เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีค่า 67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก/ลบ.ม.) อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ ยังพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) มีค่า 126 มคก/ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงแนะนำประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์

ด้านนายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าฯ พิษณุโลก ออกอากาศเสียงตามสายประกาศแนวทางการป้องกันลดเผาวัชพืชในพื้นที่จ.พิษณุโลก โดยขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดเผาวัชพืชเพื่อลดการเกิดฝุ่นละอองที่ก่อให้เกิดค่า PM 2.5 ที่จะมีผลกระทบกับสุขภาพของประชาชน

ส่วนที่จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณภาพอากาศบริเวณเขตเทศบาลเมืองเลยและพื้นที่ใกล้เคียงอำเภอเมือง จ.เลย จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน มีค่า 77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด จากการใช้โดรนขึ้นบินภาพมุมสูงในเขตเทศบาลเมืองเลยและรอบๆ จะเห็นได้ว่าท้องฟ้าขมุกขมัวไปทั่ว ซึ่งจะเห็นเป็นหมอกควันปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง ท้องฟ้าไม่แจ่มใสเหมือนที่ผ่านมา ขณะที่เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่จ.เลย มีเพียง 1 จุดเท่านั้น ในเขตเทศบาลเมืองเลยพื้นที่ที่มีการปลูกอ้อย

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้ในหลายพื้นที่มีรายงาน ค่าฝุ่น PM 2.5 เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคหืด ภูมิแพ้ อาจมีความเสี่ยงเกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในไทย 3 ปีย้อนหลังพบว่ามีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม.ในช่วงรอยต่อฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน คือตั้งแต่ธ.ค.-เม.ย. และจากข้อมูลของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ในวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา พบพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานบางจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคกลาง และอีสาน โดยคุณภาพอากาศภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม)

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ควรเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเจ็บป่วยหรือมีผลต่อสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป เพราะอาจจะมีโอกาสเกิดอาการกำเริบมากขึ้นได้ และสำหรับกลุ่มที่มีโอกาสสัมผัสฝุ่นอย่างต่อเนื่อง เช่น ตำรวจจราจร คนขับรถสาธารณะ คนกวาดถนน คนทำงานในที่โล่งแจ้ง ควรดูแลสุขภาพ ป้องกันตนเอง และสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างเคร่งครัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน