ ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเคยขอให้ฝ่ายค้านเปลี่ยนบ่อย เช่น การใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ไม่เหมาะสม แต่ฝ่ายค้านยืนยันไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่ส่งกลับมาเหมือนเดิม แต่กรณีที่นายสุชาติยื่นให้ตรวจสอบไม่เคยมีมาก่อน

‘สุชาติ’ว้ากรับไม่ได้เล่นนอกเกม
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่เคยกลัวที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ไม่ชอบที่มีใครบางคนเล่นนอกเกม กติกา ตนตั้งใจทำทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไม่เคยสักครั้งจะบ่ายเบี่ยงในสิ่งที่อยู่ในอำนาจการควบคุมและสิ่งที่ตนเองพึงกระทำได้ แต่สิ่งไหนที่เหนือการควบคุม ตนจะดูจังหวะช่องทาง ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนโดยไม่เคยลดละความพยายาม เช่นเดียวกัน ทุกข้อกังขา ทุกคำถาม จะเล็กหรือใหญ่ ละเอียดยิบย่อยอย่างไรตนพร้อมเคลียร์ตอบชัดทุกประเด็น เพราะตนคือ ผู้ปฏิบัติจริงในทุกมิติของกระทรวงแรงงาน

ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรมว.แรงงานมีความสุขกับการตื่นเช้าขึ้นมาทำงานในทุกๆ วัน นั่นเพราะรักในงานและให้ความสำคัญที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป การปฏิบัติหน้าที่ของตนอยู่ในเส้นทาง อยู่ในกรอบ อยู่ในกฎระเบียบ เกม กติกา ไม่เคยเล่นนอกเกม มีความชัดเจนจริงใจ ไม่ชอบที่จะเห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ไม่เคยสับสนกับ “ความดี-ความชั่ว” เพียงมุ่งหวังที่จะทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อเป็นเกราะความยุติธรรมให้ตัวเองและพี่น้องแรงงาน

“ถ้าตัวผมซึ่งเป็นผู้นำของหน่วยงานเป็นที่พึ่งของแรงงานทั่วประเทศ ไม่สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชัดเจนได้ แล้วผมจะปกป้องคนอื่นๆ ได้อย่างไร นี่คือหลักใหญ่ใจความที่ผมอยากจะสื่อสาร สะท้อนออกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ในเรื่องที่ผมมีรายชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยการกระทำนอกรอบของใครบางคน ผมไม่เคยกลัวที่จะต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดีซะด้วยซ้ำที่จะได้ชี้แจง ข้อเท็จจริง ได้พูดทุกอย่างให้กระจ่างชัด แต่ผมรับไม่ได้กับการแหกกฎ กติกา และเล่นนอกเกม” นายสุชาติกล่าว

ก.ก.เย้ย‘รมว.เฮ้ง’ย้อนดูตัวเอง
ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันว่ากระบวนการจัดทำญัตติถูกต้อง และเสร็จสิ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยเห็นร่วมกันว่าจะอภิปรายรัฐมนตรี 11 คน สำหรับส.ส.พรรคก้าวไกลทุกคนเห็นรายชื่อรัฐมนตรีครบถ้วน และชื่อของนายสุชาติ ไม่ได้เพิ่งเข้ามาทีหลัง แต่ถูกพูดถึงมาตลอด โดยมีประเด็นเกี่ยวกับการดูแลแรงงานทั้งระบบ จึงไม่มีความผิดปกติ หรือผิดพลาด พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติอภิปรายเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของสภา และประธานสภา ที่จะใช้ดุลพินิจตรวจสอบว่าชอบหรือไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าทุกอย่างถูกต้อง ประธานสภาจะประสานงานไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป

“ถ้ามองในมุมการเมือง แทนที่นาย สุชาติจะมาดูว่าญัตติชอบหรือไม่ชอบ นายสุชาติควรจะกลับไปทบทวนตัวเองว่าทำอะไรมาบ้าง และสิ่งที่ทำนั้นมีข้อมูลที่ทำให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเลือกอภิปราย และตั้งแต่นายสุชาติเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ก็ถูกจองกฐินอภิปรายทุกปี จึงต้องย้อนถามตัวเองว่าปัญหาของตัวเองคืออะไร ทำไมพี่น้องแรงงานถึงคิดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านต้องอภิปรายนายสุชาติ” นายณัฐวุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุชาติระบุว่า มีการครอบงำกระบวนการจัดทำญัตติ นาย ณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนไม่ทราบคนที่เข้ามาครอบงำคือใคร แต่ถ้าจะถูกครอบงำ และชี้ว่าทำไมต้องอภิปรายนายสุชาตินั้น ส่วนนี้มาจากประชาชน และพี่น้องแรงงานทั้งในและนอกระบบ ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของนายสุชาติ

โวรอบนี้ล้มรมต.บางคนได้
ต่อข้อถามว่า มองการออกมาดักทางญัตติอภิปรายของนายสุชาติอย่างไร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนมองว่าเป็นแรงกระเพื่อมภายในของเขามากกว่า เพราะต้องยอมรับว่าตั้งแต่นายสุชาติเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ก็ถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสมจากภายในพรรคพลังประชารัฐ มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และมองว่าเป็นความกังวลส่วนตัวของนายสุชาติ จึงทำให้นายสุชาติห่วง และเกรงว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบจากการอภิปรายครั้งนี้

พรรคร่วมฝ่ายค้านยอมรับว่าจำนวนส.ส.ลดลง แต่รอบนี้ฝ่ายค้านมีความเป็นเอกภาพในการยื่นญัตติมากที่สุด เพราะครั้งก่อนๆ จะมีการตั้งคำถามว่าทำไมต้องอภิปรายรัฐมนตรีคนนั้นคนนี้ แต่รอบนี้ไม่มีคำถามเหล่านี้เลย เรามั่นใจว่าส.ส.ที่มีเอกสิทธิ์ในการโหวต จะฟังข้อเท็จจริง และความไม่มีเสถียรภาพไม่ได้เกิดขึ้นกับฝ่ายค้าน แต่เป็นฝ่ายรัฐบาลเอง เมื่อผนวกรวมกับข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่มี อาจจะน็อกรัฐบาลตั้งแต่ต้น จึงคิดว่าจะล้มรัฐบาลได้

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังไม่สามารถตอบเงื่อนไขการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของตัวเองตามรัฐธรรมนูญว่าเกิน 8 ปีหรือไม่ และไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่าจะนั่งอยู่ต่อด้วยเหตุผลอะไร จึงเชื่อว่าเกมภายในที่เกิดขึ้นอาจจะนำไปสู่การล้มรัฐมนตรีบางคนได้ หากไม่สามารถล้มได้ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะส่งผลสะเทือนต่อการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีในช่วงท้ายของรัฐบาลแน่นอน” นายณัฐวุฒิกล่าว

กลุ่ม 16 จองกฐิน 4 รัฐมนตรี
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวว่า ทางกลุ่มขอฟังข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อน แต่ข้อหาน่าสนใจหมดโดยเฉพาะนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพราะที่ผ่านมายังตอบไม่ชัดเจนในประเด็นการประมูลโครงการบริหารและดำเนินงานระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (โครงการท่อส่งน้ำอีอีซี) ขอรอดูผลสอบในวันที่ 2 ก.ค.นี้ ที่ต้องให้มีการประมูลใหม่ว่ารายละเอียดมาอย่างไร

การอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้ดูแล้วมีรัฐมนตรีหลายคนที่ตนจะไม่โหวตให้ โดยเฉพาะนายสันติ นายชัยวุฒิ ธนาคมา นุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ส่วนรัฐมนตรีคนอื่น ขอฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านก่อน โดยเฉพาะนายกฯ ผมเห็นว่าไม่มีอะไรชัดเจน ในเรื่องการสร้างความเสียหาย ไม่มีภาพของการทุจริต ส่วนปัญหาเศรษฐกิจ ก็เกิดโควิด และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้น ถ้าฝ่ายค้านมีข้อมูลชัดคงถล่มนายกฯ คนเดียวแล้ว เที่ยวนี้คงเบาเป็นเรื่องทั่วไปที่อภิปรายหลายครั้งแล้ว

“การโหวตของกลุ่ม 16 จะไปในทิศทางเดียวกัน และคุยกันว่าให้เป็นแนวทางเดียวกับพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ดูแลพรรคเล็กมาก่อน และการตรวจสอบเพื่อให้เกิดผลจริงๆ ก็ต้องไปในแนวทางเดียวกัน เพราะหากกลุ่ม 16 รวมพรรคเศรษฐกิจไทย มีอยู่ 30 กว่าเสียง และรัฐมนตรีที่ทุจริตถึงคะแนนโหวตผ่าน แต่หากห่างจากคนอื่นมาก แล้วจะอยู่ได้อย่างไร สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงได้ นายกฯ ก็ต้องปรับออก” นายพิเชษฐกล่าว

‘อุ๊งอิ๊ง-เต้น’บุกไล่หนูตีงูเห่าคึก
วันเดียวกัน ครอบครัวเพื่อไทย ลง พื้นที่จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “ไล่หนู ตีงูเห่า” ที่จ.ศรีสะเกษ หลังมีส.ส. 3 คนโหวตสวนมติพรรคเพื่อไทย (พท.) ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ พ.ศ.2566 นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรครวมทั้ง ‘โอ๊ค’ นายพานทองแท้ ชินวัตร และส.ส.ในพื้นที่อีสานจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ที่น.ส.แพทองธารมาถึงสนามบินอุบลราชธานี มีแฟนคลับพรรคเพื่อไทยใส่เสื้อสีแดงสกรีนคำว่า “ครอบครัว เพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” มาต้อนรับจนล้นสนามบิน

การลงพื้นที่เวทีแรก คืออาคารอเนกประสงค์ บ้านหนองแคน อ.อุทุมพรพิสัย เขตพื้นที่ของนายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) โดยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ศรีสะเกษ ทั้ง 9 เขต ประกอบด้วย นายธเนศ เครือรัตน์ ว่าที่ ผู้สมัคร เขต 1, นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 2, นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 3, นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ เขต 4 ลงสมัครแทน นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติพรรค, นายอมรเทพ สมหมาย เขต 5 ลงสมัครแทนนายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติพรรค, นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 6, นายประวิทย์ จารุรัชกุล เขต 7, นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร เขต 8 ลงสมัครแทนนาง ผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติพรรค และน.ส.วิลดา อินฉัตร เขต 9

ไล่หนูตีงู – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ยกขบวนแกนนำพรรค จัดกิจกรรม ‘ไล่หนู ตีงูเห่า’ เปิดตัวผู้สมัครส.ส.ศรีสะเกษ โดยมีประชาชนมาร่วมสนับสนุนนับหมื่นคน ที่อาคารอเนกประสงค์บ้านหนองแคน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.

ขอแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาล
จากนั้นเวลา 10.00 น. เมื่อ น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางมาถึง ประชาชนที่รอต้อนรับจนล้นอาคาร อเนกประสงค์เกือบหมื่นคน ได้ปรบมือต้อนรับอย่างกึกก้อง

นายณัฐวุฒิ ขึ้นเวทีปราศรัยว่าวันนี้ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย หายไป 3 คน แต่ไม่ต้องห่วง เราจะกวาดกลับคืนมาทั้งหมด การเลือกตั้งรอบหน้าเราได้ที่ 1 ไม่พอ ต้องชนะแบบแลนด์สไลด์ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล หากไม่แลนด์สไลด์ เราไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ออก พล.อ.ประยุทธ์ไปไหนก็คุยกับหมู หมา กา ไก่ ตลอด แต่คุยไม่ยาว คุยเพียงแค่ 2 คำ แต่ถ้าเจอเหี้ยคงคุยกันยาว เพราะคุยกันเข้าใจ

เลือกตั้งรอบหน้าถ้าเขาให้เงินมาก็เอา แต่ขอให้มากาพรรคเพื่อไทย เห็นพี่น้องเฮดังขนาดนี้ ถ้าที่นี่มีหนูก็คงหนีไป ถ้ามีงู ก็คงอกแตกตาย ส.ส.เรา 3 คน ที่พี่น้องเลือก เพราะเขาบอกไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ แต่วันดีคืนร้าย พรรคภูมิใจไทยมาตั้งเวที แล้วชวนส.ส.เพื่อไทยขึ้นเวทีเปิดตัวว่าอยู่ด้วยกันแล้ว แล้วจะเอาที่เหลืออีก 5 คนด้วย แบบนี้ใครเป็นหนู ใครเป็นงูไม่รู้ แต่คนศรีสะเกษเป็นคน คนมีศักดิ์ศรี และถ้าเราไปกับเขา เขาจะเอาพล.อ.ประยุทธ์เป็น นายกฯ อีก 4 ปี ดังนั้นเลือกตั้งรอบหน้าต้องรวมพลังกันให้เด็ดขาด

นายณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิจารณ์ชื่องานไม่สร้างสรรค์ว่า ทีมงานคิดขึ้นมาเพื่อให้เป็นสีสันในการประชา สัมพันธ์ จนได้รับกระแสตอบรับพอสมควร ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตจนเป็นการวิวาทะทางการเมือง หรือพรรคภูมิใจไทยต้องวิตกกังวล แต่พรรคเพื่อไทยต่างหากต้องรู้สึกก่อน จากการพา ส.ส.ขึ้นเวที และโหวตสวนงบประมาณ แต่เราเองก็ไม่ใช่จะสาดโคลนโจมตีหรือปะทะทางการเมือง เวทีวันนี้เราก็พูดกันไปตามเนื้อผ้า

ยาหอม‘แม้ว-ปู’คึดฮอดหลาย
ด้านน.ส.แพทองธารกล่าวว่า คุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) กับคุณอา (น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ฝากมาบอกว่าคึดฮอดหลายเด้อ วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจที่ได้พบพี่น้องด้วยตัวเอง พี่น้องยังพอจำกันได้หรือไม่เมื่อ 18 ปีที่แล้ว นายทักษิณมาลงพื้นที่พบประชาชนที่ อ.อุทุมพรพิสัย คุณพ่อมีความฝันว่าภายใน 3 ปี คำว่าคนจนต้องหมดจากแผ่นดิน ตนเป็นลูก ฟังแล้วคิดว่ายากแต่คุณพ่อบอกง่ายนิดเดียว แต่เกิดรัฐประหารปี 2549 ตอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกยึดอำนาจ ก็เคยมาที่จ.ศรีสะเกษ คุยปัญหาราคาข้าวที่ย่ำแย่ และได้ช่วยซื้อข้าวสูงกว่าราคาตลาดเพื่อช่วยเหลือประชาชน พูดแล้วก็คิดถึง

จ.ศรีสะเกษมีความสำคัญกับพรรค เพื่อไทย เราอาสาขอดูแลพี่น้องชาวศรีสะเกษในทุกมิติ เพราะไม่เชื่อมือพรรคอื่นว่าทำได้จริงและทำได้อย่างพรรคเรา ขอยืนยันครอบครัวเพื่อไทยยังมีหัวใจเดิม เหมือนวันที่คุณพ่อสร้างครอบครัว วันที่คุณอาชนะเลือกตั้ง เหมือนวันที่เรามีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ชีวิตประชาชน ดีขึ้น หลังการรัฐประหารปี 2549 หรือ 2557 ไม่มีอะไรดีขึ้นกับประเทศเรา แต่ประเทศอื่นพัฒนาไปมาก ขอโอกาสถ้าพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลจะนำนวัตกรรมมาทำให้ประชาชนหายเหนื่อย ทำการเกษตรได้แม่นยำขึ้น นำเทคโนโลยีมาช่วยประชาชน

ลั่นไม่ยอมให้ใครปล้นอำนาจอีก
ก่อนเข้าพรรคเพื่อไทยสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเราอยู่ได้เพราะกำลังใจของพี่น้อง วันนี้เข้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว ขอให้พี่น้องให้กำลังใจเราต่อไป อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ในวันที่ทุกข์แล้วความสุขรออยู่ข้างหน้า ครอบครัวเพื่อไทยอยู่มา 20 ปี เป็นธรรมดามีคนออกไปบ้าง ย้ายเข้ามาบ้าง หรือไปสร้างพรรคมาแข่งกับเราบ้าง แต่ขอฝากว่าที่ผู้สมัครตรงนี้

“เมื่อการเลือกตั้งมาถึงถ้าประชาชนต้องการให้พรรคเพื่อไทยทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น บันไดขั้นแรกคือแลนด์สไลด์ชนะเลือกตั้งให้ถล่มทลาย เราจะไม่ยอมให้ใครมาปล้นอำนาจอีกแล้ว อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตพี่น้อง อยากพ้นหนี้ อยากหายหนี้ อยากหายจนไปนานๆ เลือกพรรคเพื่อไทย กลับบ้านเรารักรออยู่ กลับมาช่วยทำให้คนไทยดีขึ้น กลับมาทำให้ประเทศน่าอยู่กว่านี้และเป็นประเทศของเรา ทุกคน” น.ส.แพทองธารกล่าว

ขอบคุณเสียงเชียร์เป็นนายกฯ
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า หน้าที่ของพรรคการเมืองคือการหาผู้สมัครมาลงเลือกตั้ง เอาคนเหล่านั้นมาดูแลชีวิตพี่น้องให้ดีขึ้นอย่างทั่วถึง เส้นทางการเมืองกว่า 20 ปี มีทั้งคนออก คนเข้าอยู่เสมอ สุดท้ายประชาธิปไตย ประชาชนเท่านั้นจะต้องตัดสินว่าจะอย่างไรต่อไป พรรคเพื่อไทยจะพยายามลงพื้นที่ไปหาพี่น้องในหลายพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ส่งคนของพรรคไปสื่อสารกับพี่น้องว่าจะทำอะไรต่อไป อยู่ที่โอกาสและพื้นที่ประสานกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงตอบรับในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และบางพื้นที่ต้องการให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ เพื่อมาเป็นความหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอบคุณมากเป็นคอมเมนต์ที่เป็นบวก รู้สึกดีใจที่มีคนคิดอย่างนั้น แต่คิดว่าตอนนี้พี่น้องทนไม่ไหวแล้วที่ต้องทนกับสถานการณ์และเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำข้อดีอะไรให้กับประเทศ ตนคิดว่าพี่น้องก็รู้ว่าอยากให้ประเทศชาติไปข้างหน้า เราก็แสดงจุดยืนว่าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางและเอาประเทศชาติไปข้างหน้า ไม่ใช่หยุดและทะเลาะกัน

“อิ๊งค์พร้อมที่สุดคือพบปะพี่น้องประชาชนและยืนยันจุดยืนที่มีมาตลอดตั้งแต่พรรคไทยรักไทย อนาคตข้างหน้าเชื่อว่าต้องหาคนที่เหมาะสมมาทำหน้าที่” น.ส.แพทองธารกล่าว

ลงพื้นที่ 3 จุดแห่รับ 1.5 หมื่นคน
เวลา 13.00 น. น.ส.แพทองธาร และคณะเดินทางมาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการ ราษีไศล อ.ราษีไศล เปิดตัว นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 8 แทนนางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติพรรค ซึ่งแกนนำครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำพรรค สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนที่มาต้อนรับจำนวนมาก

ต่อมาเวลา 16.00 น. คณะเดินทางมาถึงโรงแรมอมรเทพ อ.ขุนหาญ เปิดตัวนายอมรเทพ สมหมาย ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 5 แทนนายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ ที่โหวตสวนมติพรรค

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค เพื่อไทย กล่าวกับประชาชนว่า ที่พรรค เพื่อไทยมาวันนี้เพราะหนูเข้าบ้าน หนูมาขโมยข้าวสารเรา หนูมาแอบกินของเราแล้วปล่อยเชื้อโรคเอาไว้ หนูเป็นพาหะนำโรค จึงจำเป็นต้องช่วยกันมาไล่หนู และเมื่อเขาขโมยของออกไปแล้วจะกลายเป็นงูเห่าทันที ส่วนอีกพรรคประกาศจะได้ ส.ส. ศรีสะเกษ 5 ที่นั่ง พี่น้องจะยอมหรือไม่ ขอให้กลับมาอยู่กับเพื่อไทย และ 5 คนที่เขาหมายมั่นปั้นมือนั้นไม่ต้องห่วง 3 คนที่ออกไป เรามีตัวแทนของเราเรียบร้อย และมั่นใจพรรคเรามีนโยบายที่ดีกว่าและทำ ได้จริง

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า ขอให้พี่น้องมั่นใจวันนี้เราเอาจริง ไม่มีเกียร์ถอยหลัง มีแต่จะเดินหน้าล้ม พล.อ. ประยุทธ์ ด้วยการเลือกตั้ง เอาพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล มาแก้ปัญหาให้ประชาชน และที่มีคนบอกแลนด์สไลด์นั้นยาก ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ ยอมรับว่ายาก แต่พรรคเพื่อไทยเคยทำมาแล้ว และ การเลือกตั้งครั้งนี้จำเป็น ไม่เช่นนั้นไม่ได้เป็นรัฐบาลเพราะมี ส.ว.รออยู่ และพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมีพรรคเดียวที่ทำได้คือเพื่อไทย พรรคอื่นไม่มี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรมไล่หนู ตีงูเห่าครั้งนี้ลงพื้นที่ 3 จุดคือ อ.อุทุมพรพิสัย อ.ราษีไศล อ.ขุนหาญ ซึ่งรวมทุกจุดมีมวลชนต้อนรับราว 1.5 หมื่นคน

‘น้องแรมโบ้’จ่อร้องกกต.สอบพท.
นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น้องชาย นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดกิจกรรมไล่หนูตีงูเห่าของพรรคเพื่อไทยว่า พรรคการเมืองที่กำลังจะสูญเสีย ส.ส.ในพื้นที่ศรีสะเกษ จำเป็นต้องดิ้นทุรนทุราย เพื่อรักษาที่นั่งส.ส. ไม่ให้เสียไปในการเลือกตั้งคราวหน้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางการเมืองที่ ส.ส. เบื่อระอาจึงต้องหนีออกจากคอก และที่สื่อเสนอข่าวว่าประชาชนมาร่วมจำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะว่าที่ผู้สมัครส.ส. คงเกณฑ์ประชาชนมาร่วมงาน ถ้ามาโดยธรรมชาติ คงไม่ใส่เสื้อแบบเดียวกันเป๊ะ

การที่ น.ส.แพทองธาร โจมตีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่ทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น และอวดอ้างว่าสมัยคุณพ่อทักษิณ คุณอายิ่งลักษณ์ เป็นนายกฯ ชีวิตประชาชนดีมีความสุขนั้น ตนอยากบอกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ ขี้โม้ขี้คุย เชื้อไม่ทิ้งแถว และที่อ้างคำพูดพ่อตัวเองว่า 3 ปีคนจนจะหมดไปจากแผ่นดิน แต่เสียดายถูกรัฐประหารเสียก่อน ก็เป็นการโกหกแบบน่าละอายที่สุด เพราะพรรคไทยรักไทย เป็นรัฐบาลปี 2544 นายทักษิณ เป็นนายกฯ 2 สมัย มาถูกรัฐประหารปี 2549 มาจนรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมอายุรัฐบาลเครือข่ายตระกูลชินวัตร เกือบ 10 ปี ไม่ใช่แค่ 3 ปีที่อยู่ในอำนาจ ถามว่าแล้วคนจนหมดแผ่นดินไปหรือยัง ยิ่งยุครัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์โกงข้าว ชาวนาฆ่าตัวตายไปกี่ราย แล้วแบบนี้หรือที่น.ส. แพทองธาร เรียกว่าประชาชนมีความสุข ชีวิตดีขึ้น

“ฝากเตือนประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องคนเสื้อแดง บทเรียนมีให้ศึกษา หลายคำพูดยังคงจำได้ดี เช่น เสียงปืนแตกนัดแรกผมจะกลับมานำพี่น้องเดินเข้ากรุง, พี่น้องส่งผมถึงฝั่งแล้ว คำพูดเหล่านี้ต้องจำฝังใจ เพราะพี่น้องเราบาดเจ็บเสียชีวิตจำนวนมาก แต่หาได้รับความช่วยเหลือจากคนคนนี้ อย่าให้เขามาหลอกใช้ อย่าให้เขาใช้ลูกสาวมาหลอกพี่น้องให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อพาเขากลับประเทศอีกเพราะเป้าหมายสูงสุดคือ เอานายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาและล้างคดีโกงให้หมดแบบไม่ต้องติดคุก และขณะนี้ผมเตรียมให้ทีมงานไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ช่วยตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยการ เตรียมการล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการแจกเสื้อ ขนคนมาฟัง จ่ายเงินค่าจ้าง หรือการ กระทำใดๆ ที่อาจเป็นการทำผิดกฎหมายโดยการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ เพื่อเอาผิดกับพรรคเพื่อไทยและแกนนำพรรคต่อไป”

ไล่ตู่ – กลุ่มราษฎรไล่ตู่ร่วมกับกลุ่มคนแดงปฏิวัติ จัดเดินไล่ตู่ #2 นัดหมายทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ จากแยกปทุมวันไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดไว้ที่บริเวณหน้า ร.พ.ตำรวจ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.

สอท.ลุยอีสานชูแก้ปัญหาหนี้
วันเดียวกัน ที่ตลาดเมืองทองเจริญศรี อ.เมือง จ.อุดรธานี พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุพล ฟองงาม ประธานภาคอีสาน นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค นายบุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรค และนายสุทธิชัย จรูญเนตร รองประธานภาคอีสาน เปิดศูนย์ประสานงานพรรค และเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคสร้างอนาคตไทย 3 เขต ได้แก่ เขต 1 นาย โกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ เขต 2 นายชัยฤทธิ์ เขาวงศ์ทอง และเขต 6 นายมนตรี พึ่มชัย พร้อมพบปะประชาชนทั้ง 3 เขต กว่า 1,200 คน

นายอุตตมกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับเสียงสะท้อนว่า ชาวอีสานกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สิน รายได้ตกต่ำ ข้าวของแพง ต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนทั่วประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ พรรคสร้างอนาคตไทยจึงขอประกาศยุทธศาสตร์ที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภายใต้แนวคิด “ปรับ-เติม-เพิ่ม-ลด” ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องทำคือ ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลง จากนั้นต้องเติมเงินทุนเพื่อให้นำไปดำเนินกิจการต่อ ขณะเดียวกันต้องเพิ่มแหล่งรายได้ให้ประชาชนจากกิจกรรมที่ทำอยู่เดิมก่อนหน้านี้ และสุดท้ายต้องลดต้นทุนการผลิตเพื่อสร้างผลกำไรให้มากยิ่งขึ้น

“หลายสิบปีที่ผ่านมาหนี้สินของเกษตรกรไม่เคยถูกแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ การพักหนี้แค่เพียงปีสองปีแต่ดอกเบี้ยเดินอยู่ไม่ได้ช่วยอะไร หากจะทำให้สำเร็จและเป็น รูปธรรม จะต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ยืดหนี้ออกไปนานขึ้น จะเป็น 7-8 ปีก็ได้ แต่เกษตรกรต้องปรับตัวในการที่จะเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ๆ เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายหนี้ได้ โดยภาครัฐต้องช่วยส่งเสริมเงินทุน เทคโนโลยี และช่วยหาตลาด สุดท้ายต้องมีโครงการลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรอย่างจริงจัง” นายอุตตมกล่าว

ไม่หวั่นเป็นพื้นที่ของใคร
ด้านนายสนธิรัตน์กล่าวว่า การลงพื้นที่อีสานครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สองของทีม ผู้บริหารพรรค โดยพรรคต้องการเชิญชวนพี่น้องชาวอีสานที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย “พี่น้องสร้างอนาคตไทย” เพื่อที่จะดำเนินกิจกรรมทางการเมือง รวมทั้งแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่อีสานให้เจริญรุ่งเรือง จากที่ผ่านมากว่าสิบปีที่พี่น้องชาวอีสาน รวมทั้งชาวไทยทั้งประเทศสูญเสียโอกาสไปมากจากการเมืองแบบเดิมๆ วันนี้ประเทศต้องการความสงบและความร่วมมือกันในการนำพาประเทศออกจากวิกฤต

“ผมไม่กังวลว่ากับคำว่าอีสานเป็นพื้นที่ของใคร จะเจาะได้หรือไม่ แต่มั่นใจว่าพรรคสร้างอนาคตไทยคือหนึ่งในพรรคทางเลือกที่ดีที่พี่น้องชาวอีสานจะพิจารณา และเชื่อว่าพี่น้องทางภาคอีสานต้องการความเปลี่ยนแปลงเหมือนกับพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ พรรคสร้างอนาคตไทย ขอเชิญชวนประชาชนชาวอีสานมาร่วมเป็น พี่น้องสร้างอนาคตไทย ช่วยกันขับเคลื่อนให้อีสานเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตไปด้วยกัน เพื่ออนาคตของลูกหลานเรา ส่วนวันที่ 19 มิ.ย. คณะแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย จะไปเปิดตัวว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พร้อมพบปะแกนนำใน จ.กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม” นายสนธิรัตน์กล่าว

รมต.เฮ้งลั่นพร้อมช่วยเอสเอ็มอี
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่บริเวณลานด้านหน้าสำนักงานประกันสังคม จ.เชียงใหม่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานประกอบการ ในความรับผิดชอบ 18,292 แห่ง และมีผู้ประกันตน 435,040 คน โดยแบ่งเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 จำนวน 222,246 คน มาตรา 39 จำนวน 112,722 ราย และมาตรา 40 จำนวน 100,072 คน มีผู้มาใช้บริการเฉลี่ย 600 คนต่อวัน ซึ่งสถานที่ตั้งเดิมในอาคารศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ จึงต้องมีสถานที่เพื่อรองรับการให้บริการที่เพียงพอและพร้อมต่อการอำนวยความสะดวกให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชนทั่วไป โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมมุ่งมั่นพัฒนา การให้บริการภายใต้แนวคิด ‘SSO TRUST’ เพื่อให้สำนักงานประกันสังคม เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น ไว้วางใจ ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิต แก่ผู้ประกันตน

สนง.ใหม่ – นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่แห่งใหม่ รองรับการให้บริการลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชน ที่ศูนย์ ราชการฯ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.

โดยนายสุชาติกล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่ผ่านมาได้เร่งดำเนินการจ่ายเงินกรณีว่างงานให้แก่ผู้ประกันตน และโครงการ SMEs ทั้งยังสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กเพื่อรักษาการจ้างงาน สำหรับนายจ้างทั้งหมด 8,062 แห่ง และลูกจ้าง 73,658 คน ซึ่งได้อนุมัติเงินจำนวน 617,394,000 บาท ในการช่วยธุรกิจให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไป

จากนั้นนำคณะเยี่ยมชมบูธแสดงผลงานของหน่วยงานกระทรวงแรงงาน และเยี่ยมชมกาดหมั้วล้านนา เพื่อพบปะให้กำลังใจแก่ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งให้แนวคิดในการต่อยอดสินค้ารวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและช่องทางการค้าใหม่ๆ แก่ประชาชนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน