‘ตะวัน-แบม’ ยกระดับปฏิเสธการรักษา ไม่รับสารอาหาร-น้ำ รวมถึงยาบรรเทาปวดทรมาน และยาลดกรด แม้จะปวดท้องมากจากการอดอาหาร อ่อนแรงต้องใช้วอล์กเกอร์ช่วยพยุงเวลาเดิน ร.พ.ธรรมศาสตร์ยืนยันจะดูแลเต็มที่ ตรวจเลือดและตรวจจับสัญญาณชีพทุกๆ 4 ชั่วโมง เผยที่ยังอยู่ได้อาจเพราะได้รับโพแทสเซียม หรือสารที่มีอิเล็กโทรไลต์ ยาใช้ในการปรับสมดุลของอาการขาดน้ำและขาดอาหาร เพื่อลดอาการทรมานในวันก่อน แต่วันนี้ทั้งคู่ปฏิเสธทุกอย่างโดยเด็ดขาด
เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 28 ม.ค. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยแพร่เอกสารชี้แจงจากทนายความถึงอาการล่าสุดของน.ส.ทานตะวัน หรือ ตะวัน ตัวตุลานนท์ และ น.ส.อรวรรณ หรือ แบม ภู่พงษ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการอดอาหารและน้ำเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้ผู้ต้องขังคดีการเมือง โดยพักรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.ธรรมศาสตร์ โดยคำชี้แจงจากทนายความของทั้งสองเปิดเผยเกี่ยวกับรายละเอียดอาการ ในวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้
วันที่ 28 ม.ค. ทนายความเดินทางไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และได้รับการปฏิเสธไม่ยินยอมให้ทนายความเข้าเยี่ยมจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ด้วยสาเหตุเป็นวันหยุดราชการไม่สามารถให้เข้าเยี่ยมได้ ต่อมาทนายความเข้าสอบถามอาการของตะวันและแบมจากพยาบาลผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ได้ความว่าคนไข้ยังมีปัญหาเรื่องการอ่อนเพลีย ปวดท้อง ในการลุกเดินจะใช้วอล์กเกอร์ (เครื่องพยุง) ประคอง
ผลเลือด สัญญาณชีพ และระดับน้ำตาลยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และคนไข้ไม่ได้ทานอาหาร ปฏิเสธการดื่มน้ำ ซึ่งพอไม่ได้ทานอาหารก็จะมีการปวดท้อง นอกจากนี้ ในขณะนี้คนไข้ยังปฏิเสธการรับยาที่ใช้ในการบรรเทาความปวดทรมานและยาลดกรดด้วย พยาบาลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ยังกล่าวอีกว่า โดยปกติของการประเมินอาการคนไข้จะไม่ใช้วิธีการดูสภาพภายนอก แต่จะใช้การตรวจเลือดและการตรวจจับสัญญาณชีพ ซึ่งทำทุกๆ 4 ชั่วโมง เป็นอาการบ่งชี้หลัก
เมื่อทนายความถามว่าตะวันและแบมมี แนวโน้มที่จะเกิดอาการช็อกหรือไม่ พยาบาลจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ได้ตอบว่า ณ ขณะนี้ เมื่อประเมินอาการสัญญาณชีพแล้วยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่แนวโน้มเรื่องของการช็อกนั้นอาจจะมีได้ เพราะเมื่อไหร่ที่คนไข้ไม่ได้ทานอาหารร่างกายก็จะมีอาการช็อกได้ ซึ่งในตอนนี้นั้นค่าโพแทสเซียมของคนไข้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และคนไข้ยังคงได้รับการประเมินระดับน้ำตาลจากโรงพยาบาลเป็นช่วงๆ
ทนายความยังได้สอบถามพยาบาลเพิ่มเติมด้วยความเป็นห่วงว่า อาการของตะวันและแบมจะเข้าขั้นวิกฤตหรือไม่ เนื่องจากทั้งคู่ได้ยืนยันว่าจะยกระดับการต่อสู้ของตนตั้งแต่เมื่อเวลากลางวันของเมื่อวาน (27 ม.ค.) พยาบาลจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์จึงได้แจ้งว่า ที่ยังอยู่ได้อาจเป็นเพราะว่าคนไข้ได้รับโพแทสเซียม หรือได้รับสารที่มีอิเล็ก โทรไลต์ซึ่งเป็นยาใช้ในการปรับสมดุลของอาการขาดน้ำและขาดอาหารเพื่อลดอาการทรมานในวันก่อน แต่มา ณ วันนี้น้องปฏิเสธไม่รับยาใดๆ หรือสารใดๆ อีกต่อไปแล้ว
ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ได้ยืนยันกับทนายความว่า จะให้การดูแลตะวันและแบม อย่างเต็มที่ แต่ในส่วนของเรื่องการเข้าเยี่ยมนั้น อย่างไรก็ดี ยังเป็นสิทธิของราชทัณฑ์ที่จะให้หรือไม่ให้ โดยพยาบาลจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ได้ยืนยันว่าขณะนี้คนไข้ไม่ได้รับการรักษาเนื่องจากปฏิเสธที่จะรับการรักษา และปฏิเสธที่จะรับน้ำ อาหาร และยาหรือสารใดๆ
วันเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เผยแพร่แถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การอดอาหารของเยาวชนนักกิจกรรมทางการเมือง ความว่า กสม. ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการชุมนุมและการแสดงออกทางการเมือง เช่น กิจกรรมยืน หยุด ขัง การชุมนุมกรณี APEC รวมทั้งกรณีล่าสุดที่มีการอดอาหารประท้วงโดยเยาวชนนักกิจกรรม
กสม. มีความห่วงใยในสถานการณ์ในขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียใดๆ จึงขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติการตามสิทธิ หน้าที่ และอำนาจ โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน เคารพในสิทธิและเสรีภาพ ทั้งเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ เปิดเผย ปราศจากอาวุธ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะสิทธิที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยให้การรับรอง
กสม. ขอเสนอให้มีการเปิดพื้นที่สาธารณะในการพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่เป็นอยู่ โดยวิถีทางประชาธิปไตยและสันติวิธี และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันเร่งหาทางออกก่อนที่จะเกิดความสูญเสีย ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ ด้วยความตระหนักว่าการปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงในสังคมยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย โดย กสม.จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป
วันเดียวกัน ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก และที่ปรึกษามูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว พร้อมเครือข่ายภาคประชาชนด้านเด็กเยาวชนและครอบครัว ร่วมกันทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ปล่อยนกพิราบ หน้าโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตะวัน-แบม ย้ายมารักษาตัว หลังอดข้าว อดน้ำมาแล้ว 10 วัน ซึ่งตามที่มีรายงานพบว่า สภาพร่างกายเข้าขั้นวิกฤต และยังปฏิเสธการรักษา พร้อมทั้งเรียกร้องให้แก้ ม.112
โดยเห็นว่า คณะแพทย์คงกำลังตั้งวงคุยกันถึงกรณีนี้ เมื่อเจ้าตัวยืนยันเลือกปฏิเสธการรักษา ขณะที่หมอเห็นความตายอยู่ข้างหน้า หมอจะทำอย่างไร ก็คงไม่มีคำตอบสำเร็จรูป แต่การถกเถียงกันในกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องวงใน อาจจะเป็นคำตอบที่ชี้ขาด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ยิ่งบอกสังคมว่า ชุดความคิดความรู้ในสังคมเป็นพลวัตอยู่ตลอดเวลา
ทิชา ย้ำว่า ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียในกรณีของตะวัน-แบม เพราะความสูญเสียจะยกระดับไปสู่สถานการณ์ที่ยากจะควบคุมได้ มันคือประวัติศาสตร์บาดแผลของประเทศนี้ เรื่องนี้ไม่คำตอบ และเป็นเรื่องที่น่ากลัวด้วย วันนี้ที่เรามาที่นี่ เพื่อทำให้เกิดแรงกระเพื่อม ทำให้เกิดการขบคิดเรื่องนี้ จริงๆ ต้องไม่มีใครตายจากการต่อสู้ เรื่องการมีชีวิตที่ปลอดภัยในสังคม เราต้องอย่าปล่อยให้เขาตาย เพราะฉะนั้นการตอบสนองต่อเจตนาของเขาในลักษณะที่เข้าอกเข้าใจในระดับหนึ่งน่าจะทำให้เขากลับมาใช้ชีวิตร่วมกับเราได้ และการต่อสู้ของเขาก็เป็นไปตามวิถีปกติ ไม่ได้ใช้สิทธิเกินสิทธิ ไม่ใช้เสรีภาพเกินเสรีภาพ
ด้าน จะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยได้แสดงออกเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้คือวิกฤตที่ต้องออกมาพูดแล้ว และคิดว่าหลายๆ คน อาจมีความเชื่อที่ต่างไปก็เริ่มรับฟังมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าไม่ไหวแล้วกับสถานการณ์นี้ เราไม่ได้เข้าข้างเด็กสุดขั้ว แต่ในฐานะที่เด็กเรียกร้องเป็นเรื่องพื้นฐานมาก และถ้าเกิดเรานิ่งเฉยไม่สนใจ ผมว่ามันใช่แล้ว สังคมวิปริตแล้วที่เราจะปล่อยให้เด็กเสียชีวิตไป คุณจะอยู่ได้หรอในสังคมแบบนี้”
ขณะที่ วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ระบุว่า ข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องพื้นฐาน ในสังคมประชาธิปไตย เรียกร้องให้ศาลคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน หยุดดำเนินคดีการแสดงความเห็นทางการเมือง และแม้ว่าจะเรียกร้องให้แก้ ม.112 และ ม.116 ก็เป็นการเรียกร้องต่อพรรคการเมืองให้มีนโยบาย และแสดงจุดยืนออกมา นั่นหมายความว่า พวกเขาเรียกร้อนผ่านกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย แต่ละนาทีที่ผ่านไปหมายถึงชีวิตของเด็ก และคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ที่ล้วนมีความฝัน มีจุดมุ่งหมาย และค่านิยมร่วมสมัย การอดอาหาร ไม่ปลุกแค่พวกเราที่อยู่ที่นี่ แต่มันจะปลุกทุกคนให้ลุกขึ้นมา ไม่วันนี้ก็วันหน้า
