รับสารภาพร้านเจ๊งหนี้100ล้านจึงต้องหนี

‘เจ้าของดารุมะ’ไม่รอด โดนรวบคาสนามบินสุวรรณภูมิ สารภาพธุรกิจร้านซูชิเจ๊ง ประสบปัญหาสภาพคล่องช่วงโควิดระบาด หนี้สินกว่า 100 ล้าน จึงจัดโปรโมชั่นบุฟเฟต์ หวังนำเงินมาประกอบกิจการ แต่สุดท้ายไม่รอด จึงตัดสินใจหนีไปสหรัฐ แต่พอรู้ข่าวผู้เสียหายแห่แจ้งจับ ถูกออกหมายจับ ทนแรงกดดันไม่ไหวเลยบินกลับไทย ตร.ยึดเงินติดตัว 7 แสนบาท อายัดบัญชีแบงก์ ตรวจเส้นทางเงิน หากพบพิรุธจะแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) จับกุมนายเมธา ชลิงสุข หรือบอลนี่ อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน อาหารและแฟรนไชส์ดารุมะซูชิ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเดินทางกลับจากไต้หวัน

คาสนามบิน – พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ส่งตำรวจปคบ.เข้าจับกุมนายเมธา ชลิงสุข หรือ บอลนี่ อายุ 42 ปี เจ้าของ ‘ดารุมะ ซูชิ’ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงมีผู้เสียหายนับหมื่นคน ขณะเดินทางจากสหรัฐมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.

ต่อมาที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.1 ปคบ. พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 ปอศ. และพ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผกก.(สอบสวน) กก.1 ปคบ. แถลงผลจับกุมนายเมธา จากกรณีชักชวนผู้เสียหายหลายราย ทำกิจการแฟรนไชส์ร้านดารุมะ แต่ไม่สามารถเปิดทำการได้ เนื่องจากขาดวัตถุดิบ กระทบถึงลูกค้าที่ซื้อบัตรกำนัลบุฟเฟต์ รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลางสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาอย่างรวดเร็ว พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายที่มาแจ้งความแล้ว 100 ราย และแจ้งความออนไลน์อีก 300 ราย ก่อนขอศาลอาญาออกหมายจับ ประสานหน่วยงานระหว่างประเทศ พบนายเมธาเดินทางออกไปเปลี่ยนเครื่องบินที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วกลับมาที่ไต้หวัน ก่อนกลับมาถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ผบช.ก.กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้น นายเมธาให้การทำธุรกิจอาหารแล้วเกิดปัญหาสภาพคล่องตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด มีหนี้สินกว่า 100 ล้านบาท จึงขายบัตรกำนัลออนไลน์ราคา 199 บาท ตั้งแต่เดือนม.ค.2565 ซึ่งเป็นราคาถูกกว่าความเป็นจริง ทำยอดขายได้วันละ 1 ล้านบาท เพื่อนำเงินเข้าระบบให้ประคองธุรกิจต่อไปได้ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไป จึงตัดสินใจหลบหนีไป แล้วถูกกดดันจากหลายทางจึงตัดสินใจกลับไทย

พล.ต.ท.จิรภพกล่าวอีกว่า ตำรวจมั่นใจว่ามีหลักฐานที่จะดำเนินคดี ขณะจับกุมยึดเงินสดติดตัว 20,816 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 710,000 บาท พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินในบัญชีธนาคารหลักแสนบาท หากตรวจพบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม จะพิจารณาแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติม โดยตำรวจจะนำตัวฝากขังต่อศาลอาญาในวันที่ 23 มิ.ย. พร้อมคัดค้านประกันตัว เบื้องต้นพบผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว

รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบ เส้นทางการเงิน พบเงินหมุนเวียนในบัญชีบริษัทดารุมะซูชิ จำนวน 303,447,243 บาท สำหรับความเสียหายพบยอดขายคูปองบัตรกำนัล ผ่านแอพพลิเคชั่น 174,177 ใบ ลูกค้า 33,002 คน คิดเป็นมูลค่า 27,070,915 บาท และมูลค่าความเสียหายจากผู้ซื้อแฟรนไชส์อีก 17,500,000 บาท ส่วนร้านดารุมะซูชิ มีทั้งหมด 27 สาขา แบ่งเป็นของผู้ต้องหา 10 สาขา และของผู้เสียหาย 17 สาขา

ข่าวแจ้งว่าจากการสอบปากคำนายเมธาระบุว่าที่ตัดสินใจกลับไทย เนื่องจากผู้เสียหายแห่แจ้งความ และตำรวจออกหมายจับ จนรู้สึกเครียดมาก คิดว่าหนีอย่างไรก็คง ไม่รอด ทนแรงกดดันไม่ไหว ประกอบกับ ไม่อยากหนีไปตลอดชีวิต ทำให้ตัดสินใจกลับไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน