ส่งตัวกลับบ้าน ปวีณาบินไปรับ 3เหยื่อซ่องพม่า

‘ปวีณา’ บินด่วนรับตัว 3 สาวไทยพ้นขุมนรกซ่องในเมียนมา หลังถูกหลอกไปทำงานในสถานบันเทิง เมืองล็อกกิ่งของกลุ่มว้าแดง เสนอรายได้สูงพอไปจริงให้ค้ากาม แถมบังคับเสพยา เตรียมพาเข้าพบ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ขยายผลหาตัวการ ส่วนหญิง 12 รายร้องมูลนิธิปวีณาฯ โดนลวงไปนวดแผนไทยที่ไนจีเรีย สุดท้ายให้ขายบริการทางเพศ แต่เหยื่อไม่ยอมจนถูกซ้อม กักขังและยึดพาสปอร์ต บัวแก้วช่วยนำตัวกลับไทย 9 ราย อีก 3 ขออยู่ต่อ ด้านก.ต.ชี้ไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์และค้าประเวณี ถือเป็นการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสารนิเทศ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการให้ความช่วยเหลือหญิงไทย 12 คนที่แจ้งว่าถูกล่อลวงไปทำงานในประเทศไนจีเรีย ตามที่ได้มีกลุ่มแม่ของหญิงไทย 12 คนร้องเรียนผ่านมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และมีการประสานกับกรมการกงสุลอย่างใกล้ชิด ว่า ตั้งแต่ได้ทราบเรื่อง กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตไทยในกรุงอาบูจา ประเทศไนจีเรีย ได้ให้ความช่วยเหลือหญิงไทยกลุ่มดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยเจรจากับนายจ้างให้ส่งตัวกลับไทยเป็นผลสำเร็จ และเมื่อวันที่ 14 พ.ย. สถานทูตได้ออกเอกสารเดินทางฉุกเฉินแก่แรงงานไทย ที่ไม่มีหนังสือเดินทางจำนวน 4 ราย เพื่อให้เดินทางกลับไทย

นายณัฐภาณุกล่าวว่าในส่วนของกำหนด การเดินทางกลับไทย กลุ่มหญิงไทย 5 รายจะเดินทางถึงไทยในวันที่ 27 พ.ย. โดยสายการบินเอธิโอเปีย อีก 3 รายจะเดินทางถึงไทย วันที่ 2 ธ.ค. และอีก 1 รายถึงวันที่ 4 ธ.ค. ส่วนอีก 3 รายไม่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย ซึ่งนายไกรวัฒ ภมรบุตร อุปทูต รักษาการแทนเอกอัครราชทูตไทยในกรุงอาบูจา และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลได้เดินทางไปนครลากอส เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. เพื่อเตรียมการนำกลุ่มหญิงไทยดังกล่าวทั้ง 9 คน ซึ่งแสดงความประสงค์จะกลับไทยมายังสนามบินนครลากอสด้วยตนเอง และได้ประสานกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองไนจีเรียล่วงหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกด้วยแล้ว

ทั้งนี้ สถานทูตพิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า การให้ความช่วยเหลือคนไทยกลุ่ม ดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากตามปกติ และไม่น่าเข้าข่ายผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และค้าประเวณี

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. แม่ของบรรดาหญิงไทย 8 ราย เดินทางมาจาก จ.กาฬสินธุ์ 2 ราย จ.ขอนแก่น 4 ราย จ.หนองบัวลำภู 2 ราย เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีถนน รังสิต-นครนายก ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขอให้ช่วยเหลือลูกสาว ถูกหลอกไปทำงานนวดแผนไทยและบังคับให้ค้าประเวณีที่ประเทศไนจีเรีย แต่ผู้เสียหายไม่ยอมทำตาม จึงถูกทำร้ายร่างกาย กักขัง ยึดพาสปอร์ต และยังมีหญิงไทยที่ต้องการ ขอความช่วยเหลืออยู่รวมกัน 12 คน

แม่หญิงไทยทั้ง 8 ราย เล่าว่า ลูกสาว ผู้เสียหายทั้ง 8 คน มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ต่อมาได้ติดต่องานทางเฟซบุ๊กโฆษณารับสมัครไปนวดแผนไทยที่ไนจีเรียได้ค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท เป็นร้านหญิงไทยที่เปิดร้านกับสามีชาวไนจีเรีย จึงนไปทำงานช่วงกลางเดือนพ.ค. เดือนต่อมาได้รับเพียง 21,000 บาทจึงขอกลับไทย แต่นายจ้างไม่ยอมให้กลับ และยึดพาสปอร์ตทั้ง 8 คนไป และยังมีหญิงไทยที่อยู่รวมกันอีก 12 คน บังคับให้ค้าประเวณี แต่ผู้เสียหายไม่ยอมทำ จึงถูกทำร้ายร่างกาย และกักขังไว้ในห้องและบังคับค้าประเวณี จึงแช็ตมาขอให้แม่ช่วยเหลือ

เวลา 14.00 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-เมียนมา สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นางปวีณาพร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง, ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย ร่วมกันรับตัวหญิงไทย 3 ใน 5 คนที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมือง ล็อกกิ่ง ในเขตปกครองพิเศษของว้าแดง ชายแดนเมียนมา-จีน








Advertisement

นางปวีณาเปิดเผยว่า ทั้ง 3 คน ถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกว่าสามารถพาไปทำงานในสถานบริการในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเสนอรายได้สูง กลุ่มขบวนการพาข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปที่เมืองล็อกกิ่ง และถูกบังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ยินยอมจะถูกทำร้ายร่างกาย รวมทั้งระหว่างการทำงานยังถูกบังคับให้เสพยาเสพติดด้วย จึงขอความช่วยเหลือมูลนิธิจึงได้ประสานกงสุลไทยในเมียนมา เพื่อให้ความช่วยเหลือจนสำเร็จ ส่วนหญิงไทยอีก 2 คน ตอนนี้ทหารเมียนมาได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว และจะเดินทางกลับไทรอบต่อไป

พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ฝากเตือนถึงสาวไทยที่อยากจะไปทำงานต่างประเทศ ว่า ขอให้ผ่านกรมแรงงาน ที่ผ่านมายังมีคนไทยเชื่อคำหลอกลวงที่นำตัวเลขรายได้มาล่อใจ ต้องคิดให้ดีว่าต้องทำงานอะไรถึงจะมีรายได้มากถึงขนาดนั้น และยิ่งไปอยู่ในพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ความช่วยเหลือจากรัฐไทยยิ่งเข้าไปถึงลำบาก จึงไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก

ต่อมานางปวีณาพาผู้เสียหายไปยังมูลนิธิ ปวีณาฯ เเละจะเข่้าพบพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขยายผลหาตัวการใหญ่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน