ยื่นทิ้งผอ.พปชร.‘3ป.’ปิดห้องคุยมาร์คห่วงปชป.สมาชิกแห่ออก
จับตาศาลรธน.มติชี้ชะตาวันนี้กม.ลูกเลือกตั้ง

‘3 ป.’ ปิดห้องคุยกันยาว ‘บิ๊กตู่’ ลั่นกลาง ครม.จะทำให้ดีที่สุดส่งต่อรัฐบาลชุดหน้า อุบโผ ปรับครม.ก่อนสิ้นปี มีเซอร์ไพรส์หรือไม่ ‘จุรินทร์’ ยันปชป.ปรับแทนเก้าอี้ว่าง ไม่ผูกพันพรรคอื่น ‘รมว.เฮ้ง’ ลาออก กก.บห.พลังประชารัฐ พ้นตำแหน่งผอ.พรรค ลั่น ไม่อยากเป็นตัวถ่วง ขอไปช่วยนายกฯ ทำภารกิจสำคัญ ซึ้งหัวหน้าลูบหัว บอกเข้าใจ ‘บิ๊กป้อม’ ปัดสั่งปลด ‘วิษณุ’ ชี้ ‘ประวิตร’ โพล่ง ‘พปชร.-รทสช.’ พรรคเดียวกัน ไม่ผิดกฎหมาย เพราะแค่คำพูด ไม่ใช่การกระทำ ‘นิพิฏฐ์’ โต้ทิ้งสอท. เสริมทัพ พปชร. ‘มาร์ค’ ห่วงปชป.เลือดไหลไม่หยุด จับตาวันนี้ ศาลรธน.วินิจฉัยร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง สูตรหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

‘บิ๊กตู่’รูดซิปปรับครม.มีเซอร์ไพรส์
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เต็มคณะ ซึ่งระหว่างเดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามาตึกสันติไมตรีเพื่อประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ได้ตอบคำถามอะไร จากนั้นได้ร่วมประชาสัมพันธ์การจัดงานกาชาดประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “9 ทศวรรษใต้ร่มพระบารมี สดุดีสภานายิกาสภากาชาดไทย” และได้กดเสี่ยงเซียมซี ออนไลน์ ได้หมายเลข 20 มีคำทำนายว่า “ใบยี่สิบแสนดีเลิศประเสริฐหลาย หนักจะคลายงานก้าวหน้า รักสมหวัง ใครยังโสดต้องเริ่มออกจากภวังค์ จะพบคลังสมบัติช่วงปลายปี”

เวลา 12.55 น. หลังประชุมครม. พล.อ. ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับครม.ว่าจะมีเซอร์ไพรส์หรือไม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ถอดแมสก์ยิ้มให้ผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่า “สวัสดีนะจ๊ะ” ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงความชัดเจนทางการเมืองว่าจะมีเมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มหวานให้อีกครั้ง และกล่าวว่า “จ้ะ เหรอจ๊ะ”

ต่อมาเวลา 14.35 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว หลังเป็นประธานการเปิดการแข่งขัน ROV THAILAND 4.0 THE FUTURE AND BEYOND” พล.อ. ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมืองทุกเรื่อง เพียงแต่ยกมือปฏิเสธ และเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาลทันที

ขณะที่นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามถึงกระแสข่าวออกจากตำแหน่ง ไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ว่า “ไม่รู้ ไม่ทราบ หาเรื่องให้ผม”

ภท.-ชทพ.ยืนยันไม่มีขยับ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์ระบุจะปรับครม.ก่อนปีใหม่ว่า ยืนยันเหมือนเดิมว่าพรรคภูมิใจไทยยังไม่มีครม.คนไหนที่พ้นจากตำแหน่ง ส่วนกรณีนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คดีรุกป่าเขาใหญ่ จนกว่าเรื่องที่เป็นคดีจะคลี่คลาย ยืนยันในส่วนของพรรคจะไม่มีขยับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองรูปแบบการยุบสภาของนายกฯ อย่างไร เนื่องจากส.ส.หลายคนอยากให้ยุบ หรือมีการทยอยลาออกเพื่อกดดันให้เสียงในสภาไม่พอจนไม่สามารถประชุมได้ นายอนุทินกล่าวว่า ยุบสภาเป็นอำนาจของ นายกฯ ไปก้าวล่วงไม่ได้ ต่อข้อถามว่าพรรคกำหนดเส้นตายให้กับส.ส.ต่างพรรคที่จะมาร่วมงานหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ส.ส.ทุกคนมีวุฒิภาวะ มีเอกสิทธิ์ และพรรคไม่ได้ไปดูดคนนั้นคนนี้ตามที่เป็นข่าว แต่ใครที่เห็นว่านโยบายของพรรคน่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมได้ก็มาคุยกัน ดูว่าแนวทางไปกันได้ค่อยร่วมงานกัน เราตรงไปตรงมาเรื่องนี้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยพร้อมทุกสถานการณ์

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคยังไม่ได้รับสัญญาณการปรับครม.จากนายกฯ ส่วนพรรคอื่นคงไปตอบแทนไม่ได้ แต่ในส่วนของพรรคยังโควตาเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง จึงไม่มีผลกระทบใดๆ รัฐมนตรีของพรรคยังคงทำงานอย่างเต็มที่ ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสดูดส.ส.ส่งผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ดูดออกคงไม่มี แต่ดูดเข้า คงต้องตามกันต่อไป

‘อู๊ดด้า’ระบุไม่ผูกพันพรรคอื่น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์จะปรับครม.ก่อนปีใหม่ หลังแกนนำพรรคเรียกร้องให้ทูลเกล้าฯ เสนอชื่อตั้งนายนริศ ขํานุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เป็นรัฐมนตรีแทนนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทยว่า นายกฯ ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่าจะปรับครม.ให้ หลังจากนี้ต้องรอขั้นตอนกระบวนการ ส่วนจะปรับครม.เมื่อไหร่นั้น ตนขอไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการภายใน ซึ่งการเรียกร้องของพรรคเป็นเรื่องการแต่งตั้งคนไปเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนพรรคแทนนายนิพนธ์ ซึ่งไม่มีผลผูกพันกับพรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาล

ต่อข้อถามว่าการปรับครม.ก่อนปีใหม่ถือว่าล่าช้าเกินไปหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องการของกระบวนการภายใน เมื่อถามว่าการปรับครม.ของพรรค ครั้งนี้จะสลับตำแหน่งรัฐมนตรีกับพรรคอื่นอีกหรือไม่ นายจุรินทร์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ไม่มีหรอกครับ”

‘3ป.’ปิดห้องคุยนาน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เข้าไปนั่งพูดคุยกันในห้องรับรองเหมือนทุกสัปดาห์ โดยมีรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการ เดินเข้าเดินออกตลอด เพียงแต่ครั้งนี้ใช้เวลาในห้องรับรองนานกว่าทุกครั้ง กว่าจะเริ่มประชุม ครม.ได้เกือบ 10.00 น.

ขณะที่บรรยากาศภายในห้องประชุม ครม. ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่ครึกครื้นเหมือนปกติ บรรดารัฐมนตรีไม่ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปพูดคุยกันเหมือนอย่างที่เคยทำ อีกทั้งยังเป็นการประชุมแบบรวดเดียวจบ ไม่มีการพักเบรก ใช้วิธีเสิร์ฟอาหารกลางวันให้เข้าไปรับประทานในห้องประชุม ครม.เลย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ระหว่างการประชุม พล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตรได้หันไปคุยกันบ่อยครั้งมาก

นอกจากนี้ ช่วงก่อนและหลังการประชุม ครม. มีรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเข้าไปพูดคุยเหมือนกับให้กำลังใจ พล.อ. ประวิตร อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม พรรคพลังประชารัฐ โดยทั้งสามคนยังได้เดินไปส่ง พล.อ.ประวิตรถึงรถยนต์เพื่อเดินทางกลับจากทำเนียบรัฐบาลด้วย

ขณะเดียวกัน ยังมีรัฐมนตรีบางส่วนเข้าไปพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะนาย สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้เข้าๆ ออกๆ ห้องประชุมหลายรอบ และเดินทางกลับก่อนการประชุม ครม.จะสิ้นสุดด้วย ส่วนท่าที ของรัฐมนตรีกลุ่มสามมิตรค่อนข้างวางตัวเฉยอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้เข้าไปพูดคุยทั้ง พล.อ. ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร

พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวในช่วงท้ายการประชุมว่า “ขอบคุณที่อยู่กันมา 3 ปีกว่า ขอให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำกันได้ ต่อไปก็เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดต่อไป ไม่สร้างภาระ ปัญหาซึ่งกันและกัน”

‘รมว.เฮ้ง’ไขก๊อกกก.บห.พปชร.
จากกรณีมีกระแสข่าวว่าในการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ส.ส.ได้เสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ปลดนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ส.ส.ชลบุรี ออกจากผู้อำนวยการพรรค เนื่องจากแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กับ พล.อ. ประยุทธ์ และพยายามดึงส.ส.ให้ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งพล.อ.ประวิตรเห็นชอบ และเตรียมมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงผอ.พรรค ปรากฏว่านายสุชาติได้ยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (กก.บห.) และทางพรรคได้แจ้งคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.) แล้ว ทำให้พ้นจากการเป็น ผอ.พรรคด้วย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติให้สัมภาษณ์ว่า ได้ยื่นใบลาออกจาก กก.บห. และผอ.พรรคจริง ในช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ย. ได้เข้าไปที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อกราบลาพล.อ.ประวิตร เนื่องจากตนได้แสดงจุดยืนที่จะไปกับพล.อ. ประยุทธ์ ดังนั้น ต้องลาออกจาก กก.บห. ถอยออกมา เพื่อให้พรรคหาบุคคลที่พร้อมเข้ามาทำงานสำคัญ เพื่อให้พรรคเติบโตต่อไปได้ ตนจึงเข้าไปกราบลาหัวหน้าพรรค ตนเป็นคนชัดเจนและไม่ต้องการให้ใครพูดบิดเบือนไปต่างๆ นานา ตนจึงมาพูดด้วยปากของตัวเอง

กราบลาหน.-ไม่ขอเป็นตัวถ่วงใคร
“ผมรักและเคารพลุงป้อมอย่างที่สุดอยู่แล้ว ท่านเมตตาผมมาตลอด ซึ่งท่านรับทราบเหตุผล ลูบหัวผม และเข้าใจสิ่งที่ผมปฏิบัติ ใครจะพูดอะไรก็พูดไป แต่ขอให้ลุงป้อมเข้าใจผมพอ คนเดียว ส่วนคนอื่นผมไม่คิดอะไรมาก ที่ผ่านมาผมทำงานดูแลในสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้อย่างเต็มที่ ท่านเมตตาผม เข้าใจและรับทราบเหตุผล ผมเป็นลูกผู้ชายที่ยอมรับความจริง จึงได้ไปกราบลา ซึ่งผมก็มีความชัดเจน เป็นคนที่ตรงไปตรงมา พูดจริง และทุกวันนี้ก็ให้ความเคารพหัวหน้าพรรคอยู่ ถึงจะไม่ได้เป็นกก.บห. แต่อยากเห็นความชัดเจนมากกว่า ไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นตัวขวางหรือตัวถ่วงของใคร อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐทำให้ผมได้เติบโตทางการเมือง แต่ผมก็มีภารกิจเหตุผลที่ต้องไปกับลุงตู่” นายสุชาติกล่าว

ส่วนที่ระบุไม่ต้องการเป็นตัวถ่วงของใครนั้น แสดงว่าเกิดความขัดแย้งในพรรคใช่ หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ใช่มีความขัดแย้ง แต่เมื่อตนโพสต์แสดงความจุดยืนว่าจะไปกับนายกฯ หากยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐที่กำลังเติบโต หรือทำให้ใครไม่สบายใจ ตนต้องพิจารณาตัวเอง

“ผมต้องรอความชัดเจนของสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น บางอย่างผมพูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องข้อกฎหมาย แต่ต้องแสดงความรับผิดชอบและจุดยืน เพราะที่ดูจากผู้ใหญ่ในพรรคเองเขาก็ไม่ได้สบายใจ และมีผู้ใหญ่ที่พร้อมจะทำหน้าที่นี้เยอะแยะ ในเมื่อเราไม่พร้อม ก็ต้องถอย ถูกหรือไม่” นายสุชาติกล่าว

ไปช่วยนายกฯทำภารกิจสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามถึงส.ส.ที่จะย้ายตามมา พล.อ. ประวิตรว่าอย่างไรบ้าง นายสุชาติกล่าวว่า ในส่วนนี้ไม่ได้พูดถึง และเพื่อนส.ส.นั้น ยัง ไม่ได้จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ในทางการเมือง เราแค่มองอนาคตทางการเมืองกัน หากใครคิดว่าในพื้นที่อยู่ตรงไหนแล้วทำงานให้บ้านเมืองได้ หรือเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรได้ในสมัยหน้า ตรงส่วนนั้นเราไม่สามารถไป การันตีเส้นทางชีวิตของเพื่อนได้ อยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคล ตนก็ต้องตัดสินใจก่อน ภารกิจที่จะไปทำนั้น มีความสำคัญ ต้องไปทำงานเพื่อประเทศชาติบางอย่าง จึงต้องคิดว่า ไปตรงไหนแล้วทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุดก็ต้องไปตรงนั้น

ต่อข้อถามว่ามองว่าการแยกทางของพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร สถานการณ์จะเป็นอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า ตรงนี้ยังไม่เกิดขึ้น รอให้มีภาพความชัดเจนก่อนดีกว่า จะเห็นอะไรหลายอย่าง ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ เพราะทั้งสองท่านยังมีความรักต่อกัน แต่เรื่องทางการเมืองมีความจำเป็น เหมือนเราต้องเลือกในสิ่งคิดว่าเราได้ประโยชน์ และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ จุดยืนของตน จะต้องไปช่วยนายกฯ ตัวตนอยู่ที่นายกฯ อยู่กับนายกฯเป็นหลัก

ต่อข้อถามว่าเรียกได้ว่าไม่ต้องการเห็นบ้านแตกใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ใช่บ้านแตก เพราะเขายังรักกันอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่าเปรียบว่าแยกกันตีได้หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า มองได้หลายมุม เพราะความรักยังมีกันอยู่ทั้งหมด ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ในบริบททางการเมืองในแต่ละพื้นที่ หรือแต่ละภารกิจ อุดมการณ์ต้องปรับเปลี่ยนตามห้วงเวลาและสถานการณ์ เมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่ว่าจะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสุชาติกล่าวว่า ยังพูดไม่ได้ เป็นเรื่องอนาคต ตนก็รอดูนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสุชาติกำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้น ได้มีทีมงานของพล.อ. ประวิตร มายืนฟังและจดอยู่ด้านข้างวงสัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นจนจบด้วย

‘ป้อม’โต้ปลด-เมินตอบนั่งนายกฯ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีมีข่าวปลดนายสุชาติออกจากผอ.พรรคพลังประชารัฐว่า ไม่ได้ปลด เขา ลาออก ผู้สื่อข่าวถามว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ลาออกแล้ว ต่อข้อถามว่ารัฐมนตรีที่ว่าง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ จะจัดสรรอย่างไรหากมีการปรับครม. พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามดังกล่าว

เมื่อถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐ ชนะเลือกตั้ง และมีคะแนนนำ พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกฯด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ. ประวิตรส่ายหัวปฏิเสธตอบคำถาม

เช็กชื่อก๊วนส.ส.ยังอยู่ครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ย. ส.ส.ที่ตัดสินใจย้ายพรรค ได้เข้าไปกราบลา พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ อาทิ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. ที่จะย้ายไปกับนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่พรรค ภูมิใจไทย โดยพล.อ.ประวิตรกล่าวเพียงว่า “ขอให้โชคดี” ส่วนช่วงบ่าย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่แสดงเจตจำนงจะอยู่กับพรรคต่อ ได้ทยอยเข้าพบ พล.อ.ประวิตร อาทิ ส.ส.กลุ่มภาคใต้ กลุ่มสามมิตร กลุ่มปากน้ำ เป็นต้น

ขณะที่ความคืบหน้าการย้ายพรรคของ ส.ส.ในพื้นที่กทม. ล่าสุดพบว่านายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม. ที่เดิมจะย้ายไปอยู่กับนายพุทธิพงษ์ ที่พรรคภูมิใจไทย ได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ ที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 24 พ.ย. เพื่อขอมาอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้ขณะนี้ มี 4 ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐตัดสินใจย้ายมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แก่ นายประสิทธิ์ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์

ส่วนภาคใต้ที่ย้ายไป มี 4 คน ได้แก่ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา โดยมีการประเมินในพื้นที่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้ส.ส.ภาคใต้ 6 คน ได้แก่ พัทลุง 1 คน สุราษฎร์ธานี 2 คน ชุมพร 2 คน นครศรีธรรมราช 1 คน

‘นิพิฏฐ์’ปัดเข้าร่วมพลังประชารัฐ
สำหรับส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐที่เหลือทั้งหมดจะยังอยู่กับพรรค โดยมีนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช กรรมการบริหารพรรค เป็นแกนนำคนสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ร่วมจัดทัพผู้สมัครส.ส.ภาคใต้

“วันนี้ภาคใต้จะใช้ยุทธศาสตร์ รักตู่ อยู่กับป้อม พลังประชารัฐพร้อมเป็นรัฐบาล บริหารประเทศโดยพล.อ.ประวิตร ที่ยังคงวาง เป้าหมายส.ส.ที่ 150 คน และท่าทีของแกนนำกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มสามมิตร กลุ่มปากน้ำ กลุ่มโคราช กลุ่มมะขามหวาน กลุ่มกำแพงเพชร ยังอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะชัดเจนแล้วว่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ที่กลับเข้ามาอยู่ในพรรคจะไม่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐว่า ยังไม่มี ตอนนี้อยู่พรรคสร้างอนาคตไทย และไม่รู้ว่าข่าวออกมาจากไหน ผู้สื่อข่าวถามว่าตกใจหรือไม่ที่มีชื่อออกมาแบบนี้ นาย นิพิฏฐ์กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งนั้น เป็นเรื่องธรรมดา วันนี้ยังร่วมประชุมพรรคสร้างอนาคตไทยอยู่เลย แต่การเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนง ส.ส.นราธิวาส ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ตนคงไม่ได้ไปด้วย เมื่อถามว่า ยืนยัน 100% หรือไม่ว่ายังอยู่กับพรรคสร้างอนาคตไทย นาย นิพิฏฐ์กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “อย่าให้ผมตอบคำถามนี้เลย ผมยังอยู่พรรคสร้างอนาคตไทย”

‘วิษณุ’ชี้ปมพรรคเดียวกันไม่ผิดกม.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ. ประวิตร ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเดียวกัน จะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายหรือไม่ว่า พล.อ. ประวิตรพูดเล่น เป็นภาษาพูด ใครไปแหย่ท่านก็พูด ทำนองว่าเป็นหน่อเนื้อเชื้อไขเดิม แต่สุดท้ายก็ไปแตกเป็นสองพรรคอยู่ดี ส่วนที่โยงเป็นการครอบงำพรรคนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่สามารถครอบงำในทางกฎหมายได้ หากมีการร้องก็ต้องไต่สวนกัน แต่จะจับประเด็นจากคำพูดดังกล่าวไม่ได้เพราะเป็นการพูดยอกย้อน เล่นคำอุปมาเปรียบเทียบ และตนฟังอยู่ตอนที่พล.อ.ประวิตรพูด แต่คำว่าครอบงำในทางกฎหมาย คือความผิดซึ่งต้องมีพฤติกรรม แต่นี่เป็นเพียงคำพูด

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนายกฯ ยังไม่ยุบสภา แล้วส.ส.แห่ลาออกจะมีผลกระทบกับสภาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า หากลาออกจน ร่อยหรอ ไม่สามารถเป็นองค์ประชุมได้ หรือเสียงต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของสภาก็ต้องยุบสภา

‘สมศักดิ์’ปฏิเสธย้ายกลับพท.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการไม่เข้าเช็กชื่อในการประชุม พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่า ไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดทุกเรื่อง เพราะเรามีหน้าที่อย่างอื่นในเวลาเดียวกัน จึงไม่จำเป็น ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มสามมิตรไม่ได้มาทั้งกลุ่ม นายสมศักดิ์ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ไม่มาทั้งกลุ่ม เขาก็ไปกันเยอะ แกนนำเขาไม่ได้ตาม

ต่อข้อถามว่ายังยืนยันจะอยู่พรรคพลังประชารัฐต่อไปหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ข้อมูลการเมืองยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 3 สัปดาห์ก่อนอย่างไรก็อย่างนั้น ตนยังยืนยันอยู่ เรายังทำงานไปตลอดกับพรรคพลังประชารัฐ ตรงนี้ไม่มีอะไร เมื่อถามว่าได้ยืนยันกับพล.อ.ประวิตร ไปหรือยัง เพราะเห็นส.ส. หลายคนเซ็นชื่อ นายสมศักดิ์กล่าวว่า อย่าไปลงรายละเอียดอย่างนั้น อาจทำให้คนเข้าใจผิด ตนไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่าการไม่เข้าร่วมประชุมพรรค ถือเป็นการเลี่ยงการเซ็นชื่อรับรองว่ายังอยู่กับพรรคใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้เลี่ยง ปกติวันจันทร์ รัฐมนตรีก็ไปร่วมประชุมบ้าง ไม่ร่วมบ้างอยู่แล้ว ต่อข้อถามว่านายกฯ ชวนไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ นายสมศักดิ์ปฏิเสธว่าไม่ได้คุยกัน ต่อข้อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่ากลุ่มสามมิตรไม่ได้แพ็กกระเป๋าเตรียมย้ายไปไหน นายสมศักดิ์ตอบว่า ยังไม่ได้เตรียม เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะย้ายไปพรรคเพื่อไทย (พท.) จริงหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่จริง

‘ป๊อก’ขรึม-‘มาร์ค’ห่วงปชป.
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงแนวคิดวางมือทางการเมืองว่า ตนได้พูดไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่เข้าใจว่าจะถามอะไรอีก เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายกฯ เรื่องนี้และจะไปช่วยงานการเมืองกับนายกฯ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ปฏิเสธตอบคำถาม

ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธตอบคำถามถึงความชัดเจนหลังมีกระแสข่าวย้ายซบพรรครวมไทยสร้างชาติ

ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์กล่าวว่า เป็นห่วงเรื่องที่สมาชิกพรรคหลายคนลาออกจากพรรค แต่เป็นหน้าที่ของผู้บริหารพรรคที่จะต้องแก้ปัญหา โดยมีสมาชิกหลายคนที่ลาออกแล้วโทร.มาลากับตนและได้อธิบายเหตุผลให้ฟัง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีภาพไปรับประทานอาหารร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังแปลกใจเพราะไม่มีอะไรเลย นายอนุทินติดเลี้ยงข้าวตนอยู่มื้อหนึ่ง ซึ่งตนได้เลี้ยงนายอนุทินไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว และมีโอกาสไปเจอกับนายอนุทินในงานศพของพี่ชายนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และนายอนุทินบอกว่าวันหลังขอเลี้ยงข้าว และนายสาธิตเป็นคนนัดให้ ไม่ได้มีอะไร คิดว่าการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดทางการเมืองไม่ได้ผิดอะไร ไม่ได้มีนัยยะอะไรอยู่แล้ว

เด็กก้าวไกลตื๊อซบเพื่อไทย
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม.เขตบางนา-พระโขนง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ระบุต้องการมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยว่า ขอขอบคุณ แต่พรรคมีกระบวนการและคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร กทม. และจากการสอบถามข้อมูลจากฝ่ายทะเบียนพรรคทราบว่านายสมเกียรติยังไม่ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคหรือแจ้งความจำนง และพรรคได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเขตบางนา-พระโขนงไปแล้ว คือนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ซึ่งเป็นผู้ที่ยืนหยัดอยู่กับพรรค และลงพื้นที่ทำงานรับใช้ชาวบางนาและพระโขนงในนามของพรรคมาตลอด

ด้านนายสมเกียรติให้สัมภาษณ์ว่า ตนยังยืนยันว่าจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย เนื่องจากผลโพลชี้ให้ไปอยู่พรรคดังกล่าว เพราะเป็นพรรคประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนมาก และเพื่อให้ประชาชนจะได้ตัดสินใจง่ายตอนเลือกตั้ง ซึ่งตนจะได้ช่วยพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เมื่อถามว่ามีพรรคอื่นๆ เข้ามาทาบทามหรือไม่ นายสมเกียรติกล่าวว่า ก็มี แต่ตอนนี้ตนขอพุ่งเป้าไปที่พรรคเพื่อไทยก่อน เพราะได้คุยกับผู้ใหญ่ในพรรค แต่จะเป็นใครนั้นขออนุญาตยังไม่เปิดเผย

‘ระวี’เคารพมติศาลชี้พรป.เลือกตั้ง
ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะตีความร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ใน วันที่ 30 พ.ย.ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามคำร้องที่เราร้องไป 2 ประเด็นคือ 1.ระบบการเลือกตั้งแบบหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 และมาตรา 94 เรื่องระบบส.ส. พึงมีหรือไม่ และ 2.กระบวนการที่ได้มาซึ่งระบบหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเมื่อสภาพิจารณาผ่านมาตรา 23 ซึ่งให้ใช้ระบบหาร 500 กลับมีการเล่นเกมทำให้การพิจารณาในมาตรา 24 ไม่สามารถดำเนินการได้ สภาล่มถึง 4 ครั้ง จนเลยระยะเวลาพิจารณากฎหมาย 180 วัน ทำให้ต้องกลับไปใช้ระบบหาร 100

ผลการวินิจฉัยจะทำให้โฉมหน้าการเมืองไทยเปลี่ยนไป ซึ่งตนขอให้ทุกคนยอมรับมติของศาล หากศาลวินิจฉัยว่าคำร้องฟังไม่ขึ้น ตนจะไม่ดำเนินการอะไรต่อแล้วเพราะถือว่าทำเต็มที่แล้ว แม้จะมีสิทธิร้องอีกครั้งตอนที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภานำเรื่องส่งนายกฯ ขอให้ทุกฝ่ายเคารพศาลและเดินหน้าต่อไป แต่ยังมีข่าวว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญให้กลับไปใช้บัตรใบเดียว ซึ่งคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้และส.ส.ไม่น่าจะเอาด้วย แต่ต้องรอดูหลังศาลวินิจฉัยอีกครั้ง

บางกระแสพูดว่าจะทำให้ยืดเยื้อเพื่อให้รัฐบาลได้รักษาการต่อยาว แต่ตนเห็นว่าเป็นไปไม่ได้เพราะประชาชนและส.ส.คงไม่เห็นด้วย แต่หากสภาออกกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่ทัน แล้วนายกฯ ยุบสภา มีทางออกหนึ่งคือการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อใช้ในช่วงที่ไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง

อัยการเปิด 4 แนวทาง
นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวให้ความเห็นข้อกฎหมาย ตามที่ประธานรัฐสภาได้ส่งความเห็นของ ส.ส.และ ส.ว. เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่ ..) พ.ศ…. มาตรา 25 และมาตรา 26 ว่ามีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นเรื่องระบบการคิดคำนวณ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ที่ให้ใช้ระบบ 100 หาร และกระบวนการได้มาซึ่งระบบ 100 หาร โดยศาลรัฐธรรมนูญกำหนดลงมติเพื่อทำคำวินิจฉัยคดีในวันที่ 30 พ.ย.ว่า หากพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจมีได้ 4 แนวทาง

1.วินิจฉัยว่าร่างพ.ร.ป. ไม่มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญและตราขึ้นโดยถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

2.วินิจฉัยว่าร่างพ.ร.ป. ตราขึ้นโดย ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ให้ร่างพ.ร.ป. เป็นอันตกไป

3.วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.ป. มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ แต่ข้อความที่ขัดหรือ แย้งต่อรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นสาระสำคัญ ให้ข้อความเฉพาะส่วนที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญตกไป

4.วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.ป. มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และข้อความที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเป็นสาระสำคัญ ให้ร่าง พ.ร.ป. ตกไปทั้งฉบับ (รัฐธรรมนูญ มาตรา 148)

หากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามกรณี 1 และ 3 คือ ร่าง พ.ร.ป. ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และตราขึ้นโดยถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือ เป็นกรณีที่ข้อความที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญไม่เป็นสาระสำคัญ ข้อความเฉพาะส่วนที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้นที่เป็นอันตกไป ร่าง พ.ร.ป. ไม่ได้ตกไปทั้งฉบับ นายกฯ จะนำร่าง พ.ร.ป. ดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 81

ครม.ตั้ง‘นิศากร’นั่งผู้ว่าฯพัทลุง
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง 1 ราย คือ ให้นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง 3 ราย ดังนี้ 1.นายมนตรี เดชาสกุลสม รองอธิบดีกรมทางหลวง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 2.นายสมชาย สุมนัสขจรกุล รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 3.น.ส.รัชนีพร ธิติทรัพย์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอแต่งตั้ง น.ส.สุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง

ปลดล็อก – นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้าแถลงการเสนอร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมหมวดการปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าสู่การพิจารณา ของรัฐสภา ที่อาคารรัฐสภา เมื่อ 29 พ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน