‘พิธา’ไล่ตามมา-อยู่ที่ 3 ทิ้งประยุทธ์หล่นลง4 พท.ขู่จัดหนักซักฟอก บิ๊กตู่จัดคิวไปเชียงใหม่

ประชาชนต้องการผู้นำ คนรุ่นใหม่ นิด้าโพล ชู ‘อุ๊งอิ๊ง’ นายกฯ อันดับ 1 ‘พิธา’ขึ้นที่ 3 ส่วน ‘ประยุทธ์’ตามมาอันดับ 4 เพื่อไทยจี้ ‘บิ๊กตู่’ ประกาศปิดสวิตช์โหวตเลือกนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า สร้างอนาคตไทยให้จับตาจ่อ เปิดตัว ‘สมคิด-ยุทธศาสตร์พรรค’ ‘โจ้-ยุทธพงศ์’ฮึ่มจัดหนัก‘ตู่’ ปมท่าเรือแหลมฉบัง- งบจัดการน้ำ ‘นิโรธ’เผยทีมเจ้ายุทธพปชร. รวมพลคนใน-คนนอก คุมเกมซักฟอก สมเด็จพระสังฆราชประทานพรนายกฯ ทำงานสำเร็จ ‘บิ๊กตู่’ เตรียมลงพื้นที่เชียงใหม่ 29 มิ.ย.นี้

พระสังฆราชประทานพร‘บิ๊กตู่’
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมพร้อมภริยา เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 26 มิ.ย. 2565 ที่พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราชวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนเฟื่องนคร เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยใช้เวลา 20 นาที

พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่า สมเด็จพระสังฆราช ประทานกำลังใจให้ทำงานประสบความสำเร็จ เพื่อประเทศชาติและประชาชน และยังประทานพรให้กับประชาชนทั่วไปตามบทบาทของสงฆ์และพระพุทธศาสนา

นายกฯลงพื้นที่เชียงใหม่ 29 มิ.ย.
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์พร้อมคณะเตรียมลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจราชการติดตามการ ขับเคลื่อนแผนงานตามนโยบายของรัฐบาล ในวันพุธที่ 29 มิ.ย. โดยช่วงเช้า นายกฯ ตรวจเยี่ยมติดตามความคืบหน้าโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งกรมชลประทานได้รับการจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการเพิ่มปริมาณน้ำเขื่อนแม่กวง อุดมธารา ปัจจุบันมีความก้าวหน้าโครงการร้อยละ 68.81

จากนั้น เป็นประธานในพิธีเปิด FTI Expo 2022-Shaping the Future Industry ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ เชียงใหม่ ซึ่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงาน ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-3 ก.ค.2565 เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพและยกระดับความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย ภายใต้แนวคิด BCG เพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมทั้งเป็นการจุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมไทยในบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป

ช่วงบ่ายเยี่ยมชมผลการดำเนินงานพัฒนาทักษะด้านโค้ดดิ้ง (Coding)ให้แก่เยาวชน ที่โรงเรียนวัดเวฬุวัน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จากนั้นเดินทางต่อไปยังเทศบาลแม่เหียะ เพื่อเยี่ยมชมการพลิกโฉมระบบการบริหารและบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเทศบาลเมืองแม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนา เพื่อยกระดับการบริหารในมิติต่างๆ อาทิ Dashboard ข้อมูลการให้บริการประชาชนของฝ่ายต่างๆ การให้บริการในระบบออนไลน์ ระบบข้อมูลสนับสนุนการบริหารงานของผู้บริหาร การจัดทำแผนที่ 3D Model และการดำเนินการของศูนย์บริการเป็นเลิศ จนเกิดเป็นแม่เหียะโมเดล นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 จนถึงปัจจุบัน

นิด้าโพลเผยปชช.หนุน‘อุ๊งอิ๊ง’นายกฯ
วันเดียวกัน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2565” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย.2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาคระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชี รายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลักของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 25.28 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร-อุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทย(พท.) เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคทำได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร และเป็นบุตรสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร

อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล(ก.ก.) เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบอุดมการณ์ทางการเมือง และชื่นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล

‘ตู่’อันดับ 4-‘ชัชชาติ’รั้งที่ 7
อันดับ 4 ร้อยละ 11.68 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ นโยบายสามารถช่วยเหลือประชาชนได้จริง และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง อันดับ 5ร้อยละ 6.80 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) เพราะชื่นชอบผลงานในอดีต มีประสบ การณ์ด้านการบริหาร ซื่อสัตย์สุจริต ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามา บริหารประเทศ อันดับ 6 ร้อยละ 6.60 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย(สร.) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริงทำจริง

อันดับ 7 ร้อยละ 4.20 ระบุว่าเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพราะมีความรู้ ความสามารถ ตั้งใจในการทำงาน ชื่นชอบแนวคิดและทัศนคติในการทำงาน อันดับ 8 ร้อยละ 3.76 ระบุว่า นายกรณ์ จาติกวณิช พรรคกล้า เพราะมีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา

อันดับ 9 ร้อยละ 2.92 ระบุว่าเป็น นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว พรรคเพื่อไทย เพราะเป็นคนที่พูดจริงทำจริงและมีความน่าเชื่อถือ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา อันดับ 10 ร้อยละ 1.68 ระบุว่าเป็น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เพราะมีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เป็นคนที่พูดจริงทำจริงและมีความน่าเชื่อถือขณะที่บางส่วนระบุว่า เชื่อมั่นในการทำงาน

อันดับ 11 ร้อยละ 1.56 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรคประชา ธิปัตย์ (ปชป.) เพราะชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา และชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 12 ร้อยละ 1.52 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เพราะ ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา ชื่นชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย

ดูงานเกาหลี – นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นำกลุ่มสหภาพแรงงาน พร้อมภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แรงงานนายชอน แทอิล ณ สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานไทย

เทคะแนนเพื่อไทย-ก้าวไกล
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/65 เดือนมี.ค.2565 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ คุณหญิงสุดารัตน์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นพ. ชลน่าน และนายจุรินทร์ มีสัดส่วนลดลง ในขณะผู้ที่ระบุว่า น.ส.แพทองธาร และนายกรณ์ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

ถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 36.36 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย อันดับ3 ร้อยละ 17.88 พรรคก้าวไกล อันดับ 4 ร้อยละ 7.00 พรรคพลังประชารัฐ อันดับ 5 ร้อยละ 6.32 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 3.04 พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.96 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 8ร้อยละ 2.68 พรรคกล้า อันดับ 9 ร้อยละ 2.56 พรรคภูมิใจไทย และร้อยละ 2.52ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคไทยภักดี พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยศรีวิไลย์ และ พรรคครูไทย เพื่อประชาชน

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/65 เดือนมี.ค.2565 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย และพรรคประชาธิปัตย์ มีสัดส่วนลดลง ในขณะผู้ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคกล้า และ พรรคภูมิใจไทย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น

‘วันชัย’แนะอย่าชิงสุกก่อนห่าม
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “แลนด์สไลด์…แล้วใครเป็นนายกฯ” คำว่าแลนด์สไลด์ฟังดูแล้วมันคึกคัก ของขึ้น ปลุกพลังให้ฮึกเหิมได้จริงๆ บนเวทีปราศรัยหาเสียง ส่วนจะแลนด์สไลด์จริงหรือไม่ วันลงคะแนนจะเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ก็เห็นพูดกันหลายเวที จะจริงจะหลอกหรือแกล้งหยอกกันว่านายกฯ อุ๊งอิ๊ง เล่นเอาเจ้าตัวเขินสะเทินอายแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะเดินตามแนวทางคุณอายิ่งลักษณ์ซึ่งพรวดพราดแค่ 49 วันเท่านั้นก็เป็น นายกฯ เลย ในที่สุดก็พิสูจน์กันมาแล้วมิใช่หรือว่าคนในครอบครัวไม่ว่าจะพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอา กระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทางก็เพราะแลนด์สไลด์แล้วเอาคนในครอบครัวมาครอบนี่แหละ ถ้าดวงชะตาฟ้าลิขิตยังคิดและทำแบบเดิม เหตุการณ์แบบเดิมๆ คงเกิดขึ้นอีก ทั้งครอบครัวตัวเอง และครอบครัวเพื่อไทยจะมีอันเป็นไปแบบแลนด์สไลด์ฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย

อย่าลืมว่าตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่ของเล่นที่ใครจะเอาไปเล่นกันได้ง่ายๆ และไม่ใช่ตำแหน่งประธานหรือผู้จัดการบริษัทที่ใครจะมอบให้แก่ใครอย่างไรก็ได้ หรือจะมอบให้แก่พี่น้องลูกเมียเมื่อไหร่ก็ได้อุ๊งอิ๊งยังมีเวลาบ่มเพาะอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบชิงสุกก่อนห่าม ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงเกิดแลนด์สไลด์จริง ก็ให้นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ ไปก่อน คนในครอบครัวของอุ๊งอิ๊งจะอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไรก็ว่ากันไป ให้หัวหน้าพรรคเขารับหน้าเสื่อไปก่อน สู้ไปก่อน ประสบการณ์ทางการเมืองเขาเหนือกว่า ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่า ถ้าจะมีปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นมาอีก ก็แบ่งให้คนในครอบครัวอื่นเขาโดนเสียบ้าง อย่าเหมาเอาแต่ครอบครัว ของเราเลย

พท.บี้ปิดสวิตช์ส.ว.เลือกนายกฯ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สะท้อนผ่านนิด้าโพล ว่าเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย เราจะไม่ลิงโลดใจหรือชะล่าใจ จะมุ่งเน้นทำงานหนักเพื่อนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประเทศชาติและประชาชน

สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ ถึงเวลาแล้วที่จะปลดปล่อยพันธนาการที่ผูกมัดและฉุดรั้งประชาชน ปล่อยให้ประชาชนได้เลือก นายกฯ ผ่านส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนที่ประชาชนเลือกมา การโหวตเลือกนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ควรเป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ที่ยึดโยงและมีที่มาจากประชาชนเท่านั้น พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วม ฝ่ายค้าน ได้เสนอแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ มาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เชื่อในประชาชน ขอให้แสดงสปิริตประกาศสัตยาบัน จะแก้ไขรัฐธรรมนูญตัดอำนาจส.ว.โหวตเลือกนายกฯ เพื่อให้ได้ นายกฯ ตามเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง

“ยิ่งสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ยิ่งลดต่ำลง สอดรับกับการไร้ผลงาน เวลาที่เหลืออยู่ ควรแสดงสปิริต เปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปิดสวิตช์ส.ว.ไม่ให้โหวตเลือกนายกฯ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เฉพาะ 500 ส.ส.ผู้แทนของประชาชนโหวตเท่านั้น” นายอนุสรณ์กล่าว

ชูเคสผู้ว่าฯกทม.ได้คนตรงใจปชช.
ด้านนายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 มีข้อดีมากมาย เช่น 1.ทำให้ประชาชนพิจารณาเลือกผู้นำทางการเมืองจากความรู้ความสามารถ กรณีการเลือตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดเจน การได้คนตรงใจประชาชนดีอย่างที่เห็น 2.การได้รับความเห็นชอบในสภา ทำให้การเข้าสู่ตำแหน่ง สง่างาม เป็นประชาธิปไตย ไร้ข้อครหา 3.เป็นการเคารพเจตจำนงของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งมีความหมายยิ่งขึ้น ประชาชนหวงแหนสิทธิของตนเอง 4.ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศว่ามีกติกาการเมืองที่เป็นธรรมไม่ได้ออกแบบเพื่อบุคคลใดคณะใด มีการแข่งขันที่เป็นธรรม ถ้ามีกติกาที่เป็นธรรมจะทำให้สถานะของประเทศดีขึ้นอย่างแน่นอน พรรคเพื่อไทย อาจต้องหารือประเด็นนี้ว่าจะดำเนินการร่วมกับพรรคอื่นๆ อย่างไรในอายุสภาที่เหลืออยู่

“ส่วนโพลสำนักต่างๆ เช่น นิด้าโพลที่คะแนนนิยมของน.ส.แพทองธาร และของพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างสูงนั้น ผมขอบคุณความเห็นของพี่น้อง แต่ความนิยมเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถ้าพรรคเพื่อไทยมี นโยบายที่ตอบโจทย์และความคาดหวังของพี่น้องประชาชน รู้ปัญหา มีแนวทางแก้ และประชาชนเชื่อว่าแก้ได้ การสนับสนุนน่าจะเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นไปอีก ทุกฝ่ายในพรรคไม่ได้ประมาท คงต้องทำงานต่อเนื่องต่อไป ผลที่แท้จริงคือคะแนนในวันเลือกตั้ง” นายนพดลกล่าว

‘โจ้’รอจัดหนัก‘ประยุทธ์’
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค แถลงว่าเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุญัตติการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีตามมาตรา 151 ไปแล้ว รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมีทั้งหมด 11 คน คนที่จะโดนหนักที่สุดคือหัวหน้ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจคาดว่าจะเริ่มได้ประมาณวันที่ 18 ก.ค. และลงมติวันที่ 22 ก.ค. ครั้งนี้ปัญหาเยอะ พล.อ.ประยุทธ์ต้องยอมรับว่าประชาชนเบื่อหน่ายท่านมากเพราะแก้ปัญหาไม่ได้สักเรื่อง มีแต่เรื่องหนักๆ เตรียมตอบได้เลย หลักฐานทุจริตเยอะมาก

ขอฉายหนังตัวอย่างความผิดพลาด ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพของพล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ลงนามในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 อายุสัมปทาน 35 ปี ลงนามเมื่อพ.ย.2564 กลุ่มที่ได้รับสัมปทานคือกลุ่มจีพีซี โครงการนี้การท่าเรือฯ เป็นคนลงทุนก่อสร้าง ใช้เงินลงทุนทั้งหมด 2.13 หมื่นล้านบาท เริ่มสัญญาตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.2563 ปรากฏว่าสร้างท่าเรือมา 2 ปี มีแค่เรือของจีนเก่าๆ จอดอยู่ลำหนึ่ง มีหินทำเขื่อนถมทะเล ยังไม่มีรูปร่างของท่าเรือ ไม่มีเทอร์มินอล ฐานที่จะทำเครนก็ยังไม่มี มีแต่หญ้าขึ้นหินที่มาถมเขื่อนเต็มไปหมด

สำหรับสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 เลขที่ ทลฉ.จ.44/2563 ระหว่างการท่าเรือฯ และฝ่ายรับจ้างก่อสร้างคือ บริษัท จงก่างคอนสตรัคชั่นคอมพานี ลิมิเต็ด ร่วมกับ บริษัท นทลิน จำกัด และบริษัท เอ็นทีแอลมารีน จำกัด หรือกิจการร่วมค้าซีเอ็นเอ็นซี มีระยะเวลาก่อสร้าง 1,460 วัน หรือ4 ปี ตอนนี้ผ่านมา 2 ปียังไม่เริ่มก่อสร้างไม่ทำอะไรทั้งนั้น ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์เตรียมตอบชี้แจงในฐานะประธานอีอีซี บริหารแบบนี้บ้านเมืองฉิบหายหมด โครงการยักษ์ใหญ่ขนาดนี้เซ็นสัญญาใหญ่โตที่ทำเนียบรัฐบาล ถามว่าในปี 2568 จะได้เปิดหรือ แค่ถมดินยังทำไม่ได้เลย เดี๋ยวตนจะไปแฉต่อในสภาว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร เพราะมีการสับงานกันเป็นทอดๆ

ล้มเหลว – นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี แถลงข่าวความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.

แฉพิรุธงบจัดการน้ำ
นอกจากนี้มีเรื่องความไม่โปร่งใสส่อไปในทางทุจริตของกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งตนได้เคยอภิปรายไปในวาระ 1 แล้วว่ากรมทรัพยากรน้ำมีเฮีย ซ. ชื่อคล้ายร้านอาหารจีนชื่อดังย่านคลองสาน มีการซื้อขายตำแหน่งในกรมทรัพยากรน้ำ กรมนี้เละเทะมาก จนถึงขณะนี้ตำแหน่งซี 9 ผอ.สำนักก็ยังไม่ตั้งเพราะมีปัญหา

นอกจากนี้ ในปี 2565 กรมทรัพยากรน้ำของบทั้งสิ้น 5,435 ล้านบาท โดยมีพันธกิจว่าพัฒนา ฟื้นฟู ปรับปรุง ซ่อมแซมบริหารโครงการแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำ ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบเพราะเป็นประธานน้ำแห่งชาติ โดยกรมทรัพยากรน้ำอ้างเรื่องภัยแล้งไปของบกลางจากพล.อ.ประยุทธ์ โดยตั้งแต่ปี 2563-65 ของบรวม 1,143 ล้านบาท อ้างว่าหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย มีเครื่องมือ มีความพร้อม ใช้วิธีพิเศษโยนให้ทหารไปทำ ไม่ต้องประมูล อ้างเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน ปรากฏว่างบดังกล่าวรวม 46 โครงการ ทำเสร็จรวม 35 โครงการตั้งแต่ปี 2563 นอกนั้นทิ้งงานเพราะงบกลางกันไม่ได้ ถือว่า ส่อไปในทางทุจริตหรือไม่

เมื่อไปดูค่าปรับปรุงแหล่งน้ำ งบ 1,093 ล้านบาท ปรากฏว่าเอาไปจัดลงที่ยโสธรจังหวัดเดียว 202 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 ถามว่าผิดปกติหรือไม่ จังหวัดใหญ่ๆ ทางภาคอีสาน เช่น นครราชสีมา อุดรธานี สกลนคร บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ เป็นต้น ไม่ได้งบเลยสักบาท สำนักงบประมาณให้ผ่านมาได้อย่างไร จัดงบไม่เป็นธรรม ส่อไม่โปร่งใสแน่นอน แล้วจังหวัดอื่นไม่แล้งไม่เดือดร้อนหรือ ทั้งที่เกษตรกรก็เดือดร้อน ไปทั่ว

จี้‘ชวน’สอบแม่อธิรัชนั่งอนุกมธ.
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ล่าสุดมีการตั้ง อนุกมธ.แล้วรวม 9 คณะ จะเริ่มประชุมนัดแรกในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เมื่อดูคณะอนุกมธ.ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินการ งบเงินอุดหนุน และงบรายจ่ายอื่น หรือที่เรียกกันว่าคณะจับฉ่าย มีนาย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เป็นประธาน ถามว่าเป็นรัฐมนตรีไม่มีงานทำหรือถึงมาเป็นประธานอนุกมธ. และยังมีนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ทั้งแม่ทั้งลูกมาอยู่ด้วยกันเลย นายอธิรัฐคุมการท่าเรือฯ ถามว่าทำไมไม่ไปดูท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ผ่านไป 2 ปีทำเขื่อนยังไม่เสร็จเลย เสียหาย ต่อเศรษฐกิจและประเทศจะส่งออกอย่างไร ไม่ไปตรวจสอบท่าเรือ แต่มานั่งเป็นประธานอนุกมธ.ฝึกอบรม

ขณะเดียวกันอาจมีเรื่องส่อผิดกฎหมาย เพราะเมื่อวันที่ 14 พ.ย.2564 ศาลฎีกาเสียง ข้างมากเคยมีคำสั่งให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ห้ามดำรงตำแหน่งคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 โดยส.ส.ที่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ห้ามมาเป็นกมธ.สามัญและวิสามัญ ขณะที่นางทัศนียาถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีสนามฟุตซอล ถามว่ามานั่งเป็นอนุกมธ.ได้อย่างไร ตรงนี้นายชวนต้องให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการขัดคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ก.ก.จองกฐิน‘3ป.’-ขู่รมต.ตกเก้าอี้
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ตั้งทีมเจ้ายุทธ เพื่อประสานการทำงานกับทีมปราบมาร เตรียมพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์ตนเอง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าไม่ได้ทุจริต สามารถเตรียมข้อมูล ตอบข้อ ซักถามได้ การตั้งทีมก็ไม่จำเป็น แต่หากรู้สึกว่ารัฐมนตรีไม่สามารถตอบได้ อาจมีการตั้งทีมลักษณะนี้มาสกัดเพื่อให้การอภิปรายไม่ ราบรื่น เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งของฝ่ายรัฐบาลที่ทำมาตลอด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะรับมือกับทีมเจ้ายุทธได้หรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า เรื่องแรก คือเรื่องข้อมูล ฝ่ายค้านทุกพรรคเตรียมข้อมูลมาอย่างดี มีข้อมูลหนักแน่นที่ผู้อภิปราย คัดสรรมาแล้ว ทำให้รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามได้ ความเชื่อมั่นจะลดลง อีกเรื่องคือ การเมือง รัฐบาลขณะนี้ไม่มีเอกภาพ รัฐมนตรีบางคนถึงขั้นหวาดกลัวญัตติของฝ่ายค้านที่จะวิจารณ์ตนเอง เมื่อดูจากสถานการณ์ มีความขัดแย้งของรัฐมนตรีบางคน มีการช่วงชิงอำนาจกันภายในพรรครัฐบาลบางส่วน เพื่อเข้าไปสู่ตำแหน่งทางการเมืองจึงต้องมีการต่อรอง

ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ เชื่อว่าอาจมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง เช่น มีเสียงของ ส.ส.รัฐบาลในสภา 30 เสียงโหวตลงมติร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน รวมกับอาจมีงดออกเสียง ส่วนนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลชุดนี้ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของรัฐบาลรวมถึงรัฐมนตรี ที่เห็นไม่ตรงกัน หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อกันต้องไปเคลียร์กันเอง หากเคลียร์ไม่ได้อาจจะหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี

ส่วนพรรคก้าวไกลยืนยันว่ากลุ่ม 3 ป. เป็นตัวหลัก ที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ และอาจมีรัฐมนตรีคนอื่นอีกหลายคน อยากให้รู้ในวันอภิปราย รัฐมนตรีควรจะรู้ว่าตัวเองคลาดเคลื่อนบกพร่องเรื่องใด ให้เตรียมตัวให้ดี ขณะนี้มีหลายคนที่มีข้อมูลหนักแน่น มีหลักฐานที่ชัดเจนมาก

‘นิโรธ’แย้มทีมเจ้ายุทธคุมซักฟอก
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน วิป รัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของทีมเจ้ายุทธ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ว่า เบื้องต้นมีทั้งคนนอกและคนใน ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ ตั้งมาเพื่อช่วยประธานสภาควบคุมการทำงานให้อยู่ในกรอบญัตติและข้อบังคับของการประชุม โดยคนนอกที่อยู่ในทีม เจ้ายุทธนั้น เมื่อข้างในมีปัญหาอะไรก็จะลงไปแถลงชี้แจง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกำหนดวันการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิโรธกล่าวว่า ต้องรอสัปดาห์นี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภา จะเรียกไปหารือกัน และในวันอังคาร 28 มิ.ย. ครม.น่าจะประชุมกัน และตนคาดว่าจะให้เวลาอภิปราย 3 วัน ลงมติในวันที่ 4 ต่อข้อถามกรณีที่มีการยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงญัตติเถื่อนจะทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจสะดุดหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ต้องรับผิดชอบกันไป และตนเตือนแล้วว่าอย่าถือทิฐิกัน แต่ต้องรอ ป.ป.ช.ตรวจสอบ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ต่อผลสำรวจความเห็นเรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2565” ของศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ น.ส. แพทองธาร ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง แต่พล.อ.ประยุทธ์ อยู่อันดับที่สี่ นายนิโรธกล่าวว่า ตนมองว่ายังอีกนาน จึงไม่ได้กังวลกับผลโพลที่ออกมาวันนี้

สอท.ตีปี๊บจับตาเปิดตัว‘สมคิด’
ที่พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ในส่วนของพรรคสร้างอนาคตไทยได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดีในการลงพื้นที่ ถึงวันนี้ยังยืนยันที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบ 400 เขต ยกเว้นว่าถึงวินาทีสุดท้ายเราพบผู้ที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมก็จะไม่ส่งในเขตนั้น เพราะต้องยอมรับว่ากติกาใหม่คือบัตรเลือกตั้งสองใบ ต้องทำให้การลงพื้นที่มีความ เข้มแข็ง และจนถึงขณะนี้มีผู้แจ้งเจตจำนงขอเป็นผู้สมัครลงรับเลือกตั้งกับพรรคสร้างอนาคตไทยเข้ามาเรื่อยๆ เพราะภาพที่ออกมาไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประเมินสถานการณ์เลือกตั้งจะช้าหรือเร็วกว่ากำหนดหรือไม่นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย มีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองทุกสัปดาห์ทุกเดือน ยืนยันว่าเรามีความพร้อมต่อทุกสถานการณ์ ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมาเร็วหรือมาช้า หากรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปี พรรคสร้างอนาคตไทยพร้อมตลอดเวลา ต่อข้อถามว่าหวั่นใจหรือไม่ว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น นายสนธิรัตน์กล่าวว่า การเมืองต้องยอมรับว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ พรรคสร้างอนาคตไทย ติดตามและประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงการเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีแคนดิเดต นายกฯ ของพรรค นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ รอจังหวะการเปิดตัวขอให้ทุกคนได้ติดตาม เพราะพรรคสร้างอนาคตไทยกำลังเดินอย่างเป็นขั้นตอนขอให้ติดตามยุทธศาสตร์ของพรรคที่จะเปิดตัวพร้อมกันในเร็วๆ นี้

ปลุกทุกสีเสื้อขับไล่‘ประยุทธ์’
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมพีซทีวี ซ.รามอินทรา 40 คณะหลอมรวมประชาชนจัดเวทีเสวนาสาธารณะ : ประเทศต้องมาก่อน ตอน “ทวงคืนพลังงานให้ประชาชน” นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมคณะ และตัวแทนกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาพลังงาน อาทิ ตัวแทนวินมอเตอร์ไซค์ ตัวแทนคนขับแท็กซี่ ตัวแทนเครือข่ายธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ตัวแทนสมัชชาชาวนาผู้ไร้ที่ทำกิน ร่วมแสดงความคิดเห็น

นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. กล่าวว่า วันที่ 3 ก.ค.นี้ เวลา 16.00 น. คณะหลอมรวมประชาชน จะจัดเสวนาสาธารณะเรื่องนี้อีกครั้งที่ลานคนเมืองเสาชิงช้า วันนี้ เดือดร้อนกันทุกสีเสื้อขอให้ออกมากันมากๆ วันนี้ขอให้อดทน วันหน้าเลือกตั้ง ขอให้ใช้ ปากกาเข้าคูหากาพล.อ.ประยุทธ์ออกไป

ด้านนายไทกร พลสุวรรณ แกนนำ กลุ่มไทยไม่ทน กล่าวว่า รัฐบาลถูกครอบงำจากกลุ่มทุนพลังงานอย่างชัดเจน เป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ ที่ค่ากลั่นน้ำมันแพงถูกเปิดเผย แต่รัฐบาลกลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย นอกจากนี้ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน ต่างเงียบ ไม่มีใครพูดเรื่องน้ำมัน ไม่มีใครออกมาต่อสู้เพื่อประชาชน แสดงว่านอกจากกลุ่มทุนพลังงานจะเป็นเจ้าของรัฐบาลแล้ว ยังเป็นเจ้าของสภา

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวว่า ก่อนถึงวันนั้น ในวันที่ 28 มิ.ย. เวลา 10.00 น. เราจะไปพบพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงคำตอบ 9 ข้อ เรื่องพลังงาน จากนั้น วันที่ 29 มิ.ย. จะไปขออนุญาตนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. จัดงานที่ลานคนเมือง วันที่ 1 ก.ค. เวลา 10.00 น. จะไปที่ปตท. เพื่อทวงถามเรื่อง โรงกลั่นว่าเหตุใดยังไม่ลดราคา ถ้ารัฐบาลไม่มีปัญญาก็ไม่ควรนั่งหน้าด้านเป็นนายกฯต่อไป

“วันที่ 3 ก.ค.นี้ แม้ลานคนเมือง จะไม่ ใหญ่โต แต่จะเป็นลานที่มีความหมาย ถ้าเราอ่อนแอคิดว่าธุระไม่ใช่ปล่อยประเทศไว้แบบนี้ เราก็จะอยู่กันในสภาพแบบนี้ เชื่อว่าถ้าลานคนเมืองแตก รัฐบาลก็แตก ประเทศรอด ประชาชนก็จะรอด” นาย จตุพรกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน