พปชร.เสริมทีมปราบมาร งัดตำราพิชัยสงครามสู้ ฝ่ายค้านโวยขี้เหนียว รัฐบาลให้ซักฟอก4วัน เสื้อแดงฮือไล่นายกฯ

ฝ่ายค้านโวยรัฐบาล ขี้เหนียวเปิดซักฟอก ยื่นคำขาดถ้าขออภิปราย 5 วันไม่ได้ ก็ไม่ต้องนัดวิป 3 ฝ่ายเจรจา ปล่อยให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ ‘ธรรมนัส’ ลั่น ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย โหวตคว่ำรัฐมนตรีทุจริต กดดัน ‘ประยุทธ์’ ต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบด้วย แต่ยังอุ้ม ‘บิ๊กป้อม’ เหมือนเดิม พปชร. เสริมทีมปราบมาร งัดตำราพิชัยสงครามสู้ศึก ‘บิ๊กตู่’ ลงพื้นที่เชียงใหม่ ตำรวจตรึงกำลังเข้มกว่า 2,000 นาย เจอกลุ่มเสื้อแดงตามชูป้ายไล่ตั้งแต่สนามบิน ประชันกลุ่มแฟนคลับแห่มาให้กำลังใจพรึ่บ ย้ำทำงานให้คนทุกจังหวัด แม้จะรักนายกฯ หรือไม่ก็ตาม

ไล่นายกฯ – กลุ่มชาวบ้านรวมตัวชูป้ายขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขณะเดินทางมาเปิดงาน FIT EXPO 2022 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่หลายพันนายดูแลสถานการณ์ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.

‘บิ๊กตู่’ไปเชียงใหม่-ตร.พรึบ-ม็อบป่วน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. ที่ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อม นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และนาย สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกเดินทางมายังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจราชการ ติดตามงานตามนโยบาย

การลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด อีกทั้งมีการปิดลับกำหนดงานและภารกิจต่างๆ แต่ทันทีที่คณะนายกฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 ซึ่งเป็นสถานที่ปิดบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ด้านหน้ายังมีกลุ่ม ต่อต้านที่ใช้ชื่อว่า “เกียรติ ลำปาง” มาชูป้ายประท้วงข้อความว่า “ฮาจังคิง! บ่าง่าว ประยุทธ์” “ปล่อยลูกหลานเฮา บ่า ประยวยหัวคุด” พร้อมประกาศผ่านเพจว่า “มาต้อนรับ-ขับไล่ ประยุทธ์! ที่สนามบินนานาชาติ จ.เชียงใหม่ ครับ วันนี้ตามไล่ทั้งวันแน่นอนครับ”

มีรายงานว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้ ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันถึง 2,120 นาย ซึ่งนอกจากตำรวจพื้นที่แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่คฝ.จากลำพูน ลำปาง บก.สส.ภ.5 อีโอดี และและสันติบาล

แฟนคลับก็มาให้กำลังใจ
เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ตรวจเยี่ยมโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่ประตูระบายน้ำแม่ตะมาน ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จากนั้นพบปะทักทายประชาชนและกลุ่มเกษตรกรศูนย์ข้าวชุมชนที่มาต้อนรับให้กำลังใจ พร้อมชูป้ายขนาดใหญ่ข้อความว่า “รัฐบาลและชาวนาคือครอบครัวเดียวกัน ขอบคุณลุงตู่ วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” “ชาวเชียงใหม่ยินดีต้อนรับ”

ขณะเดียวกัน มีหญิงวัยกลางคนสวม เสื้อยืดโปโลสีขาวสกรีนข้อความ #รวมไทยสร้างชาติด้วยคนไทยทุกคน บนข้อความ เป็นภาพสกรีนการ์ตูนนายกฯ และรูปหัวใจ #ลุงตู่ FC กองหนุนลุงตู่ พร้อมนำภาพวาด นายกฯ ร่วมเซลฟี่กับเยาวชนมามอบให้ พล.อ. ประยุทธ์เป็นที่ระลึก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองขั้นสูงสุด

กำลังใจ – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ ระหว่างเข้านมัสการพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ (ธรรมยุต) ที่วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.

เวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางไปยังวัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง ต.แม่ริมใต้ อ.แม่ริม ถวายสักการะและเครื่องกัปปิยภัณฑ์แด่พระราชวิสุทธิญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งได้อนุโมทนาให้พรและสนทนาธรรมกับนายกฯ และคณะ พร้อม กันนี้ นายกฯ น้อมถวายกัปปิยภัณฑ์ แด่พระครูวิบูลธรรมกิจ (บัวเกตุ ปทุมสิโร) เจ้าอาวาสวัดป่าปางกึ๊ดกิตติธรรม ต.อินทขิล อ.แม่แตง ซึ่งได้พักฟื้นอาการอาพาธอยู่ภายในวัดป่าดาราภิรมย์ จากนั้น เข้ากราบนมัสการพระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว และเยี่ยมชมปูชนียวัตถุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจัดแสดงไว้ภายในหอแก้วชั้นบน

เสื้อแดงตามชูป้ายขับไล่
ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานในพิธีเปิด FTI EXPO 2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES FOR STRONGER THAILAND ซึ่งงานมีไปจถึงวันที่ 3 ก.ค. โดย มีกลุ่มเห็นต่างประมาณ 20 คน มาปักหลัก ชูป้ายต่อต้านด้านหน้าศูนย์ พร้อมป้ายข้อความ “อยู่ 8 ปี อนาคตไม่มี ลาออกไป” “อนาคตไม่มี หนี้สาธารณะ” “ลุงตู่ กู้ กู้ กู้” และข้อความประชด เช่น “อยู่ยาวไป 7 ชั่วโคตร” และลงท้ายด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ขณะที่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรึงกำลังอย่างเข้มงวดสกัดไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่จัดงาน

ขณะที่ บริเวณคันคลองชลประทาน ห่างจากศูนย์ประชุมประมาณ 200 เมตร มีกลุ่มคนเสื้อแดงราว 30 คน มาชูป้ายขับไล่นายกฯ โดยมีกำลังตำรวจกว่า 100 นาย มาสกัดไม่ให้ผู้ชุมนุมไปใกล้ศูนย์ประชุม โดยผู้ชุมนุมชูป้าย 30 นาที ก็แยกย้ายกันกลับ

ส่วนดาบพิชิต ตามูล แกนนำคนเสื้อแดง ที่ประกาศจะมีเซอร์ไพรส์ให้นายกฯ ไม่ได้ มาร่วมชุมนุม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ให้น้องๆ พี่ๆ ป้าๆ ไปชูป้ายขับไล่เป็น เชิงสัญลักษณ์ก็พอ เพราะไปขับไล่อย่างไร นายกฯ ตู่ ก็ไม่ออกอยู่แล้ว อีกอย่างตำรวจมาขอร้องทางตนไม่ให้ไป ตนมาคิดอีกทีอีก ไม่กี่เดือนจะมีเลือกตั้งแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของสภา จึงตัดสินใจไม่นำมวลชนออกไปขับไล่

เปิดงานFTI EXPOฟื้นเชื่อมั่น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังพบกับสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง และจะอยู่ไปอีกนานอาจเป็นพายุขึ้น วันนี้เป็นต้นๆ ของพายุ จึงต้องมาพูดคุยกันให้เข้าใจทั้งรัฐ สมาคมหอการค้าฯ เราต้องจับมือไปด้วยกัน รัฐบาลพยายามขับเคลื่อน พร้อมพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อปลดล็อกให้ภาคธุรกิจเดินต่อไปให้ได้ ขอเปรียบเทียบประเทศไทยเหมือนรถยนต์คันหนึ่งที่พาคนกว่า 70 ล้าน ขับเคลื่อนไปข้างหน้าบนเวทีโลก ทำอย่างไรให้เครื่องยนต์นี้เดินไปให้ได้ไม่หยุด เครื่องยนต์ไม่ติดขัด จึงต้องเตรียมรถให้พร้อม เพื่อพาคนขึ้นรถให้ได้

ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าวันนี้มีวิกฤตต่างๆ จากความขัดแย้งและโควิด-19 ซึ่งเป็นห่วงโซ่กระทบกันหมด แต่ขอให้ดูว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง หลายคนอาจมองทำไมยังไม่ได้รับประโยชน์ แน่นอนความลำบากนายกฯ เจ็บปวดและเห็นใจ อะไรทำได้ก็จะทำให้ด้วยความระมัดระวัง อีกทั้งวันนี้โลกแบ่งหลายขั้ว เราต้องเตรียมการรองรับด้วย ถ้าไม่เตรียมการวันนี้เครื่องยนต์รถคันนี้จะไปไม่ได้ จอดตาย ผู้โดยสารไปไม่ถึงที่หมาย ประเทศไทยไม่พ้นประเทศกับดักรายได้ปานกลาง ซึ่งหลายอย่างกำลังทำ อาจไม่เร็วนักแต่ถ้าเราร่วมมือและเข้าใจกันมันต้องดีกว่าเดิม

เข้าวัด – พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เข้ากราบนมัสการพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ (ธรรมยุต) ที่วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.

ย้ำทำงานให้ทุกจว.-ไม่กอดอำนาจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกระเซ้าว่า “พูดสู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว พูด ไม่ดีจะโดนโห่ด้วย” และว่า ขณะที่วางยุทธศาสตร์ชาติ ยืนยันว่าไม่ใช่รักษาอำนาจไป 20 ปี แต่วางยุทธศาสตร์เพื่อเป็นแผน และกรอบการทำงาน ซึ่งจะเห็นว่าทุกอย่าง เกิดขึ้นมา ทั้งถนน รถไฟฟ้า และอื่นๆ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หวังว่ารถยนต์ประเทศคันนี้ จะวิ่งไปข้างหน้าไม่ถอยหลัง หรือตายอยู่กับที่ ถ้ามันจะต้องตาย จะต้องหยุด คนบนรถจะต้องไปช่วยกันเข็น ให้มันไปให้ได้ พวกเราต้องช่วยกันเข็น ไม่มีอะไรที่ไปได้โดยไม่ร่วมมือกัน หวังอย่างยิ่งว่ารถยนต์ประเทศคันนี้หรือวันนี้ที่ตนพูด จะกลายเป็นยานยนต์แห่งอนาคตที่พาคนไทยทุกคนเดินทางไปสู่เป้าหมายปลายทางที่มีความสุข สำเร็จด้วยความสามัคคีของคนไทยด้วยกัน

สิ่งสำคัญที่สุดคือความรักความสามัคคี ความมีเสถียรภาพ ทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว ตนทำให้ทุกคน ทำให้ทุกจังหวัด ลงแผนงานโครงการให้ทุกจังหวัด จะรักหรือไม่รักตนก็ต้องทำให้ เพราะเป็นหน้าที่ เลิกกันเสียทีเถอะ มันไม่เกิดอะไรขึ้น จะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย

“สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่าไปเฉยๆ เราต้องการเห็นบ้านเมืองก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดี มั่นคง มั่งคั่ง ยังยืนแข่งกับประเทศอื่นได้ เราต้องจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน ความร่วมมือจะนำไปสู่ความแข็งแกร่งกว่าเดิม สัญญาได้หรือไม่ สัญญาต้องเป็นสัญญา ต้องนั่งรถคันเดียวกันไป มันจะเป็นจะตายก็ต้องช่วยกันเข็น ต้องเข็นให้มันวิ่งดีกว่ามีเครื่องยนต์ นั่นคือความเป็นหนึ่งเดียวอนาคตของประเทศไทย ใครจะนำว่าไป แต่สิ่งที่ทำวันนี้ต้องต่อเนื่อง ไม่ใช่ไอ้นั่นไม่ดี ไอ้นี่ไม่ใช่มันไม่ถูก ผมไม่ได้ว่าใคร ว่าตัวเองชอบพูดหาเรื่องแบบนี้แหละ แต่พูดด้วยหัวใจเพื่อ แผ่นดินนี้ของผม เพื่อแผ่นดินนี้” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

อ้อนรักชาวเชียงใหม่ทุกคน
เวลา 14.45 น. พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมชมผลการดำเนินงานพัฒนาทักษะการเขียนชุดคำสั่งหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน (Coding) ให้แก่เยาวชน ที่โรงเรียนวัดเวฬุวัน อ.สารภี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศรองรับการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคตให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการมาลงพื้นที่วันนี้ว่า วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติ แต่รัฐบาลพยายามทำให้ดีที่สุด ช่วงนี้ขอให้ช่วยกันไปก่อน ที่ผ่านมารัฐบาลใช้งบไปมากพอสมควร วันนี้ตนไปหลายภารกิจ ก็พูดทั้งวัน ซึ่งตนรักชาวเชียงใหม่ทุกคน ทุกครั้งที่มาหรือไม่มา ตนไม่เคยทิ้งเชียงใหม่เลย ดูได้จากงบที่ผ่านมาก็ให้เชียงใหม่ ยืนยันตนไม่ใช่ศัตรูใครทั้งสิ้น วันนี้ขอให้รักกัน ปรับนิดหน่อยเพื่อไปสู่วันที่ดีกว่า บ้านเมืองอยู่ได้เพราะเรา ไม่ใช่เพราะนายกฯ ถ้าใครทำให้บ้านเมืองเสียหายนี่ถือเป็นกรรมเขา ตนไม่ไปโกรธเขา ไม่จำเป็นต้องรักนายกฯ รักกันเองนี่แหละ ตนจะทำให้เต็มที่

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมชมโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหา ยาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติของอำเภอสารภี ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติและชุมชนท้องถิ่น และเวลา เวลา 17.00 น. เยี่ยมชมการพลิกโฉมเทศบาลด้วย Digital Transformation Municipality ที่เทศบาลเมืองแม่เหียะ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ และเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีโปรแกรมลงพื้นที่ครั้งต่อไปที่ จ.กำแพงเพชร แต่ยังไม่ระบุวันชัดเจน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ของพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.)ที่มี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นหัวหน้า และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค เป็นเจ้าของพื้นที่

‘ชัยวุฒิ’โต้ลอกนโยบายเพื่อไทย
ที่จ.เชียงใหม่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษ์ถึงการลงพื้นที่ทำกิจกรรม จ.เชียงใหม่ ทั้งของกระทรวงดีอีเอสและของพล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวหาว่าเป็นการลอกนโยบายพรรคเพื่อไทย ว่า วันนี้เรามาทำงาน รัฐบาลต้องดูแลคนไทยทุกจังหวัดทั้งประเทศ มีโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลทำไว้ก็จำเป็นต้องมาติดตามงานวันนี้ ถือเป็นเรื่องการทำงาน อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องของการเมือง

เมื่อถามกรณีพรรคพลังประชารัฐเดินสายจัดโรดโชว์เพราะคะแนนนิยมตกหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมด้านการเมือง ไม่ค่อยได้ออกพื้นที่จัดกิจกรรม เหลือเวลาอีก 8-9 เดือน จะครบเทอมเราก็ต้องทำกิจกรรมทางการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติ วันนี้ก็ทำกันทุกพรรค

ฝ่ายค้านโวยรบ.ขี้เหนียวเวลา
ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 มิ.ย. คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ทำหนังสือแจ้งกลับมายังสภาอย่างเป็นทางการแล้วว่าพร้อมจะให้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 โดยในเร็ววันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการประสาน(วิป) 3 ฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาลและครม. โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับกรอบเวลาการอภิปราย

เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกำหนดวันอภิปราย คาดว่าไม่สัปดาห์นี้ก็สัปดาห์หน้าจะมีการนัดหมายเพื่อหารือ ฝ่ายค้านฝากบอกรัฐบาลคือ ถ้ารัฐบาลขี้เหนียวเวลาในการอภิปรายก็มองได้ว่า 1.ฝ่ายรัฐบาล พยายามด้อยค่าการตรวจสอบให้ไม่มีประสิทธิภาพ โดยการลดเวลาการอภิปรายให้สั้นที่สุด และ 2.ฝ่ายรัฐบาลหวาดกลัวการอภิปราย เห็นได้จากการบีบเวลาให้เหลือน้อยที่สุดและการตั้งองครักษ์ถึง 2 ชุด

การที่เราขออภิปราย 5 วันและอีก 1 วันเป็นการลงมตินั้น รัฐบาลกลับบอกให้ 3-4 วันก็ไม่จำเป็นที่ต้องเจรจากันอีก และไม่ต้องให้ประธานนัดคุยกันให้เสียเวลา ขอให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาจะดีกว่า ที่กำหนดไว้ว่าต้องอธิปรายให้ครบจำนวนรัฐมนตรีที่ได้ยื่นไป ซึ่งครั้งนี้คือ 11 คน ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถปิดการอภิปรายได้ ข้อบังคับยังเขียนป้องกันไว้อย่างครอบคลุมว่าห้ามอภิปรายพร่ำเพรื่อ กินเวลาและซ้ำซ้อน

‘ธนกร’สวนกลับทันควัน
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้นายสุทินว่า ฝ่ายค้านควรทำความเข้าใจว่า การ ขี้เหนียวเวลา กับใช้เวลาอย่างสิ้นเปลือง ความหมายแตกต่างกันมาก ที่ผ่านมารัฐบาลให้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ทุกครั้ง แต่ฝ่ายค้านเองใช้เวลาสิ้นเปลืองกับการประดิษฐ์วาทกรรมเสียดสี โดยที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ฝ่ายค้านพูดตลอดเวลาว่ามีไม้เด็ด แต่พอ เอาจริงคนที่อภิปรายกลับถูกรัฐบาลเด็ดทิ้ง กลางสภา

หากรัฐบาลด้อยค่าการตรวจสอบคงไม่ได้อภิปรายหลายวันอย่างที่ต้องการ และหากกลัวคงไม่ยก ครม. ไปชี้แจงด้วยตัวเองที่สภา ทุกวัน การที่ฝ่ายค้านบอกว่า ไม่จำเป็นต้องเจรจาอีก และไม่ต้องให้ประธานสภา นัดคุยให้เสียเวลา ให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภานั้น เป็นการเผยให้เห็นว่าที่อภิปรายนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 11 คน เป็นเรื่องเกมการเมือง หวังหาเสียงล่วงหน้าให้ตัวเองหรือไม่ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงหรือหลักฐานใดๆ เพราะถ้ามีไม้เด็ดจริงคงโป้งเดียวจอดไปแล้ว ไม่เงื้อง่าราคาแพงให้เสียเวลาอยู่แบบนี้ ตนเชื่อว่าประชาชนดูออก หากฝ่ายค้านอภิปรายพร่ำเพรื่อ สิ้นเปลืองเวลา เนื้อหาซ้ำซ้อน

‘ผู้กอง’ขู่คว่ำรมต.ทุจริต-อุ้ม‘ป้อม’
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ตนและส.ส.ทำการบ้านมา รัฐมนตรีหลายคน น่าเป็นห่วงในเนื้อหาสาระสำคัญ บางคนจะตอบโต้อย่างไรก็ลำบากเพราะเรื่องทุจริต การบริหารราชการแผ่นดินบกพร่องจนประเทศเสียหาย และประเด็นจริยธรรม มีความสำคัญมาก ถ้าพรรคเศรษฐกิจไทยยังสนับสนุนคนเหล่านี้ เชื่อว่าสมัยหน้าประชาชนจะไม่เลือก ส่วนใบเสร็จหรือเอกสารยังไม่เห็น แต่ได้คุยกับ ส.ส.หลายคนแล้วเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ พรรคเศรษฐกิจไทยไม่ฝืนความรู้สึกประชาชน

“ผมตัดสินใจไปแล้วและสมาชิกพรรคก็ตามผม แต่ไม่ใช่ตามเพราะคำสั่ง ตามเพราะเหตุผล ผมเห็นหลักฐานหลายอย่างในการทุจริตของรัฐบาล หากพรรคยังไปสนับสนุนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเหล่านี้ สมัยหน้าประชาชนจะไม่เลือกเรา เสียงสะท้อนจากประชาชนที่ลำปาง เขารับไม่ได้จากพฤติกรรมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรีหลายคน” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงมติให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เป็นรองนายกฯ คนเดียวที่ไม่มีกระทรวง หรือหน่วยงานราชการเป็นของตัวเอง จะไปอภิปรายเรื่องอะไร ถ้าจะเอาเรื่องเก่ามาพูดตนไม่เห็นด้วย เพราะโดนอภิปรายมาทุกสมัยแล้ว

ต่อข้อถามว่า ฝ่ายค้านจะอภิปรายการบริหารจัดการน้ำ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในฐานะที่ตนทำเรื่องบริหารจัดการน้ำมาตลอดตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี ติดตามพล.อ.ประวิตรมาตลอด พล.อ.ประวิตร ใส่ใจเรื่องน้ำ ลงพื้นที่ก็ได้รับตอบสนองอย่างดีจากประชาชน ที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันมีการทุจริตในกรมทรัพยากรน้ำนั้น กรมดังกล่าวเป็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เจ้ากระทรวงต้อง รับผิดชอบ ขณะที่พล.อ.ประวิตร เป็นรอง นายกฯ ไม่ได้กำกับดูแล

จี้‘บิ๊กตู่’ลาออกตามรัฐมนตรี
ส่วนการโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ในส่วนของนายกฯ ขณะนี้ตนยังไม่เห็นสาระในการอภิปราย แต่ พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หากรัฐมนตรีหลายรายโดนสอย หรือเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แม้นายกฯ จะยังอยู่ในหน้าที่ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหมายความว่าหากรัฐมนตรีหลายรายถูกโหวตไม่ไว้วางใจ ก็เป็นไปได้ที่จะโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ ด้วย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า รัฐบาลอาจมั่นใจว่าเสียงส่วนใหญ่ยังสนับสนุนในสภา แต่การบริหารราชการแผ่นดินหากได้รับเสียงสนับสนุน ในสภาน้อย ก็ควรพิจารณาตัวเอง ต่อข้อถามว่า อาจไม่ต้องรอผลโหวต แต่ควรพิจารณาตัวเองเลย ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า หากเป็นตน ถ้าได้ที่โหล่อย่างนั้นคงจะไป

เมื่อถามว่าหมายถึงลาออกใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ต้องดูว่าขณะนี้บ้านเมืองเป็นอย่างไร รัฐมนตรีอาจมองว่าทำ ผลงานสำเร็จมากมาย แต่การกระทำของพวกคุณประชาชนได้ประโยชน์อะไรบ้าง เขาเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ดังนั้น อย่านั่งในห้องแอร์แล้วมโนเองว่าบริหารบ้านเมืองสำเร็จ ทำอะไรเยอะแยะมันไม่ใช่

พปชร.งัดตำราพิชัยสงครามสู้
นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งทีมปราบมาร เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยไม่มีชื่อตนเองอยู่ด้วย ว่า เดิมไม่มีชื่อตนอยู่ในทีมจริง แต่ได้พูดคุยภายใน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลัง ประชารัฐ จึงได้แต่งตั้งตนเป็นหนึ่งในทีม เพื่อตรวจสอบการอภิปรายของฝ่ายค้านว่าอภิปรายนอกกรอบหรือไม่ ตนขอเรียกว่า เป็นสงครามครั้งสุดท้าย เมื่อฝ่ายค้านมีหลักว่าจะล้มรัฐบาลในการสอยนั่งร้านคือพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตนจะใช้ “ตำราพิชัยสงคราม” โดย มีตนเป็นทัพหน้า พรรคประชาธิปัตย์เป็น ปีกซ้าย พรรคภูมิใจไทยเป็นปีกขวา

ขณะที่นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เป็นทัพหลวง และมี นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เป็นทัพหลัง เพื่อคอยระวังหลังไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือล่วงล้ำไปเรื่องส่วนตัว ใส่ร้ายป้ายสี พูดจาวกวนซ้ำซาก เราอยากฟังฝ่ายค้านอภิปรายในหลักการว่ารัฐบาลบริหารประเทศมา 3 ปีกว่า รัฐบาล ไม่ดีตรงไหน ทุจริตตรงไหน บริหารประเทศไม่ก้าวหน้าอย่างไร ไม่ใช่เหมือนที่ผ่านมาที่ฝ่ายค้านประกาศว่ามีหมัดเด็ด แต่ก็มีแค่หมัดแย็บ ขี่ม้าเลียบค่ายอยู่ตลอดเวลา

โวผลงานรัฐบาลเพียบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านตั้งเป้าว่าการอภิปรายครั้งสุดท้ายนี้ ถ้าล้มนายกฯ และรัฐมนตรีในสภาไม่ได้จะไปล้มในสนาม เลือกตั้ง นายสายัณห์กล่าวว่า ฝ่ายค้านก็พูดไปอย่างนั้น อยากเอาเรื่องที่อภิปรายในสภาไปขยายผลข้างนอกตามสื่อโซเชี่ยล แต่ความจริงก็คือความจริง รัฐบาลมีผลงานอย่างการแก้ไขปัญหาโควิด-19 รัฐบาลต่างชาติก็ให้ความชื่นชมโดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ นายกฯ ไปสหรัฐ นายโจ ไบเดน ประธานา ธิบดีสหรัฐ ขอร้องนายกฯ ประเทศไทยว่า ช่วยฟื้นฟูสหรัฐหน่อย นั่นคือความภูมิใจ ของรัฐบาลเหมือนกัน และเมื่อเช้าตนเห็น ข่าวว่า นายกฯ ประเทศไทยเป็นนายกฯ อันดับ 1 ของโลก ซึ่งตนภาคภูมิใจ นายกฯ จะนำไปชี้แจงในสภาด้วย

“ไม่อยากให้ฝ่ายค้านมาหลอกด่า รัฐบาล นายกฯ และรัฐมนตรีเฉยๆ แบบตีหัวเข้าบ้าน ไม่อยากให้มีประเภทตีหัวเสร็จแล้วนั่งลง และการประท้วงจะไม่ใช่นาทีต่อนาที ถ้าเล็กๆ น้อยๆ จะปล่อยไป เพราะผ่านมา 3 ปีแล้ว ส.ส.รัฐบาลก็มีวุฒิภาวะอยู่บ้าง และอยากฝากถึงฝ่ายค้านก่อนการอภิปรายว่า ขอให้ไปหาข้อมูลเยอะๆ อย่าโม้เยอะ หาข้อมูลให้ได้เยอะก่อนค่อยมาพูด ไม่ใช่ข้อมูลเต็มกระเป๋าแต่ เปิดออกมาไม่มีอะไร เดี๋ยวจะอายประชาชนทั้งประเทศ” นายสายัณห์กล่าว

เผย‘บิ๊กป้อม’ไม่ปิดทางสูตร 500
ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 28 มิ.ย. นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน เป็นตัวแทนกลุ่มพรรคเล็ก เข้ายื่นหนังสือต่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อขอความชัดเจนเรื่องเนื้อหาสาระในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ว่าจะมีการคำนวณสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างไร ซึ่งพรรคเล็กเห็นว่าควรใช้การคำนวณหาร 500 พล.อ. ประวิตร ให้คำตอบว่าไม่มีปัญหาว่าจะหาร 500 หรือหาร 100 ขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลที่จะไปพูดคุยกัน

ช่วง 5-6 ก.ค.นี้ ร่างพ.ร.ป.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับ จะเข้าสู่วาระพิจารณาของรัฐสภา กลุ่มพรรคเล็กยืนยันจะอภิปรายด้วยเหตุผล ตนจะเป็นคนแรก และ ส.ส. ส.ว.คนอื่นจะช่วยอภิปรายเสริม เช่น นายปรีดา นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พลังท้องถิ่นไท และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นต้น ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอดู ตอนนี้ทุกคนเห็นว่าหาร 500 ถูกตอกฝาโลงแล้ว แต่ตนคิดว่าถ้ายังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เปิดฝาโลงมาอาจไม่ใช่พรรคเล็กก็ได้ แต่ไม่ว่าฝั่งไหนชนะ เชื่อว่าเรื่องจะถึงศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ขณะนี้ ส.ว.กว่า ร้อยละ 80 เห็นด้วยกับการหารด้วย 500 หลังส.ว.หลายคนพิจารณาแล้วเห็นว่าการหารด้วย 100 จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ พรรคเล็กในสภา และนอกสภาจะช่วยกันอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชนและพรรคเล็ก

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเสนอหาร 500 เป็นเกมดักแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ. ระวีกล่าวว่า ต่อให้หาร 100 บางทีแลนด์สไลด์ก็เป็นความฝัน แต่ถ้าหาร 500 เปิดฝาโลงมาอาจไม่ใช่พรรคเล็ก แต่เป็นพรรคใหญ่ก็ได้ ส่วนกรณี ส.ส.บางคนโพสต์ว่าพรรคเล็ก ต่อรองเรื่องการหาร 500 หากพล.อ.ประวิตร ไม่ยอมจะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นพ.ระวี ระบุว่า ไม่เป็นความจริง

พท.ไร้กังวลดับฝันแลนด์สไลด์
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค เพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันใช้สูตรหาร 100 ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ส่วนแนวคิดการหาร 500 นั้นเชื่อว่าขัดรัฐธรรมนูญและจะมีปัญหาในการปฏิบัติ ทางเดียวคือ ต้องใช้สูตรหาร 100 ผู้สื่อข่าวถามว่าการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะละเมิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ทุกคะแนนมีความหมายหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) มีการคุยเรื่องนี้เช่นกันและได้แก้ไขไม่ให้มีคะแนนขั้นต่ำเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีคะแนนเสียงที่ถูกทิ้ง เพราะ ทุกคะแนนต้องนำมาคำนวณ

เมื่อถามว่าถ้าเป็นสูตรหาร 500 จะดับฝันพรรคเพื่อไทยที่ต้องการแลนด์สไลด์หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ไม่ว่าจะสูตรใดก็ไม่กังวล แต่ที่เสนอให้หาร 100 เพราะต้องการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนปัญหาที่ในรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้มี ส.ส.พึงมีอยู่นั้น ต้องยอมรับว่ายังมีอยู่จริงๆ แต่ปัญหาคือ จะคิดคำนวณส.ส.พึงมีอย่างไร เพราะในรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 กำหนดให้วิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง

‘ชวน’อาการดีขึ้น-รักษาในรพ.ต่อ
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 10.45 น. ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงอาการป่วยของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยอาการไข้ หนาวสั่น ว่า ขณะที่ช่วงเย็นวันที่ 28 มิ.ย. นายชวนกำลังเชิญผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยถึงเรื่องการประชุมสภาวันที่ 29 มิ.ย. นายชวนเกิดมีไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว ตนในฐานะหมอ เมื่อเห็นอาการก็ทราบเพราะนายชวนเกิดอาการเช่นนี้หลายครั้งแล้ว นายชวนได้โทรศัพท์ไปปรึกษาแพทย์ประจำตัว และเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อไปถึงได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR แต่ไม่พบเชื้อ

“ผมได้ไปเยี่ยมนายชวนช่วงเช้าวันที่ 29 มิ.ย. พบว่าอาการโดยรวมดีขึ้นมาก สดชื่น แจ่มใส และจากการตรวจของแพทย์เมื่อเวลา 10.00 น. ไม่พบว่ามีไข้แล้ว ความดันเลือดและออกซิเจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนอาการอื่นๆ ต้องรอการวินิจฉัยของแพทย์อีกครั้งว่าป่วยมาจาก สาเหตุใด หมอยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล นายชวนฝากขอบคุณทุกคนและทุกฝ่ายที่แสดงความห่วงใยมาด้วย” นพ.สุกิจกล่าว

นพ.สุกิจกล่าวว่า สำหรับการประชุมสภาสัปดาห์นี้ นายชวนเป็นห่วงมาก ตนจึงเรียนไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะการประชุมจะดำเนินไปตามระเบียบวาระ โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ และนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทนอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน