ตู่ฉุนต่อรอง-ย้ำไม่ปรับ ป้อมสั่งพลิกใช้หาร100 กมธ.ถอนร่าง-เสนอใหม่

‘ตู่’ไม่พอใจ กลุ่มปากน้ำต่อรองปรับครม. ย้ำยังไม่คิด ‘ป้อม’ยัน 3 ป.คุยกันเรียบร้อย ยันไม่ใช่เรื่องเก้าอี้ มท.1 ‘ป๊อก’ ลั่นปรับยังไง 3 ป.ก็ไม่แตก ส.ส.สมุทรปราการปลื้ม หัวหน้าพปชร.ให้โควตารัฐมนตรี สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 วุ่น กมธ.ถอนร่างพ.ร.ป. เลือกตั้งกลับมาพิจารณาใหม่ ประวิตร สั่งพรรคร่วมพลิกยึดสูตรหาร 100 แกนนำส่งสัญญาณฟื้นบัตรใบเดียว พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉลุยวาระ 3 ป.ป.ช.ฟันซ้ำ‘กนกวรรณ’ อีก 2 คดี ออกโฉนดรุกเขาใหญ่-ที่หลวง พรรคจิ๋ววอนป้อม เบรกธรรมนัสสาวไส้รับกล้วย ทอ.ยื่นอุทธรณ์กมธ.งบฯ จำเป็นต้องซื้อ เอฟ 35 แกนนำเพื่อไทยทำบุญ 73 ปี ทักษิณ เจ้าตัวลั่นตายห้ามเผา

‘ตู่’ย้ำไม่คิดปรับครม.
วันที่ 26 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามถึงความเป็นไปได้ในการปรับครม. หลังจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้ความหวังกับส.ส. กลุ่มปากน้ำจะให้เก้าอี้รัฐมนตรี ระหว่าง ลงพื้นที่จ.สมุทรปราการ วันที่ 25 ก.ค. และ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกระแสข่าวจะให้พล.อ. ประวิตรนั่งรมว.มหาดไทย โดยนายกฯ มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถาม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวหลังการประชุมครม.ถึงความชัดเจนการปรับครม.ว่า “ยังไม่ได้คิด” เมื่อถามว่าได้คุยกับพล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม

บอกสื่อเสนอข่าวเบาๆ บ้าง
นายกฯ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องไหนที่เป็นประโยชน์จะนำไปแก้ไขปรับปรุงการทำงานของรัฐบาล ขออย่างเดียวให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ช่วยกันรักษากฎหมาย ตนไม่ไปก้าวล่วงอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องไปรับผิดชอบกันเอาเอง ตนไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรนอกเหนือคนอื่น รับการตรวจสอบทุกประเด็น คดีตนก็มี ขอต่อสู้ไปตามกระบวน การยุติธรรม

ระหว่างเดินออกจากตึกบัญชาการ 1 ไปตึกไทยคู่ฟ้าฝนตกปรอยๆ พล.อ.ประยุทธ์ชี้นิ้วไปบนท้องฟ้าพร้อมกล่าวว่า ฝนตกดูแลตัวเองกันด้วยนะ และว่า “เบาๆ กันบ้างนะ บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไป”

ป้อมลั่น 3 ป.คุยกันเรียบร้อย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับพล.อ.อนุพงษ์ หลังส.ส.สมุทรปราการต้องการให้เป็นรมว.มหาดไทยแทน ว่า “คุยแล้วๆ” เมื่อถามว่า ระหว่างพล.อ.อนุพงษ์กับพล.อ. ประยุทธ์ได้คุยกันอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่บอก เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะไม่มีความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรียบร้อยๆ

เมื่อถามว่าจะมีการหารือเรื่องปรับครม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ เมื่อถามถึงกระแสข่าวไปนั่ง รมว.มหาดไทยแทนพล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ที่คุยกันไม่ใช่เรื่องนี้

ป๊อกลั่นปรับยังไง 3 ป.ก็ไม่แตก
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีได้คะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุดว่า ต้องเคารพเสียงโหวต เขาโหวตอย่างไรเป็นสิทธิอันชอบธรรม เราก็ต้องรับฟัง ส่วนกระแสกดดันตามมาที่ต้องการให้พปชร. ปรับครม.ในส่วนรมว.มหาดไทย หรือ มท.1 พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เป็นการพิจารณาของนายกฯ จะปรับครม.หรือไม่ อย่างไร

เมื่อถามว่าต้องคุยกับพล.อ.ประวิตรถึงกระแสข่าวนั่งมท.1 แทน เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า “ไม่มีปัญหา แต่สื่อถามไปถึงเรื่องเลือกตั้งเลยหรือ ผม ไม่เกี่ยว ถ้าจะปรับอะไรอยู่ที่นายกฯ และก็ ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะปรับอย่างไร 3 ป.ไม่มีแตก ไม่มียึดติดกับเรื่องที่ต้องแตกหรืออะไร 3 ป. อยู่กันมาค่อนชีวิตแล้ว 50 กว่าปีที่อยู่กันมาก็รู้ดี รองนายกฯ เป็นทั้งเจ้านายเก่า เป็นทั้ง พี่เลี้ยงที่สอนผมมา เพราะฉะนั้นไม่มีปัญหา ถ้านายกฯ จะปรับอย่างไรท่านก็ปรับได้เต็มที่เลย ผมก็ไม่มีอะไร แต่ไม่แตกกันแน่นอน”

ไม่น้อยใจกลุ่มปากน้ำ
เมื่อถามว่าเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ต้องพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร เพื่อพูดคุยกับส.ส.สมุทร ปราการหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ตนไม่มีหน้าที่ไปคุย เพราะก็น้อมรับอยู่แล้ว เพราะส.ส. ต้องการทำงานในพื้นที่ ต้องการได้โครงการ แต่งบประมาณมีจำกัด ต้องพิจารณาตาม ขั้นตอน เราก็มีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจเขา

เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่นักการเมือง ไม่เข้าใจสไตล์การทำงาน พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่น้อยใจ มันเป็นเรื่องการเมือง เราก็ทำไปตามกฎเกณฑ์ แต่ถ้าจะพูดอีกมุมหนึ่ง ถ้าตนทำอย่างนี้พรรคฝ่ายค้านทั้งหมดก็ต้องนับถือตน แต่เราต้องเข้าใจการเมืองเพราะส.ส.ก็ต้องการโครงการไปดูแลพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องปกติ ตนก็น้อมรับส่วนนี้

นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ กก.บห.พปชร. กล่าวกรณีพล.อ.ประวิตรรับปากกลุ่มปากน้ำจะปรับครม.และให้เก้าอี้รัฐมนตรีว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่มีอะไร เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตรไปรับปากว่าจะปรับให้ได้เป็นรัฐมนตรี เป็นการกดดันหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ยังไม่มีอะไร หัวหน้าพรรคว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น และต้องปรับคนมาช่วยงานใน 2 เก้าอี้ที่ว่างหรือไม่ก็เป็นเรื่องของนายกฯ

อู๊ดด้ายันถนอมน้ำใจพรรคร่วม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์กรณี 3 ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) งดออกเสียงในการลงมติไม่ไว้วางใจว่า โฆษกปชป.ชี้แจงรายละเอียดไปเรียบร้อยแล้ว ตนยังต้องอยู่ทำงานร่วมกัน ต้องถนอมน้ำใจกันไว้ เพราะต้องอยู่ทำงานร่วมกันต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือ และไม่ขอให้ความเห็นใดเพิ่มเติม รวมถึงไม่ได้สอบถามถึงเหตุผล

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ ชทพ. กล่าวว่า ชทพ.และปชป.ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มต้นเป็นรัฐบาล ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สิ่งที่เกิดขึ้นเราได้ทำความเข้าใจกัน นายจุรินทร์เป็นผู้ใหญ่มาก ไม่ได้ติดใจอะไร ส่วน ชทพ.จะตั้งกรรมการสอบสวนหรือมีบทลงโทษหรือไม่ เบื้องต้นต้องไปคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคจะมีมาตรการอย่างไร เพราะตอนที่เกิดขึ้นก็ตกใจพอสมควร

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้า ปชป. กล่าวว่า ร่วมรัฐบาลน่าจะคุยกัน ไม่ต้องถึงขั้นให้ พล.อ.ประวิตรเป็นกาวใจ คุยกันได้หมด และไม่ทราบแกนนำ ชทพ.ได้ประสานงานมาที่พรรคแล้วหรือยัง เมื่อถามถึงการเขย่าให้ปรับครม.ในปชป. นายนิพนธ์กล่าวว่า ยังไม่มีอะไร และตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไร แต่ไม่อาจยืนยันเรื่องในอนาคต

อนุทินยันภท.ไม่ปรับครม.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ ภท.จะปรับครม.หรือไม่ว่า ไม่ปรับ การปรับให้ถามนายกฯ เมื่อถามว่าจะปรับเก้าอี้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและความเหมาะสมของแต่ละวัน

โต้ดีลทักษิณ-พลิกสูตรสส.
เมื่อถามข้อเท็จจริงที่ ภท.จะกลับไปใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อการ 100 นั้น ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทุกอย่างเป็นไปตาม ขั้นตอนอยู่แล้ว และสูตรหาร 500 ก็ผ่านสภาไปแล้ว เมื่อถามว่าหาก กกต.ตีกลับมาให้สภาแก้ไข นายอนุทินกล่าวว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะกลับไปใช้สูตรหาร 100 เนื่องจากไปดีลกับพรรค เพื่อไทย (พท.) และนายทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯ นั้น ไม่ใช่ ภท.แน่นอน เหตุการณ์ ดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่ยืนยันไม่ใช่ ภท.แน่นอน

เมื่อถามว่ายืนยัน ภท.ยังสนับสนุนสูตรหาร 500 นายอนุทินกล่าวว่า เราโหวตรับหลักการหาร 500 ไปแล้ว และใช้บัตร 2 ใบ ถ้าเราได้ส.ส.เขตพื้นที่มากกว่าส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ถือว่าประสบความสำเร็จ แม้จะไม่ได้ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์เลยก็ตาม ไม่ใช่ปัญหา ส.ส.เขตรับใช้ประชาชนในพื้นที่ได้มากกว่า เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคต้องชิงเก้าอี้นายกฯ ควรต้องมีส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ไม่มีกฎข้อนั้น และ ไม่คิดว่าจะมีความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้น

ตู่หงุดหงิดข่าวก๊วนปากน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าก่อนประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้าหงุดหงิดกับข่าว 6 ส.ส.สมุทรปราการ โหวตสวน และเรียกร้องปรับ ครม. ให้ พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.มหาดไทย โดยตั้งข้อสังเกตเหตุใด 6 ส.ส. ถึงกล้าแสดงออกขนาดนี้

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ. ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ นั่งจิบกาแฟหารือกันในห้องเล็กตามปกติเหมือนทุกครั้ง โดยมีรัฐมนตรีสลับกันเดินเข้าไปพูดคุย ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ ปกติมีท่าทีนิ่งเงียบอยู่แล้ว วันนี้เห็นได้ชัดว่าดูเคร่งขรึมมากกว่าปกติ ส่วนนายสุชาติพยายามหลีกเลี่ยงให้สัมภาษณ์

ป้อมสั่งกลับไปใช้สูตรหาร 100
นอกจากนี้ 3 ป. ยังได้หารือถึงร่าง พ.ร.ป. การเลือกตั้ง ส.ส. มีการตามแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปนั่งพูดคุย เพื่อแจ้งความจำนงที่ต้องการจะกลับไปใช้สูตรหาร 100 ในวงหารือมีการคำนวณให้ดูว่า ถ้าหาร 500 พรรคร่วมรัฐบาลจะเสียเปรียบในการเลือกตั้ง พรรคขนาดใหญ่และพรรคขนาดกลางจะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย จึงต้องการทำให้เบ็ดเสร็จในที่ประชุมรัฐสภา 26 ก.ค. แต่พรรคร่วมรัฐบาลพยายามอธิบายว่าทำไม่ได้ เนื่องจากโหวตมาตราที่เกี่ยวกับการคำนวณไปแล้ว จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นก่อน คือต้อง ส่งให้ กกต.แล้วกลับมาที่ประชุมร่วมรัฐสภา และไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประวิตรจึงมีท่าทีอ่อนลง โดยทำตามคำแนะนำที่จะให้ทุกอย่างเดินไปตามขั้นตอนก่อน แต่ยืนยันว่าอย่างไรต้องกลับไปใช้หารด้วย 100

ชูกลับใช้บัตรใบเดียว
ขณะที่แกนนำรัฐบาลคนหนึ่งส่งสัญญาณกับพรรคร่วมาต้องการจะกลับไปใช้บัตร เลือกตั้งใบเดียว เหมือนรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ใช้ในการเลือกตั้งตอนปี 62 ซึ่งเป็นสัญญาณเดียวกับที่พปชร. รับมาตั้งแต่ก่อนการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ แต่ปัญหาคือหากจะทำเช่นนั้นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้งเพื่อกลับไปใช้บัตรใบเดียว จึงเกรงว่าจะทำให้ถูกวิจารณ์และไม่มีคำตอบให้สังคม ในวงหารือยังไม่ตกผลึกว่าจะเดินไปสู่จุดนั้นอย่างไร

ปากน้ำปลื้มป้อมสัญญาได้รมต.
นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. กลุ่มปากน้ำ กล่าวถึงเหตุผลโหวต ไม่ไว้วางใจพล.อ.อนุพงษ์ ว่า ยืนยันไม่ได้เจตนาล่วงเกินผู้ใหญ่ แต่เราตัดสินใจและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าอยู่ในกรอบที่ทำได้ตามเอกสิทธิ์ส.ส. เนื่องจากกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ส.ส.ในกลุ่มพยายามผลักดันการพัฒนาพื้นที่มาตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ประชาชน ก็มีคำถามว่ามีส.ส.ตั้งหลายคน ทำไมไม่มีผลงาน เรื่องนี้พล.อ.ประวิตรก็เข้าใจ ส่วนที่ส.ส.พรรคไม่เห็นด้วยที่ลงมติ ไม่ไว้วางใจนายสุชาติ ทราบดีว่าต้องมีเสียงสะท้อนกลับมาอยู่แล้ว และไม่มีใครคิดตอบโต้ เรารู้ว่าทำอะไรอยู่ ผู้ใหญ่หลายคน ก็เข้าใจสิ่งที่เราทำ

“ที่ พล.อ.ประวิตรระบุ ปรับครม.ครั้งหน้า สมุทรปราการจะได้รัฐมนตรี ทำให้เห็นว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ที่เมตตา และการที่ส.ส.ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนอยากให้หัวหน้าพรรคมีตำแหน่งที่ดีที่สุดในรัฐบาล การสนับสนุนให้พล.อ.ประวิตร เป็นรมว.มหาดไทย ไม่ใช่เรื่องแปลก ควรได้ตำแหน่งที่เหมาะกับการเป็นหัวหน้าพรรคหลัก แปลกเสียอีกถ้าลูกพรรคไม่อยากให้หัวหน้าพรรคได้เป็น ยืนยันเราปรารถนาดีด้วยซ้ำ เรารู้ตัวเสมอว่าทำอะไรอยู่ อาจเป็นผู้ร้ายในสายตาบางคน หรืออาจจะเป็นพระเอกในสายตาบางคน” นายต่อศักดิ์กล่าว

มาดามเดียร์ข้องใจ
น.ส.วทันยา บุนนาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. โพสต์เฟซบุ๊ก หลัง พล.อ.ประวิตร จะให้เก้าอี้รัฐมนตรี 6 ส.ส.สมุทรปราการ ที่โหวตสวนมติพรรคว่า ความยุติธรรมควรยึดตามความถูกต้อง ไม่ใช่ยึดตามพวกพ้อง ความยุติธรรมไม่สำคัญเท่าคุณเป็นคนของใคร ความยุติธรรมที่ไม่เท่าเทียม “เดียร์ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มส.ส. สมุทรปราการล่วงหน้าที่จะได้รับการปูนบำเหน็จเก้าอี้รัฐมนตรีในการปรับครม.ครั้งหน้าด้วยนะคะ คนหนึ่งโดนลงทัณฑ์..คนหนึ่งได้รับรางวัล”

ปปช.ฟัน‘ครูโอ๊ะ’อีก
ที่รัฐสภา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาคดีของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และแกนนำ ภท. กรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี เพิ่มอีก 1 คดี หลังถูกชี้มูลความผิดพร้อมนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกอบจ.ปราจีนบุรี บิดา คดีใหม่นี้เป็นกรณีถูกกล่าวหาร่วมกันออกโฉนดที่ดิน ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี 4 แปลง รุกล้ำพื้นที่อุทยานชาติเขาใหญ่และที่หลวงหวงห้ามของรัฐ โดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

การชี้มูลคดีนี้แบ่งออกเป็น 2 คดี คือคดีทางอาญาจะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ส่วนคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่าง ร้ายแรง ป.ป.ช.จะส่งศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนออกจากตำแหน่งด้วย ส่วนคดีบุกรุกพื้นที่ อุทยานฯ เขาใหญ่ ก่อนหน้านี้ของนาง กนกวรรณ ยังอยู่ในขั้นตอนของอัยการสั่งฟ้อง หากยื่นฟ้องต่อศาลแล้วและศาลประทับรับฟ้องก็ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ทันที ขณะที่คดีนักการเมืองคนอื่นๆ ที่รุกป่า คาดว่าก.ย.นี้จะมีคดีใหญ่ที่สามารถลงมติชี้มูลได้

ยันแจกกล้วยต่างคดีนาฬิกาหรู
นายนิวัติไชยกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีไลน์หลุด แฉสลิปส.ส.พรรคเล็กรับเงิน ว่า ป.ป.ช.ให้สำนักการข่าวและกิจการพิเศษรวบรวมข้อมูลอยู่ หากรายละเอียดข้อเท็จจริงครบถ้วนสมบูรณ์ และอยู่ในอำนาจป.ป.ช.ก็จะเสนอคณะกรรมการป.ป.ช. จากข่าวเป็นการยืมเงินก็ต้องดูยืมเงินจริงหรือไม่ หากให้เป็นอีกกรณี ต้องดูว่าให้เพราะอะไร ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องดูกรอบกฎหมายรับเงินเกิน 3,000 บาท ถ้าให้เพื่อจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่อาจเข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และความผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ แช็ตไลน์หลุดถือเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ใช้พิจารณาได้ แต่ต้องไปตรวจสอบว่าเป็นการ กู้ยืมหรือการให้ ต้องเคลียร์ประเด็นนี้ก่อน

เมื่อถามว่าสังคมมองว่าคดีนี้ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นเหมือนคดียืมนาฬิกาเพื่อน นายนิวัติไชยกล่าวว่า คงไม่เหมือนกัน คดีนั้นมีการวินิจฉัยที่ชัดเจนแล้ว บรรทัดฐานเรื่องนี้ต่างกัน เรื่องการยืมนาฬิกาเพื่อนไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องการให้แตกต่างกัน

อำนาจยุบพรรคอยู่ที่กกต.
เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่การขยายผลเพื่อยุบพรรคได้หรือไม่ นายนิวัติไชย ไม่ขอก้าวล่วงถึงการยุบพรรค เพราะไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของป.ป.ช. แต่ความผิดทุกอย่าง ถ้าป.ป.ช.วินิจฉัยแล้ว จะส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กกต. เป็นต้น เพื่อให้เป็นฐานข้อมูล ส่วนการดำเนินการจะเป็นอย่างไรเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของกกต. ถ้าผลถึงขนาดนั้น แต่วันนี้ผลยังไม่ถึงขนาดนั้น

เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์ณัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้สอบสวนเอาผิด ส.ส.กรณีไลน์หลุด มีเนื้อหาและภาพที่ระบุรายชื่อ ส.ส.พรรคเล็ก เซ็นชื่อรับเงินหลายคน และมีภาพหลักฐานสลิปการโอนเงินไปยังบุคคลปลายทาง ซึ่งเป็นชื่อหัวหน้าพรรคเล็กๆ รวมทั้งหัวหน้ากลุ่มการเมือง จึงรวบรวมพยานหลักฐานจากสื่อสำนักต่างๆ ในโซเชี่ยลมีเดีย กลุ่มไลน์ต่างๆ และแหล่งข่าวเชิงลึก มอบให้ ป.ป.ช.

พรรคจิ๋วถกป้อม-เบรกธรรมนัส
นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคเพื่อชาติไทย เผยว่า วันที่ 27 ก.ค. ตน และ นายพิเชษฐ สถิรชวาลย์ ส.ส. พปชร. และนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.พรรค ไทรักธรรม จะเข้าพบพล.อ.ประวิตร เพื่อให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.) หยุดปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับการรับเงินในมูลนิธิป่ารอยต่อ ไม่เช่นนั้นก็จะส่งผล กระทบต่อพปชร. อาจทำให้เกิดการยื่นร้อง ยุบพรรคได้ เพราะในห้วงเวลาที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างที่ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาฯ พปชร.

ยืนยันไม่ได้มีการรับเงิน เอกสารที่ถูกเผยแพร่ทางไลน์เป็นเอกสารเกี่ยวกับการเซ็นยืนยันเพื่อเข้าประชุมพรรคร่วมรัฐบาลพรรคเล็ก ยังปฏิเสธการกล่าวหาเป็นการเซ็นรับเงินเดือน ส่วนที่มีข้อมูลว่าเป็นการกู้ยืมนั้นขอให้ไปถามนายพีรวิทย์ มั่นใจหากไปถึงศาลก็จะชี้แจงในข้อเท็จจริงได้ และชี้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง ยอมรับว่ารู้สึกโกรธเคืองที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นโสเภณีทางการเมือง

“ใครเป็นคนปล่อยข้อมูล ใครกล้ายื่นร้องก็ยื่นไป ผมไม่กลัว ยื่นเสร็จพรรคคุณอ่ะตาย เพราะชี้แจงได้อยู่แล้ว เอาไหมจะวุ่นนะ พรรคใหญ่ไปหมด เพื่อไทย พลังประชารัฐ ก็จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่ออีก 8 ปี” นาย คฑาเทพกล่าว และว่า ไม่มีการรับกล้วย ยืนยันไม่มีการรับเงินรายเดือนใดๆ และไม่ทราบว่าภาพการเซ็นเอกสารเพื่อเข้าร่วมประชุมนี้ หลุดมาได้ยังไง การเซ็นร่วมประชุมก็มี ส.ส. พปชร.ด้วย แต่ทำไมไม่มีเอกสารเผยแพร่

พท.เย้ยพรรคเล็กถูกหลอก
ที่ทำการ พท. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขาธิการและกรรมการคณะยุทธศาสตร์และการเมือง กล่าวว่า ก่อนเข้าสู่ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ลับลวงพรางให้พรรคเล็กดีใจทำทีเหมือนยอมพลิกลิ้นจากสูตรหาร 100 ไปเป็นสูตรหาร 500 แต่หลังจากสมประโยชน์ยกมือไว้วางใจ ส่งมอบงานกันเรียบร้อย ก็เตรียมพลิกลิ้นอีกรอบโดยการจะหันหลังกลับ 180 องศากลับไปใช้สูตรหาร 100 อีกรอบ หรืออาจไปไกลกว่านั้นโดยการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว

สูตรคำนวณส.ส.ยังพลิกไปพลิกมา มั่วขนาดนี้ แล้วเรื่องอื่นจะมั่วขนาดไหน กว่าจะรอดต้องวิ่งเต้นต่อรองทุกเสียง เจรจาทุกวิธี หลังโหวตต้องตามล้างตามเช็ดกันมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าคนโหวตคว่ำรัฐมนตรีจะได้เก้าอี้ปลอบใจ หรือโดนขับไล่พ้นพรรค เชื่อว่าเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่ถึง 8 เดือน รัฐบาลจะออกลูกมั่วเพื่อสะสมความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้าอีก รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คำนึงถึงความมั่นคงของรัฐบาลก่อนความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อสืบทอดอำนาจ แม้ต้องแก้กติกากลับไปกลับมาทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลอีกกี่รอบก็ยอม

ทอ.ยื่นอุทธรณ์-ยันซื้อบินรบF-35A
พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เสนาธิการทหารอากาศ (เสธ.ทอ.) กล่าวถึงการเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน สภาผู้แทนราษฎร ที่ตัดงบประมาณจัดหาเครื่องบินรบ F-35A จำนวน 2 ลำ มูลค่า 7,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบผูกพันระหว่างปี 66-69 โดยปี 66 อยู่ที่กว่า 700 ล้านบาท ว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ตนได้ยื่นเรื่องขออุทธรณ์ต่อประธานคณะอนุฯ เพื่อเสนอไปยังกมธ.งบประมาณ ชุดใหญ่ จากนี้จะเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการของสภา ยืนยันเหตุผลความจำเป็นในการจัดหาเพื่อทดแทนยุทโธปกรณ์เดิม

อนุกมธ.ต้องการให้ ทอ.ได้ PNA หรือใบเสนอราคาและความเป็นไปได้ มาก่อน ซึ่งคาดจะได้ม.ค.ปี 66 จากสหรัฐ ไม่ต้องรอถึง 20 เดือน ตามที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองประธานคณะอนุฯ กล่าว เนื่องจากได้มีการร้องขอใบเสนอราคาไปตั้งแต่ธ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

ตัดงบ – นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ประธานอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์และ ICT ในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2566 แจงเหตุการตัดงบจัดหาเครื่องบินรบ F-35A 2 ลำ เพราะกองทัพอากาศต้องใช้เวลาในการ ขออนุมัติจากสภาคองเกรสของสหรัฐว่าจะขายให้หรือไม่ ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 26 ก.ค.

อนุยันหั่นงบทร.ด้วย
ที่รัฐสภา นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส. ชลบุรี พปชร. ประธานอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่า การอุทธรณ์เป็นสิทธิ์ที่ ทอ.โต้แย้งได้ ในชั้นอนุกมธ.มองเห็นความจำเป็นในการ จัดซื้อ แต่คิดว่ายังชะลอการใช้งบปีนี้ได้ เพราะกว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติคงใช้เวลาข้ามปี ไม่ใช่มีเงินก็ซื้อได้ ทั้งนี้การประชุม 25 ก.ค. อนุกมธ.พิจารณางบกองทัพ บทสรุป ทุกหน่วยงานที่ขอรับงบมียอดปรับลดลง

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ปชป. อนุกมธ. กล่าวว่า อนุกมธ.ยังได้พิจารณาตัดงบ 200 ล้านบาทที่เกี่ยวข้องกับ เรือดำน้ำของทร. ซึ่งเป็นงบที่ใช้ในการส่ง เจ้าหน้าที่ไปฝึกอบรมการใช้เรือดำน้ำ อนุกมธ.พิจารณาแล้วว่าเรือดำน้ำยังมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ หากอนุมัติเครื่องยนต์ยังไม่ได้ ข้อสรุปก็จะสิ้นเปลืองงบ

ญาติ-แกนนำพท.ทำบุญ 73 ปีแม้ว
วันเดียวกัน ที่วัดกู้ จ.นนทบุรี มีการทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปีที่ 73 โดยมีญาติพี่น้อง อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ นายพายัพ ชินวัตร น้องสาวน้องชาย นายฤภพ ชินวัตร และน.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลาน แกนนำ พท. อาทิ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธาน นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รองประธาน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะ กรรมการฯ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาฯ พท. นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะกรรมการด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรค นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช ผอ.พรรค น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รวมทั้ง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตรองหัวหน้าทษช. นายต้น ณ ระนอง อดีตรองเลขาฯ ทษช. และ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.มหาดไทย ร่วมทำบุญ

เวลา 10.00 น. คณะร่วมพิธีสักการะและห่มผ้าพระนอนวัดกู้ ทำบุญไถ่ชีวิตกระบือ 3 ตัว ถวายสังฆทานผ้าไตรในอุโบสถ มอบทุนการศึกษา และมอบเงินให้ผอ.โรงเรียนละแวกวัดกู้ ก่อนจะปล่อยปลา 135 ตัว และหอย 30 กิโลกรัมที่ท่าน้ำวัดกู้ ทั้งนี้ นายทักษิณได้ร่วมทำบุญผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ในการปล่อยชีวิตกระบือ นายทักษิณได้อุทิศส่วนกุศลให้แก่ศัตรูและเจ้ากรรมนายเวร ขอให้หมดเวรหมดกรรมซึ่งกันและกัน

73 ปีทักษิณ – นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายพายัพ ชินวัตร น้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมด้วย คนใกล้ชิด ทำบุญวันเกิดนายทักษิณครบ 73 ปี ที่วัดกู้ จ.นนทบุรี โดยอดีตนายกฯ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์เข้ามาร่วมพิธี เมื่อวันที่ 26 ก.ค.

ทักษิณสั่งครอบครัว-ตายห้ามเผา
ขณะที่นายทักษิณพร้อมลูกชายและลูกสาว ทั้งนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา น.ส. แพทองธาร รวมทั้งลูกเขย ลูกสะใภ้ และหลานๆ ร่วมฉลองวันเกิด โดยร่วมกันทำคลิปวิดีโอ “Long distance call” ความยาว 14.40 นาที ลักษณะชวนคุยให้เล่าเรื่องราวในอดีต และบอกเล่าถึงอนาคต

ช่วงหนึ่ง นายทักษิณกล่าวว่า ตนไม่เคยกลัวตาย ถูกลอบสังหารมา 4 รอบ เฉยๆ คนเรา มันจะตายมันก็ตาย ยังไม่ตายก็คือยัง ไม่ตาย ใครเป็นคนทำ เรื่องนี้ภายในครอบครัวรู้หมด เพราะไม่อยากให้เขาไปเจอคนคิดไม่ดีกับเรา เจอแล้วจะได้ระวังตัวแค่นั้นเอง

ตนตัดสินใจจะกลับเมืองไทยเพราะคุณหญิงรับภาระแทนไว้เยอะ ถ้าได้กลับไปอยู่กับครอบครัว มันก็จบทุกอย่าง เมื่อกลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว ตนก็ต้องทำตัวให้แข็งแรงขึ้น เพื่อชดเชยเวลาที่หายไป พร้อมยืนยันไม่คาดหวังให้หลานต้องต่อสู้เป็นผู้นำประเทศ เพราะเขาคิดเองเป็น เพียงแต่ต้องการให้เราอยู่กับเขา รักและห่วงใยเขา

แล้วตนสั่งครอบครัว ตายไม่เผา ให้เก็บร่างไว้ไม่ให้เผา ต้องการให้การต่อสู้ของตน ให้ชีวิตตนเป็นอมตะของครอบครัว ของ ลูกหลาน

สูตรหาร500วุ่น-กม.ถอนร่าง
เวลา 09.42 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระที่ 2 ต่อจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยพิจารณาต่อมาตรา 25

นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว. รองประธานกมธ. ได้รับมอบหมายจากนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ประธานกมธ.หารือว่า หลังรัฐสภามีมติร่างมาตรา 23 แก้ไขมาตรา 128 ว่าด้วยสูตรคำนวณส.ส.บัญชี รายชื่อ ตามกมธ.เสียงข้างน้อย ที่ใช้สูตรหาร 500 เพื่อให้การแก้ไขมาตราอื่นสอดคล้อง มติรัฐสภา ขอพักการประชุม 30 นาที ซึ่งประธานอนุญาต

เวลา 11.00 น. กลับมาเปิดประชุมอีกครั้ง นายมหรรณพชี้แจงว่า กมธ.เห็นร่วมกันยืนตามร่างรายงานเดิมที่เสนอรัฐสภา ส่วนมาตรา 23 ที่แก้ไขผิดไปจากร่างเดิม ให้เป็นหน้าที่กมธ.เสียงข้างน้อย เป็นผู้นำเสนอ เพื่อให้ ที่ประชุมพิจารณาเห็นสมควรหรือไม่ที่จะปรับปรุงมาตราดังกล่าวเพียง 1-2 มาตรา โดยเพิ่มมาตราขึ้นมาใหม่คือมาตรา 24/1 จากนั้น นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายขอปรับเพิ่มมาตรา 24/1

ก่อนที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ พท.ประท้วงว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นไม่ชอบด้วยนิติวิธี กระบวนการแปรญัตติตกไปนานแล้ว อยู่ดีๆ จะมีความเห็นใหม่แทรกขึ้นมาโดยเป็นเสียงข้างน้อยนั้นไม่สามารถทำได้ ถ้าไปตกลงให้เสียงข้างมากยังพอรับได้

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กมธ.จากพรรคประชาชาติ ประท้วงว่า วิธีดำเนินการไม่เป็นไปตามข้อบังคับของการประชุมรัฐสภา มาตรา 24 ผ่านไปแล้วไม่มีการแก้ไข ไม่มีผู้สงวนขอแปรญัตติ แต่ที่จะเสนอ กมธ.ไม่ได้ไปขอจากรัฐสภาว่าเอาไปแก้ไข แต่ขอพักการประชุม

จากนั้นที่ประชุมจะถกเถียงกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายสาธิต ประธานกมธ. จะเสนอญัตติถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปก่อน แล้วนำกลับมาพิจารณาต่อในโอกาสต่อไป เพราะต้องไปพิจารณาทั้งข้อบังคับและเนื้อหา โดยพิจารณาต่อจากมาตราที่พิจารณาค้างอยู่ นายชวนจึงขอมติที่ประชุมมีมติให้ถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกไป ด้วยคะแนน 476 ต่อ 25 งดออกเสียง 20 ไม่ออกเสียง 9

ปิดฉาก‘ไพรมารีโหวต’
เวลา 12.30 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ตาม กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว มี 13 มาตรา ในวาระสอง เรียงลำดับรายมาตรา โดยมาตรา 4/1 แก้ไขมาตรา 24 ที่ กมธ.เสียงข้างน้อย รวมถึงสมาชิกรัฐสภาติดใจขอแปรญัตติ โดยเฉพาะประเด็นที่ขอสิทธิให้บุคคลที่ต้องโทษจำคุก, ผู้ที่เคยจำคุกและพ้นโทษมาแล้ว 5 ปี รวมถึง ส.ว. หรือบุคคลที่พ้นตำแหน่ง ส.ว. ไม่ครบ 2 ปีสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค การเมืองได้เพื่อเปิดโอกาสให้พรรค การเมืองสามารถมีสมาชิกพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นได้ แต่หลังอภิปรายแล้วเสร็จได้ลงมติ 262 ต่อ 51 เสียง เห็นชอบกับเนื้อหาที่กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่ งดออกเสียง 126 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ต่อมาพิจารณา มาตรา 6 แก้ไขมาตรา 47 ให้ตัวแทนพรรคการเมืองหรือสาขาพรรค สรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบ่งเขต โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า แก้ไขแบบนี้เท่ากับตัดวรรคสองของมาตรา 47 เดิม ซึ่งวรรคนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำ ไพรมารีโหวต ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมสรรหาตัวผู้สมัครส.ส. ซึ่งถือเป็นหัวใจของการปฏิรูปการเมือง จึงขอเสนอให้ตัดมาตรา 47 ที่กมธ.แก้ไข แล้วให้กลับไปใช้มาตรา 47 ของเดิม แต่ที่ประชุมลงมติ ยืนตามที่กมธ.แก้ไข ด้วยคะแนน 354 ต่อ 15 งดออกเสียง 3 ไม่ออกเสียง 2 เสียง

ส่วนมาตรา 7 แก้ไขมาตรา 48 เกี่ยวกับ ให้ตัวแทนพรรคการเมืองหรือสาขาพรรค สรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น ที่ประชุมก็ลงมติยืนตามกมธ.เสียงข้างมากแก้ไข ด้วยคะแนน 356 ต่อ 22 งดออกเสียง 2 ไม่ออกเสียง 5 เสียง

กม.พรรคการเมืองฉลุยวาระ 3
หลังพิจารณาครบทั้ง 13 มาตราและข้อสังเกตแล้ว ได้ลงมติในวาระ 3 เห็นชอบ 423 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 1 ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 วรรค 2 กำหนดว่าภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รัฐสภาเห็นชอบร่างพ.ร.ป. ให้ส่งร่างไปยังศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนญู หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องคือ กกต.เพื่อให้ความเห็น หาก กกต.ไม่มีข้อทักท้วงภายใน 10 วันนับแต่ได้รับร่างดังกล่าว ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป แต่หากศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือกกต.เห็นว่ามีประเด็นใดที่ขัดรัฐธรรมนูญ ให้ประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนและพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็น เมื่อเสร็จแล้วให้ทูลเกล้าฯ

2 ส.ค.ถกกฎหมายเลือกตั้ง
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ประธานกมธ. ชี้แจงว่า ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่ กมธ.ถอนกลับไปพิจารณาใหม่ จะส่งกลับมาให้รัฐสภาพิจารณาอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า คือ 2-3 ส.ค.

นายชวน กล่าวว่า ปัญหาเกิดจากกมธ. ที่ไม่ชัดเจนและขัดแย้งกันเอง ร่างดังกล่าว ไม่ด่วนถึงกับต้องพิจารณา 27 ก.ค. และ จะนัดประชุมร่วมรัฐสภา 2-3 ส.ค. ซึ่งนัดไว้ล่วงหน้าแล้ว จากนั้นสั่งปิดการประชุมในเวลา 19.00 น.

พช.บีบ‘ศรัณย์วุฒิ’พ้นหน.
รายงานข่าวเผยว่า พรรคเพื่อชาติ เตรียมจัดการประชุมวาระพิเศษวันที่ 27 ก.ค. เวลา 13.00 น. ที่ รร.โกลเดน ทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9 วาระสำคัญคือกก.บห.ทั้ง 11 คนจะลาออกยกชุด เพื่อเปิดทางให้เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ภายใน 45 วัน แทนนาย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งหลายเรื่องกับคนในพรรค รวมถึงกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรค หลายกรณี โดยเฉพาะเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ หลังเกิดปัญหานายศรัณย์วุฒิไม่ให้ความ ร่วมมือ ไม่เข้าประชุมพรรค ไม่ยอมเซ็นเอกสาร ติดต่อไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมของพรรค

ศท.สั่ง3สส.โหวตสวนแจง
นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ นายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.) กล่าวว่า ศท.ให้โอกาส ส.ส. 3 ราย ได้แก่ นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลฯ และนายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก ที่ฝ่าฝืนมติพรรคในการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้แจงข้อเท็จจริง เนื่องจาก 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่ร่วมกิจกรรมของพรรค แสดงออกไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรค จึงขอให้ชี้แจงเป็น ลายลักษณ์อักษร ส่งที่สำนักงานใหญ่ของพรรคภายใน 1 ส.ค.นี้ จากนั้นจะสรุปเสนอกก.บห.เพื่อกำหนดบทลงโทษไม่ให้เป็น เยี่ยงอย่าง หากไม่ส่งคำชี้แจงภายในเวลาที่กำหนดให้ถือว่าไม่ประสงค์ชี้แจง

ครม.อนุมัติ 1.8 ล.งบลับสอบข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม. มีมติอนุมัติตามที่นายวิษณุ เครืองาม รอง นายกฯ เสนอขอความเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 1.8 ล้านบาท ลักษณะเงินราชการลับ เพื่อใช้ในภารกิจการตรวจสอบคดีรับจำนำข้าวและคดีสำคัญใกล้ครบกำหนดอายุความ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน