ตรีนุชชี้100รร. เปิดเทอมไม่ได้

‘ชัชชาติ’ลุยน้ำท่วมเขตยานนาวา สั่งกทม.เสริมแนวกระสอบทรายจุดเสี่ยงรับมือน้ำหนุนสูง ยอมรับสถานการณ์รุนแรง ชี้เดือนหน้าน้ำจะหนุนสูงกว่านี้อีก ปากน้ำ-พระประแดงเริ่มเจิ่งแล้ว ‘บิ๊กตู่’กำชับติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด รมว.ศธ.เผยพิษอุทกภัยทำโรงเรียนเสียหายนับพันแห่ง ยังเปิดเรียนเทอมหน้าไม่ได้อีก 100 กว่าโรง เผยภาคใต้ฝนชุกฟ้าคะนอง แต่เหนือ-อีสานหนาวแล้ว นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์ชมทะเลหมอก สัมผัสหนาวแรกที่ภูเรือ

เหนือหนาว-ใต้ฝนชุก
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาเผยแพร่พยากรณ์อากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบนแล้ว คาดจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนวันเดียวกันนี้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง สำหรับร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

นายกฯ สั่งเฝ้าระวังน้ำหนุน
นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าฯ จังหวัดต่างๆ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหนุนเพิ่มขึ้นช่วงปลายเดือนนี้ถึงต้นพ.ย. แม้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) คาดการณ์สถานการณ์ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำชี-มูน จะกลับสู่ภาวะปกติกลางเดือนพ.ย.

“ขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือจากแม่น้ำปิงและน่าน รวมถึงปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง กอนช.จึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะเข้าสู่สภาวะปกติช่วงกลางเดือนพ.ย. หรือถ้าสามารถควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ก็อาจเร็วขึ้นคือช่วงปลายสัปดาห์แรกของเดือนพ.ย. ขณะที่สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชี-มูนคาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติกลางเดือนพ.ย.เช่นกัน ทั้งนี้ รัฐบาลยังเตรียมพร้อมหลังน้ำลด โดยประเมิน ชี้เป้า และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ พร้อมประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อร่วมกันควบคุมป้องกัน แก้ไข ระงับ หรือบรรเทาผลกระทบจากน้ำท่วมจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ” นายอนุชากล่าว

แจงวิธีบริหารจัดการน้ำ
นายอนุชากล่าวว่า ปีนี้ไทยได้รับผล กระทบจากอิทธิพลของพายุ 3 ลูก คือ มู่หลาน หมาอ๊อน และโนรู รวมถึงได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง และตะวันออก ส่งผลให้ปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศในช่วง 1 ม.ค.-22 ต.ค.มีปริมาณถึง 1,775 ม.ม. มากกว่าค่าปกติ 21% น้อยกว่าเมื่อปี 2554 อยู่เพียง 3 ม.ม. หรือคิดเป็น 0.2% ขณะที่ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ณ สถานี C2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำสูงสุด 3,105 ลบ.ม.ต่อวินาที น้อยกว่าเมื่อปี 2554 จำนวน 1,584 ลบ.ม.ต่อวินาทีนั้น รัฐบาลมอบหมายให้กอนช.บริหารจัดการตามเกณฑ์ความปลอดภัยของเขื่อนเจ้าพระยา และหลักเกณฑ์การบริหารน้ำเพื่อความปลอดภัยของเขื่อน และให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยควบคุมระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ +17.50 ถึง +17.70 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เพื่อลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการรับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันออก และลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักก่อนลงสมทบแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งลดการรับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันตกเพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ในทุ่งหรือบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ก่อนออกอ่าวไทย ควบคุมปริมาณน้ำสถานี C.29A (บางไทร) ประมาณ 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อบริหารความเสี่ยง ปริมาณน้ำไม่เกิน 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาที

น้ำเหนือ-น้ำฝนลดแล้ว
“สาเหตุที่ระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้น้อยในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากปัญหาต้นคลองใหญ่ในขณะที่ปลายคลองมีขนาดเล็ก จึงจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำลงด้านท้ายของลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ทำให้เกินศักยภาพของคันกั้นน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลให้บางจุดเกิดน้ำล้นคลองและคันคลองขาด ไม่สามารถใช้ควบคุมน้ำได้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าซ่อมแซมแล้ว รวมทั้งพบปัญหาในบางจุดที่ประชาชนในพื้นที่ไม่ยินยอมให้เสริมคันกั้นน้ำ ส่งผลให้น้ำหลากแผ่กว้างในหลายพื้นที่มากขึ้นด้วย ดังนั้น นายกฯ จึงเน้นย้ำให้สร้างการรับรู้ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลจาก กอนช.ระบุว่า ปัจจุบันทั้งปริมาณน้ำเหนือและน้ำฝนลดลงแล้ว ส่งผลให้มีการลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยสามารถควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตรา 2,400 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าแผนที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ ประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาการดำเนินการในทุกแนวทาง พร้อมประเมินสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง” นายอนุชา กล่าว








Advertisement

โรคฮิต‘น้ำกัดเท้า-ฉี่หนู’
ที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บ้านห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นพ.สมชาย กิตติพงษ์หรรษา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ร.พ.ขอนแก่น ราม พร้อมผู้บริหารโรงพยาบาลนำถุงปันสุขและน้ำดื่ม 120 ชุด มอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ยังไม่สามารถเดินทางกลับเข้าบ้านตนเองได้ โดยทีมแพทย์ลงเรือท้องแบนเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยตามบ้านพัก เพื่อมอบถุงปันสุขและความรู้ด้านการแพทย์ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่สอบถามวิธีรักษาและป้องกันโรคเท้าเปื่อยและโรคที่มากับน้ำ

นพ.ภิชาญ ฉมาดล ผอ.ฝ่ายการแพทย์ ร.พ.ขอนแก่น ราม กล่าวว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้า เพราะหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขังมากว่า 3 สัปดาห์แล้ว ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลด ชาวบ้านบางส่วนเดินลุยน้ำกลับบ้าน นอกจากนี้ ยังพบโรคฉี่หนู หากมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อย และมีภาวะแทรกซ้อน คือปวดกล้ามเนื้อรุนแรง ตาแดง ตัวเหลือง ความดันโลหิตต่ำ หรือเลือดออกใต้ตาขาว ขอให้พบแพทย์ทันที

เตรียมส่งกลับผู้ประสบภัย
นายวินัย แสนสะท้าน รองประธานสภา ทม.ศิลา กล่าวว่า น้ำท่วมขังที่บ้านห้วยซันลดระดับลงแล้วกว่า 50 ซ.ม. ตามการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ที่ปรับลดการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำพอง ทางเทศบาลและฝ่ายปกครองจึงให้ประชาชนเดินเข้าหมู่บ้านผ่านสะพานไม้และบริเวณถนนริมฝั่งแม่น้ำพองเพื่อเข้าไปสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของตนเอง หากใครต้องการกลับเข้าไปอยู่บ้านเทศบาลจะประเมินความเสี่ยงเป็นรายบุคคล หากไร้ความเสี่ยงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการกลับเข้าบ้าน เพราะนอนอยู่ที่ศูนย์พักพิงและจุดอพยพมานานเกือบเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังน้ำลดและทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติเทศบาลจะให้ความช่วยเหลือตามระเบียบอย่างเร่งด่วน

ถนนขาด – ฝนตกหนักในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้น้ำป่าเทือกเขาตะนาวศรีไหลล้นอ่างเก็บน้ำช้างแรก พัดทางเบี่ยงบริเวณสะพานช้างแรก จนถนนขาด มีน้ำท่วมขังสูง 80 ซ.ม. รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งเข้าตัวอำเภอได้ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

ประจวบฯ ฝนหนักถนนยุบ
จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถนนทรุดตัวจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ 500 เมตร ที่บริเวณด้านหน้ากำแพงโครงการเคหะแห่งชาติ ประจวบคีรีขันธ์ ปราณบุรี ขนาด 500 เมตร ซึ่งเป็นถนนสร้างใหม่เสร็จใช้งานไม่กี่เดือน เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงเหล็กและกรวยยางมาวางไว้รอบหลุมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุให้กับผู้ใช้เส้นทาง เพราะหลุมค่อนข้างกว้างและลึกมาก หากตกลงไปอาจบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ จากการสอบถามชาวบ้านระบุว่าก่อนถนนจะยุบมีฝนตกลงมาอย่างหนัก 3 ชั่วโมง น้ำฝนระบายไม่ทันและไหลเข้าท่วมพื้นผิวถนนจราจร พร้อมฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาซ่อมแซมแก้ไขให้ถนนอยู่ในสภาพที่สัญจรอย่างปลอดภัยด้วย หากปล่อยไว้แบบนี้อาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรไปมา

ขณะที่พื้นที่ อ.บางสะพานน้อย ฝนตกหนักแต่เช้า 2 ชั่วโมง เป็นเหตุให้น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลลงอ่างเก็บน้ำช้างแรก ล้นสปิลเวย์ลงคลองช้างแรก ทำให้ทางเบี่ยงบริเวณสะพานช้างแรก หมู่ที่ 3 ต.ช้างแรก ถูกน้ำพัดขาด รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งเข้าออกตัวอำเภอได้ ส่วนทางสายรองซอยอยู่เจริญไม่สามารถใช้ได้ อบต.ช้างแรกเร่งประสานซ่อมแซมเส้นทางแล้ว

น้ำหนุน – ถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ กลายเป็นคลองทันที หลังน้ำทะเลหนุน ส่วนถนนสาย 303 ตั้งแต่สามแยกพระสมุทรเจดีย์จนถึงปากซอยวัดแหลมฟ้าผ่า บางจุดมีน้ำท่วมสูง 80-90 ซ.ม. เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

พระประแดงอ่วมหนัก
ที่ จ.สมุทรปราการ เกิดน้ำทะเลหนุนไหลท่วมถนนสุขสวัสดิ์ด้านขาออกมิดทั้ง 4 เลน ตั้งแต่ฝั่งตรงข้ามซอยสุขสวัสดิ์ 72 ต.บางจาก อ.พระประแดง เกือบตลอดทั้งสาย บางจุดน้ำสูง 40-50 ซ.ม. การจราจรเคลื่อนตัวลำบาก ส่วนถนนสาย 303 ถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ตั้งแต่สามแยก พระสมุทรเจดีย์ไปจนถึงปากซอยวัดแหลมฟ้าผ่า น้ำท่วมมิดถนนระยะทางกว่า 3 ก.ม. บางจุดสูง 80-90 ซ.ม. ผู้ใช้รถต้องขับขี่ด้วยความทุลักทุเล บางคันดับกลางถนน ต้องลงเข็นเพื่อให้พ้นน้ำ

นายปัญญา มีชัย หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทต.แหลมฟ้าผ่า กล่าวว่า วันนี้น้ำทะเลหนุนท่วมสูงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากภาคเหนือและภาคอีสานปล่อยน้ำลงสู่ทะเล ทำให้มีปริมาณน้ำเยอะ คาดว่าจะท่วมไปอีก 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม เตรียมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ช่วยเหลือแล้ว ฝากถึงประชาชนให้ขนข้าวของขึ้นที่สูงไว้ล่วงหน้า รวมถึงให้วางแผนการเดินทางเผื่อเวลารถติดด้วย

ปิดต่อ 100 กว่าโรงเรียน
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนได้รับผล กระทบจากปัญหาอุทกภัย 1,000 กว่าโรง ในจำนวนนี้ได้รับผลกระทบหนัก 100 กว่าโรงเรียน ซึ่งอาจต้องปิดโรงเรียนต่อ จึงให้นโยบายไปว่าโรงเรียนที่อยู่ใกล้และสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ ให้นำนักเรียนที่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้มาเรียนกับโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียง ขณะนี้อยู่ระหว่างการใช้กระบวนการบริหารจัดการ ให้เด็กทุกคนสามารถเข้ามาเรียนแบบออนไซต์ได้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ส่วนโรงเรียนที่เสียหาย หลังน้ำลดลงแล้วให้ประเมินความเสียหาย พร้อมเร่งจัดสรรงบประมาณลงไปโดยเร็วเพื่อซ่อมแซมให้โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนได้เร็วที่สุด ขณะเดียวกัน มอบหมายให้นักเรียนอาชีวะกลุ่มจิตอาสาลงไปช่วยเหลือชุมชน ซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

ติดตาม – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาหนุนสูง จนเกิดน้ำท่วมบริเวณถนนพระราม 3 ตั้งแต่ซอยพระราม 3 ซอย 52-56 โดยสำนักการระบายน้ำ เร่งวางกระสอบทรายกั้นไม่ให้น้ำเข้าท่วมถนน เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

‘ชัชชาติ’ลุยน้ำยานนาวา
ที่กรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะตรวจสถานการณ์น้ำหนุนท่วมตั้งแต่ช่วงถนนพระราม 3 ซอย 56 ถึงถนนพระราม 3 ซอย 52 โดยมีระดับน้ำท่วมประมาณครึ่งแข้ง พร้อมสั่งการให้เร่งเสริมแนวกระสอบทราย ตลอดจนเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จากนั้นไปประชุมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจรเขตเขตยานนาวา” ที่สำนักงานเขตยานนาวา เสร็จแล้วให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้น้ำท่วมเขตยานนาวาค่อนข้างรุนแรง โดยน้ำหนุนจะมีอีก 2 ครั้ง เดือนหน้าจะสูงกว่านี้ และปลายปีจะมีอีกครั้ง ซึ่งเราทราบจุดอ่อนแล้ว จุดหนักจะเป็นช่วงซอยพระราม 3 52 อาจจะมีชุมชน เช่น ชุมชนโรงสี แต่น้ำไม่ได้ไหลออกมาบริเวณถนนใหญ่ ฉะนั้น สภาพน้ำท่วมไม่ได้อยู่ในพื้นที่วงกว้าง อยู่ในพื้นที่จำกัด มีที่สะพานพุทธนิดหน่อยที่มีรอยรั่วออกมา สถานการณ์ยังควบคุมได้ ตอนนี้น้ำก็เริ่มทยอยลดลงแล้ว รอรับมือเดือนหน้ากับอีกเดือนถัดไป

แสงแรก – บรรยากาศท่องเที่ยว ชมพระอาทิตย์สาดแสงแรกหลังเข้าสู่ฤดูหนาวที่ดอย อินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางสภาพอากาศโปร่ง สามารถมองเห็นทะเลหมอกและทิวทัศน์ โดยรอบได้อย่างสวยงามมาก ขณะที่อุณหภูมิเย็นสบายอยู่ระหว่าง 11-17 องศา เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

เชียงใหม่เย็นสบาย
ที่จ.เชียงใหม่ บรรยากาศท่องเที่ยวช่วง วันหยุดสุดสัปดาห์ อากาศหนาวเย็นสบายในช่วงเช้าหลังเมื่อคืนมีฝนตกลงมา ขณะที่ดอย อินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวพากันดีใจกับสภาพอากาศที่ปลอดโปร่ง มองเห็นทะเลหมอกและทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างสวยงาม จึงถ่ายภาพกันอย่างคึกคัก โดยอุณหภูมิเช้านี้วัดได้ต่ำสุด 11 องศาฯ ที่ยอดดอยกิ่วแม่ปาน 12 องศาฯ และที่ทำการอุทยาน 17 องศาฯ หลังจากหลายวันที่ผ่านมาอากาศไม่ค่อยเป็นใจ ท้องฟ้ามืด ทำให้ นักท่องเที่ยวไม่สามารถถ่ายภาพวิวทะเลหมอกได้

ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานว่า อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากบริเวณด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาฯ สูงสุด 32-34 องศาฯ ขณะที่อากาศ 7 วันข้างหน้า ช่วงวันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย.อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาฯ สูงสุด 31-34 องศาฯ ส่วนช่วงวันที่ 2-3 พ.ย. 65 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ ต่ำสุด 16-21 องศาฯ สูงสุด 30-33 องศาฯ

จ.พะเยา หมอกเริ่มลงจัดในพื้นที่ บริเวณถนนอุบาลีมีหมอกปกคลุมหนาแน่นนานหลายชั่วโมง ส่งผลต่อทัศนวิสัยการมองเห็น รถที่สัญจรไปมาต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ขณะที่อุณหภูมิลดลง ต่ำสุดอยู่ที่ 22 องศาฯ เกิด ไอน้ำขึ้นบนผิวน้ำ

ภูเรือว้าว-หนาวแรก
ที่จ.เลย เป็นวันแรกของการเข้าสู่ฤดูหนาวปี 2565 ด้วยอุณหภูมิ 12 องศาฯ มีลมเบาๆ ทำให้บนยอดอุทยานแห่งชาติภูเรือมีนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสหนาวแรกกันคึกคัก

นายทรงพล ขวัญเมือง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเรือเผยว่า ช่วงนี้เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิบนยอดภูลดลง แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวขึ้นบนอุทยานแห่งชาติภูเรือเพิ่มมากขึ้น เช้านี้มีหมอกบางๆ ลมหนาวมาสัมผัสได้ อุณหภูมิลดลงจากวานนี้ 14 องศาฯ และเช้าวันนี้ก็ 12 องศาฯ ลดลง 2 องศาฯ อากาศเริ่มหนาวแล้ว เย็นสบาย มีทะเลหมอกให้เห็นเป็นช่วงๆ สัมผัสพระอาทิตย์ในยามเช้าที่สวยงาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน