เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ศาลเเขวงดุสิต ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 3 ยื่นฟ้องนายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดนปช. จำเลยความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กรณีวันที่ 18 ต.ค.63 มีการรวมตัวชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขตราชเทวี โดยออกไปชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก รวมถึงเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน

ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่ารายงานการสืบสวน เจ้าพนักงานตำรวจที่ลงพื้นที่สังเกตการณ์บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจัดทำขึ้น ปรากฏภาพถ่ายจำเลยเข้าร่วมการชุมนุมโดยยืนรวมอยู่กับผู้ชุมนุมอื่นๆ เท่านั้น ไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดที่แสดงว่าจำเลยเป็นผู้ใช้ความรุนแรงในขณะเข้าร่วมชุมนุม หรือกระทำการใดในลักษณะที่ไม่สงบ ไม่ปรากฏว่าจำเลยมีอาวุธ ทางนำสืบของโจทก์ได้ความเพียงว่า จำเลยเข้าร่วมชุมนุมในวันเกิดเหตุเท่านั้น พยานหลักฐานโจทก์จึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยกระทำการใดที่มีความรุนแรง หรือก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในขณะที่เข้าร่วมชุมนุม อันจะถือว่าเป็นการชุมนุมหรือมั่วสุมในลักษณะที่มิใช่การชุมนุมโดยสงบที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 44 การชุมนุมของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง กรณีไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยพยาน หลักฐานของจำเลย พิพากษายกฟ้อง

ซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอาญากรุงเทพใต้ มีความเห็นสั่งฟ้องนายสมบัติ ทองย้อย ในความผิดฐาน ตามมาตรา 112 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 กรณีนายสมบัติ จากการโพสต์ข้อความสาธารณะลงใน เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “สมบัติ ทองย้อย” 3 ข้อความ โดยกล่าวหาว่าข้อความเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงจำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี ซึ่งนายสมบัติเคยยื่นประกันตัวต่อศาลชั้นต้นเเละอุทธรณ์เเล้ว เเต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ทำให้ตัวยังถูกคุมขัง ในเรือนจำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน