เร่งระบายคลองหลักช่วยบางเขน-ชานกรุง

ระดมสูบน้ำกู้รังสิต-ปทุมธานี กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบระบบไฮโดรโฟลว์ เครื่องผลักดันน้ำให้ระบายลงเจ้าพระยาเร็วที่สุด มท.ป๊อกรุดพื้นที่พบนายกแจ๊ดตรวจศูนย์น้ำท่วมรังสิต จี้กรมชลประทาน-ปภ. ช่วยระบายท่วมขัง กองทัพเรือส่งเรือดำน้ำ 80 ลำ ช่วยผลักมวลน้ำลงทะเล ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงเรือตรวจน้ำคลองเปรมประชากร สั่งเร่งระบายน้ำท่วมหนัก 3 เขต ดอนเมือง-บางเขน-ลาดกระบัง ผอ.เขตดอนเมืองตั้งศูนย์ช่วยประสบภัย คนกรุงผวาหนีน้ำไม่ทัน แห่ขับรถขึ้นไปจอดบนด่วนโทลล์เวย์ ด้านกรมอุตุฯ เตือน 50 จังหวัดฝนหนัก มรสุมยังถล่มต่อ พ่อเมืองแกลงเร่ง ดันน้ำลงทะเล แจงน้ำแทบไม่ลด ชาวบ้านหลายพันครัวเรือนยังกลับเข้าบ้านไม่ได้

เร่งดันน้ำเอ่อลงเจ้าพระยา
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ชุมชนและผิวจราจรที่ลุ่มต่ำหลายแห่ง โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ย. กรมชลประทาน ได้เข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสริมจำนวน 9 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องเร่งระบายน้ำในคลองรังสิตฯ ส่งผลให้ปัจจุบันระดับน้ำในคลองลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เพื่อให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากที่สุดได้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำระบบ ไฮโดรโฟลว์ (hydroflow) จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีก 6 เครื่อง เข้าไปติดตั้งเพิ่มเติมทางฝั่งขวาของสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตฯ เพื่อเสริมศักยภาพในการระบายน้ำได้มากยิ่งขึ้น บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีให้มากที่สุด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน

ส่วนสถานการณ์น้ำริมเขื่อนสะพานแดง คลองหนึ่ง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงประกอบกับน้ำในคลองรังสิตฯ มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเริ่มได้รับความเสียหายมากขึ้น ขณะเดียวกันทางด้าน ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศบาลนครรังสิต ได้สั่งให้ เจ้าหน้าเร่งดำเนินการทำคันกั้นน้ำต่อบริเวณริมเขื่อน เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากท่อระบายตามซอยต่างๆ ในพื้นที่ของชุมชนสะพานแดงลงคลองรังสิตฯ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ ทหารจากกองทัพบกได้ลงมาช่วยเหลือประชาชนในการช่วยกรอกทรายใส่ถุงไว้คอยบริการประชาชนในการป้องกันน้ำท่วม

ส่วนประชาชนย่านชุมชนสะพานแดง ที่มียานพาหนะหลังจากเลิกงานกลับเข้ามาบ้านเกรงว่ารถของตัวเองจะถูกน้ำท่วม จึงได้นำรถขึ้นไปจอดบนโทลล์เวย์กันเป็นจำนวนมาก สำหรับที่กองอำนวยการริมเขื่อนสะพานแดงบริเวณปากซอยรังสิต-นครนายก 10 มี เจ้าหน้าที่ทหารและประชาชนช่วยกันกรอกกระสอบทรายโดยทางเทศบาลนครรังสิตได้นำทรายจำนวน 10 คันรถมาไว้ที่กองอำนวยการเพื่อให้ประชาชน

ที่ประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และนายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รอง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และการตั้งนำเครื่องสูบน้ำโมบายเพื่อเสริมการระบายน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ โดยมี นายเอนก ก้านสังวอน ผอ.สำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ดูแลการติดตั้งและควบคุม

มท.+อบจ. – พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นั่งประชุมกลางน้ำท่วมขังกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์น้ำท่วมเทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

‘ป๊อก’ตรวจน้ำท่วมรังสิต
ต่อมา เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหดาไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติงาน ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์น้ำท่วม เทศบาลนครรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมี นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นายกอบจ.ปทุมธานี ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกทน.รังสิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้อนรับ โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้นำผังการป้องกันน้ำท่วมและให้การช่วยเหลือประชาชนรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมให้ พล.อ.อนุพงษ์ รับทราบ

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ รับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ก่อนที่จะเดินทางไปยังสถานีสูบน้ำกึ่งถาวร คลองรังสิตประยูรศักดิ์ หลังตลาดรังสิต เพื่อรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคของเครื่องสูบน้ำที่ใช้การได้ไม่เต็มที่ พร้อมมอบแนวทางการช่วยเหลือประชาชนแก่ผู้ปฏิบัติงานและ ผู้ประสบภัย

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะมีการระบายน้ำเข้ามาจากพื้นที่ด้านนอก ซึ่งนายกอบจ.ปทุมธานี ได้ประสานขอให้งดการระบายน้ำจากภายนอกเข้ามา ขณะเดียวกันได้เร่งดันน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่เพื่อให้ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยรองรับสถานการณ์น้ำได้แม้จะมีฝนตกบ้าง ส่วนน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่อาศัยบ้านเรือนประชาชนจะมีเครื่องสูบขนาดเล็กไปทยอยสูบออกมา สรุปน้ำใหม่ไม่ให้เข้ามา แล้วเร่งระบายน้ำเก่าออกแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยมีหน่วย งานอื่นๆ ส่งกำลังมาช่วยเรื่องใหญ่มี 2 เรื่องคือ 1.สูบน้ำ 2.การสัญจรของพี่น้องประชาชน โดยนายกทน.รังสิต ได้ประสานทุกหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ ปภ. นอกจากนี้ยังมีรถใหญ่และรถเล็กที่จะเข้าไปยังซอยย่อยเพื่อรับส่งประชาชน ถ้าต้องการเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ก็ร้องขอได้ ทั้งจากกรมชลประทาน และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งมีทั้งเครื่องสูบระยะไกลระยะสั้น รวมถึงขอมาสแตนด์บายหากคิดว่าพื้นที่ไหนต้อง เตรียมรับสถานการณ์

ทร.ระดมเรือดันน้ำ 80ลำ
ด้านพล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จึงได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ต่างๆ ของกองทัพเรือ รวมทั้งหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเชิงรุกทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี ให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที โดยบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

กองทัพเรือยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมพร้อม เรือผลักดันน้ำไว้ 80 ลำ เพื่อใช้ในภารกิจ ระบายน้ำ จากปากแม่น้ำ ลงสู่ทะเล ทั้งนี้ หากมีปริมาณน้ำเหนือหนุนสูง และจังหวัด ต้องการความช่วยเหลือ โดยแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง

ดอนเมืองตั้งศูนย์ช่วยท่วม
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังลงเรือตรวจระดับน้ำในคลองเปรม จากบริเวณคลองบ้านใหม่ ถึงถนนสรงประภา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ เขตดอนเมืองว่า จุดน้ำท่วมหนัก มี 3 จุด ประกอบด้วย เขตดอนเมือง เขตบางเขน และเขตลาดกระบัง ขณะนี้น้ำในคลองเปรมฯ เต็ม เนื่องจากฝนตกปริมาณมากแล้วระบายไม่ทัน ซึ่งคลองเปรมฯ ระบายน้ำลงคลองบางซื่อทางด้านล่าง และลงคลองรังสิตทางด้านบน ซึ่งด้านบนระบายได้ไม่มาก ประมาณ 10 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ส่วนด้านล่างได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำ จะเห็นได้ว่าคลองเปรมฯ มีข้อจำกัดเยอะ ส่วนใหญ่ยังไม่มีเขื่อน ทำให้ขุดลอกไม่ได้ และยังมีบ้านรุกล้ำริมคลองประมาณ 2,000 ครัวเรือน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมไปถึงก่อนหน้านี้มีปัญหาอีกเรื่องคือผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งหาผู้รับเหมา ขณะเดียวกันต้องให้ผู้รับเหมาที่ทิ้งงานชดใช้ค่าปรับด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ต้องดูแลในระยะยาวต่อไป

เบื้องต้นมี 2 ส่วนที่ต้องดูแล 1.เร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด ทั้งสองฝั่งทั้งฝั่งเหนือและฝั่งใต้ และ 2.ต้องช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานเขตและส่วนกลางต้องเข้ามาช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่ได้รับผล กระทบ เรื่องอาหาร น้ำดื่ม เครื่องใช้จำเป็น ห้องน้ำ รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียง

สำหรับสถานการณ์หากไม่มีฝนตกเพิ่ม ลงมา คงจะค่อยๆ บรรเทาได้ แต่น้ำค่อนข้างลงช้า ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงขณะนี้น้ำลดลงประมาณ 5 ซ.ม. สาเหตุที่ลงช้าเนื่องจากพอน้ำในคลองลดลงน้ำจากภายนอกก็ไหลลงคลอง จะเห็นได้ว่าน้ำในถนนลดลงบ้างแล้วในบางจุด ดังนั้นคงต้องใช้เวลาในการทยอยดันน้ำออก ซึ่งปัญหาคลองเปรมฯ คลองลาดพร้าว เป็นปัญหาระยะยาวที่ต้องแก้ไข ทั้งเรื่องทำเขื่อน การขุดลอกคลอง และเพิ่มกำลังสูบปลายทาง เพื่อให้มีประสิทธิภาพการระบายน้ำมากขึ้น

ขณะที่ปัญหาจราจรส่วนหนึ่งคือรถเสีย เมื่อวานนี้ ในเขตลาดกระบัง มีรถจักรยานยนต์เสีย 150 คัน กทม.ได้ขอความร่วมมือสถานีวิทยุต่างๆ ประชาสัมพันธ์ เพราะหากมีจุดฝืดจุดเดียว สามารถทำให้รถติดทั้งเมืองได้ อย่างไรก็ตามน้ำท่วมในปีนี้แตกต่างจาก น้ำท่วมปี 54 เพราะตอนนั้นที่ท่วมเป็น น้ำเหนือที่ปล่อยลงมา แต่ตอนนี้กรุงเทพฯ เจอกับน้ำฝนมากกว่า

นายนันทพงศ์ แก้วศรี ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง กล่าวว่า เขตได้จัดตั้งสถานที่พักพิงชั่วคราวช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่พักอาศัยในพื้นที่เขตดอนเมือง ที่ศูนย์เยาวชนดอนเมือง ถนนเดชะตุงคะ เพื่อรับมือจากสถานการณ์ฝนตก ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองเปรมประชากรเพิ่มระดับสูงขึ้น ทำให้บ้านพักอาศัยของประชาชนบริเวณริมคลองและ จุดอ่อนน้ำท่วมได้รับผลกระทบ เขตจึงได้แจ้งเตือนประชาชนยกของขึ้นที่สูง แต่หากสถานการณ์วิกฤต และมีเหตุจำเป็นต้องมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ก็ได้เตรียมพื้นที่ศูนย์เยาวชนดอนเมือง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

กทม.เร่งระบายท่วมขัง 5 จุด
ที่สำนักการระบายน้ำ (สนน.) เขตดินแดง ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สนน. กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ณ เวลา 07.00 น. วันดียวกันว่า มีฝนตกปานกลางถึงหนัก ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัดศูนย์ราชการ-ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 85.5 มิลลิเมตร (ม.ม.) ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม เขตดินแดง 80.0 ม.ม. ประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ เขตสายไหม 74.5 ม.ม. สำนักงานเขตวังทองหลาง 73.5 ม.ม. สำนักงานเขตห้วยขวาง 59.5 ม.ม. โดยมีรายงานจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลักที่รับผิดชอบ จำนวน 5 จุด ได้แก่ อินทามระ 53 ถ.ประชาสุข เขตดินแดง 2.หน้าหมอชิตใหม่ ถ.กำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร 3.หน้าศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 4.หน้าห้างโลตัส ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ และ 5.หน้ามณฑลทหารบกที่ 11 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่

ขณะที่ในพื้นที่เขตบางเขนระดับน้ำท่วมขัง ลดลงอยู่ในระดับ 5-20 ซ.ม.อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ ดังนี้ 1. วงเวียนบางเขน 2.ถนนรามอินทราขาเข้าวงเวียนบางเขน หน้าสนามกอล์ฟ ทบ. 3.ถนนรามอินทราหน้าเซ็นทรัล 4.รามอินทรา 19 5.ซอยรามอินทรา 21 ซ.ม. 6.ซอยรามอินทรา 23 7.ซอยรามอินทรา 31 8.ซอยรามอินทรา 39 9.ถนนสุขาภิบาล 5 10.ถนนพหลโยธินตัดถนนเทพรักษ์ 11.ชุมชนวัชรปราณี 12.คู้บอน 27 และซอยแยก 42, 44, 46, 48, 52, 54 และ 13.ชุมชนวัดอาวุธ

ส่วนระดับน้ำแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออก ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) (ระดับวิกฤต +1.80) เวลา 07.00 น. ระดับ +1.90 ม.รทก. ระดับวิกฤต ประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) (ระดับวิกฤต +0.90) เวลา 07.00 น. ระดับ +1.05 ม.รทก. ระดับวิกฤต และประตูระบายน้ำลาดกระบัง (ระดับวิกฤต +0.60) เวลา 07.00 น. ระดับ +0.63 ม.รทก. ระดับวิกฤต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสูบน้ำในคลอง ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

‘แกลง’เร่งดันน้ำลงทะเล
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แกลง จ.ระยอง วันเดียวกัน นายประยุทธ์ พานทอง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.แกลง พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้เดินทางไปมอบเงิน จำนวน 2.5 แสนบาท ให้กับนายบุญสืบ แกล้วกล้า กำนันต.กระแสบน เจ้าของฟาร์มไก่ หมู่ 10 ต.กระแสบน อ.แกลง เพื่อช่วยเหลือที่ฟาร์มถูกน้ำท่วม ทำให้ไก่ตายไป 1.4 แสนตัว นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมเงินส่วนตัวของกำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเหลืออีกจำนวนหนึ่งด้วย

นายบุญสืบเผยว่า เบื้องต้นทางบริษัทต้นสังกัดได้นำเรื่องเข้าประชุม เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งกำลังเร่งนำซากไก่ทั้งหมดไปกำจัด แต่ก็ยังเหลือตัวไก่ที่ยังไม่ตายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ใดต้องการก็ยินดีให้ฟรี นำไปประกอบอาหารได้ เข้ามารับได้ที่ฟาร์มได้เลย ยืนยันว่าหลังทำความสะอาดฟาร์มก็จะเลี้ยงไก่ต่อไป แต่จะหาทางป้องกันน้ำท่วม แต่ในครั้งนี้ยอมรับว่าคาดไม่ถึงเพราะน้ำมาเร็วมาก วอนภาครัฐช่วยเหลือบ้าง

ด้านเฉลิมชัย ชัยพิเนตร ปศุสัตว์ อ.แกลง กล่าวภายหลังการเดินทางมาตรวจสอบฟาร์มดังกล่าวว่า ได้เข้ามาช่วยเหลือในการกำจัดซากไก่อย่างถูกวิธี ส่วนค่าความเสียหาย ทางปศุสัตว์จ่ายช่วยเหลือให้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท ตามกฎระเบียบ คือ จ่ายความเสียหาย 50 บาท ต่อไก่ 1 ตัว แต่ไม่เกิน 1,000 ตัว แต่ถึงอย่างไรก็จะให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นต่อไป

ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางมายังศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสี่แยกอู่ทอง ถนนสุขุมวิท ต.บ้านนา อ.แกลง เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย พร้อมปล่อยรถที่บรรทุกถุงยังชีพเข้าไปแจกตามหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ โดยนายชาญนะกล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมของน้ำท่วมของพื้นที่อ.แกลง ยังทรงอยู่ น้ำยังไม่ลดลง เบื้องต้นได้ผลักดันน้ำออกสู่ทะเล จากการใช้เรือผลักดันน้ำกว่า 10 ลำ แต่ก็ยังคงมีน้ำฝนไหลลงมาสะสมตลอด จึงทำให้ปริมาณน้ำลดลงไม่มาก คงต้องใช้เวลา หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีก ระดับน้ำก็จะค่อยๆ ลดลงไป

นายมานพ ปราดเปรื่อง กำนันตำบลบ้านนา กล่าวว่า ขณะน้ำลดลงไปเพียง เล็กน้อย ถนนหลายสายรถเล็กยังผ่านไม่ได้ เบื้องต้นพบบ้านเรือนเสียหายกว่า 1 พันหลัง ประชาชนประสบภัยกว่า 3 พันคน พื้นที่เกษตรเสียหายหลายพันไร่ ส่วนใหญ่เป็น สวนทุเรียน และ สวนยางพารา และยังไม่ให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้านในจุดที่น้ำท่วมสูง เพราะระดับน้ำยังสูง และเกรงว่าฝนที่ตกลงมา จะทำให้มวลน้ำป่าจะไหลลงมาอีก

เกาะช้างน้ำลด-ให้เล่นน้ำตก
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม ในอ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเทศบาลตำบลเกาะช้าง ได้ตั้งจุดรับลงทะเบียนผู้ประสบภัย ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 2 จุด ได้แก่ บริเวณวัดคลองสน และวัดคลองพร้าว ในวันจันทร์ที่ 12 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 1-2 ต.เกาะช้าง ให้มาลงทะเบียน ที่สำนักงานเทศบาลตำบลเกาะช้าง ในวันอังคารที่ 13 ก.ย. ตามเวลาราชการ โดยสอบถามได้ที่ สำนักปลัดเทศบาล 0-3958-6199 หรือ 0-3951-0597

นายดุสิต สุนทรพงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เปิดเผยว่า สถานการณ์ของฝนตก น้ำท่วม และดินสไลด์ในพื้นที่อำเภอเกาะช้าง โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างกลับมาสู่ภาวะปกติแล้วหลังเมื่อคืนที่ผ่านมา และในช่วงก่อนเที่ยงวันเดียวกันฝนไม่ตกลงมาซ้ำ ทำให้ปริมาณน้ำในน้ำตกสำคัญ 2 แห่ง คือ น้ำตกคลองพลู และน้ำตกธารมะยมน้ำใสแล้ว พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวได้ในบ่ายวันเดียวกัน ส่วนดินสไลด์ที่เกิดขึ้นมา 4-5 จุดที่อยู่ในเขต อุทยานฯ เกาะช้างได้แก้ไขและนำดินและหินที่ขวางเส้นทางออกจนหมดแล้ว ซึ่งสภาพท้องฟ้าไม่มีเมฆดำปกคลุม อย่างไรก็ตาม คลื่นทะเลยังมีความแรงและมีคลื่นสูงยังไม่สามารถท่องเที่ยวเล่นน้ำทะเลได้

โคราชจับตา7ลุ่มน้ำล้น
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่ 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ว่า จากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. ส่งผลให้ในหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม เป็นวงกว้าง ซึ่งนอกจากในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครราชสีมา พื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด จะเป็นพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มและเป็นพื้นที่รวมน้ำ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว อ.ปากช่อง อ.สีคิ้ว อ.ด่านขุนทด อ.สูงเนิน อ.โนนสูง อ.โนนไทย อ.พิมาย และอ.โนนแดง ซึ่งจากฝนที่ตกหนักมาหลายวันทำให้มีพื้นที่ 16 อำเภอ ได้รับผลกระทบ พื้นที่นาข้าว ได้รับผลกระทบ 80,000 กว่าไร่ พื้นที่ไร่ 8,000 พันกว่าไร่ และมีเกษตรกรได้รับผล กระทบกว่า 10,000 ครัวเรือน อย่างไร ก็ตามสถานการณ์ขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงแล้ว น้ำที่ท่วมได้ไหลผ่านพื้นที่ลงสู่คลองธรรมชาติ ทั้งนี้ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมในทุกพื้นที่ทุกจุด ทั้ง 32 อำเภอ ที่มีลำน้ำไหลผ่าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ลำน้ำลำตะคอง ลำชี ลำพระเพลิง ลำเชียงไกร ลำสะแทด ลำมูน และลำจักราช อีกทั้งการรับมือน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา สั่งการให้มีการเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในทุกจุดในเขตเมืองที่เคยเกิดปัญหาน้ำท่วม

อุตุฯเตือนฝนยังหนักทั่วปท.
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน มรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วม ฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะ พื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและ พื้นที่ลุ่ม

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 9 ก.ย. ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และนครราชสีมา, ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล, ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ จ.ระนอง และพังงา

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

12 จังหวัดยังท่วม
ด้านปภ. กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ปทุมธานี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี พระนครศรี อยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 28 อำเภอ 160 ตำบล 823 หมู่บ้าน จากอิทธิพลร่องมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมจากผลกระทบจากพายุหมาอ๊อน (MAON) ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาล่าสุดวันนี้ ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี ที่อ.เมือง และอ.สามโคก รวม 13 อำเภอ 116 ตำบล 596 หมู่บ้าน ภาพรวมระดับน้ำลดลง

ฉุกเฉิน – เจ้าหน้าที่ช่วยกันเคลื่อนย้ายคุณแม่หมาดๆ เข้าไปพักฟื้นในร.พ.แกลง จ.ระยอง หลังคลอดลูกชายบนท้ายรถกระบะของสามีที่หน้าประตูร.พ. ซึ่งมีน้ำท่วมขังทำให้การสัญจรยากลำบาก เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

ขนหัวลุก – โลงศพยังไม่ได้ใช้งานลอยน้ำออกมาจากร้านบูรพาหีบศพ ซ.พหลโยธิน 54 เขตสายไหม กทม. มีผู้ถ่ายภาพนำไปแชร์ในโลกออนไลน์จนเป็นที่ฮือฮา ล่าสุดเจ้าของตามเก็บกลับไปไว้ในร้านแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน