เผยหมดพระสติประทับรพ.จุฬา ในหลวง-ราชินีเสด็จฯไปเยี่ยม พสกนิกรห่วงใยเปิดให้ถวายพร

‘ในหลวง-พระราชินี’ ทรงห่วงใย‘เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา’ เสด็จฯ เยี่ยมพระอาการที่ร.พ.จุฬาลงกรณ์ พสกนิกรรุดเฝ้าถวายกำลังใจ สํานักพระราชวังออกแถลงการณ์ทรง มีอาการพระประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย ขณะทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยงที่นครราชสีมา ด้านโรงพยาบาลจุฬาฯ ตั้งโต๊ะให้ร่วมลงนามถวายพระพรตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.เป็นต้นไป ‘สมเด็จพระสังฆราช’ ทรงมีพระบัญชาให้วัดทั่วประเทศ-ต่างประเทศเจริญพระพุทธมนต์-เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรทุกวันหลังทำวัตรเช้า-เย็น

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร ความว่าเมื่อ วันที่ 14 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 เวลา 18.20 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยงที่จะเข้าแข่งขันสุนัขใช้งานตามมาตรฐานสากลในรายการ Thailand Working Dog Championship by Royal Thai Army 2022 ระหว่างวันที่ 10-19 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 ณ สนามฝึก กองพันสุนัขทหาร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ในระหว่างที่ทรงทำการฝึก ทรงมีพระอาการประชวรหมดพระสติ ด้วยพระอาการทางพระหทัย คณะแพทย์ประจำพระองค์ จึงได้เชิญเสด็จพระราชดำเนินไปปฐมพยาบาล ณ โรงพยาบาลปากช่องนานา พระอาการประชวรคงที่ในระดับหนึ่ง จากนั้น ได้เชิญเสด็จประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อถวายการตรวจพระวรกายอย่างละเอียด และประทับรักษาพระองค์ต่อไป จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางมาติดตามพระอาการสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชร กิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เพื่อถวายกำลังใจ และเฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ขณะเสด็จออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ มาประทับรถยนต์พระที่นั่ง เวลา 14.43 น.

สภากาชาดไทย เปิดลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 08.00 – 16.00 น. ณ ชั้น 1 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไม่เว้นวันหยุดราชการ

นายจิรวัฒน์ เปรมอุดมกิจ หนึ่งในประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ กล่าวว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรเห็นประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ ทรงพระดำเนินมาหาและมีพระราชปฏิสันถารด้วย ตนกราบทูลกับพระองค์ว่าประชาชนมาถวายกำลังใจ และทูลเกล้าฯ ถวายดอกไม้ที่เตรียมมาจากบ้าน พระราชินีทรงรับดอกไม้ที่ทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสว่าจะนำไปพระราชทานให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จากนั้นเสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ








Advertisement

เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ว่า เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เตรียมนำโต๊ะหมู่ ต้นไม้ตกแต่ง พร้อมนำพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระ เจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา มาประดิษฐานที่หน้าทางขึ้นลิฟต์ขนย้ายผู้ป่วยชั้น 1 เพื่อให้ประชาชนมาร่วมลงนามถวายพระพร หลังมีแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังประกาศถึงพระอาการประชวรอาการเกี่ยวกับพระหทัย

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการอารักขา รวมถึงทหารและเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง พากันเดินตรวจตราอยู่ภายในอาคารตามปกติ ส่วนสภาพการจราจรที่ถนนราชดำริ ถนนอังรีดูนังต์ ถนนพระรามที่ 1 และถนนพระรามที่ 4 ไม่มีการปิดกั้น รถราสามารถสัญจรได้ ซึ่งการจราจรติดขัดตามปกติ

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานข่าวนี้ หลังสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร โดยบีบีซีระบุว่า สมเด็จพระ เจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา พระราชธิดาพระองค์โตในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงหมดพระสติด้วยพระอาการทางพระหทัยเมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ 14 ธ.ค.ระหว่างทรงทำการฝึกสุนัขทรงเลี้ยงที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนเชิญเสด็จประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในกรุงเทพฯ ซึ่งพระองค์จะประทับรักษาพระวรกายต่อไป โดยพระอาการช่วงค่ำคงที่ในระดับหนึ่ง

บีบีซีรายงานด้วยว่าสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงรักการออกกำลังกาย และทรงเป็นนักกฎหมายที่มีคุณสมบัติเหมาะสม พระองค์ทรงเป็นผู้สนับสนุนการปฏิรูปกฎหมายอาญาในประเทศไทย และทรงเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียนนา ระหว่างปี 2555 – 2557

ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่าสมเด็จพระ เจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวรด้วยพระอาการทางพระหทัย และพระอาการของพระองค์คงที่ในระดับหนึ่ง ภายหลังทรงหมดพระสติขณะประทับอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา จากนั้น คณะแพทย์เชิญเสด็จประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ

ด้านเอเอฟพีรายงานว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ หรือพระนามซึ่งเป็นที่รู้จักในไทยว่า “องค์ภา” ทรงมีบทบาทอย่างมากในพระราชพิธีสำคัญในสังคมไทย ทรงสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากประเทศอังกฤษ ก่อนทรงศึกษาต่อระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และระดับปริญญาตรีสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ต่อมาพระองค์ทรงศึกษาต่อระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอกนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา ทรงเคยปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศออสเตรีย ในปี 2555 และเอกอัครราชทูตประจำคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

นอกจากนี้พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งในกระบวนการยุติธรรมของไทย ในฐานะอัยการ มุ่งเน้นการปราบปรามปัญหายาเสพติด และเมื่อปี 2564 พระองค์ทรงได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นเสนาธิการกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์

วันเดียวกัน นายอินทพร จั่นเอี่ยม รอง ผู้อำนวยการ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และเลขาธิการมหาเถรสมาคม ลงนามในประกาศสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เรื่อง ให้คณะสงฆ์ทุกวัดเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ความว่า

ตามที่ สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2565 เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวร ความทราบแล้ว นั้น

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ทรงมีพระบัญชาโปรดให้สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แจ้งวัดทุกวัดทั่ราชอาณาจักร และวัดไทยในต่างประเทศ ให้คณะสงฆ์พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา เป็นพิเศษ ต่อจากการสวดมนต์ทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็น เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่บัดนี้เป็น ต้นไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน