อยุธยา-สิงห์บุรียังระทมน้ำท่วม – เมื่อวันที่ 27 ต.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย รวมถึงความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลางในห้วงที่ผ่านมา ประกอบกับมีการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยในช่วงวันที่ 28 ก.ย. ถึง 27 ต.ค. เกิดอุทกภัย รวม 59 จังหวัด 353 อำเภอ 1,879 ตำบล 11,770 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 528,063 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 12 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 21 จังหวัด รวม 91 อำเภอ 711 ตำบล 4,724 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 405,688 ครัวเรือน สถานการณ์ภาพรวมทุกจังหวัดระดับน้ำลดลง

สำหรับสถานการณ์ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยรวมระดับน้ำลดลง บางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มทรงตัว ส่วนพื้นที่ในทุ่งยังมีท่วมสูง และการระบายน้ำเป็นไปได้ช้า สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะที่ชุมชนหมู่ 8 ต.ไม้ตรา อ.บางไทร เป็นชุมชนที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และน้ำจากทุ่งเจ้าเจ็ดที่มีน้ำอยู่เต็มทุ่งนา บ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมเริ่มเน่าแล้ว ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องทนลุยน้ำที่เริ่มเน่า เนื่องจากเป็นน้ำที่ท่วมอยู่ในทุ่งนา มีทั้งปลิงและช่วงกลางคืนยุงจะชุกชุม

จมค่ายมวย – ค่ายมวยไทยในชุมชนหมู่ 4 ต.คลองสระบัว จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมขัง นักมวยต้องนั่งเรือจากค่ายไปวิ่งออกกำลังในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วม ก่อนกลับมาฟิตซ้อมบนเวทียกพื้นสูงเพื่อหนีน้ำ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.

ส่วนชุมชนหมู่ที่ 4 ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอีกชุมชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูงมานานนับเดือน ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ยังคงถูกน้ำท่วม 1 เมตรในแต่ละจุด พบว่าภายในชุมชน ทางอบต.ลุมพลีทำสะพานไม้ทอดยาวผ่านเข้าไปบ้านเรือนประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการเดินทางเข้าออก ขณะที่ชาวบ้านเริ่มทำความสะอาดบ้าน

น้ำเซาะขาด – ถนนเส้นทางบ้านโนนเมือง-บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ถูกน้ำชีกัดเซาะขาดเป็นบริเวณกว้าง ทางจังหวัดประสานหน่วยทหารสร้างสะพานเหล็กชั่วคราวให้ประชาชนได้สัญจร เมื่อวันที่ 27 ต.ค.

ขณะที่ จ.สิงห์บุรี แม้ว่าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ลดการระบายน้ำแล้วก็ตาม แต่พื้นที่ ต.พระงาม อ.พรหมบุรี ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือน สูงเกือบ 2 เมตร ประชาชนยังไม่สามารถกลับเข้าไปอาศัยในบ้านได้ ต้องพักอาศัยในเต็นท์ริมถนนเป็นการชั่วคราวต่อไป ซึ่งความเป็นอยู่และการเดินทางสัญจรของประชาชนยังคงลำบาก คาดว่าจะประสบปัญหานี้ไปอีกระยะหนึ่ง อีกทั้งน้ำที่ท่วมขังเริ่มเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนซ้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน