บอกแล้วแต่สส. บิ๊กตู่ตอบไม่ชัด อยู่ถึงจัดเอเปก

‘ตู่’ พูดไม่เคลียร์ อยู่ถึงจัดประชุมเอเปกหรือไม่ แค่บอกใครจะทำก็ทำ ‘วิษณุ’ ยันรัฐบาลไม่ยื่นตีความปมนายกฯ 8 ปี ใครสงสัยส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ ชี้เป็นช่วงส่งตีความ แจงสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ ส.ส.พึงมีต้องแปลความแบบใหม่ พปชร.ชี้หารด้วย 100 หรือ 500 อยู่ที่ส.ส.เป็นคนเลือก กมธ.ย้ำสูตรหาร 500 ขัดรัฐธรรมนูญ ปชป.เสียงแตก นัดเคาะวันนี้ให้โหวตหนุนสูตรไหน หรือปล่อยฟรีโหวต พรรคเล็กหวดรัฐบาล ติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก ลั่นมีเอกสิทธิ์ลงมติอิสระ ฝ่ายค้านยืนกรานกรอบเวลาซักฟอก 5+1 เพื่อไทยเปิดตัว 30 ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือตอนบน ลั่นแลนด์สไลด์ 8 จังหวัด

ตู่ปัดตอบรัฐบาลอยู่ถึงจัดเอเปก
เวลา 10.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ในการเตรียมความพร้อมเป็น เจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก มีความเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ว่า ขณะนี้มีการประชุมไปหลายส่วนแล้ว การจัดการประชุมก็เดินกันเป็นขั้นๆ เริ่มจากคณะทำงาน การประชุม เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส ระดับรัฐมนตรี มี 180 กว่าการประชุม กว่าจะถึงการประชุมใหญ่ วันนี้เดินหน้าในหลายกระทรวงโดยการนำร่องของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่อยู่ๆ จะมาประชุม เรียกมาวันนี้พรุ่งนี้ต้องมีสารัตถะที่จะพูดกันในห้องประชุมเพื่อให้เกิดการลงนามและแถลงการณ์ร่วม

เมื่อถามว่าจะอยู่จนถึงเป็นเจ้าภาพจัดเอเปกใช่หรือไม่ เพราะมีการมองว่าอาจมีประเด็นเรื่องการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี จังหวะนี้พล.อ.ประยุทธ์เดินออกจากโพเดียม กล่าวสั้นๆ โดยไม่มองหน้าผู้สื่อข่าวว่า “ก็แล้วแต่ ใครจะทำก็ทำเถอะ”

ทั้งนี้ หลังเป็นประธานการประชุมสมช.เสร็จในเวลา 18.00 น. เมื่อแถลงผลประชุมเสร็จ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ยังมีกำลังใจที่จะสู้ต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่เคยท้อแท้อยู่แล้ว ถ้าอยู่ต่อก็ทำให้ ถ้าไม่อยู่ก็หาคนอื่นมาทำกันเอง ทำให้ดีกว่าก็แล้วกัน ประชาชนจับตาดูอยู่แล้ว”

วิษณุชี้เข้าเขตตีความนายกฯ 8 ปี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ วาระนายกฯ 8 ปี ที่จะครบวาระส.ค.นี้ว่า ใครจะเป็นคนยื่นศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ หากใครสงสัยก็ช่วยเข้าชื่อกันแล้วยื่น แต่รัฐบาลไม่ยื่นเอง เมื่อถามว่า หากไม่มีผู้ยื่นตีความแล้วศาลรัฐธรรมนูญมาชี้ภายหลังจะกระทบถึง คำสั่ง หรือมติครม.ต่างๆ หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้อย่างไร เพราะคำวินิจฉัยต้องบอกไว้ เช่น ปัญหาเกิดขึ้นส.ค.แต่ไม่มีใครทำอะไร ล่วงเลยไปถึงธ.ค.แล้วศาลวินิจฉัย สิ่งที่ทำไปจะถูกต้องหรือโมฆะหรือไม่ศาลรัฐธรรมนูญต้องมีคำตอบให้ “ใครสงสัยก็ควรไปยื่น เห็นพูดกันจังก็ยื่นเลย ไม่ได้ยากอะไรสามารถเข้าชื่อได้เพียงไม่กี่คน”

เมื่อถามว่าหากจะยื่นควรยื่นก่อน 23 ส.ค. หรือหลัง 24 ส.ค. นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อไรก็ได้ เพราะตอนนี้เข้าเขตก็ยื่นได้แล้ว เมื่อถามว่าครบ 8 ปีของนายกฯ หากนับตั้งแต่ปี 2557 จะครบ 23 ส.ค.นี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า จำไม่ได้ ไม่ทราบ

สส.พึงมีต้องตีความแบบใหม่
นายวิษณุกล่าวถึงการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้ารัฐสภาเลือกหาร 500 ต้องคำนึงถึงคำว่า ส.ส.พึงมีหรือไม่ว่า ตอบไม่ถูก ยังไม่เคยนึกถึงเรื่องดังกล่าว แต่คำว่าส.ส.พึงมียังต้องยึดถือเพราะอยู่ในรัฐธรรมนูญ แต่การตีความอาจแตกต่างไปจากเดิมและไม่ได้อยู่ในมาตราที่ได้แก้ไข จะแปลความตามแบบเก่าไม่ได้ ต้องแปลความตามแบบใหม่ ซึ่งมีวิธีแปลอยู่ ตนไม่ติดใจในประเด็นนี้แต่ติดใจว่าจะหารแบบไหนถึงจะเป็นธรรมมากกว่ากัน ความจริงไม่ได้ดูว่าเป็นธรรมกับพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่ แต่ดูว่าหลักการที่ถูกเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าสุดท้ายไม่ว่าไปทางไหนก็สุ่มเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่า สุ่มเสี่ยง ถึงบอกว่าสุดท้ายจะมีคนสงสัย ไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็กพรรคใหญ่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี

เมื่อถามว่า เคยระบุเองหากใช้บัตรเลือกตั้งสองใบแล้วหารด้วย 500 เป็นเรื่องประหลาด หมายความว่าอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า บอกไม่ถูก เอาเป็นว่าประหลาดแล้วกัน แต่ประหลาดไม่ได้แปลว่าผิด อีกวันสองวันก็รู้เรื่องแล้ว คิดว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าววันครึ่งก็เสร็จ แล้วจะมีคำตอบโดยรัฐสภา เมื่อถามว่า คิดว่าการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อควรหารแบบใด นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ขอตอบ

ป้อมชี้สูตรปาร์ตี้ลิสต์แล้วแต่กมธ.
ที่โรงแรม รามาการ์เด้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวกรณีนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ประชาธิปัตย์(ปชป.) กมธ.พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เตรียมเสนอปชป.ให้สนับสนุนสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500พปชร. มีแนวทางเรื่องนี้อย่างไร ว่า แล้วแต่ กมธ.ไม่ทราบว่าสูตรหารด้วย 100 กับ 500 แบบไหนดีกว่ากัน พปชร.ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องดังกล่าว

เมื่อถามว่า จะไปร่วมโรดโชว์ พปชร.ที่จ.ชลบุรี 10 ก.ค.นี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาให้ไปหรือไม่ ถ้าให้ไปตนก็ไป

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการ พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดโรดโชว์ 10 ก.ค. ที่จ.ชลบุรี ได้เตรียมการอย่างไรบ้างว่า ช่วงนี้ยังมีเรื่องสภา รอให้เรื่องต่างๆ เบาไปก่อน การลงพื้นที่หากจังหวัดไหนและภาคใดพร้อมจะเริ่มทำทันที โดยพล.อ.ประวิตร ระบุว่าถ้าไม่ติดภารกิจ จะไปร่วมเกือบทุกงาน เมื่อถามว่าจากปรากฏการณ์ชัชชาติฟีเว่อร์ ทำให้หัวหน้าพรรคต้องลงพื้นที่เพื่อเรียกคะแนนเสียงด้วยตัวเองหรือไม่ นายสันติกล่าวว่า “สื่อตีข่าวไปอย่างนั้นเอง เมื่อถามว่ากระแส พปชร.ยังดีอยู่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า “ดีๆ ดีมาก ในทุกพื้นที่”

พปชร.สูตรไหนก็ได้หมด
ส่วนการรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ในฐานะ 1 ในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย นายสันติกล่าวว่า ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เราเป็นรัฐมนตรีก็แค่กำกับ และกำชับไว้ตั้งแต่ต้นว่าการดำเนินงานทุกอย่าง ต้องทำกฎหมาย ระเบียบ ขั้นตอน ที่สำคัญต้องไม่ให้รัฐเสียประโยชน์และต้องได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อถามว่าฝ่ายค้านประกาศมีกลยุทธ์ไว้เด็ดหัวรัฐมนตรี ในการอภิปรายครั้งนี้ไม่กังวลใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

นายสันติยังกล่าวถึงข้อถกเถียงเรื่องสูตรปาร์ตี้ลิสต์ว่า พล.อ.ประวิตรระบุไว้ว่า อยู่ที่ส.ส. เมื่อถามว่า พปชร.มองว่าควรโหวตแบบใดที่จะเป็นประโยชน์กับพรรคมากกว่า นายสันติกล่าวว่า อยู่ที่ส.ส. แบบไหนก็เป็นประโยชน์กับพรรคทั้งนั้น ส.ส.พร้อมแบบไหน พรรคก็พร้อมแบบนั้น เมื่อถามว่าการใช้สูตรหารด้วย 100 กับ 500 ทำให้มีความได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่ นายสันติกล่าวว่า “ไม่หรอก แล้วแต่จะคิด วิธีการเลือกตั้งอยู่ที่ประชาชน”

ชนหมัด – นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ชนหมัดกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ก่อนร่วมประชุมกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ และรักษาการเลขาธิการ กสทช. เรื่องการจัดการท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดิน ที่อาคารเอ็นที ทาวเวอร์ ถ.เจริญกรุง เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

กมธ.ย้ำหาร 500 ขัดรธน.
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.ปชป. รองประธานวิปรัฐบาล ในฐานะรองประธานกมธ. พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงข้อถกเถียงเรื่องสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตนในฐานะรองประธานกมธ. และในฐานะที่เป็นผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในนามพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 เป็นร่างที่ กกต.เสนอมาที่ครม. ซึ่งตรงกับร่างของรัฐบาล เมื่อรัฐสภาเห็นชอบ ทางกมธ.ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย แต่มีกมธ.สงวนความเห็น 11 คน

ดังนั้นเมื่อเป็นร่างของกกต. แล้วจะให้ความเห็นชอบที่แตกต่างกันไป เป็นหารด้วย 500 เป็นเรื่องที่กกต.ไม่สามารถทำได้ หากทำจะถูกกล่าวหาได้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญที่สุดกระบวนการประกาศใช้เป็นกฎหมาย หากเสนอผิดไปจากหลักการที่เสนอก็จะเป็นเหตุผลหนึ่งในอนาคตที่จะนำไปสู่การร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และอาจถูกกล่าวหาด้ว่ามีผลประโยชน์ขัดกันหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีปัญหามาก ส่วนประเด็นมาตรา 91 ที่เสนอให้หารด้วย 500 นั้น ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นไปตามมาตรา 93 และมาตรา 94

ปชป.เตรียมถกหาข้อยุติ
“ขอย้ำว่าในชั้น กมธ.ได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และเห็นตรงกันว่าเราแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่ากับว่าได้แก้ไขเจตนารมณ์ต่อประเด็นการเลือกตั้งไปแล้ว คือจากระบบสัดส่วนผสม จากบัตรใบเเดียวเป็นบัตรสองใบ และให้คิดคำนวณอย่างชัดเจนคือส.ส.เขต 400 เขต ใครได้คะแนนสูงสุดก็เป็นส.ส. ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้คำนวณจากจำนวนบัญชีรายชื่อคือ 100 ดังนั้นรัฐบาลควรทำตามหลักการนี้” นายชินวรณ์กล่าว

นายชินวรณ์กล่าวว่า ในส่วน ปชป.ที่ยังมีเสียงแตกกัน ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ เพราะนายอัครเดช เป็นกมธ.และเป็น 1 ใน 11 คนที่สงวนความเห็น และในส่วนปชป.เมื่อมีประเด็นนี้ขึ้นมา ตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุมพรรคอีกครั้ง ว่าพรรคจะมีมติอย่างไร

ปชป.โหวตหาข้อยุติวันนี้
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ รองโฆษกปชป. เผยหลังประชุมส.ส.พรรคว่า ที่ประชุมแสดงความคิดเห็นประเด็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ทั้งให้หาร 500 และ 100 โดยถกเถียงถึง ข้อดีข้อเสียในแต่ละระบบของกฎหมายว่าแต่ละส่วนขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญอย่างไร ทำให้ที่ประชุมยังไม่ตกผลึก ประกอบ กับส.ส.พรรคมาประชุมน้อยเนื่องจากปกติ จะประชุมวันอังคาร จึงมีมติให้เลื่อนการ หารือไปประชุมอีกครั้งวันที่ 5 ก.ค.เวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา แนวโน้มที่ประชุมก้ำกึ่งระหว่างหาร 500 กับหาร 100 พรรคจึงต้องมีมติว่าจะให้หาร 500 และหาร 100 หรือมติ ฟรีโหวต

ก้าวไกลนัดถกหาข้อสรุป
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่ากรณี ก.ก.นัดประชุมพรรค 5 ก.ค. เรื่องกฎหมายลูก โดยมีประเด็นสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ขณะนี้มีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และส.ว.มีความเห็นสนับสนุนสูตรหารด้วย 500 แทน 100 ดังนั้น พรรคต้องพิจารณาอีกครั้ง แต่ปัจจุบันก่อนจะมีการประชุมเพื่อขอมติพรรค เรายืนยันสูตรหาร 100 ตามที่ส.ส.พรรค คือ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล และนายรังสิมันต์ โรม เสนอคำแปรญัตติ

ที่ผ่านมาจุดยืนของตนสนับสนุนและต่อสู้ให้ใช้สูตร 500 หาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่มติพรรคออกมาเช่นไรตนยอมรับและปฏิบัติตาม และจากการพูดคุยกับส.ส.พรรคเล็กที่สนับสนุนสูตร 500 พบว่าหากมติรัฐสภายืนยันหารด้วย 100 จะพบความยากลำบากมาก เนื่องจากส.ส. 1 คนต้องมีคะแนน 3.3 แสนคะแนน ถึง 3.5 แสนคะแนน แต่หากใช้จำนวน 500 คน จะใช้คะแนนเพียง 7 หมื่นคะแนน

เมื่อถามถึงประเด็นการต่อสู้ต่อการใช้สูตรคำนวณส.ส. มีการอ้างถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เรื่องส.ส.พึงมี นายธีรัจชัยกล่าวว่า การตีความนั้นเชื่อว่าอาจมีคนส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ในตอนท้าย แต่ส่วนตัวมองว่าควรให้การพิจารณา และการตัดสินเป็นเรื่องของรัฐสภา เพราะประเด็นส.ส.พึงมีนั้น ยังมีบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในมาตรา 93 และมาตรา 94 และตนมองว่ารัฐสภาควรเป็น ผู้พิจารณาให้ชัดเจน เพื่อเป็นหลักของการเลือกตั้งในประเทศนี้

พรรคเล็กยันฟรีโหวต
เวลา 10.45 น. ที่รัฐสภา กลุ่มสามัคคี สร้างชาติ นำโดย นายสาธุ อนุโมทามิ รักษาการหัวหน้าราชสีห์ไทยดี ประธานกลุ่มสามัคคีสร้างชาติ ประกอบด้วยพรรคขนาดเล็ก 18 พรรค พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลัง ท้องถิ่นไท เรื่องผลักดันร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. คำนวณด้วยการหาร 500 นายสาธุกล่าวว่า การหารแบบ 500 จะได้คะแนนเฉลี่ยจากจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อและส.ส.พึงมี ทำให้เกิดความยุติธรรม เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองเป็นตัวแทนประชาชนได้ทุกภาค ส่วน หากปล่อยให้หาร 100 จะเป็นอุปสรรคในอนาคต จึงขอให้พรรคพลังท้องถิ่นไท อภิปรายวาระ 2 และ 3 เพื่อจะให้ส.ส.รับเงื่อนไขใหม่ โดยนายชัชวาลล์กล่าวว่า ทางพรรคพลังท้องถิ่นไทเห็นด้วยกับการหาร 500 ยืนยันว่าต้องโหวตหาร 500

ด้านนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า พรรคยื่นแปรญัตติหลายประเด็น แต่ประเด็นนี้สำคัญและได้พูดกับทางวิปรัฐบาลว่าการแก้รัฐธรรมนูญตั้งแต่เริ่มต้น เป็นการติดกระดุมเม็ดแรกจากพรรคใหญ่ 2 พรรคคือ ปชป. และพปชร. ซึ่งไม่ได้มาหารือพรรคเล็ก จึงบอกไปว่าเมื่อกระดุมเม็ดแรกต่างคนต่างยื่นแก้ไขรัฐก็ขอเอกสิทธิ์ในความเป็นพรรคการเมือง และความเป็นอิสระของ ส.ส.ที่จะโหวต

ชูศักดิ์ให้รอมติรัฐสภา
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กมธ.พิจารณา พ.ร.ป.ว่าด้วยกฎหมายเลือกตั้งส.ส. กล่าวถึงความพยายามผลักดันการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 ว่า เรื่องหาร 500 กมธ.เสียงข้างน้อยรวมถึง ส.ว.บางส่วน เสนอ คำแปรญัตติและสงวนความเห็นไว้ 5- 6 ญัตติ ต้องไปพิจารณากันในรัฐสภา

เหตุผลที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญยังคงมี ส.ส.พึงมีไว้ในมาตรา 93 และ 94 นั้นเป็นบทบัญญัติที่คิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เพราะมีการเลือกตั้ง ส.ส.เขตใหม่ซึ่งเป็นเรื่องใช้บัตรใบเดียว เอาคะแนน ส.ส.เขตมาคำนวณ แต่เมื่อเป็นบัตรสองใบ แยกกันนับ ไม่มีกรณีที่ต้องเอาคะแนน ส.สเขตมาคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงไม่มีกรณี ส.ส.พึงมีตามมาตรา 93 และ 94 แล้ว สิ่งที่ดำเนินการไปยืน อยู่บนฐานของรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 91

เปิดตัว – นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ประธานโซนภาคเหนือตอนบน เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคเหนือตอนบน 30 คนจากทั้งหมด 36 คน ที่เหลืออีก 6 เขตอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งมั่นใจแลนด์สไลด์ ทั้ง 8 จังหวัด ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ค.

พท.จับมือก้าวไกลชูหาร 100
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พท. โฆษกกมธ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวว่า ร่างกฎหมายเลือกตั้งทั้งสองฉบับจะเข้าสู่การพิจารณาของสภา 5-6 ก.ค. ขณะนี้ทุกร่างที่เสนอเข้าไปในชั้นรับหลักการ มีหลักการเดียวกันคือหารด้วย 100 แต่กมธ.เสียงข้างน้อยพยายามบอกว่าหารด้วย 100 ไม่ถูกต้อง การพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว จะเป็นตายร้ายดีก็หารด้วย 100

พรรคเล็กบอกเสียประโยชน์ คิดแบบนี้บ้านเมืองวุ่นวายไปหมด พรรคเล็กต้องทำตัวให้ใหญ่ขึ้น ไม่อย่างนั้นก็ย้ายไปอยู่พรรคใหญ่ ยืนยันว่าฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคพท.และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะผนึกกำลังกันยืนยันว่าหารด้วย 100 หากมีเสียงไม่เห็นด้วยก็ไม่วิตกกังวลเพราะเป็นเรื่องของรัฐสภา หากวินิจฉัยกันแบบไม่มีเหตุผล ก็ไม่ต้องมีรัฐสภา ให้ผู้มีอำนาจเขียนกันเองไปเลย

สุทินชี้สภาถก 2 วันจบ
ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพท. ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าจุดยืนพท.ได้พิจารณาข้อกฎหมาย โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญแล้วเห็นว่าไม่มีช่องทางใดที่จะให้ใช้การหารด้วย 500 ได้ มีก็เพียงแค่ช่องเล็กๆ ที่เอื้อและส่งผลให้ใช้การหาร 100 มากกว่า หากใช้หาร 500 เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต เวลานำไปใช้แล้วอาจร้องเรียนจนเกิดความวุ่นวาย ก่อนเกิดปัญหาขึ้นควรแก้ปัญหาตั้งแต่วันนี้ดีกว่า การหารด้วย 100 ปลอดภัยกว่า เชื่อว่าการประชุมร่วมรัฐสภา 5-6 ก.ค. ประเด็นกฎหมายลูกน่าจะพูดกันหนักเรื่องการหารด้วย 100 และ 500

เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยสนับสนุนการหาร 100 เปลี่ยนไป จะทำให้การอภิปรายยืดเยื้อหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ยืดเยื้อก็ไม่เป็นไร หากเป็นเรื่องใหญ่ก็ควรถกกันให้จบสิ้นกระบวนความ เราไม่หวงเวลา ไม่มีประเด็นอะไรมากนอกจากการหารด้วย 100 และ 500 ดังนั้นเชื่อว่าการพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับใช้เวลา 2 วันก็น่าจะจบ หากไม่จบก็ขยายเวลา แต่ไม่มีเหตุผลใดที่จะลากเพราะถึงอย่างไรก็ลากได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ รัฐบาลก็ใช่ว่าจะได้เปรียบอะไร ใครติดใจก็ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ

แลนด์สไลด์อยู่ที่ศรัทธาประชาชน
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ฝั่งรัฐบาลเริ่มออกเห็นด้วยกับการหาร 500 เพราะเกรงว่าพท.จะแลนด์สไลด์หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า การเลือกตั้งคนจะชนะปัจจัยหลักจริงๆ คือศรัทธาของประชาชน ระบบเลือกตั้งมีส่วนช่วยได้นิดเดียว ถ้าศรัทธาของประชาชนอยู่ที่ใครเอาไม่อยู่ เพราะฉะนั้นอย่ากังวล ควรเอาเวลาไปทำดีกับประชาชน ใครแพ้ชนะชี้ขาดตรงนั้น ก็ไม่ได้คิดว่าระบบหาร 100 จะทำให้พท.แลนด์สไลด์ แต่ผลงานในอดีตและความทุกข์ยากของประชาชนที่กำลังหาทางออกนั้นคิดถึงเรา ทำให้เราแลนด์สไลด์

ยืนกรานวันอภิปราย 5+1
นายสุทินกล่าวถึงจำนวนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านคิดว่าวันเวลาที่เหมาะสมคือ 5+1 ซึ่งไม่มีอะไรเสียหายหรือกระทบกับส่วนใด เช่น หากใช้เวลา 5 วัน อย่างมากก็ล้นไปอภิปรายช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่ได้ไปชนวาระอื่น ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล เมื่อเวลาโล่งไม่มีอะไรได้รับผล กระทบรัฐบาลก็ไม่มีเหตุผลจะกีดกัน การมาปิดกั้นให้อภิปราย 4 วันไม่มีเหตุผล ถ้ากลัววกวนซ้ำซากมีข้อบังคับการประชุมสภาอยู่แล้วที่ประธานสภาจะควบคุม ที่เราบอกว่าใช้เวลา 5 วัน ยืนยันจะไม่ใช้การอภิปรายแบบลมโชย หากจบได้เร็วเราก็จบ อาจใช้เวลา 3-4 วันก็ได้ สมควรตรงไหน เราก็จบตรงนั้นหากได้ความแล้ว ที่บอกขอ 5 วันคือเกณฑ์ขั้นสูง อาจจะไม่ถึง การประชุมวิป 3 ฝ่าย 6 ก.ค. เราจะเสนอก่อนว่าจะอภิปราย 5 วัน ถ้ายอมไม่ได้ก็ใช้ข้อบังคับแทน

“ก็ลองดูสักที ชวนรัฐบาลใช้ข้อบังคับ ไม่ต้องตกลง ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว คงไม่มีใครออกนอกลู่นอกรอย” นายสุทินกล่าวและว่า ตราบใดที่อภิปราย ไม่ครบ 11 คน ก็ปิดประชุมไม่ได้ แต่ก็จะไปพูดวกวนวนเวียนซ้ำซากไม่ได้เหมือนกันเพราะข้อบังคับห้ามไว้ ทั้งนี้ มองเหตุผลอย่างอื่นไม่เจอว่าทำไมรัฐบาลถึงบีบเวลาลง นอกจากขัดขวางไม่อยากให้เราพูดได้เต็มที่เพราะมาจากความวิตกเท่านั้น

นิโรธฉะฝ่ายค้านตะครุบปมพม่า
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.พปชร. ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการซักฟอกว่า ฝ่ายรัฐบาลเตรียมความพร้อมหมดแล้ว โดย เฉพาะครม.พร้อมมาก และพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องช่วยประธานสภาทำหน้าที่ควบคุมการประชุม ส่วนองครักษ์พิทักษ์นายกฯ และรัฐมนตรีไม่มี แต่เป็นทีมปราบมาร ใครเป็นมารเมื่อไรเราก็จะปราบ

เมื่อถามว่ายังคงกรอบเวลาการอภิปราย 4 วัน และลงมติวันที่ 5 หรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า การอภิปรายของฝ่ายค้านติดต่อกันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 66 การอภิปรายตามมาตรา 152 เนื้อหาสาระจริงๆ ไม่มีประเด็นอะไร ประเด็นหลักๆ หรือการทุจริตของรัฐบาลยังไม่มีอะไร พอมีเครื่องบินรบของเมียนมาบินเฉี่ยวโฉบเข้ามาฝั่งไทย ก็ตะครุบเลย ต้องเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไร้สาระมาก ไม่มีอะไรเลย ทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ประเทศชาติวุ่นวาย เรื่องระหว่างประเทศ ทางการทูตก็ประท้วงไปตามหลักการและพูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำผิดและเสียหายมากมาย

พท.เปิดตัว30ผู้สมัครเหนือตอนบน
เวลา 13.00 น. ที่ทำการ พท. แกนนำพรรค อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ประธานโซนภาคเหนือตอนบน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบนเบื้องต้นรวม30 คน

นายสมพงษ์กล่าวว่า พท.ได้เตรียมความพร้อมจัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 6 โซน เราพร้อมอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์บ้านเมืองไม่แน่นอน จะพลิกโฉมเมื่อไรไม่ทราบ จึงอยากแถลงเปิดตัวแทนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตอนบนเบื้องต้น 30 คนจาก 36 คน แต่ละท่านดูแลพื้นที่มาโดยตลอด

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส่วนที่เหลืออีก 6 เขตอยู่ระหว่างพิจารณา มั่นใจเป้าหมายการแลนด์สไลด์ทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพราะภาคเหนือเป็นพื้นที่เข้มแข็งของพรรคมาตลอด ขณะที่นโยบายของพรรคจะเป็นที่พอใจ สร้างการหลุดพ้นจากวิกฤตให้พี่น้องประชาชนเพื่อเข้าสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์

แจงสลับจักรพล-ทัศนีย์
“ส่วนกรณีบ้านใหญ่ตระกูลจงสุทธามณี ทำงานร่วมกันมานาน ไม่มีบ้านใหญ่บ้านเล็กในภาคเหนือ ที่มีการสลับ นายจักรพล มาเขต 1 และให้ น.ส.ทัศนีย์ย้ายไปเขต 3 ซึ่งเป็นเขต ของสันกำแพง ที่ตัดสินใจแบบนี้เพราะเราต้องการ ส.ส.เชียงใหม่ยกทั้งจังหวัด” นพ. ชลน่านกล่าว

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบนเบื้องต้น ดังนี้ จ.เชียงใหม่ เขต 1 นาย จักรพล ตั้งสุทธิธรรม เขต 2 นายณัฏฐ์พัฒน์ รัฐไผท เขต 3 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ เขต 4 นายวิทยา ทรงคำ เขต 5 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เขต 6 นายบัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ เขต 7 นายนิติกร วุฒินันชัย เขต 8 นายสุรพล เกียรติไชยากร เขต 9 น.ส.ศรีโสภา โกฎิคำลือ เขต 10 นายโกวิทย์ พิริยะอานันต์

จ.เชียงราย เขต 1 ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุท ธานามณี เขต 2 นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ เขต 3 น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ เขต 4 นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ เขต 5 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เขต 6 นายอิทธิเดช แก้วหลวง เขต 7 น.ส.ละออง ติยะไพรัช

จ.ลำปาง เขต 1 นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เขต 2 นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร เขต 3 นายจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ เขต 4 นายพินิจ จันทรสุรินทร์ จ.ลำพูน เขต 1 นายสงวน พงษ์มณี เขต 2 นายรังสรรค์ มณีรัตน์ จ.แพร่ เขต 1 นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เขต 2 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล

จ.น่าน เขต 1 นายทรงยศ รามสูต เขต 2 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เขต 3 นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ จ.พะเยา เขต 2 พล.ต.ต.ธรรมนูญ มั่นคง เขต 3 นายอำนาจ วิชัย

พปชร.กางแผนโรดโชว์เมืองชล
เวลา 15.25 น. ที่ทำการ พปชร. นาย สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผอ.พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมกิจกรรมโรดโชว์ พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย 10 ก.ค. ที่ศาลากลาง จ.ชลบุรี ว่า พล.อ.ประวิตรจะ ลงไปพูดคุยและปราศรัยกับชาวชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง โดยเวลา 17.00 น. ส.ส. พื้นที่จะขึ้นพูดทักทายชาวบ้าน รัฐมนตรี พูดถึงผลงาน คนละ 10-15 นาที ส่วนไฮไลต์จะอยู่ที่หัวหน้าพปชร. จะพูดปิดท้ายเวลาประมาณ 20.00 น. คาดว่าจะพูดประมาณ ครึ่งชั่วโมงจะกล่าวถึงผลงานทั้ง 3 ปี พปชร. ทำอะไรไปบ้าง ประเด็นหลักที่เราจะสื่อสารกับคนในพื้นที่ คือ เรื่องการบริหารจัดการน้ำการส่งออกและอุตสาหกรรมทั้งการแก้ปัญหาให้ประชาชน ตนจะพูดถึงการแก้ปัญหาแรงงาน ส่วนนายอิทธิพลคุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม พูดเรื่องผลงานของกระทรวง

วันนี้ยังเชื่อมั่นภาคตะวันออก พปชร.ยังเป็นพรรคอันดับ 1 จากจำนวนส.ส.ภาคตะวันออกพรรคเป็นพรรคอันดับต้นๆ และเราก็จะครองแชมป์ส่วนนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน