นัดถกฝ่ายค้านขออภิปราย พท.-กก.คึกพร้อมจัดหนัก‘ตู่’ มั่นใจสอยอย่างน้อย2เก้าอี้ กลุ่ม16กั๊ก-ขู่คว่ำเพิ่มจุรินทร์

‘ธรรมนัส’พาส.ส.เศรษฐกิจไทยเข้ากราบลา‘บิ๊กป้อม’ก่อนศึกซักฟอก ยังหวังได้ร่วมอภิปรายกับฝ่ายค้านที่คึกคักเตรียมถล่มนายกฯ-10 รมต. เพื่อไทยคุยประชาชนส่งข้อมูลทุจริตให้อื้อ ยังมั่นใจสอยได้ 2 คน ก้าวไกลโพสต์การ์ดเชิญประชาชนร่วมตอกตะปู‘ทลายระบอบประยุทธ์’ คุยมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ ประธาน วิปรัฐบาลลั่นพร้อมรับมือ 1,000% เชื่อดีเอ็นเอพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นของรัฐบาล ‘บิ๊กป้อม’เปิดบ้านมูลนิธิป่ารอยต่อฯ กล่อมแกนนำพรรคเล็ก โหวตหนุนรัฐบาล กลุ่ม 16 ฮึ่มอีกล็อกเป้าคว่ำรายที่ 6 เพิ่ม‘จุรินทร์’ ข้อหาแก้สินค้าแพงไม่ได้ เด็กปชป.ปลุกโหวตเพื่ออนาคตชาติ อย่ายกมือแลกกล้วย

ร่วมโหวต – ประชาชนร่วมหย่อนบัตรลงมติ กิจกรรม ‘ลงมติประชาชนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์’ จัดโดยเครือข่ายราษฎร ที่ bookmoby ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 17 ก.ค.

ระเบิดศึกซักฟอก-จัดหนัก‘บิ๊กตู่’
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. เริ่มวันที่ 19 ก.ค. เป็นวันแรก จนถึงวันที่ 22 ก.ค. และลงมติวันที่ 23 ก.ค. โดยฝ่ายค้านยื่นอภิปรายรัฐมนตรี 11 คน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

ฝ่ายค้านจัดคิวการอภิปราย เริ่มต้นด้วยรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.)คือนายอนุทิน แล้วเรียงไปยังรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น และจะอภิปรายพล.อ. ประยุทธ์ เป็นคนสุดท้าย ช่วยทำให้เกิดศูนย์รวมการลงมติและทำให้ประชาชนเฝ้าติดตามการอภิปรายตลอดทั้ง 4 วัน

วิปรบ.ลั่นพร้อมพันเปอร์เซ็นต์
นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของรัฐบาลรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า 1,000 เปอร์เซ็นต์เลยเพราะอย่างที่บอก รัฐบาลทำงานเหมือนเด็กเรียน ที่ถึงชั่วโมงเรียนก็เรียนตลอด ไปเรียนทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกวิชา ที่ครูสอน รัฐบาลก็เหมือนกัน เป็นรัฐบาลที่ทำงานตลอดเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ฉะนั้นไม่มีปัญหาอะไร เวลาออกข้อสอบมา จะถามอะไรจะซักฟอกอะไรก็ตอบได้หมด เพราะองค์ความรู้เต็ม

ผู้สื่อข่าวถามถึงทีเซอร์ที่พรรคเพื่อไทย (พท.)ปล่อยโปรโมต ชักชวนประชาชนติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิโรธกล่าวว่า ได้เห็นแล้ว ก็ตื่นตาตื่นใจดีเหมือนกัน แต่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติที่ประชาชนเฝ้ารอว่าฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ซักฟอกรัฐบาล ฉะนั้นการซักฟอกรัฐบาลต้องทำด้วยเกียรติภูมิ และศักดิ์ศรีการเป็นผู้แทนราษฎรของสภา ไม่ใช่เป็นการแสดง แต่ถือว่าโปรโมตได้น่าสนใจ บัตรราคา เท่าไหร่ เปิดจองล่วงหน้าที่ไหนไม่รู้

เชื่อดีเอ็นเอศท.เป็นของรัฐบาล
ต่อข้อถามว่า ต้องคุยกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) และกลุ่ม 16 อีก หรือไม่ เพราะขู่จะโหวตคว่ำรัฐมนตรีหลายคน นายนิโรธกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตอนที่นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพรช เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ได้โทรศัพท์พูดคุยกัน บอกกับตนว่ามีอะไรก็ประสานมา ตนไม่ได้ยินว่าพูดว่าจะคว่ำ ตนมองว่าดีเอ็นเอของพรรคเศรษฐกิจไทย เป็นดีเอ็นเอของรัฐบาล ไม่ใช่ดีเอ็นเอฝ่ายค้าน คิดว่าดีเอ็นเอฝ่ายค้านคงเข้ากับดีเอ็นเอพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่ได้

เมื่อถามว่าการประชุมวิปรัฐบาลใน วันที่ 18 ก.ค. จะพูดคุยเรื่องใด นายนิโรธกล่าวว่า คุยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซักซ้อมความเข้าใจในเรื่องที่เราเตรียมความพร้อมไว้ ทุกอย่างเดินไปหมดแล้ว

โฆษกรัฐสวนกลับเพื่อไทย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่า การอภิปราย ไม่ไว้วางใจมีเซอร์ไพรส์แน่นอน จะมีรัฐมนตรีหลุดจากเก้าอี้ 1-2 คน ว่า หากมีข้อมูล ข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างขอให้นำมาแสดงด้วย ไม่ใช่พูดลอยๆ แล้วก็เงียบหายไป หากมีมูลความจริงรัฐบาลพร้อมที่จะตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เด็ดขาดกับการทุจริต

ส่วนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงไว้หมดแล้ว ดังนั้น เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนจะได้รับความไว้วางใจครบทุกคนอย่างแน่นอน ขณะที่ฝ่ายค้านนั้น หลายคนดีไม่ดีอาจจะไม่ได้กลับเข้าสู่สภาด้วยซ้ำ เพราะเน้นสร้างความสับสนให้ประชาชนมากกว่าที่จะช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง

“ทีเด็ดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่อ้างว่าเป็นเรื่องการทุจริตที่นายกฯ คาดไม่ถึง พูดไปจะทำให้มีคนช็อกนั้น เกรงว่าคนที่ช็อกจะเป็นฝ่ายค้านเสียเอง ที่เอาข้อมูลมาแบบลวกๆ แล้วมาปะติดปะต่อแบบคิดเองเออเองว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อรัฐบาลชี้แจงจนประชาชนหายสงสัย ฝ่ายค้านคงหน้าแตกเหมือนกับหลายๆ เรื่องที่ดีแต่ออกมาปูดข่าวรายวัน แล้วจบลงที่การอ้างว่าเข้าใจผิด โดยไม่เคยสำนึกที่จะขอโทษคนที่ตัวเองทำให้เขาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะความปากพล่อยของตัวเอง ดังนั้น ที่หวังจะสอยเขา ระวังว่าสุดท้ายจะถูกสอยเสียเอง” นายธนกรกล่าว

เด็กปชป.ปลุกโหวตเพื่อชาติ
นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กรณี “โหวตเพื่ออนาคตชาติ อย่ายกมือเพราะกล้วย” ว่า ช่วงก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีกระแสข่าวเรื่องการล็อบบี้โดยมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกันต่างๆ นานา เพื่อรวบรวมเสียงให้ฝั่งตัวเอง ไม่ว่าจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล

สำหรับการตัดสินใจว่าจะยกมือไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจให้กับนายกฯ หรือรัฐมนตรีคนใด ถือเป็นดุลพินิจของ ส.ส.แต่ละคน เพราะผู้แทนทุกคนมีเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ต้องอยู่ภายใต้การครอบงำของใคร ส.ส.แต่ละท่าน ไม่ควรรีบสรุปตั้งแต่ยังไม่เห็นข้อมูลเอกสารหลักฐานของฝ่ายค้าน หรือแม้แต่คำชี้แจงของรัฐมนตรี เพราะเป็นการทำให้ประชาชนสิ้นหวังกับกลไกตรวจสอบ ดังกล่าว เราควรรอดูข้อมูลจากฝ่ายค้านก่อนว่ามีน้ำหนักเพียงใด และรัฐมนตรีแต่ละคนสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้หรือไม่ แล้วจึงมาตัดสินใจว่าจะโหวตอย่างไร

อย่าใช้ความเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล หรือเกมการเมือง มาเป็นหลักในการตัดสินใจอย่างเดียว โดยไม่ได้สนข้อมูลใดๆ เพราะหากมีการบริหารล้มเหลว และส่อเค้าทุจริตคอร์รัปชั่น เท่ากับเราหลับหูหลับตาให้กับสิ่งเหล่านี้ ไม่ต่างอะไรกับการส่งเสริมให้คนพวกนี้กระทำผิดโดยที่ไม่มีใครทำอะไรได้

ในส่วนของตนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะโหวตให้ใครอะไร อย่างไร แม้จะมีหลายฝ่ายพยายามเข้ามาล็อบบี้ขอคะแนนเสียง แต่หลักการของตนคือจะไม่มีทางโหวตไว้วางใจให้กับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ทุจริตคอร์รัปชั่น ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนในโครงการต่างๆ ทั้งที่มีการเผยแพร่หลักฐานออกมาก่อนหน้าการอภิปรายและระหว่างการอภิปราย

ยี้รมต.บริหารศก.เหลว-ทุจริต
เรื่องความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เป็นอีกเรื่องที่จะไม่ยอมปล่อยผ่านเช่นเดียวกัน เพราะเท่ากับหลิ่วตาให้ พี่น้องประชาชนต้องทนทุกข์ต่อไป รวมทั้งไม่ก้มหน้าก้มตายกมือไว้วางใจให้กับคนที่ถูกมองว่าเป็นผู้สร้างปัญหาให้ประเทศ การปล่อยให้ชาวบ้านรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทั้งราคาน้ำมัน ทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคตลอดจนนโยบายที่เป็นการเพิ่มภาระและซ้ำเติมประชาชน และไม่เห็นวี่แววแห่งการฟื้นตัว โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ปรับคาดการณ์จีดีพีทั้งปี 2565 ลงจากระดับ 3.5-4.5% เหลือ 2.5-3.5% หรือค่ากลางที่ 3% ขณะที่การฟื้นตัวของไทยยังช้าเป็นอันดับท้ายๆ ของภูมิภาคอาเซียน โดยฟิลิปปินส์อยู่ที่ 8.3% เวียดนาม 5.03% อินโดนีเซีย 5.01% มาเลเซีย 5% สิงคโปร์ 3.4% ในขณะที่เราอยู่ที่ 2.2%

ในส่วนของเงินเฟ้อของไทยเดือน พ.ค. อยู่ที่ 7.10% ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 13 ปี จำนวนหนี้สินเฉลี่ยของครัวเรือนในปี 2564 อยู่ที่ 205,679 บาท เพิ่มขึ้น 25.4% เมื่อเทียบกับหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนที่ 164,005 บาท ในปี 2562 ขณะที่ตัวเลขหนี้สาธารณะของไทยมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จนเลขหนี้ทะลุ 60% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประเทศศรีลังกาเป็นกรณีศึกษาที่เราควรตระหนัก หากเรายังดื้อดึงจะเดินในแนวเดิมๆ ต่อ อย่าคิดว่าจุดจบจะเป็นแบบนั้นไม่ได้ 3 ปีผ่านไป ประชาชนหมดความศรัทธากับพวกเรา การอภิปรายครั้งนี้พวกเขาจับตาและจะพิสูจน์ ส.ส.แต่ละคนว่าจะยกมือเพื่ออนาคตของชาติ หรือจะยกมือเพราะกล้วยเพราะโดนครอบงำ

“ผมว่าหมดเวลาแล้วที่ ส.ส.จะเล่นเกมการเมือง ไม่ว่าสังกัดพรรคไหน และถึงเวลาแล้วที่เราต้องโหวตจากจิตสำนึกความเป็นผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนประชาชน ไม่ว่ารัฐมนตรีท่านใดจะเป็นคนดีขนาดไหน หากบริหารเศรษฐกิจประเทศล้มเหลว และยังปล่อยให้มีเรื่องทุจริตผมจะไม่ยกมือให้” นายพนิตกล่าว

บอกความจริง – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงสะพานคลองเคล็ดที่ทรุดตัว พร้อมแนะนำให้บอกความจริงประชาชนถึงสาเหตุล่าช้าและกำหนดเวลาแล้วเสร็จ ที่อุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอน เขตประเวศ กทม. เมื่อ 17 ก.ค.

พท.คุยปชช.ส่งข้อมูลทุจริตให้อื้อ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ฝ่ายค้านพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เรามั่นใจในข้อมูลข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหาทั้งหมด ผลการทำหน้าที่ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตลอด 8 ที่ผ่านมา เห็นผลชัดเจนแล้วว่าเป็นอย่างไร ขณะที่ระบบรัฐสภายึดเสียงข้างมาก ฝ่ายรัฐบาลมักจะไม่ค่อยฟังเหตุผล อะไรผิดก็ทำให้เป็นถูก อะไรที่ถูกก็ทำให้ผิดได้ จึงเป็นเรื่องยากที่เสียงข้างมากจะแปรเปลี่ยนมาอยู่กับเรา แต่คาดหวังว่าข้อมูลข้อเท็จจริงที่เรามี จะทำให้เพื่อนสมาชิกเห็นคล้อยตาม และร่วมโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทยที่ประกาศถอนตัวจากรัฐบาลและขอมาอยู่เป็นฝ่ายค้านนั้น การเป็นฝ่ายค้านมีทั้งที่เป็นฝ่ายค้านอิสระและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งไม่รู้ว่าพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นฝ่ายค้านแบบไหน แต่การที่เขาประกาศว่าเขาเป็นฝ่ายค้านอิสระนั้น ทำให้เขาสามารถกำหนดมติและทิศทางต่างๆ ได้โดยไม่ต้องยึดติดกับเรา ดังนั้นการจะคาดหวังให้ร่วมโหวตให้กับเรา คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามจังหวะ รวมถึงข้อมูลข้อเท็จจริงที่เราจะชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่ควรได้รับความไว้วางใจอย่างไร ยืนยันว่าเราจะทำหน้าที่ให้ถึงพร้อมที่สุด เราต้องให้เกียรติประชาชนที่รักและเชียร์เรา ซึ่งครั้งนี้ประชาชนได้ส่งข้อมูลทุจริตของรัฐบาลมาให้กับเราเยอะมาก

ขุนพลฝ่ายค้านเตรียมถล่มคึกคัก
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้านพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ครบทั้งบุคคลที่อภิปรายและเนื้อหาที่อภิปราย ส่วนที่พรรคเพื่อไทยปล่อยทีเซอร์คลิปโหมโรงศึกซักฟอก ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นั้น เห็นว่าวันนี้พี่น้องประชาชนเบื่อเรื่องการเมือง จึงทำแคมเปญชุดนี้ออกมาเพื่อจะดึงดูดความสนใจของประชาชนให้มาร่วมดูการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ความสำคัญคือวันนี้ประเทศชาติไปไม่ไหวแล้ว อยากให้ประชาชนได้มาดูการถ่ายทอดสดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเห็นว่าเนื้อหาที่เตรียมไว้ ไม่ได้ทำเล่นๆ มีการเตรียมการ วิเคราะห์ข้อมูล ซักซ้อมไว้หลายอย่าง

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากพรรคเศรษฐกิจไทย ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้าน พรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือเรื่องการจัดสรรเวลาให้อภิปรายด้วยหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานมา ถ้ามีการประสานมาขออภิปราย ต้องมีการ นำเรื่องมาหารือกันในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง เนื่องจากแต่ละพรรคได้เตรียมคน เตรียมเนื้อหาไว้หมดแล้ว

ถ้าภายในวันที่ 18 ก.ค. พรรคเศรษฐกิจไทยยังไม่มีการประสานงานมา เกรงว่าจะไม่ทัน เพราะต้องมีการมาพูดคุยกัน เตรียมเนื้อหา เรื่องอภิปรายซ้ำซ้อนหรือไม่ ต้องบริหารเวลา ขณะนี้เรื่องการแบ่งเวลาให้แต่ละพรรคร่วมฝ่ายค้าน ค่อนข้างจะลงตัวหมดแล้ว

หวังสอย2รมต.-30เสียงร่วมขย่ม
ต่อข้อถามว่าพรรคฝ่ายค้านบอกจะมีหมัดเด็ดสอย 2 รัฐมนตรีร่วงในสภา เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีมากกว่า 2 คน นายประเสริฐกล่าวว่า “มี เอาอย่างนี้แล้วกัน หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะยื่นคำร้องไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือ ศาลรัฐธรรมนูญให้ดำเนินการเอาผิดผู้ที่ถูกกล่าวหา”

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายมองว่า ฝ่ายค้านอาจล้มรัฐบาลได้ยาก เพราะมีงูเห่าที่คอยสนับสนุนรัฐบาลอยู่ นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้พยายามป้องกันอยู่ ถ้าดูจากผลโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ชี้ชัดว่ามีบุคคลที่อยู่ฝ่ายค้านแต่ไปโหวตให้รัฐบาลนั้นมี แต่ตอนนี้เข้าใจว่าหมดแล้ว ไม่มีแล้ว

ขณะเดียวกันพรรคเศรษฐกิจไทยประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายค้าน 100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้านจะได้เสียงส่วนนี้มาส่วนหนึ่ง ประมาณตัวเลขจากสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย 18 เสียง และมีพรรคเล็กพรรคน้อยที่เคยพูดไว้ จะมาโหวต ไม่ไว้วางใจร่วมกับฝ่ายค้านหลายคน อาจจะมีเสียงถึง 30 คน หรือไม่น้อยกว่า 20 คน เป็นพลังที่ทำให้รัฐบาลสั่นไหวได้

ต่อข้อถามว่าได้พูดคุยกับกลุ่ม 16 อีกหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ยังไม่มีการลงรายละเอียด ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะช่วงนี้กำลังเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกัน แต่ฟังจากนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ก็เคยพูดในประเด็นเรื่องท่อส่งน้ำอีอีซี บอกว่ามีความไม่ชอบมาพากล นายพิเชษฐจะไม่โหวตให้ฝ่ายรัฐบาล เป็นสัญญาณทิศทางหนึ่งที่มั่นใจว่า เสียงส่วนหนึ่งที่ได้รับฟังข้อมูล อาจเปลี่ยนใจมาสนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน

ก.ก.ลุยทลายระบอบประยุทธ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เผยแพร่โปสเตอร์เชิญชวนประชาชนร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ในธีม “ตอกตะปูปิดตาย ทลายระบอบประยุทธ์” โดยโปสเตอร์ถูกออกแบบให้คล้ายคลึงกับการ์ดเชิญงานศพ และมีการบอกใบ้หัวข้ออภิปรายที่น่าสนใจหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจจับระเบิด GT-200 ซึ่งเคยมีคดีทุจริตตลอดหลายปีผ่านมา คดีทุจริตอนุสาวรีย์ การอภิปราย “นักรบไซเบอร์” ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเป็นภาคต่อของการอภิปรายปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของกองทัพ ซึ่งพรรคทำมาตั้งแต่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังยืนยันว่ามีหัวข้อการอภิปราย “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ที่จะอภิปรายโดยนายรังสิมันต์ โรม แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องใด และยังเตรียมเปิดให้ประชาชนร่วมลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลผ่านการกดไลก์ทางเฟซบุ๊กด้วย โดยจะประกาศผลการลงคะแนนในวันที่ 23 ก.ค. ก่อนการลงมติจริงในสภาผู้แทนราษฎร

ศท.รอเข้าคุยพรรคฝ่ายค้าน
นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประสานจัดสรรเวลาจากพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้พรรคเศรษฐกิจไทยร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค ระบุแล้วว่ารอให้สภาเปิดก่อน จะเข้าไปคุยกัน ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงวันหยุด ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคชี้แจงว่าขณะนี้มีการแบ่งสรรเวลาให้ผู้อภิปรายลงตัวครบทุกคนแล้ว หากพรรคเศรษฐกิจไทยจะเข้าร่วมอภิปรายให้ไปขอแบ่งเวลาจากฝ่ายรัฐบาลนั้น ตนมองว่าใครจะพูดอะไรก็พูดไป ขอให้ไปถามคนที่พูด

ส่วนถ้าได้พูดคุยกันแล้ว ฝ่ายค้านจะแบ่งเวลาให้หรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกัน รวมถึงการวางตัวผู้อภิปรายในส่วนพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยที่ต้องรอสภาเปิดทำการก่อน เนื่องจากช่วงวันหยุดยาว ตนยังลงพื้นที่อยู่ต่างจังหวัดจึงยังไม่มีข้อมูลอะไร เพราะยังไม่ได้คุยกัน

‘ป้อม’ขอพรรคเล็กหนุน11รมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมส.ส.พรรคบางส่วน เดินทางเข้ามูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในซอยพหลโยธิน 8 กรุงเทพฯ เพื่อกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปร่วมทำงานกับฝ่ายค้าน โดยใช้เวลาพูดคุยไม่นานก่อนแยกย้ายกลับ ส่วน ร.อ.ธรรมนัสอยู่พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร เป็นการส่วนตัว สักครู่จึงเดินทางกลับ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรอารมณ์ดี และเข้าใจเหตุผลที่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล

ขณะที่ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันพรรคเล็กและกลุ่ม 16 ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร เพื่อหารือถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกลุ่ม 16 ยังได้ทักทายกับ ร.อ.ธรรมนัส ด้วย ซึ่งกลุ่ม 16 ได้ใช้เวลาหารือกับ พล.อ.ประวิตร ราว 5 นาที โดย พล.อ.ประวิตรขอความร่วมมือให้กลุ่ม 16 ลงมติไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 11 คนไปในทิศทางเดียวกัน

ต่อมาเวลา 17.00 น. กลุ่ม 16 ประกอบด้วย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16, นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย, นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม, นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย

นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่, นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่, นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่, นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคพลังชาติไทย, นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน มาร่วมรับประทานอาหารและหารือถึงทิศทางการลงมติอภิปราย ที่ร้านอาหารเพลิน ถนนวิภาวดี

กลุ่ม 16 ยังแทงกั๊ก
นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 ให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่ม 16 ยืนยันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ขณะนี้ยังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องการถอนตัว ถ้านายกฯ และรัฐมนตรีชี้แจงไม่ได้ ประเทศเสียหาย จะมาพิจารณาว่าจะลงเรือลำเดียวกันต่อไปหรือไม่

ส่วนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากการพูดคุยเรามีมติลงคะแนนไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 16 เสียง ถ้าพบว่ารัฐมนตรีหรือรัฐบาลทุจริต จะใช้เอกสิทธิ์ในการโหวตไม่ไว้วางใจ ถ้าส่อทุจริตเราคงโหวตให้ไม่ได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากลุ่ม 16 รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์นั้น ขอยืนยันว่าเราไม่ต้องการผลประโยชน์ แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าคนเป็นรัฐมนตรีจะต้องมือสะอาด สามารถตรวจสอบได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีสมาชิกในกลุ่ม โหวตไปในทิศทางเดียวกับฝ่ายค้านจะต้องพิจารณาลงโทษหรือไม่ นายพิเชษฐกล่าวว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. ไม่มีใครสั่งได้ แต่เมื่อกลุ่ม 16 มีมติแล้ว คนนั้นจะไปอย่าง คนนี้จะไปอย่าง จะต้องมีเหตุผล ตนเชื่อในสปิริตการทำหน้าที่ของส.ส. ว่าจะต้องมีเหตุผล ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ตนยังไม่ได้คุยด้วย เพราะตนไม่ได้เข้ามูลนิธิป่า รอยต่อฯ กับพรรคเล็ก

ดินเนอร์ – พรรคเล็กและกลุ่ม 16 นำโดย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 หารือเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ร้านอาหารเพลิน ถนนวิภาวดี หลังเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.

ฮึ่มคว่ำ‘จุรินทร์’รายที่ 6
นายพิเชษฐกล่าวว่า กลุ่ม 16 ให้ความสนใจกับ 5 รัฐมนตรีเป็นพิเศษได้แก่ พล.อ.อนุพงษ์ นายชัยวุฒิ นายสันติ นายนิพนธ์ และนายจุติ เพื่อเตือนให้รู้ล่วงหน้าว่ามีความบกพร่องในการทำงาน ต้องเร่งแก้ปัญหาการทำงาน และเตรียมทำการบ้านมาชี้แจงในการอภิปรายให้ดี

โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ที่รอดมาได้ทุกครั้งในการอภิปราย มาครั้งนี้อาจไม่แน่ นอกจากถูกกล่าวหาเรื่องการทำงานตามญัตติของฝ่ายค้านแล้ว พล.อ.อนุพงษ์มีบุคลิกไม่สนใจส.ส. ติดต่อยาก เลยยิ่งไปกันใหญ่ ทำให้การประสานงานระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารเหมือนถูกปิดกั้น

การออกมาเตือนรัฐมนตรีเหล่านี้ เตือนด้วยความหวังดี ไม่เกี่ยวกับการเคาะกะลา หรือส่งสัญญาณเรียกรับผลประโยชน์ใดๆ กลุ่ม 16 ก็มีข้อมูลของรัฐมนตรีเหล่านี้ในระดับหนึ่ง แต่ฝ่ายค้านมีข้อมูลรู้มากกว่าพวกตนอีกหลายเท่า จึงอยากเตือนให้ปรับปรุงการทำงาน

ขณะเดียวกันกลุ่ม 16 จะเพิ่มรัฐมนตรีที่ต้องจับตามองจาก 5 คน เป็น 6 คน โดยเพิ่มนายจุรินทร์ขึ้นมา เนื่องจากมีปัญหาการทำงานมาก ไม่สามารถแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงได้เลย สินค้าแพงทุกอย่างแพงไปหมด จึงต้องฟังคำชี้แจงจากนายจุรินทร์ถึงแนวทางแก้ปัญหาได้ทำอะไรไปบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาลงมติไม่ไว้ใจหรือไม่

นัดคุย‘ธรรมนัส’19 ก.ค.
ด้านนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม กล่าวว่า การเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ทางพล.อ. ประวิตรเป็นคนเชิญพรรคเล็กไปหา เรา ไม่ได้เสนอหน้าต่อรอง ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ได้พบกัน แต่ไม่ได้มีการคุยกัน เพราะแยกกันคุยคนละห้อง การเข้าพบกับพล.อ. ประวิตร ได้ขอให้โหวตให้รัฐบาลไปในทิศทางเดียวกัน แต่เปรยว่าเสียงของรัฐมนตรีแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน แต่อย่าให้ห่างกันเยอะเกินไป ยืนยันว่ากลุ่ม 16 เสียงไม่แตกแน่ ซึ่งในวันที่ 22 ก.ค. กลุ่ม 16 จะคุยกันอีกครั้งก่อนที่จะโหวตในวันที่ 23 ก.ค. และในวันที่ 19 ก.ค. ได้นัดหารือกับ ร.อ. ธรรมนัส เรื่องทิศทางการทำงานร่วมกัน

ส่วนกรณีที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวเปรียบกลุ่มพรรคเล็กว่าเป็น “ปรสิต” นั้น ตนไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้ใส่ใจอะไร และจากการที่ฝ่ายค้านมีเสียงข้างน้อย จะอภิปราย 10 ปี 10 ชาติก็ไม่สามารถทำได้ จึงควรหาข้อมูลเพื่อมาโน้มน้าวให้พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยได้ เพื่อได้เสียงเพิ่มจะดีกว่าการมาดูถูกดูแคลนทำให้รู้สึกแย่ เพราะพรรคเล็กก็มีศักดิ์ศรี

‘หมอวรงค์’แนะ 8 ไกด์ไลน์
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี (ทภด.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมได้เห็นการโหมโรงอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทย โดยตั้งชื่อว่า “ยุทธการเด็ดหัวสอยนั่งร้าน” ถือว่าสร้างความน่าสนใจได้ไม่เลว แต่ไม่น่าไปพลาด กับคำว่า “สอยนั่งร้าน” ทำให้ภาพนั่งร้าน ที่ซุกอยู่ในกองข้าวสาร สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกขุดออกมาเผยแพร่ในโซเชี่ยลอีกรอบ แต่ไม่เป็นไร ผมมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถทำให้นายกฯ ติดคุกได้ นั่นคือ

1.การโกงหรือทุจริตคอร์รัปชั่น 2.การโกงนั้น ต้องโกงจนประชาชนเบื่อระอา เกิดเป็นกระแสว่า โกงกันหนักมาก เหมือนสมัยจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 3.ถ้าโกงกันหนักๆ จะมีประชาชนที่หวังดี ทนไม่ได้ เอาข้อมูล หลักฐาน มาให้เราเอง

4.ถ้าข้อมูล หลักฐาน มาจากประชาชนหลายคนมากๆ ยิ่งดี เพราะสะท้อนว่า ประชาชนก็ทนไม่ได้จำนวนมากเช่นกัน 5.คนที่จะอภิปราย ต้องมีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ข้อมูล หลักฐานที่ประชาชนนำมาให้ พร้อมหาทางตรวจสอบ ข้อเท็จจริงว่า เป็นเอกสารจริง

6.หัวใจสำคัญคือ การนำข้อมูล หลักฐานมาร้อยเรียงให้เป็นเรื่องเดียวกัน และ วิเคราะห์ให้ได้ว่า ยังขาดข้อมูล หลักฐานอะไร ที่ต้องมาเติมเต็ม 7.หลักฐานและข้อมูล ต้องโยงถึงนายกฯ ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่กล่าวเองลอยๆ 8.คนที่จะอภิปรายต้องซ้อมอภิปรายหลายๆ รอบแม่น เพราะจะถูกรบกวนสมาธิ ด้วยการประท้วง

“ถ้าฝ่ายค้านสามารถดำเนินการตาม คำแนะนำ อาจจะได้เห็นนายกฯ หรือรัฐมนตรีติดคุก แต่ถ้าเอาข้อมูลตามหน้าสื่อ ไม่มีหลักฐานใดๆ ทุกอย่างจะเข้าเนื้อฝ่ายค้านเองว่าไม่มีน้ำยา” น.พ.วรงค์ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน