วันที่ 12 พ.ย. กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) แจ้งว่าในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ปริมาณฝนสะสมมากกว่า 200 มิลลิเมตร และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝน คาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย. ดังนี้ พื้นที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง พัทลุง (อำเภอเมือง บางแก้ว เขาชัยสน ปากพะยูน ป่าบอน ควนขนุน) สงขลา (อำเภอเมือง สิงหนคร ระโนด กระแสสินธุ์ จะนะ ควนเนียง สทิงพระ) ปัตตานี (อำเภอยะหริ่ง) ยะลา (อำเภอธารโต กาบัง ยะหา บันนังสตา เบตง)

พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำโก-ลก แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี ในพื้นที่จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี นอกจากนี้เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด รวมทั้งอ่างขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน กอปภ.ก. จึงประสานแจ้ง 5 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย

ทั้งนี้ จากรายงานร่องมรสุมพาดผ่านตอนล่างของภาคใต้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี และสงขลา ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และนครปฐม ปภ. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน