สาวลูกครึ่งขอตร.สากล พบใช้ชีวิตหรูอยู่เยอรมัน

จี้ล่าตัว ‘เอิร์ก เลเดอเรอร์’หนีคดีฉ้อโกง 500 ล้านซุกเยอรมัน ‘ลิลลี่’ดารานักร้องสาวชาวลาว เข้าร้องกระทรวงยุติธรรม ขอประสานตำรวจสากลออกหมายแดง นำตัวกลับมาดำเนินคดี ทนายวอนผู้เสียหายทั่วไทยเข้าแจ้งความ จะได้รวบรวมยกเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ แฉพฤติกรรมแสบสร้างภาพรวย-หรู ชวนผู้มีฐานะร่วมลงทุน

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นำน.ส.วันมะนี พอนสะหวัน หรือลิลลี่ นักแสดงและนักร้องเชื้อสายเวียดนาม สัญชาติลาว หนึ่งในผู้เสียหายคดีฉ้อโกงของนายองอาจ หรือ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” อดีตนักแสดงหนุ่ม ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เพื่อขอให้ติดตามความคืบหน้าคดี โดยขอให้ประสานกับทางอินเตอร์โพล (องค์การตำรวจสากล) เพื่อพิจารณาออกหมายแดง นายเอิร์ก เลเดอเรอร์ หลังหนีกบดานอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ระหว่างที่มีหมายจับให้กลับมารับโทษที่ประเทศไทย เนื่องจากพบผู้เสียหายเกือบ 100 คน ความ เสียหายรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยมีว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายแทนคุณเปิดเผยว่า ขณะนี้ศาลออกหมายจับนายเอิร์ก ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ซึ่ง หลังจากที่มีการออกหมายจับ นายเอิร์ก ได้หลบหนีไปยังประเทศเยอรมนีได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ รวมถึงก่อนที่จะหลบหนีออกไปได้มีการบอกกับผู้เสียหายว่า ตนเองถูกขู่ฆ่า ถูกทำร้ายร่างกาย จึงต้องหนีออกจากประเทศไทยไป

ล่าดาราหนุ่ม – ‘ลิลลี่’ วันมะนี พอนสะหวัน นักแสดงสาว เชื้อสายลาว-เวียดนาม เข้าร้องรมว.ยุติธรรมให้ประสานตำรวจสากล ล่าตัวนายองอาจ หรือเอิร์ก เลเดอเรอร์ ดาราหนุ่ม ล่อลวงผู้เสียหายหลายรายมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท แล้วหนีไปใช้ชีวิตหรูหราที่ต่างประเทศ

“พฤติการณ์นายเอิร์กจะชักชวนกลุ่มผู้มีเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มคนไฮโซที่รู้จักกันให้มาลงทุน มาร่วมซื้อขายนาฬิกาหรู รถหรู หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยมักอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนดีถึง 10-15% ซึ่งในช่วงแรก ผู้เสียหายได้เงินผลตอบแทนกลับคืนมาจริง อีกทั้งยังไปเช่าคอนโดฯ หรู เช่ารถยนต์หรู เพื่อสร้างโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือ นำมาโพสต์เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่ออีกด้วย แต่ผลตอบแทนที่นายเอิร์กใช้หลอกลวงผู้เสียหายว่าจะได้รับนั้น อาจจะมีจำนวนไม่สูงมากเหมือนกับแชร์ลูกโซ่อื่นๆ เนื่องจากกลุ่มผู้ลงทุนเป็น กลุ่มคนที่มีเงินอยู่แล้ว และมีความรู้ เพราะหากอ้างผลตอบแทนสูงเกินจริงก็จะไม่สามารถหลอกได้” นายแทนคุณกล่าว

นายแทนคุณกล่าวต่อว่า อยากให้กระทรวงยุติธรรมช่วยดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณีดังกล่าวว่า สามารถเข้าข่ายพิจารณาเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอได้หรือไม่ รวมถึงขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศไทยของนายเอิร์ก เพราะตนเชื่อว่าญาติของนายเอิร์กจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหลังจากที่นาย เอิร์กบินหนีไปจากประเทศไทย ป้าที่เลี้ยงดู นายเอิร์กก็บินไปประเทศเยอรมนีตามนายเอิร์ก ด้วย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประสานหมายจับสากลในการส่งตัวนายเอิร์กและผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีในประเทศ ไทย และเพื่อเยียวยาชดใช้ความเสียหาย เฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งทุกคนเดือดร้อนและเป็นทุกข์ใจอย่างยิ่ง หลายคนเป็นเงินก้อนเดียวในชีวิต หวังลงทุนเพื่อเป็นธุรกิจเลี้ยงชีพ แต่กลับมาถูกคนอย่างนายเอิร์กฉ้อโกงไปจนหมดตัว

ด้านนายวรรณนพ อนุมาตรฉิมพลี ทนายความผู้เสียหาย ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้เสียหายหลายคนที่ถูกนายเอิร์กหลอกลวง โดยมีจำนวนเกือบ 100 คนแล้ว ส่วนมูลค่าความ เสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท โดยกลุ่ม ผู้เสียหายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรก จะเป็นผู้เสียหายเมื่อปี 2561 ประมาณ 40 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท ส่วน กลุ่มที่สอง คือกลุ่มผู้เสียหายในช่วงปี พ.ศ. 2563-2565 ประมาณ 50 คน มูลค่าความ เสียหายประมาณ 300-400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ตัวว่าตนเองถูกหลอก ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการรวบรวมจำนวนผู้เสียหายเพิ่มเติม อยากให้ผู้เสียหายที่อยู่กระจายตามพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีโรงพักในท้องที่ เพื่อที่จะได้มีจำนวนผู้เสียหายเพียงพอต่อการเข้าเกณฑ์เป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ








Advertisement

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า จะนำข้อมูลเอกสารที่ได้รับในวันนี้ ส่งต่อให้กับร.ต.อ. ษณุ ฉิมตระกูล ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ เพื่อตั้งเลขสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ และเพื่อพิจารณากลั่นกรองต่อว่าเคสดังกล่าวเข้าข่ายรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ รวมถึงจะประสานกองต่างประเทศในดีเอสไอในการช่วยติดตามเรื่องหมายจับสากลให้อีกด้วย ยืนยันว่าผู้กระทำผิดในคดีฉ้อโกงจะต้องกลับมารับโทษในประเทศไทย เพื่อความยุติธรรมกับผู้เสียหายทุกคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน