พท.เปิด21ผู้สมัครกทม. ‘เก่งการุณ’ลั่นพร้อมชน อีสานโพลอุ๊งอิ๊งยังแรง

ฝ่ายค้านชี้ผลเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 ลำปาง สะท้อนกระแสประชาธิปไตยขยายวง พรรคเศรษฐกิจไทยยอมรับต้องทบทวนหลังพ่ายยับ เหตุจุดยืนไม่ชัดเจนอยู่ฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ‘พิเชษฐ’ ฟันธงประชาชนเลือกฝ่ายค้าน ไม่เอารัฐบาล นัดถกส.ส.กลุ่ม 16 เตรียมทบทวนท่าทีร่วมรัฐบาล ชี้สูตรหาร 500 พรรคเล็กก็ยังลำบาก ‘ชลน่าน’ เผยเพื่อไทยตั้งเป้า เลือกตั้งครั้งหน้ากวาด 18 ล้านคะแนนเสียง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครกทม. 21 เขต ‘เก่ง’ ลั่นพร้อมลงแข่ง อีสานโพลชี้ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ยังแรง คนอยากให้เป็นนายกฯ คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 พรรคเพื่อไทยยังครองอันดับ 1 กลุ่มราษฎรยื่น ‘ชวน’ ขอตั้งแคมป์เกาะติด ศึกซักฟอก จัดคูหาให้ประชาชนโหวต ‘นิพนธ์’ โวยลั่น ป.ป.ช.ตั้งธงฟ้องคดีรถซ่อมบำรุงทาง อบจ.สงขลา

บิ๊กตู่งดจ้อสื่อต่อเนื่อง
วันที่ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังคงงดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คาดว่าสืบเนื่องมาจากที่นายกฯ ออกแถลงการณ์กลยุทธ์ 3 แกนหลัก เพื่อสร้างอนาคต ยกระดับความมั่งคั่งรุ่งเรือง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ซึ่งเป็นการชี้กระแสนิยมของรัฐบาลและนายกฯ ลดลง รวมทั้งการหลีกเลี่ยงการตอบโต้ประเด็นการเมืองในระยะนี้ คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์เตรียมการเพื่อรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะเกิดขึ้นใน วันที่ 19-23 ก.ค.นี้

วิปรัฐโวป้อมฉลุยศึกซักฟอก
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.พรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงความเตรียมรับมือการอภิปรายไม่ว่างใจว่า ทีมปราบมารจะช่วยประธานในที่ประชุมสภา ควบคุมการประชุม ส่วนทีม เจ้ายุทธจะช่วยตอบโต้นอกห้องประชุมสภา กรณีที่ฝ่ายค้านอภิปรายเสร็จแล้วออกมาขยายความต่อ ดูจากกลยุทธ์ของฝ่ายค้านจะใช้คนอภิปรายไม่เยอะ มีตัวหลักขึ้นมาอภิปรายซ้ำๆ

เมื่อถามว่าจะติวข้อสอบให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ไม่ต้อง รัฐมนตรีทำการบ้านหมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพปชร.สบายมาก ตอบได้หมด โดย พล.อ.ประวิตร กำชับให้ช่วยกันดูให้เรียบร้อย

ร่วมอาลัย – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายขรรค์ชัย บุนปาน ปธ.เครือมติชน น.ส.ปานบัว บุนปาน กก. ผจก.มติชน ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อดีตนายกอบจ.นครราชสีมา ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม เมื่อวันที่ 11 ก.ค.

กลุ่มราษฎรขอตั้งแคมป์ฟังสภา
เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา กลุ่มราษฎรยื่นหนังสือเรื่องการขอใช้พื้นที่รัฐสภาในการจัดกิจกรรม แคมปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ ผ่านน.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้เชี่ยวชาญประจำตัว นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา

สมาชิกของกลุ่มกล่าวว่า กิจกรรมจะเกิดขึ้นในวันที่ 19-23 ก.ค. ซึ่งเป็นวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กิจกรรมนี้เป็นรูปแบบกิจกรรมเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน กับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในกิจกรรมจะมีทั้งการจัดวงดนตรี วงเสวนา รวมถึงงานวัฒนธรรม ที่ต้องมาขอใช้พื้นที่รัฐสภาเป็นเพราะเห็นว่าการจัดกิจกรรมบริเวณถนนหนทางจะขีดขวางการจราจร และจะดีกว่าถ้ามาตั้งแคมปิ้งบริเวณสภา และอยากจะฝากสภาพิจารณาคำขอในหนังสือนี้ด้วย

17 กค.นัดโหวตก่อนสภาลงมติ
“กลุ่มราษฎรยังมีอีกหนึ่งแคมเปญที่อยากเชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วม คือ แคมเปญ โหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ โดยประชาชนจ้า คือเสียงของประชาชน ที่จะโหวตทั้งไว้วางใจและไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ โดยกลุ่มราษฎรจะมีการจัดคูหาโหวตทั่วประเทศในวันที่ 17 ก.ค.” สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มราษฎร กล่าว

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า อยากให้สภารับหนังสือนี้และรีบดำเนินเรื่องให้จัดพื้นที่สำหรับกลุ่มภาคประชาสังคม ที่มีความตื่นตัวทางการเมือง เพื่อจะได้มีพื้นที่ในการจัดกิจกรรมบริเวณรัฐสภาไม่ต้องจัดกิจกรรมบนถนน จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนที่สัญจรไปมาและจะได้ใช้เป็นพื้นที่ปลอดภัยด้วย

ชทพ.ชี้หาร500เรื่องยากของพรรค
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) น.ส. กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการลงมติของ ชทพ. ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นธรรมเนียมของพรรคเช้าวันลงมติพรรคจะประชุมกันเพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกกับข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านและคำชี้แจงของรัฐมนตรี เพื่อมาตกผลึกความคิดกันในพรรคให้สรุปไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าหลักฐานไม่ชัดเจนแล้วรัฐมนตรีชี้แจงได้ จะโหวตไม่ไว้วางใจคงไม่ถูก เราจะฟังทั้งข้อกล่าวหาฝ่ายค้านและคำชี้แจงของรัฐมนตรี

เมื่อถามถึงสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหารด้วย 500 ว่า หัวหน้า ชทพ.กล่าวว่า คงต้องรอฟังความเห็นของ กกต. ไม่ว่าจะหารด้วย 100 หรือหารด้วย 500 ไม่ง่ายสำหรับเรา แต่ไม่ว่ากติกาใดๆ พรรคพร้อมต่อสู้ ที่มองกันว่าหารด้วย 500 ชทพ.จะได้เปรียบนั้น ไม่ได้เปรียบเลย เพราะการหารด้วย 500 มีเกณฑ์ส.ส.พึงมี เป็นเรื่องยากมากสำหรับเรา ส.ส.ต้องทำงานหนักมากไม่ง่ายสำหรับเรา พรรคไม่ห่วงเรื่องโดนดูด ส.ส.มั่นใจคนที่อยู่กับเราจะไม่ไปไหน

ก้าวไกลเย้ยตู่ดิ้นเฮือกสุดท้าย
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ก.ก.เตรียมการคืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยมีขุนพลประมาณ 10 กว่าคน แบ่งเป็นทัพหน้า ทัพกลาง และทัพหลัง มั่นใจในข้อมูลที่จะใช้อภิปราย จึงเชื่อว่าจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง จะมุ่งเป้ากลุ่ม 3 ป. และรัฐมนตรีพรรคแกนนำรัฐบาล ถ้าเป็นโชคดีของประชาชน และถ้าส.ส.รัฐบาลช่วยกันอาจคว่ำพล.อ.ประยุทธ์ได้ตั้งแต่ 23 ก.ค.

เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณใช้สูตรหาร 500 เพื่อเอาใจพรรคเล็กให้ช่วยโหวตไว้วางใจ นางอมรัตน์กล่าวว่า คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะนายกฯ ต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้าย แต่คิดว่า ส.ส.เหล่านั้นมีวิจารณญาณที่จะเรียนรู้จาก ผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต 4 ที่นายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัคร ศท. แพ้ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคเสรีรวมไทย กลายเป็นลำปางโมเดล ต่อเนื่องจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จึงอยากบอกส.ส.ในสภาว่าถ้าไม่อยาก สอบตก ให้ดูลำปางโมเดล ถ้าบังเอิญว่าพล.อ.ประยุทธ์ ผ่านศึกซักฟอกไปได้ จะเป็นการเร่งปฏิกิริยาและสร้างแรงต้าน ผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะมีความชัดเจน มากขึ้น

พท.ลั่นซักฟอกไม่ผิดหวังแน่
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ถึงการ เตรียมความพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้เหลือแค่การจัดลำดับตัวผู้อภิปรายและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย โดยมอบให้ประธานวิปฝ่ายค้านและแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านไปจัดสรรเรื่องเวลา พท.เตรียม ผู้อภิปรายและประเด็นที่จะอภิปรายไว้หมดแล้ว เหลือแค่ซักซ้อม ส่วนข้อกล่าวหาแบ่งไว้เป็นกลุ่มๆ ตามที่เขียนไว้ในญัตติ ข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่พิสูจน์ให้เห็นเหมือนขึ้นศาลแต่เป็นศาลประชาชน คณะทำงานและผู้อภิปรายเตรียมการอย่างดี มั่นใจไม่มีคำว่าผิดหวังเพราะเป็นการอภิปราย ครั้งสุดท้าย

หลังอภิปรายจะนำข้อมูลข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ ทุจริตส่งศาล ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมส่ง ป.ป.ช. เมื่อถามว่าโพลอยากให้อภิปรายเรื่องเศรษฐกิจมีทีเด็ดอะไรหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ เป็นเรื่องความผิดพลาดล้มเหลว ปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติก็จะเข้าข่ายมาตรา 157 เมื่อถามถึงความมั่นใจจะมีรัฐมนตรีหลุดเก้าอี้ทั้งหมดกี่คน นพ.ชลน่านกล่าวว่า กี่คนก็เป็นการเปิดไต๋ เอาไว้ลุ้นในสภา บอกตอนนี้ก็จะมีรัฐมนตรีก้นร้อน

ตั้งเป้าปาร์ตี้ลิสต์ 18 ล้านเสียง
นพ.ชลน่านกล่าวถึงสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 อาจทำให้พท.ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเหมือนเลือกตั้งในปี 2562 ว่า ไม่น่าเหมือนเดิม แม้จะคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม ส.ส.เขตมาลบกับ ส.ส.พึงมี เพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาชนคับแค้นกับการบิดเบือนก็จะสั่งสอน ดังนั้น พท.จะได้ประโยชน์มากกว่า 15 ล้านเสียง ขึ้นกับการสื่อสารกับประชาชน เราหวังถึง 18 ล้านเสียง

ยังมั่นใจลึกๆศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาจะส่งข้อทักท้วงว่าสิ่งที่รัฐสภามีมติแก้ไขตามมาตรา 128 ขัดมาตรา 91 กกต.จะระบุว่าไม่สามารถนำสู่การปฏิบัติได้ เพราะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่ต้องกลับมาพิจารณาภายใน 30 วันเพื่อแก้ไข หรือหากยังตะแบงต่อเพื่อเอาใจคนชอบหาร 500 แต่ต้องคำนวณเป็นสัดส่วนทางตรง ทอนให้เป็น 100 ให้ได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับเขตถึงจะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์แตกแบงก์พัน นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่ายุทธศาสตร์ขยายแบงก์พัน เพียงแต่บอกว่าถ้ากลไกกติกาบิดเบี้ยว หากตั้งพรรคใหม่เพื่อจะเอาคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าทำได้จะได้เป็นกอบเป็นกำ สิ่งที่พรรคเล็กลืมคิดถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 140,000 คะแนน จะไม่มีพรรคใดที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย เป็นการฆ่าตัวเองทางอ้อมโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ซ่อมลำปาง-กระแสปชต.ขยายวง
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมจ.ลำปาง เขต 4 ที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้งว่า กรณีนี้จะเรียกว่าเป็นการแลนด์สไลด์ก็ได้ เพราะผลการเลือกตั้งชนะทุกเขต สะท้อนชัดถึงกระแสความนิยมมาอยู่ที่ฝั่งประชาธิปไตย ไม่เฉพาะพื้นที่ กทม.แต่ขยายขอบเขตไปถึงต่างจังหวัด ประชาชนจะเทใจมาให้พรรคฝั่งประชาธิปไตยมากขึ้น แม้พลังในอดีตจะไม่พอที่จะต่อสู้กับผู้มีอำนาจ แต่จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เชื่อว่าคะแนนเสียงที่ได้มาไม่ใช่พลังเล็กๆ ผู้มีอำนาจคิดอะไรต้องระมัดระวัง เช่น การจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญถือเป็นปรปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย คุณจะอยู่ได้หรือในเมื่อประชาชนเจ้าของอำนาจไม่เอา ศรีลังกาเป็นภาพตัวอย่าง การบริหารล้มเหลวมากทำให้ประชาชนลำบาก ล้มละลาย สุดท้ายเขาก็ต้องแสดงออกต่อผู้มีอำนาจว่าอย่าเหิมเกริม ใช้อำนาจที่ไม่ชอบ

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ากระแสพท.จะแลนด์สไลด์แล้ว เหมือนกรณีของนาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราไม่ทึกทักเอง เราประเมินตัวเองว่าอยู่ระดับไหน กระแสตอนนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ มีแนวโน้มว่าถ้าทำให้ดีกว่านี้ ประชาชนเห็นทางออกจะทำให้เขาเชื่อมั่นมาอยู่กับเรา

ศท.รับต้องทบทวนหลังพ่ายยับ
นายบุญสิงห์ วรินทรักษ์ ฐานะนายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสังเกต ผู้สมัคร ศท.แพ้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต 4 ให้พรรคเสรีรวมไทย(สร.) ขาดลอย จนถูกวิจารณ์ว่ามีปัจจัยการเมืองอื่นมาเกี่ยวข้อง ว่า ยอมรับว่าผลที่ออกมาผิดคาด จากที่หาเสียงมาก็มั่นใจว่าจะชนะ ขณะที่พรรค สร.ยังคิดว่าอาจแพ้เรา ผลที่ออกมาครั้งนี้ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่พรรคต้องไปทบทวนการทำงานว่าพลาดจุดไหน อย่างไร เพื่อปรับแผนทำงานต่อไป

เมื่อถามว่าประเมินสาเหตุที่เพลี่ยงพล้ำครั้งนี้อย่างไร นายบุญสิงห์กล่าวว่า ยอมรับว่าแนวทางหาเสียงแบบสร้างสรรค์ ที่นำเสนอผลงานและสิ่งที่พรรคจะขับเคลื่อนทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนในอนาคต โดยไม่ได้พูดถึงคู่แข่งในทางเสียหาย ขณะที่คู่แข่งโจมตีเราตลอด

ชี้ปมจุดยืนพรรค-มือที่มองไม่เห็น
ส่วนหนึ่งคือความไม่ชัดเจนในบทบาทการทำงานของพรรคว่าจะสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน อาจทำให้ประชาชนสับสนและมองว่าไม่ชัดเจน และชื่อพรรค ศท.อาจยังไม่คุ้นเคย และเรื่องการลงพื้นที่ของผู้สมัคร ซึ่งเป็นอดีตส.ส.ในช่วงที่ผ่านมาอาจน้อยเพราะเน้นที่บทบาทงานในสภา หรือกมธ. จนทำให้ห่างจากพื้นที่ ลงไปพบประชาชนน้อยลง

“ปัจจัยทั้งเรื่องการลงพื้นที่ ที่เราอาจชะล่าใจไปบ้างและความไม่ชัดเจนต่อสถานะของพรรค ยอมรับว่ามีผลต่อคะแนนที่ออกมา แต่มั่นใจว่าไม่ใช่มาจากการสั่งสอนของประชาชน ส่วนจะมาจากมือที่มองไม่เห็นหรือไม่นั้นคิดว่าอาจมีส่วน ประสบการณ์ครั้งนี้เราต้องหันมามองตัวเองใหม่และประเมินการทำงาน” นายบุญสิงห์กล่าว

นิพนธ์โวยปปช.ตั้งธงฟ้อง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ป.ป.ช.มีมติให้ยื่นฟ้องคดีกรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนก ประสงค์ ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ขณะที่เป็นนายก อบจ.สงขลา โดยให้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แทนการฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 โดยกล่าวหาตนเป็นคนมีอิทธิพลในจ.สงขลา นั้น ตนเคยร้องขอความเป็นธรรมต่อ ป.ป.ช.หลายครั้ง ทั้งการยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลายกรณี แต่ไม่เคยได้รับการตอบรับ ป.ป.ช.มีธงในใจหรือไม่ เพราะไม่เคยรับพิจารณาในการส่งทั้งพยานและหลักฐาน

ดังนั้นตนก็มีสิทธิ์จะปกป้องชื่อเสียง เพราะการประมูลจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา ประมูลถึง 3 ครั้ง ครั้งที่ 3 ทำยุคตนเป็นนายก อบจ. ขณะนี้คนที่ฮั้วประมูลหลบหนีหมายจับของศาลทุจริตฯ ภาค 9 ผู้ชนะที่พบว่ามีการฮั้ว ใช้เอกสารเท็จ ปลอมแปลงเอกสาร การกล่าวหาว่า ตนเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่จ.สงขลา เป็นการกล่าวหาที่ใส่ร้ายเกินไปหรือไม่

คาใจยื่นฟ้องศาลกลาง
ตนประกอบอาชีพทนายความ ครอบครัวทำอาชีพสุจริต มีโรงงานบรรจุปลากระป๋องทูน่าส่งออกนำรายได้เข้าประเทศปีละ 5-6 พันล้านบาท ไม่เคยเก็บค่าคุ้มครอง การกล่าวหาว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพล เสียหายมาก มีสิทธิ์ขอความเป็นธรรมและพร้อมต่อสู้พิสูจน์ใน ทุกศาล เมื่อถามว่าจะฟ้องกลับ ป.ป.ช. หรือไม่ นายนิพนธ์กล่าวว่า ไม่ประสงค์จะเป็น ปฏิปักษ์กับป.ป.ช. แต่จะร้องขอความเป็นธรรมแทน

ตนติดใจมาก 2 กรณี 1. ที่ป.ป.ช.ให้โอนคดีนี้ไปฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง แทนที่จะฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 9 และ 2.การให้ข่าวใส่ร้ายว่าตนเป็นผู้มีอิทธิพลในจ.สงขลา ตนเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็น รมช.มหาดไทย การระบุเป็นผู้มีอิทธิพลตนเสียหายมากกระทบต่อพรรคและรัฐบาล “ตามหลักกฎหมายผู้ถูกกล่าวหาทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อนที่ศาลตัดสิน แต่มองแล้วเขาประสงค์จะดำเนินคดีกับผมแน่ โดยเฉพาะการระบุว่าให้ฟ้องคดี ต่อศาลทุจริตฯ กลางแทนการส่งฟ้องต่อศาล ทุจริตฯ ภาค 9”

เลขาฯปปช.แจงคำว่าอิทธิพล
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ชี้แจงกรณีนายนิพนธ์ว่า คำว่าอิทธิพลไม่ใช่แปลความทางลบ แต่หมายถึงผู้กว้างขวาง คนรู้จักเยอะ เพราะอยู่ในพื้นที่มาก่อน อาจรู้จักทั้งประชาชน ข้าราชการ การนำพยานบุคคลไปไต่สวนในพื้นที่เราต้องคุ้มครองเขา ป.ป.ช.มองว่าหากมาไต่สวนในกทม.จะคุ้มครองพยานได้ดีกว่า และเขากล้าพูดความจริงได้มากกว่า การแปลความเองว่าอิทธิพลหมายถึงผู้ค้ายา เป็นมาเฟีย ขายของผิดกฎหมาย เราไม่ได้หมายถึงอิทธิพลแบบนั้น แต่หมายถึงผู้กว้างขวาง เช่น เป็นนายกอบจ. ส.ส. นักการเมือง มีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิด ต้องแปลความให้ดีๆ เขาอาจเข้าใจผิด

ส่วนข้อสังเกตอาจฟ้องนอกเขตอำนาจศาลนั้น ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้ ซึ่งมาตรา 22 อนุ 1 กำหนดว่าการฟ้องทำได้ 2 กรณี คือฟ้องในเขตอำนาจศาล และฟ้องในถิ่นที่อยู่อาศัยของผู้ถูกกล่าวหา จำเลย หรือสถานที่เกิดเหตุ เรื่องที่อยู่นายนิพนธ์ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย มีถิ่นที่อยู่ในกทม. จึงฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯกลางได้ แต่สุดท้ายก็เป็นดุลพินิจของศาลว่าจะรับฟ้องหรือไม่

พรรคเล็กทบทวนร่วมรัฐบาล
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. หัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวว่า ผลเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต 4 ที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเสรีรวมไทยชนะอย่างพลิกความคาดหมาย สะท้อนให้เห็นว่าเป็นคะแนนจากความรู้สึกของประชาชนจริงๆ ไม่มีการซื้อเสียงมาเกี่ยวข้อง เพราะซื้อไปก็ไม่คุ้ม เนื่องจากไม่รู้อายุรัฐบาลจะอยู่ครบวาระก.พ.66 หรือไม่ จึงเห็นว่าประชาชนลงคะแนนโดยยึดหลักการเลือกข้างฝ่ายค้าน ไม่เอาฝ่ายรัฐบาล ส่งใครมาก็ไม่เลือก สะท้อนความนิยมรัฐบาลตกต่ำอย่างหนัก หากตนเป็นร.อ.ธรรมนัส จะประกาศตัวให้ชัดเจน ไม่ยืนอยู่ฝ่ายรัฐบาลอีกต่อไป

ส่วนท่าทีกลุ่ม16 คงต้องหารือถึงท่าทีการอยู่ร่วมรัฐบาลกันต่อไป โดยวันที่ 18 ก.ค.นี้จะนัดหารือ ส.ส.กลุ่ม16 เพื่อประเมินผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง และท่าทีจะอยู่ร่วมรัฐบาลกันต่อไปหรือไม่ แม้จะแก้ไขกติกาคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้หารด้วย 500 ไม่ได้การันตีว่าพรรคเล็กจะได้ส.ส.กลับเข้ามาอีก

“ผลเลือกตั้งซ่อมจ.ลำปาง ปรากฏชัดเจนประชาชนเลือกข้างฝ่ายค้าน ไม่เอารัฐบาลเลย ดังนั้นต่อให้เปลี่ยนกติกาเป็นหาร 500 พรรคเล็กก็ยังลำบากมาก ไม่ต้องคิดไปถึง 7 หมื่นคะแนน เอาแค่ 4-5 หมื่นคะแนน ก็ยังลำบากในสถานการณ์ที่ประชาชนเลือกอยู่ขั้วฝ่ายค้าน เท่าที่คุยกันเบื้องต้นโอกาสไปต่อของรัฐบาล คงลำบาก ดังนั้นพรรคเล็กต้องทบทวนท่าทีให้ดี ถึงการอยู่ร่วมรัฐบาลต่อในขณะนี้” นายพิเชษฐ กล่าว

อีสานโพลชูหน่อย-แต่คะแนนลด
อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดยนายสุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เผยผลสำรวจเรื่อง ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 2/2565 พร้อมประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจและภาพรวม จากกลุ่มตัวอย่าง 1,109 ราย ในภาคอีสาน 20 จังหวัด ระหว่าง 2-4 ก.ค. พบว่าผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2/2565 ได้คะแนน 26.0 เต็ม 100 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2565 ซึ่งดัชนีเท่ากับ 24.2 สอดคล้องผลงานโดยรวมของรัฐบาลช่วงไตรมาส 2/2565 ได้คะแนน 24.7 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2565 ที่ได้ 22.1 จากการผ่อนมาตรการควบคุมโควิด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและบริการ

ถามว่าถ้ามีเลือกตั้งใหม่อยากให้ใครเป็นนายกฯ มาฟื้นฟูเศรษฐกิจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 25.8 (ลดลงจากไตรมาส 1 ที่ได้ 30.6)

พิธา-อุ๊งอิ๊งคะแนนเพิ่ม
ส่วน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 20.1 (เพิ่มจากร้อยละ 19.0) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 19.8 (เพิ่มจากร้อยละ 10.7) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 14.4 (เพิ่มจากร้อยละ 14.1) นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 11.1 (เพิ่มจากร้อยละ 9.1) คนอื่นๆ จากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 3.4 (ลดลงจาก ร้อยละ 9.5) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 3.0 (เพิ่มจากร้อยละ 2.5)

ถ้าเลือกตั้งส.ส.มีแนวโน้มให้คะแนนพรรคใด พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 36.1 (ลดลงจากร้อยละ 39.4) พรรคก้าวไกล ร้อยละ 19.5 (เท่าเดิม) พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 14.0 (ลดลงจากร้อยละ 14.30) พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 12.5 (เพิ่มจากร้อยละ 9.0) พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 12.1 (เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.2) พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 3.0 (เพิ่มจากร้อยละ 2.9) พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 2.0 (ลดลงจากร้อยละ 2.7)

พท.เปิดตัว 21 ว่าที่ผู้สมัครกทม.
เวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรค อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รองประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. และน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เบื้องต้นของพรรครวม 21 เขต โดยมีทั้งที่เป็น ส.ส.เดิมและหน้าใหม่

นพ.ชลน่านกล่าวว่า หลังเปิดตัวว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.บางส่วนแล้ว จะเปิดตัวให้ครบหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากนั้นจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.อีสาน ภาคกลางและภาคใต้ตามลำดับ โดยจะให้เสร็จภายใน 1-2 เดือน เพื่อลงไปทำงานร่วมกับประชาชน ไปบอกว่าถึงนโยบายพรรค ซึ่งเป็นจุดแข็ง เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ เราไม่เคยหวาดหวั่นระบบการเลือกตั้งและวิธีการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร เราพร้อมสู้ สำหรับกทม.เป็นเหมือนหัวใจการปกครอง โดยเฉพาะกระแสใน กทม.ขณะนี้เป็นกระแสเรียกร้องให้ประชาธิปไตยกลับมา กระแส กทม.จะช่วยให้เรากลับมาทำงานได้ ความไม่ชัดเจนในการแบ่งเขต ทำให้การคัดเลือกผู้สมัครค่อนข้างยาก และมีผู้สมัครจำนวนมากบางส่วนต้องอาศัยเวลา ขอให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจเลือกเราให้กลับมาแลนด์สไลด์

เปิด 21 เขต – พรรคเพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครชิงเก้าอี้ส.ส.กรุงเทพมหานคร รวม 21 เขตเป็นประเดิม ส่วนอีก 12 เขต จะทยอยเปิดตัวหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นที่ น่าสังเกตว่าไม่มี 2 ส.ส. นายการุณ โหสกุล และน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อยู่ด้วย เมื่อ วันที่ 11 ก.ค. ที่ที่ทำการพรรค

ส่ง‘สุธนพจน์’แทนเก่ง
สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 21 คน ประกอบด้วย 1.นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ เขตสัมพันธวงศ์ 2.น.ส.จุฑาพร เกตุราทร เขตบางรัก 3.น.ส.นวลละออง ศรีชุมพล เขตวัฒนา 4.นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เขตห้วยขวาง 5.น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล เขตจตุจักร 6.นายพชร ธรรมมล เขตราชเทวี 7.นายรัฐพงศ์ ระหงษ์ เขตบางซื่อ 8.นายสุรชาติ เทียนทอง เขตหลักสี่ 9.นายสุธนพจน์ กิจธนา ภิทักษ์ เขตดอนเมือง 10.นายอนุสรณ์ ปั้นทอง เขตบางเขน

11.นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา เขตบางกะปิ 12.นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ เขตคันนายาว 13.นายวิชาญ มีนชัยนันท์ เขตมีนบุรี 14.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เขตคลองสามวา 15.นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ เขตหนองจอก 16.น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ เขตลาดกระบัง 17.นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร เขตบางนา 18.นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร เขตคลองสาน 19.นายศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร เขตจอมทอง 20.นายวัน อยู่บำรุง เขตหนองแขม และ 21.นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เขตภาษีเจริญ

การุณยันลงดอนเมืองแข่งพท.
นายการุณ โหสกุล ส.ส.ดอนเมือง พท. กล่าวกรณี พท.เปิดตัวนายสุธนพจน์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมืองว่า ส่วนตัวไม่ทราบเลยว่า พท.มีมติอย่างไร และจะส่งใครลงแทนใคร เพราะไม่ได้เข้าร่วมประชุมหรือทำกิจกรรมของพรรคเลย ไม่ติดใจแต่ขอให้ชัดเจน ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใครใน พท.และรักพรรคมากมาโดยตลอด ปัญหาต่างๆ อาจเพราะตนเป็นตัวของตัวเอง ยืนยันจะลงสมัครส.ส.เขตดอนเมืองแม้พท.จะไม่ส่ง และไม่กังวลการแข่งขัน ที่พท.ให้คนอื่นลงแทนตนไม่ได้มีการคุยกับตน ผู้บริหารพรรคบางคนก็ทำในสิ่งที่ตนรับไม่ได้ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน