‘ชวน’ยันเพิ่มชื่อ-ทำได้ พปชร.ตั้งทีมปราบมาร

‘ตู่’ปัดตอบฝ่ายค้านยื่นซักฟอก อ้างยังมีเวลาอีก 1 เดือน ‘ชวน’ ยันผู้ยื่นญัตติมีสิทธิ์ เพิ่มชื่อ-ตัดชื่อรัฐมนตรีถูกอภิปราย วิปฝ่ายค้านชี้เป็นกลยุทธ์สับขาหลอก ไม่มี ส.ส.คนไหนติดใจ เล็งขอเปิดเขียงชำแหละ 5 วันรวด พปชร.ผุดทีมปราบมาร ตั้ง 11 ส.ส. สู้ศึกอภิปราย ปชป.ยุส่งฝ่ายค้านเพิ่มชื่อเชือด ‘สุพัฒนพงษ์’ อ้างมี 20 ส.ส.ฝั่งรัฐบาลพร้อมหนุนน็อกรมว.พลังงานกลางสภา ‘สุชาติ’ สวนเดือดพรรคก้าวไกล ไม่เลิกอวดภูมิระวังมีหนาว กกต.ชี้เพื่อไทยจัดกิจกรรม “ไล่หนู ตีงูเห่า” ไม่ขัดกฎหมาย แต่ให้ไปคิดรวมค่า ใช้จ่ายเลือกตั้งครั้งหน้า ภูมิใจไทยเล็งเปิดตัว ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์

ตู่ชี้ซักฟอกมีเวลาอีก1เดือน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อปศ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปราย ไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 11 คน ว่า ยังไม่ถึงเวลา มีเวลาอีก 1 เดือน

เมื่อถามว่าพร้อมชี้แจงมากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า บอกไปตั้งนานแล้ว ส่วนที่ฝ่ายค้านจะหยิบเรื่องแก้จนมาอภิปรายด้วย ก็ว่าไปตามนั้น ถึงเวลานี้เรื่องการศึกษาก็กำลังแก้ไขอยู่

วิษณุแย้มรบ.สะดวก 18-22 กค.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน อ้างการยื่นญัตติซักฟอกของฝ่ายค้านเป็นญัตติเถื่อน เนื่องจากญัตติที่ส.ส.ลงลายมือชื่อ มีผู้ถูกอภิปราย 10 คน แต่ญัตติ ที่ยื่นประธานสภามี 11 คน ว่า หลักการคนที่จะลงลายมือชื่อต้องเห็นข้อความในญัตติ และมีบรรทัดฐานตั้งแต่ปี 2557 ในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีการอ้างว่ายื่นร่างแก้ไข 2 ฉบับ

ตนไม่ทราบรายละเอียดการยื่นญัตติครั้งนี้ของฝ่ายค้าน อยู่ที่นายสุชาติจะได้ข้อมูลอย่างไร คำว่าเห็นข้อความในญัตตินั้นคือเห็นข้อความในญัตติและเห็นพ้องต้องกัน ยินยอมลงนาม เมื่อถามว่าหากมีส.ส.ฝ่ายค้านเปิดเผยว่า ถูกแอบอ้างจะทำให้ญัตติไม่ชอบ นายวิษณุกล่าวว่า มีโอกาสเป็นเช่นนั้นได้ หากหักชื่อแล้วไม่เพียงพอต่อการยื่นญัตติก็ต้องเข้าชื่อกันใหม่ แต่ถ้าสุดท้ายไม่มีส.ส.แสดงตัวก็แปลว่าไม่มีหลักฐาน

เมื่อถามว่ารัฐบาลพอจะกำหนดวันได้หรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ได้ เพราะสภายังไม่ส่ง ญัตติมา เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นเขาจึงยังไม่ส่งมา ส่วนรัฐบาลไม่ได้กำหนดไทม์ไลน์อะไรไว้ ไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องนี้ เดือนก.ค.ก็อัตโนมัติ อยู่แล้วว่า สัปดาห์แรกรัฐบาลว่างไม่ติดภารกิจ สัปดาห์ต่อไป 13-15 ก.ค. ติดเทศกาล เข้าพรรษา ถัดไปอีกสัปดาห์คือ 18-20 ก.ค. ก็มีความเป็นไปได้ เมื่อถามย้ำว่า กรอบเวลาที่เหมาะสมคือ 18-22 ก.ค. นายวิษณุกล่าวว่า ได้ทั้งนั้น ไม่มีปัญหา ทำมาทุกปีอยู่แล้ว

สุชาติว้ากก้าวไกล-แล้วจะช็อก
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ กรณีส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยืนยันการ เพิ่มชื่อผู้ถูกซักฟอกทำได้ รัฐบาลควรกล้า ให้ตรวจสอบ ถ้าสะอาดอย่ากลัว ว่า การอภิปราย เพื่อตรวจสอบการทำงานรัฐบาลเป็นเรื่องที่ ถูกต้อง แต่ขั้นตอนควรทำให้ถูกต้องชอบธรรม ตนเรียกร้องไปถึงประธานรัฐสภา ให้ตรวจสอบ ความถูกต้องของญัตติเพราะเห็นถึงความผิดปกติ เป็นการสลับร่างเพิ่มรายชื่อหรือไม่

ตนจบไปตั้งแต่ขอให้ตรวจสอบญัตติ ก.ก. ที่มีนักกฎหมายอยู่ในพรรคน่าจะเข้าใจ กลับมา ระบุทำนองไม่กล้าให้ตรวจสอบ เป็นคนละประเด็นกัน ขอย้ำไม่ได้ซีเรียสเรื่องถูกอภิปราย ไม่กลัว เพราะสามารถตอบได้ทุกครั้งถ้าเป็นเรื่องงาน แต่ไม่ชอบการกระทำที่ทำให้สภาเกิดความเสื่อมเสีย ที่ผ่านมาพูดถึงฝ่ายค้านและตั้งข้อสังเกตในญัตติ ไม่เคยพูดถึงพรรคก้าวไกล

“ผมไม่เคยยุ่งกับพรรคก้าวไกลและพรรคคุณ มีนักกฎหมาย ย่อมรู้ดีว่าการลงชื่อยื่นญัตติ เป็นไปโดยถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ ผมไม่ยุ่ง กับคุณ แต่ถ้าคุณมายุ่ง เดี๋ยวจะหนาว หากยังอวดภูมิจะทำให้เห็นแล้วจะช็อก” นายสุชาติกล่าว

พปชร.ตั้งทีมปราบมารสู้ซักฟอก
ที่รัฐสภา นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.พปชร. ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงนายสุชาติยื่นคำร้อง ให้ตรวจสอบญัตติของฝ่ายค้านว่า เป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง เพราะปกติในการลงนามส.ส. ต้องตรวจสอบดูก่อน อยู่ที่การตรวจสอบของประธานสภา ซึ่งจะได้ข้อยุติ เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาหรือทำให้ญัตติถูกตีตกไป ส่วนกรอบเวลาการอภิปรายเห็นว่าช่วง 18-20 ก.ค. และลงมติ 21 ก.ค.นั้นเหมาะสมแล้ว และเชื่อว่าระยะเวลา 4 วันน่าจะเพียงพอ เนื่องจากเห็นว่ารัฐมนตรีบางคนไม่มีประเด็นอะไรอภิปราย เชื่อว่าหากฝ่ายค้านมีจริยธรรมจะไม่นำเรื่องส่วนตัวมาอภิปรายในสภา จากการดูญัตติ ไม่น่าจะใช่ครูบาอาจารย์เขียนญัตติ แต่การที่ฝ่ายรัฐบาลตั้งทีมมาคุมการอภิปราย ไม่ได้ตั้งทีม มาสกัดการอภิปรายของฝ่ายค้าน

นายนิโรธปฏิเสธให้ความเห็นเกี่ยวการโหวต ของพรรคเศรษฐกิจไทยในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังมีข้อสังเกตว่าเป็นพรรคตัวแปรในสภาขณะนี้ โดยเชื่อมั่นว่าพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคเล็ก มีเสียงมั่นคงที่จะรักษาเก้าอี้รัฐมนตรีไว้ได้ทุกคน จึงไม่ห่วงเรื่องเสียงโหวต ในสภาเพราะญัตติเขียนมาว่าส่อทุจริต คำว่าส่อหมายถึงยังไม่เกิดขึ้น และไม่ขอตอบว่า จะมีเสียงฝ่ายค้านมาหนุน หรือขาดประชุม ไม่ร่วมโหวตหรือไม่

“พรรคพลังประชารัฐได้ตั้งทีมส.ส.รับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ 11 คน ชื่อว่า “ทีมปราบมาร” เพื่อดำเนินการให้การอภิปราย เป็นไปตามญัตติ และข้อบังคับการประชุม” นายนิโรธกล่าว

วิปค้านยันญัตติถูกต้อง
ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวกรณีนายสุชาติยื่นร้องให้ตรวจสอบญัตติซักฟอกว่า ไม่กังวลและไม่มีผลกระทบกับญัตติที่ยื่นไปแล้ว เพราะดำเนินการถูกต้องทุกอย่าง เซ็นชื่อครบ ส.ส.ฝ่ายค้านไม่มีใครติดใจ ก็เป็นกลยุทธ์ของผู้นำที่จะมีการสับขาหลอกบ้าง และขณะนี้ก็ยังไม่มี ส.ส.ร้องขึ้นมาว่า เซ็นชื่อไม่ตรงหรือมีการยัดไส้ แต่เป็นเรื่องที่นายสุชาติพูดขึ้นมา

เมื่อถามว่า เหตุใดฝ่ายค้านไม่ยื่นชื่อ นายสุพัฒนพงษ์ นายสุทินกล่าวว่า ญัตตินี้ มียุทธศาสตร์ภายใต้ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” จึงมุ่งไปที่พรรคใหญ่ ซึ่งมีผลต่อการแข่งขันทางการเมืองในอนาคต แต่นายสุพัฒนพงษ์เป็นคนนอก ไม่มีนั่งร้าน ส่วนความผิดเรื่องราคาน้ำมันไม่ได้ถูกละเลยแน่นอน เพราะ ฝ่ายค้านจะอภิปรายหนักไปที่พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอภิปรายนายสุพัฒนพงษ์ไม่ได้ เพียงแต่ไม่ได้มีการลงคะแนนเท่านั้น

ลอกท่อ – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ทักทายนักโทษ ที่ออกมาช่วยลอกท่อระบายน้ำ ตามโครงการความร่วมมือระหว่าง กทม.กับกรมราชทัณฑ์ บริเวณถนนประชาสงเคราะห์ (ใกล้ตลาดห้วยขวาง) เขตดินแดง เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.

ขอเปิดเขียง 5 วัน-ไม่รวมลงมติ
เมื่อถามว่ากรอบเวลาการอภิปราย 4 วันเพียงพอหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า รัฐบาลต้องใจกว้างและให้เวลา เพราะฝ่ายค้านคิดว่า 5 วัน สำหรับการอภิปรายโดยไม่รวมวันลงมติ จะเหมาะสมที่สุด ก็ต้องมาคุยกัน หากรัฐบาลให้เวลาน้อยฝ่ายค้านก็จะไม่ยอม ถือเป็นการขัดขวางการทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่ก็ต้องดูที่เจตนาด้วย

นายสุทินกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คุย กับทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ มีแค่ฝ่ายค้านและที่เพิ่มเข้ามาคือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่จะอภิปราย รวมทั้งยังไม่ได้คุยกับพรรค อื่นเช่นกัน แต่หากเห็นว่าญัตตินี้ดีอาจเข้ามาร่วมได้

‘ชวน’ยันผลสอบชัดเจนสัปดาห์นี้
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบญัตติซักฟอกที่นายสุชาติยื่นร้องญัตติเถื่อน ว่า หลังรับญัตติของฝ่ายค้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งไปให้ฝ่ายประจำช่วยตรวจสอบ รวมทั้งให้ตรวจสอบสิ่งที่นายสุชาติร้องมาข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ปกติแล้วการเพิ่มชื่อภายหลังจะมีปัญหาหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ปกติแล้วเป็นสิทธิของผู้ยื่นจะเพิ่มผู้ใดหรือตัดผู้ใดก็ได้ แต่สิ่งที่นายสุชาติ ร้องว่าเวลาเสนอให้สมาชิกรับรอง มีรัฐมนตรี 10 คน แต่เราไม่รู้ข้อเท็จจริง ซึ่งปกติเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารที่ส่งมา ข้องใจอะไรก็จะสอบถามกลับไป ถึงเจ้าของญัตติและผู้นำฝ่ายค้าน ที่ผ่านมาเรื่องทำนองนี้ยังไม่เคยได้ยิน

เมื่อถามว่าจะมีการเรียกวิปทั้ง 3 ฝ่าย หารือวันอภิปรายช่วงใด นายชวนกล่าวว่า ยัง ต้องรอให้มีการวินิจฉัยก่อนว่าญัตติที่ยื่นมานั้นถูกต้องหรือไม่ ภายใน 7 วัน ซึ่งจะครบสัปดาห์นี้ จะมีความชัดเจน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็สั่งบรรจุในระเบียบวาระว่าสมควรจะเป็นช่วงใด เท่าที่หารือเบื้องต้นเป็นช่วงกลางเดือน ก.ค.ไปแล้ว ที่พูดกันไว้คร่าวๆ คือตั้งแต่ 18 ก.ค. เป็นต้นไป แต่ยังไม่แน่นอนเพราะต้องดู ความพร้อมของรัฐบาล และฝ่ายค้านด้วย

ปชป.ชงเองเพิ่มชื่อสุพัฒนพงษ์
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในเมื่อจะมีการทบทวนญัตติแล้วฝากให้ฝ่ายค้านทบทวนชื่อของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงานด้วย เนื่องจากการบริหารงานของล้มเหลว และที่ผ่านมา เคยตอบกระทู้ในสภาว่าไม่สามารถนำกำไรโรงกลั่นของ ปตท. มาช่วยเหลือประชาชนได้ เพราะจะทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้กลับสั่ง ให้ลดค่าการกลั่นได้ โดยใช้ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จึงขอเรียกร้องไปยังฝ่ายค้าน เมื่อทบทวนกรณีรมว.แรงงานแล้ว ควรเอาชื่อรมว.พลังงานใส่เข้าไปแทนที่รมว.แรงงาน

มี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนไม่พอใจการบริหารจัดการราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะประชาชนเดือดร้อนมาก หากฝ่ายค้านยื่นชื่อรมว.พลังงาน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยอาจได้เห็นรัฐมนตรีน็อกกลางสภา จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านทบทวนญัตติเพราะพี่น้องประชาชนเรียกร้องมา ขณะนี้มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เกือบ 20 คน ที่คิดว่าไม่พอใจกับการบริหารจัดการเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าฝ่ายค้านยื่นอภิปรายฯรมว.พลังงาน อาจเห็นเซอร์ไพรส์ เหมือนกับ ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่มี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลโหวตสนับสนุนฝ่ายค้าน

คดี 112 – นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า เข้าพบตำรวจสน.ดุสิต ตามหมายเรียก คดีม.112 ที่ถูกแจ้งจับตั้งแต่ปลายปี 2564 ยืนยันแสดงความคิดเห็นทางวิชาการ ไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.

จ่อยื่นปปช.สอบอีกทาง
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพปชร. อดีตส.ว. กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า น่าจะไม่ชอบ หากเทียบเคียงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 15-18/2556 หน้า 24 ที่ระบุ “โดยไม่ปรากฏว่ามีสมาชิกรัฐสภาร่วมลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นใหม่แต่อย่างใด มีผลเท่ากับว่าการดำเนินการในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่รัฐสภารับ หลักการตามคำร้องนี้ เป็นไปโดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วรรคหนึ่ง (1)”

จึงมีประเด็นว่าญัตติใหม่ที่ใช้รายชื่อ ที่ลงนามไว้เดิมมาแนบนั้นชอบหรือไม่ ซึ่งหากเทียบแนวคำวินิจฉัยข้างต้นอาจทำให้ญัตติ 11 คน ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ม.151 จึงต้องร้องนายชวนให้ตรวจสอบว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ม.151 หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญ ม.234(1) หรือไม่ และเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ข้อ 8 หรือไม่ โดยเรื่องนี้ จะยื่นป.ป.ช.ให้ตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย

กกต.ชี้พท.ไม่เข้าข่ายผิดกม.
แหล่งข่าวระดับสูงของสำนักงาน กกต. ชี้แจงกรณี นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมเข้ายื่นต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย(พท.) หลังจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ภายใต้ชื่อ “ไล่หนู ตีงูเห่า” ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่จ.ศรีสะเกษ ที่มองว่าผู้สมัครส.ส. คงเกณฑ์ประชาชน มาร่วมงาน ถ้ามาโดยธรรมชาติคงไม่ใส่เสื้อแบบเดียวกันเป๊ะ อาจเป็นการทำล่วงหน้าทั้งการสัญญาและการกระทำที่ชอบหรือไม่ชอบทางกฎหมาย ทำได้หรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 65 และมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ประกอบระเบียบ กกต.ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามปกติประเพณี หรือเมื่อมีเหตุอันสมควร

โดยหากมีพยานหลักฐานว่าพรรคใด ให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่บุคคล โดยมิใช่การให้ตามปกติประเพณี หรือเหตุอันสมควร ให้สำนักงาน กกต.รวบรวมข้อเท็จจริงพร้อมเสนอความเห็นให้ กกต. พิจารณาสั่งให้เลขาธิการ กกต. บันทึก ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคนั้นในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไป ซึ่งจะทำให้พรรคนั้นเหลือจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปน้อยลง ตัวอย่างเช่น หากกำหนดให้พรรคใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ได้ 35 ล้านบาท สมมติว่าพรรคนั้นแจกเงินและเสื้อไปรวมมูลค่า 1 ล้านบาท ก็จะใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้แค่ 34 ล้านบาท

ดังนั้นแล้วกรณีนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่จะทำให้เหลือค่าใช้จ่ายเงินหาเสียงของพรรค นั้นๆ ลดลงเท่านั้น เนื่องจากตามกฎหมาย ให้ใช้วิธีบันทึกไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้นเอง

สุรทินจี้ป้อม-ขอตำแหน่ง
เวลา 09.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) เดินทางมายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพปชร. โดยระบุว่า เพื่อประสานขอพิจารณาตำแหน่งข้าราชการทางการเมืองให้สมาชิกพรรค หลังพรรคอื่นๆ ได้ตำแหน่งไปแล้ว

นายสุรทินกล่าวว่า วันนี้ไม่ได้พบพล.อ.ประวิตร แต่ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พล.อ.ประวิตรสอบถามตน ถึงการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ตอบไปว่าส่วนตัวให้คะแนน พล.อ.ประวิตรคนเดียว ส่วนพรรคเล็กอื่นๆ เท่าที่คุยเบื้องต้นจะเทคะแนนให้พล.อ.ประวิตรเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าแล้วนายกฯ และรัฐมนตรีคนอื่น จะยกคะแนนให้ด้วยหรือไม่ นายสุรทินกล่าวว่า ขอฟังการอภิปรายก่อน ขอดูตามเนื้อผ้า เมื่อถามว่าถ้าพล.อ.ประวิตรเอ่ยขอจะยกมือ ให้หรือไม่ นายสุรทินกล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องอนาคต ยืนยันว่า ปธม.มาจากประชาชน ขอพิจารณาก่อน

ภท.ดึง‘ประดิษฐ์’คุมพิจิตร
ความเคลื่อนไหวการย้ายพรรคของ นักการเมือง และส.ส. ในส่วนพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ยังคงมีนักการเมืองทยอยเข้าพรรคต่อเนื่อง นอกเหนือจาก จ.ศรีสะเกษ ที่เพิ่ง เปิดตัวไป ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า เร็วๆนี้ เตรียมเปิดตัว นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง และอดีต ส.ส.พิจิตรหลายสมัย ที่จะเข้าร่วมงานกับ ภท.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมได้รับมอบหมายให้ดูแลการเลือกตั้ง จ.พิจิตร

ในการเลือกตั้งปี 2562 นายประดิษฐ์ ไปร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ โดยส่งน้องชาย คือ นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ลงเลือกตั้ง ส.ส.พิจิตร ในทางการเมือง นายประดิษฐ์ เคยเป็นอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา อดีตเลขาธิการ ปชป. และคนสนิทของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาฯ ปชป.

ประชุมก.ตร. – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานประชุม ก.ตร. โดยมีพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. นำ คณะนายตำรวจระดับสูงให้การต้อนรับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.

นายกฯนั่งหัวโต๊ะ-ประชุมก.ตร.
วันที่ 20 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) เป็นประธาน การประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2565 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีคณะกรรมการ ก.ตร., ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร.วินัย คณะอนุกรรมการ ก.ตร.ร้องทุกข์ และคณะอนุกรรมการ ก.ตร.บริหารทรัพยากรบุคคล เข้าร่วมประชุม ใช้เวลาในการประชุม 30 นาที

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการด้านต่างๆ ได้รายงานผลการดำเนินการให้ประธานได้รับทราบ นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาการปรับปรุงหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรต่อไป

ระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วยวาระแจ้งให้ที่ประชุมทราบ, วาระการรับรองรายงานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/2565, วาระเสนอเพื่อทราบเกี่ยวกับการดำเนินการของ อ.ก.ตร.วินัย, อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ และอ.ก.ตร.บริหารทรัพยากรบุคคล, วาระเสนอเพื่อพิจารณา 5 เรื่อง คือการเลื่อนเงินเดือนประจำปี 2565 ครั้งที่ 2 ครึ่งปีหลัง (1 ต.ค.64) ทั้งปี 2 ขั้นในโควตาผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด แก่ข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือนระดับ ส.6 ขึ้นไป

รวมถึงเรื่องการขออนุมัติเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ในห้วงที่มิได้ปฏิบัติราชการให้แก่ ร.ต.อ.ศุภกร โฆษิตเลิศวัฒนา และร่างระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่ง ผู้ทำการในอากาศ (ฉบับที่…พ.ศ. …, หลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน (ต.ว.ท.) ฉบับปรับปรุง และเรื่องเรื่องการยกเลิกและแก้ไขคณะกรรมการรับรองการนับระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นทวีคูณและวาระสุดท้ายวาระเรื่องอื่นๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน