จับตาหลัง7กค. ปม‘ซักฟอก-8ปี’ก้าวไกลจัด4ทีมเล็งเป้าเด็ด‘3ป.’

โหรวันชัยฟันธง ‘รัฐบาลตู่’ อยู่ไม่ครบเทอม เตือน 7 ก.ค. ดาวมฤตยูย้ายสะเทือนทั้งแผ่นดิน เกิดเรื่องร้อนทั้งในและนอกสภา ชี้ศึกซักฟอก -ปมวาระนายกฯ 8 ปี ทำรัฐบาลสะดุดก่อนจัด เอเปก วิปรัฐบาล-วิปฝ่ายค้านเห็นตรง ร่างพ.ร.บ.ตำรวจไม่กระทบพิจารณาร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง คาดทั้ง 2 ฉบับถกจบ 6 ก.ค. ‘สุทิน’ รับสูตรปาร์ตี้ลิสต์มีโอกาสพลิก หารด้วย 500 วิป 2 ฝ่ายนัดหารือวันพุธนี้ สรุปจำนวนวันซักฟอก ก้าวไกลจัด 4 ทีมสู้ศึก แย้มชำแหละปมพม่ารุกล้ำน่านฟ้าไทยด้วย กมธ.พรรคก้าวไกล จ้องถลกงบซื้ออาวุธ มึนเอกสารขาวคาดแดงไม่แจกแจงรายละเอียด

ส.ว.ฟันธง‘ตู่’อยู่ไม่ครบเทอม
วันที่ 2 ก.ค. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “6 เดือนของรัฐบาลกับดาวมฤตยู” ว่า “นับแต่นี้ไปถึงสิ้นปี แค่ 6 เดือนเท่านั้นเร็วมาก เผลอแป๊บเดียวมันก็ถึงแล้ว ต่อแต่นี้เป็นเรื่องร้อนแรงทั้งในสภาและนอกสภา มีเวลาเหลืออยู่ไม่นาน จะรักหรือจะเกลียดรัฐบาลนี้เขาก็มีเวลาเหลืออยู่แค่นี้เท่านั้น และดูจากสถานการณ์ทางการเมือง ทั้งข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งมฤตยูย้ายวันที่ 7 ก.ค.นี้ ยังไงๆ รัฐบาลนี้ก็อยู่ไม่ครบวาระแน่นอน

การจะอยู่หรือไปก็เป็นเหตุผลทางการเมืองทั้งนั้น และนักการเมืองไม่ว่าจะซีกรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมองถึงการเลือกตั้งและอำนาจข้างหน้ากันทั้งนั้น เศษๆ เลยๆ ของอำนาจที่เหลืออยู่ในขณะนี้มันก็แค่อึดใจเดียว” นายวันชัย ระบุ

มฤตยูย้ายสะเทือนทั้งแผ่นดิน
นายวันชัย ระบุ ผู้มีอำนาจบางคนเคยบอกว่าหลังประชุม APEC 18-19 พ.ย.แล้วค่อยยุบสภาจะเป็นเวลาที่เหมาะที่สุด แต่ก่อนไปถึงตรงนั้น อภิปรายไม่ไว้วางใจในปลายเดือนนี้มีแนวโน้มว่าจะมีไพร่พลบาดเจ็บล้มตายกันบ้าง ส่งผลให้เกิดแรงกระแทกกระทบไปถึงองคาพยพของผู้มีอำนาจ 24 ส.ค. 65 นายกฯดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีก็มีประเด็นใหญ่ ไม่ควรมองข้ามดวงชะตาฟ้ากำหนด คนบางคนไม่เคยคิดจะมาก็ต้องมา ไม่เคยคิดจะไปก็ต้องไป จากนั้น ก.ย.ถึงพ.ย.ก็แค่พรรษาเดียว

เวลามันช่างสั้นจริงๆ อย่าคิดอะไรกันมากเลย 3 เดือนกับ 6 เดือนมันไม่ต่างอะไรกันมาก มฤตยูย้ายวันที่ 7 ก.ค.สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งแผ่นดิน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ อย่าประมาทก็แล้วกัน อย่างนี้นี่แหละวัดไก่เตี้ยเขตตลิ่งชัน จึงได้ทำพิธีสวดนพเคราะห์ใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับสาธุชนคนทั่วไปในวันที่ 9 ก.ค. เวลา 18.00 น. ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มาเป็นประธาน นักการเมืองก็มาได้ และใครจะอยู่สั้นอยู่ยาวต้องมาร่วมพิธีนี้ มฤตยูก็มฤตยูเถอะเจอะพิธีนพเคราะห์ของวัดไก่เตี้ย ร่มเย็นเป็นสุขแน่นอน

วิปรัฐวอนผ่านร่างพรบ.ตำรวจ
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวกรณีร่างพ.ร.บ.ตำรวจ มีปัญหาถกเถียงจนทำให้การพิจารณายังไม่จบว่า การพิจารณามาถึงมาตรา 169/1 ถือว่ายังไม่ผ่าน ก็ต้องไปพิจารณาในการประชุมร่วมรัฐสภา 5 ก.ค.ต่อไป เพราะจะไปเสนอญัตติอื่นเข้ามาไม่ได้ เนื่องจากต้องนำร่างพ.ร.บ.ตำรวจ มาพิจารณาให้จบทั้ง 172 มาตรา

เรื่องนี้ตนได้หาทางออกให้แล้ว โดยนำเสนอต่อประธานในที่ประชุมรัฐสภาไว้แล้วว่าแม้ กมธ.วิสามัญจะไปประชุมใหม่ก็คงไม่มีอำนาจไปเปลี่ยนแปลงแก้ไข และสงวนความเห็นของกมธ.ได้แล้ว มีทางเดียวต้องใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 108 และ 96 ให้รัฐสภามีมติอย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งสามารถนำข้อเสนอของ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผบ.ตร. ในฐานะกมธ.มาให้สภาพิจารณาได้ และให้อภิปรายนำเสนอได้หรือไม่ หากอนุญาตสภาก็ต้องมีมติต่อไป แนวโน้มน่าจะเป็นไปในทิศทางนี้ จึงอยากเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อให้กฎหมายปฏิรูป คือร่างพ.ร.บ.ตำรวจ ผ่านการพิจารณาทันในสมัยประชุมนี้ไป

ขยายวันถก-ไม่กระทบ 2 กม.ลูก
เมื่อถามว่าร่างพ.ร.บ.ตำรวจ ที่ต้องไปพิจารณาต่อวันที่ 5 ก.ค.จะกระทบร่างพ.ร.ป.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับ นายชินวรณ์กล่าวว่า ไม่กระทบ เพราะเมื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจ เสร็จ ก็ต่อร่างพ.ร.ป.ได้เลย เวลาที่เหลือน่าจะพิจารณาร่างพ.ร.ป.แล้วเสร็จ เพราะเมื่อดูประเด็นการแปรญัตติและสงวนความเห็นแล้ว มีเพียง 2 ประเด็น คือ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เกี่ยวกับการคำนวณบัญชีรายชื่อ จะให้ใช้ 100 หรือ 500 หาร และในร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ประเด็นการทำไพรมารีโหวต ดังนั้นทั้ง 2 ฉบับ ก็น่าจะพิจารณาเสร็จในวันที่ 6 ก.ค.นี้

เรนวูดรัน – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมกิจกรรมวิ่ง ‘เรนวูด รัน 2022’ จัดโดยนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรัฐมนตรี มีนักวิ่งกว่า 1,000 คนลงแข่งขัน ที่โครงการเรนวูด ปาร์ค คลอง 11 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 ก.ค.

วิปค้านเชื่อกม.ลูกเสร็จ6ก.ค.
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์กรณีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจสะดุด จะกระทบกฎหมายลูกหรือไม่ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจาก 5-6 ก.ค. จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีวาระพิจารณาร่างพ.ร.ป.อยู่แล้ว 5 ก.ค.เราจะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจให้เสร็จก่อน จากนั้นพิจารณาร่างพ.ร.ป.ต่อ

“หากคาดการณ์ดูแล้วก็คงไม่กระทบต่อกฎหมายลูก และกฎหมายลูกคงใช้เวลาไม่มาก คงเสร็จทันภายใน 6 ก.ค. ส่วนร่างพ.ร.บ.ตำรวจ ควรเสร็จภายในครึ่งวัน ทั้งนี้ หากร่างพ.ร.บ.ตำรวจฯ จะกระทบกับกฎหมายลูก อย่างน้อยก็ได้พิจารณา 1 ฉบับคือกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ซึ่งหากจำเป็นจริงๆ ก็ต่อกฎหมายพรรคการเมืองในสัปดาห์ถัดไป” นายสุทินกล่าว

สูตรปาร์ตี้ลิสต์มีโอกาสพลิก
เมื่อถามว่า แนวโน้มการพิจารณาร่างพ.ร.ป.จะเป็นอย่างไร นายสุทินกล่าวว่า คง จะเป็นการถกประเด็นการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 และ 500 ที่จะใช้เวลานาน ขณะนี้ยังมีเสียงก้ำกึ่งอยู่ แต่ค่อนข้างเยอะก็จะเป็นการหารด้วย 100 เพราะอธิบายง่ายกว่าและสอดคล้องรัฐธรรมนูญมากกว่า มีเหตุผลสนับสนุนได้มากกว่า

เมื่อถามว่า มองว่าจะสามารถพลิกกลับไปใช้หารด้วย 500 ได้หรือไม่ หากมีบางพรรคกังวลว่าการหารด้วย 100 จะเอื้อ พท.ชนะแลนด์สไลด์ นายสุทินกล่าวว่า หากเขาเอาเหตุผลความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ก็มีสิทธิ แต่หากเขาเอาเหตุผลหลักกฎหมาย มองระยะไกล มองระบบการเมืองก็จะมีโอกาสพลิกยาก อยู่ที่การพิจารณาหรือการตัดสินใจจะเอาเหตุผลใดเป็นฐานคิด คนในสภาจะไป คิดแต่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบอย่างเดียว จะไปอธิบายกับคนในสังคมอย่างไร

โรมหวั่นซ้ำรอยตั๋วตำรวจ
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจที่สะดุดจนต้องปิดประชุม ว่า มันเละเทะมาก คนที่เสนอให้แก้มาตรา 169/1 ที่จริงแล้วไม่สามารถทำได้ในขั้นตอนสภา ถึงอยากทำก็ไม่สมควร กฎหมายนี้ควรเสร็จได้แล้วจะได้ไปต่อกฎหมายอื่น ยิ่งไปปรับแก้เพิ่มก็จะทำให้กฎหมายนี้ล่าช้าไปอีก ผู้ชี้ระบุสิ่งที่เขียนในเชิงปฏิบัติไม่สามารถทำได้ การจัดตั๋ว การจัดโผตำรวจต่างๆ รู้กันอยู่แล้วว่ากฎหมายใหม่กำลังจะออกไปในทิศทางแบบไหน ข้ออ้างบอกว่าทำไม่ได้ เป็นการพูดลอยๆ โดยไม่มีหลักฐาน ได้ยินว่ามีความพยายามช่วยใครบางคนที่อาจได้ตั๋วพิเศษ ตั๋วระดับใหญ่ในการเลื่อนขั้นสูงขึ้น กรณีนี้อาจซ้ำรอยการอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องตั๋วตำรวจ กฎหมายฉบับนี้มีบางมาตราที่กำลังอุด เรื่องนี้ ถ้าเขียนตามที่เสนอใหม่โดย พล.ต.อ.ปิยะจะทำให้วงการตำรวจกลับไปอยู่สภาพเดิม

เมื่อถามว่ากรณีนี้เป็นการถ่วงเวลาการพิจารณากฎหมายเลือกตั้ง นายรังสิมันต์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความตั้งใจยื้อและทำสำเร็จแล้ว แต่ประเด็นคือรอบนี้จับสัญญาณได้คงตั้งใจอยากให้การพิจารณากฎหมายตำรวจเสร็จสิ้น และมีบางคนขอบางอย่างเข้ามา ทำให้กระบวนการล่าช้าไปอีก สมประโยชน์กับบางฝ่ายที่ไม่อยากให้กฎหมายเลือกตั้งผ่านเร็ว เพราะถ้าประวิงเวลาได้เพิ่มอีกก็ไม่เสียหายอะไร เชื่อมั่นว่าสุดท้ายการพิจารณากฎหมายเลือกตั้งก็ต้องเลื่อนไปอีก

รัฐบาลยัน4วันเพียงพอ
นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ครม.มีความพร้อมตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.เป็นเป็นต้นไป และอาจลงมติ 23 ก.ค. ส่วนฝ่ายค้านยืนยันขอ 5 วัน ว่า จะนำเรื่องหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 4 ก.ค.นี้ เพื่อเป็นมติ ก่อนนำเข้าพิจารณาในการประชุมร่วม 3 ฝ่าย วิปรัฐบาล ตัวแทนครม.คือนายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ในฐานะที่ปรึกษาวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ในวันที่ 6 ก.ค.นี้ เพื่อสรุปให้ชัดเจน

ส่วนที่ฝ่ายค้านยืนยันขอเวลา 5 วัน ก็ว่ากันไป ได้คืบจะเอาศอก ตามที่ครม.มีข้อสังเกตเรื่องวันน่าเหมาะสมที่สุด เพราะเท่าที่ดูยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรจะอภิปราย หลายครั้งคนอภิปรายที่รอคิวมาแล้วก็กลับ ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ วิปรัฐบาลพร้อม รัฐบาลและครม.ก็พร้อม โดยจะตั้งวอร์รูมร่วมกันเพื่อดูว่ารัฐมนตรีแต่ละพรรคตอบอะไรตกค้าง เพื่อจะส่งคนเข้ามาให้รายละเอียดข้อมูลต่อไป

ยัน 6 ก.ค.ได้ข้อสรุปวันซักฟอก
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณีที่วิปรัฐบาลยืนยันให้ซักฟอกแค่ 4 วันว่า ตนมีโอกาสคุยกับนายนิโรธ ยังไม่ได้ฟันธงว่าจะให้เพียง 4 วัน ยังอยู่ในกระบวนการพูดคุยและประสานงานกัน เบื้องต้นจะนัดประชุมวิปทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเป็นทางการ 6 ก.ค. น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน จุดยืนของฝ่ายค้านไม่ได้อยู่ที่จำนวนวัน แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่คิดว่าเหมาะสมกับจำนวนรัฐมนตรี และประเด็นที่จะอภิปรายมีกรอบอยู่ที่ 40 ชั่วโมง

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์หรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็นที่ฝ่ายค้านต้องกังวล เท่าที่ทราบรัฐมนตรีแต่ละคนไม่ได้เรียกร้องให้มีองครักษ์ เนื่องจากจะตอบคำถามเอง ทั้งรัฐมนตรีหรือว่าส.ส.ของรัฐบาลควรหารือกันก่อนว่ารัฐมนตรีต้องการคนปกป้องหรือไม่ หรือเป็นที่ส.ส.เองที่จะมาเล่นใหญ่ แสดงบทบาทปกป้องรัฐมนตรีจนเกินงาม

ก้าวไกลถลกปมพม่าบินล้ำน่านฟ้า
ขณะนี้ ข้อมูลยังมีเข้ามาเรื่อยๆ และยังมีประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นมา เช่น มีการรุกล้ำน่านฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านและท่าทีของไทยที่ตอบสนองเรื่องนี้ เป็นมิตรมากกว่าที่จะปกป้องประชาชนของตนเอง รอบนี้เราต้องการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน กรณีการบริหารราชการและการกำกับดูแลที่ผิดพลาดในส่วนของนายกฯ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทยเป็นหลัก รัฐมนตรีคนอื่นมีข้อมูลเรื่องของการทุจริต เอื้อประโยชน์พวกพ้องทั้งอดีตและปัจจุบัน และประเด็นผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง อยากให้จับตามองดีๆ อาจเป็นประเด็นที่ไม่มีใครเคยทราบมาก่อน ตัวส.ส.รัฐบาลเองก็อาจจะยังไม่เคยทราบ ประเด็นเหล่านี้ก็อาจจะนำไปสู่การน็อกได้ กรณีมีหลักฐานคาหนังคาเขาอย่างชัดเจน หวังว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะเข้ามาช่วยด้วย

“คิดว่าถ้าน็อกได้ก็จะน็อกที่ตัวนายกฯ ไปเลย หรือรัฐมนตรีรายบุคคลมากกว่า อาจไม่สามารถน็อกรัฐมนตรีทั้งหมดได้ กระนั้นก็คงสร้างบาดแผลที่จะนำไปสู่การร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพิ่มเติมหรือจะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งถัดไป” นาย ณัฐวุฒิกล่าว

จัด4ทีมลุยศึกซักฟอก
เมื่อถามว่า ก.ก.เตรียมตัวอภิปรายอย่างไร นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พรรคจะเตรียมตัวบุคคลมากขึ้น แบ่งทีมคร่าวๆ 4 ทีม ทีม 1 จะเป็นทีมที่ดูธีม นโยบายและประเด็นที่ใช้อภิปราย มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค เป็นทีมหลัก แต่ปีนี้ที่เพิ่มเข้ามา คือ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ทีมที่ 2 กลุ่มประสานงานเรื่องเวลา วางว่าใครจะลงอภิปราย โดยจะดูภาพรวมของฝ่ายค้านทั้งหมด มีนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นทีมประสานงาน

ทีมที่ 3 ทีมดูประเด็นอภิปรายของฝั่งรัฐบาลที่อาจพาดพิงฝ่ายค้าน หรือการดำเนินการที่ผิดข้อบังคับของฝั่งรัฐบาล มีตน นายธีรัจชัย พันธุมาศ และ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดูแล ทีมที่ 4 คือทีมสื่อสาร ตอบโต้ประเด็นต่างๆ ระหว่างและหลังการอภิปราย ก็จะมีทีมโฆษกของพรรค และเพิ่ม นายกรุณพล เทียนสุวรรณ เข้ามาเป็นหลัก

“พรรคมั่นใจกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และคงไม่เกิดกรณี ส.ส.ไม่ได้อภิปรายอีก เราเชื่อว่าประสบการณ์ 3-4 ปีรอบนี้จะเป็นรอบที่ดีที่สุด และมีความเป็นเอกภาพกับพรรคร่วมฝ่ายค้านมากที่สุด” นาย ณัฐวุฒิกล่าว

ฮึ่ม‘สุชาติ’ไม่รอดแน่
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ตอบกระทู้การแก้ไขปัญหาจ้างเหมางานภาครัฐ โดยอ้างติดภารกิจร่วมกับนายกฯ ว่า การระบุไปเปิดงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี สงสัยว่าไปร่วมงานทั้งวันจนไม่มีเวลามาตอบกระทู้เลยหรือ การกระทำของนายสุชาติสะท้อนเจตนาไม่มาตอบกระทู้ ปัญหาเรื่องลูกจ้างเหมางานภาครัฐกระทบต่อแรงงานกว่า 7 แสนคน อยากให้นายกฯ และนายสุชาติเร่งแก้ไขยกระดับสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของแรงงานกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น หากนายสุชาติไม่มีความสามารถก็ลาออกไป

เมื่อถามว่า การทำงานของนายสุชาติ จะมีผลต่อการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า คิดว่านายสุชาติอาจได้คะแนนโหวตต่ำที่สุด ต่อให้คะแนนผ่านครึ่งจนรอดถูกคว่ำกลางสภา ก็จะหมดความชอบธรรม นายสุชาติยังเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่น่าจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ ก.ก.ที่มีส.ส.ด้านแรงงานถึง 4 คน ซึ่งกำลังเตรียมข้อมูลสำหรับการอภิปรายอยู่อย่างเข้มข้น

จองคิวถกงบกห.จัดซื้ออาวุธ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. ในฐานะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณางบกระทรวงกลาโหม ว่า กมธ.คาดว่าจะนำงบกลาโหมเข้ามาพิจารณา 18 ก.ค. ก่อนเริ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ยังไม่ได้สรุปที่ชัดเจนหรือหากล่าช้าก็จะนำมาพิจารณาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแทน

กรอบพิจารณาเบื้องต้นจะดูเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เป็นหลักว่าจำเป็นต้องซื้อหรือไม่ รวมถึงการติดตามงบผูกพันที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อเรือดำน้ำ เช่น โรงเก็บเรือดำน้ำ

มึนเอกสารไม่มีรายละเอียด
ส่วนรายละเอียดงบอื่นๆ กมธ.ยังเห็นแค่ข้อมูลจากเอกสารขาวคาดแดง ทำให้ไม่ได้รายละเอียดเท่าใดนัก จึงต้องไปตรวจดูในชั้นอนุกมธ. และหนังสือชี้แจงที่มีรายละเอียดมากกว่านี้ ทุกปีหน่วยงานที่เข้าชี้แจงมักจะนำมาให้ดูตอนที่เข้าห้อง กมธ. และขอเก็บคืนหลังให้กมธ.ดูเสร็จ

“กลาโหมจะเขียนรายละเอียดงบที่อ่านดูก็ไม่รู้ว่าคืออะไร หากเป็นกระทรวงศึกษาธิการระบุว่ามีงบสิ่งปลูกสร้างก็จะรู้ว่านำไปสร้างโรงเรียนหรือบ้านพักครู แต่สิ่งปลูกสร้างของกลาโหมมีหลากหลายรูปแบบมาก เป็นไปได้ทั้งบ้านทหาร โรงเก็บเรือดำน้ำหรือโรงเก็บอาวุธ เป็นต้น เป็นการใช้คำที่เป็นมาตรฐาน แต่ความจริงไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร จะไปเห็นอีกทีในชั้นอนุกมธ.” นายปกรณ์วุฒิกล่าวและว่า ถือเป็นอุปสรรคในการพิจารณางบอย่างมาก และคำชี้แจงของกลาโหมเองก็ไม่ค่อยทำให้เกิดความชัดเจน ขึ้นมา

รางวัลโทนี่ – น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่วมงาน 2 ปี แคร์ คิดเคลื่อนไทย และเป็นตัวแทนนายทักษิณ มอบรางวัล ‘โทนี่ วู้ดซัม อวอร์ด’ ให้แก่นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ อดีตเลขาฯ สปสช. ผู้ริเริ่มนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค โดยภรรยาและครอบครัว เป็นผู้รับแทน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 ก.ค.

ทักษิณมอบรางวัล‘หมอสงวน’
เวลา 13.30 น. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กลุ่มแคร์ จัดงาน 2 ปี CARE คิดเคลื่อนไทย มอบรางวัลคนเคลื่อนไทยเพื่อสังคมที่ทุกคนต้องการ โดยมีผู้ร่วมงาน อาทิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้ประสานงานกลุ่มแคร์

มีการมอบรางวัล “คนเคลื่อนไทย” 10 รางวัลให้บุคลและองค์กร เช่น กลุ่มประชาชนเบียร์ มูลนิธิและพนักงานบริการ (SWING) นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักกิจกรรมนักศึกษา นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารกลุ่มแสนสิริ พล.ต.อ. เสรี พิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค เสรีรวมไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรชื่อดัง โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) มูลนิธิกระจกเงา ประชาไทย

จากนั้นเป็นการมอบรางวัล Tony Woodsome Award น.ส.แพทองธาร เป็นผู้มอบรางวัล โดยกล่าวว่า นอกจากจะแสดงความยินดีกับคนเคลื่อนไทยทั้ง 10 คนและองค์กรแล้ว ยังมาในฐานะตัวแทนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บิดาในการมอบรางวัลโทนี่ วู้ดซัม อวอร์ด แม้บุคคลที่ได้รับอาจไม่ได้อยู่ตรงนี้กับ เรา แต่ตนขอเชิดชู และยกย่องว่าเป็น ผู้เหมาะสม กับรางวัลนี้อย่างมาก คือ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ อดีตเลขาธิการ สปสช.คนแรก ผู้ริเริ่มโครงการนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ของพรรคไทยรักไทย โดยมีภรรยาและครอบครัว เป็นผู้รับรางวัลแทน

จากนั้น เปิดคลิปวิดีโอของนายทักษิณ แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล ว่า รางวัลที่มอบให้กับนพ.สงวน ซึ่งเป็นคนทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของพรรคไทยรักไทยในวันนั้น และจนวันนี้คนไทยก็ได้เข้าถึงหลักสุขภาพถ้วนหน้า เราต้องขอขอบคุณ นพ.สงวนจริงๆ อย่างไรก็ตามโครงการ 30 บาทฯ ผิดเพี้ยนไปเยอะไม่เหมือนในอดีตคงต้องปรับปรุงให้ไม่ผิดเพี้ยน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน