คนร้ายโหดใช้ไม้หน้าสามหวดใบหน้า จนฟันปลอมหลุดกระเด็น เหยื่อสาวใหญ่ดับคาห้องแถวเมืองชลบุรี พยานระบุสงสัยแรงงานต่างด้าวที่มาขอกัญชาไปต้มไก่ แต่ถูกปฏิเสธเชื่ออาจเป็นเหตุทำให้ไม่พอใจ ส่วนตร.เผยคนร้ายน่าจะอยู่ไม่ไกล เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี อาศัยช่วงเช้ามืดที่เหยื่อจะต้องตื่นขึ้นมาเตรียมใส่บาตร ก่อนจะลอบเข้ามาทางหลังบ้าน เพื่อลงมือสังหารอย่างเหี้ยมโหด ลุยค้นห้องรื้อค้นหาเอาทรัพย์สินไปจนเกลี้ยง ล่าสุดคนร้ายถูกตามรวบได้ทันควันเป็นหนุ่มเมียนมา หลังพบเบาะแสหลบหนีไปที่สมุทรปราการ อ้างทำลงไปเพราะความเมา

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 8 ต.ค. พ.ต.ท.นิธิศ ทองดี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งเหตุฆ่าชิงทรัพย์ภายในร้านขายของชำไม่มีเลขที่ ภายในซอยวัดหนองรี หมู่ 4 ต.หนองรี อ.เมืองชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภาค 2 แพทย์เวรของโรงพยาบาลชลบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรม ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้านหน้าแบ่งพื้นที่เป็นร้านขายของชำ ตรงกลางเป็นห้องนอน และเป็นทางโล่งมาถึงหลังบ้านที่เป็นห้องครัว โดยมีต้นกัญชาสูงประมาณ 200 เซนติเมตร 1 ต้นถูกปลูกอยู่ที่หลังบ้าน บริเวณด้านหลังเป็นลานโล่งมีห้องแถวซึ่งมีแรงงานชาวเมียนมาและกัมพูชาพักอาศัยอยู่หลายคน

ที่ประตูหลังบ้านพบศพน.ส.อัญชลี แซ่เจี้ย อายุ 57 ปี เจ้าของร้านขายของชำดังกล่าวนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สภาพศพใส่เสื้อยืดลายแขนยาว สวมกางเกงผ้าขายาวสีเขียวขี้ม้า ที่บริเวณดั้งจมูกและหน้าผากมีร่องรอยถูกของแข็งไม่มีคมตีจนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ จนฟันปลอมของผู้ตายนั้นหลุดกระเด็น ข้างๆ ศพยังพบไม้หน้าสามยาวประมาณ 75 ซ.ม.ตกอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน นายเอก (นามสมมติ) ญาติของผู้ตายให้การว่า น.ส.อัญชลีนั้นพักอยู่ที่ร้านขายของชำเพียงคนเดียว เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนเห็นว่ายังไม่เปิดร้านก็เลยโทรศัพท์หา ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากในห้อง ตอนแรกก็คิดว่าผู้ตายน่าจะยังอยู่ในห้อง เพราะถ้าไปข้างนอกก็น่าจะเอาโทรศัพท์ไปด้วย แต่ที่ไม่ยอมรับสายก็อาจเกิดเรื่องอะไรบางอย่าง จึงรีบตัดสินใจงัดหลังบ้านเข้าไปดู ก็เห็นผู้ตายนอนล้มคว่ำอยู่กับพื้นมีเลือดไหลนอง จึงรีบโทร.แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ส่วนเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน ให้การว่า เมื่อวานตนเห็นผู้ตายปิดร้านตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ โดยก่อนจะปิดร้านก็ยังมาฝากให้ตนช่วยซื้อของมาให้ จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 04.55 น.ตนก็จำไม่ได้ว่าผู้ตายฝากซื้ออะไรบ้าง จึงได้โทร.ไปถามเพราะผู้ตายมักจะตื่นมาทำกับข้าวใส่บาตรช่วงเช้ามืดทุกวัน ปรากฏว่าหลังจากโทร.ไปแล้วก็ได้ยินเสียงรับสาย แต่ไม่มีคนพูดก่อนจะตัดสายทิ้งไป ทราบอีกด้วยว่าเมื่อวานที่ผ่านมา มีคนงานเมียนมามาขอกัญชาต้นที่ปลูกอยู่หลังบ้าน โดยบอกว่าจะเอาไปต้มไก่กิน แต่ผู้ตายไม่กล้าให้เพราะว่ามันไม่ใช่ของตน ก็เลยบอกไปว่าถ้าอยากได้ก็ให้ไปขอกับอาโกเจ้าของเอาเอง ซึ่งไม่แน่อาจทำให้ผู้มาขอไม่พอใจก็เป็นได้

จับทันควัน – ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.2 รวบนายเต็ท ไป๋ อู ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.อัญชลี แซ่เจี้ย อายุ 57 ปี เจ้าของร้านชำ ใน ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยจับได้ที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังก่อเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมง เมื่อวันที่ 8 ต.ค.

ด้าน พ.ต.อ.นิทัศน์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาจากทางหลังบ้าน โดยใช้ไม้หน้าสามเป็นอาวุธตีเข้าที่บริเวณใบหน้าของผู้ตาย และน่าจะลงมือตีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะที่ไม้ไม่มีเศษเลือดติดอยู่แต่อย่างใด ส่วนภายในห้องพัก ตรวจสอบแล้วมีร่องรอยการรื้อค้นหาทรัพย์สินและข้าวของต่างๆ แต่ยังไม่ทราบว่ามีอะไรหายไปบ้าง คงต้องรอญาติให้มาตรวจสอบ เชื่อว่าน่าจะมีทรัพย์สินหลายอย่างที่หายไป เพราะผู้ตายนั้นพักอยู่คนเดียว คงต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานไปก่อน โดยจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งเรียกสอบพยานใกล้เคียง ส่วนคนร้ายก็เชื่อว่าน่าจะอยู่ไม่ไกลกัน จนทราบความเคลื่อนไหวของ ผู้ตายเป็นอย่างดี จึงได้แอบเข้ามาก่อเหตุตอนช่วงเช้ามืดก่อนที่ผู้ตายจะตื่น นอกจากนี้ตนยังสั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดด้วย เพื่อหาเบาะแสและร่องรอยของคนร้ายนี้ให้ได้ ก่อนที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนพล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 สั่งการให้ชุดสืบสวนบก.สส.ภ.2 นำกำลังเข้าจับกุมนายเต็ท ไป๋ อู (Thet Paing Oo) ชาวเมียนมา อายุ 25 ปี พร้อมของกลางของผู้ตายหลายสิบรายการ มีทั้งเงินสด พระเลี่ยมกรอบ สร้อยคอ แหวน เครื่องประดับ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบชุมชนชาวเมียนมาในพื้นที่ จนพบว่ามีชาวเมียนมาต้องสงสัยที่หลบหนีไปจากบ้านเช่าซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านหลังเกิดเหตุ รวมทั้งสอบปากคำแม่ของผู้ต้องสงสัย จนทราบว่าลูกชายตนเองออกจากบ้านพักไปช่วงเวลาไล่เลี่ยกับเวลาเกิดเหตุ








Advertisement

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมนายเต็ทได้ในพื้นที่ของอ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำลงไปเพราะความมึนเมาจึงเข้าไปลงมือก่อเหตุ จากนั้นก็นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปขึ้นรถตู้โดยสาร เพื่อหลบหนีมาลงยังบริเวณจุดที่ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งสภ.เมืองชลบุรี ดำเนินคดีฐานชิงทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน