เผยเหยื่อป่วยโรคซึมเศร้า อดีตทนายใช้รูปหนุ่มหล่อ

‘บิ๊กเด่น’ ผบ.ตร.ส่งตำรวจพีซีทีแกะรอยตามรวบอดีตทนายความใช้ภาพปลอมเป็นหนุ่มหล่อ สร้างโปรไฟล์ในแอพฯ หาคู่ หลอกหญิงป่วยซึมเศร้าให้หลงรัก นัดมีเพศสัมพันธ์ ชวนลงทุน สูญเงิน 1.5 ล้าน อ้างฝ่ายหญิงสมยอม แฉเหยื่อคิดสั้น พยายามฆ่าตัวตาย สอบประวัติคนร้ายตระเวนก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 49 มีหมายจับติดตัวอื้อ ตัดกำไลข้อเท้าหนีประกันชั้นศาล เผยจบเนติบัณฑิต เคยเป็นเจ้าของสำนักงานทนายความที่ชลบุรี แต่เข้าไปพัวพันชาวต่างชาติคดียาเสพติดโดนยึดตั๋วทนาย

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รอง สว.กลุ่มงานการข่าวฯ ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ รองสว.กก.1 บก.สอท.3 ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รองสว.กก.2 บก.สส.ภ.2, ร่วมกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 และ บก.สส.บช.น. ร่วมจับกุมนายพงศกร หรือ ชาย ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมาย ประกอบด้วย หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ จ.407/2561 ลงวันที่ 16 ต.ค. 61 ข้อหายักยอกทรัพย์, หมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ จ.90/2563 ข้อหาฉ้อโกง และหมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ. 66 ข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือ บางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น

และตรวจค้นห้องพักเลขที่ 945/526 ชั้น 7 อาคาร ซี เลสโต คอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ ตรวจยึดของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดจดบันทึก 6 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 12 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม ซิมโทรศัพท์มือถือ 16 ซิม เอกสารการทำธุรกรรมการเงินจำนวนมาก

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งขอความช่วยเหลือไปถึงพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ แจ้งว่าใช้แอพพลิเคชั่นหาคู่แอพฯ หนึ่ง และพบกับคนร้ายซึ่งอ้างว่าตนเองชื่อนายธเนศ ไม่ทราบนามสกุล ชื่อเล่น “ทอม” โดยคนร้ายสร้างภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปหล่อ แช็ตสนทนาจีบหญิงผู้เสียหาย โดยหว่านล้อมแสดงตนว่าเป็นผู้ชายสายบุญ กระทั่งผู้เสียหายรายนี้เริ่มหลงรัก เมื่อคนร้ายแช็ตสนทนากับผู้เสียหายมาระยะหนึ่ง จึงสามารถรับรู้ได้ว่าผู้เสียหายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คนร้ายใช้เทคนิคการสนทนาในลักษณะรู้จุดอ่อนของเหยื่อแต่งเรื่องวิปริต หลอกลวงผู้เสียหายต่อไปว่าหากต้องการจะคบเป็นแฟน ผู้เสียหายจะต้องไปหลับนอนกับพ่อของตนก่อน มิเช่นนั้นจะต้องเลิกรากัน

ผู้เสียหายกลัวจะต้องเลิกราจึงยอมเดินทางไปพบพ่อของหนุ่มหล่อที่แช็ตสนทนากัน ซึ่งแท้จริงพ่อคนดังกล่าวก็คือผู้ต้องหานั่นเอง โดยคนร้ายหลอกลวงเช่นนี้เพราะทราบดีว่าตนหน้าตาไม่เหมือนกับใบหน้าในโปรไฟล์ที่แช็ตสนทนา จึงออกอุบายว่าตนเป็นพ่อของหนุ่มรูปหล่อที่แช็ตสนทนากับผู้เสียหาย เมื่อคนร้ายนัดเจอกับผู้เสียหายที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 4 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 6-19 ม.ค. 66 จากนั้นคนร้ายเริ่มล่อลวงให้ผู้เสียหายเริ่มลงทุนการแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยโอนเงินให้คนร้ายหลายครั้ง และยังถูกหลอกให้นำรถยนต์ของเหยื่อไปขายเพื่อนำเงินมาโอนให้คนร้ายอีก รวมความเสียหายทั้งหมด 1,511,911 บาท

หลังรับแจ้งพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์วิเคราะห์เห็นความผิดปกติของคดี สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT 5 ดำเนินการสืบสวนร่วมกับทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมในทันที เมื่อลงสืบสวนก็พบกับวิธีการยิ่งกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป โดยสืบสวนพบว่าลักษณะของหญิงผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนั้น มีอาการคิดฆ่าตัวตาย วิเคราะห์ได้ว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าการถูกหลอกลวงทั่วไป ว่าเหยื่ออาจถูกคนร้ายแบล็กเมล์ โดยเชื่อว่าการที่หญิงผู้เสียหายยอมมีเพศสัมพันธ์กับคนร้ายซึ่งเป็นชายแปลกหน้าถึง 4 ครั้งนั้นต้องเกิดจากที่คนร้ายใช้วิธีการเชิงบังคับอย่างแน่นอน ต่อมาทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายคือนายพงศกร ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี ตรวจพบว่าเป็นอดีตทนายความในพื้นที่จ.ชลบุรี แต่ถูกถอนใบอนุญาตไปเนื่องจาก พัวพันเรื่องผิดกฎหมายกับกลุ่มชาวต่างชาติ

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 2 หมายจับ และมีประวัติก่อเหตุมาแล้วหลายคดีดังนี้

วันที่ 15 พ.ย.49 ถูกดำเนินคดีข้อหาพ.ร.บ.เช็ค พื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม, วันที่ 21 มิ.ย. 50 ถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ พื้นที่สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ, วันที่ 15 พ.ค. 61 ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ พื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่, วันที่ 1 พ.ค. 63 ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง พื้นที่สภ.เมืองประจวบ คีรีขันธ์, วันที่ 30 ม.ค.65 ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พื้นที่สน.ตลิ่งชัน, วันที่ 29 พ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พื้นที่ สน.สมเด็จเจ้าพระยา

ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และตำรวจชุด PCT 5 จึงรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับเพิ่มอีกในคดีนี้ ข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ตามหมายจับศาลอาญาที่ 35/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ. 66 และเร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว

จับทนาย – นาทีเจ้าหน้าที่ชาร์จจับกุมนายพงศกร ศุภกรมงคลชัย อายุ 43 ปี อดีตทนายความ ริมถนนสุขุมวิท อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาหลอกลวงผู้หญิงในแอพฯ หาคู่ ก่อคดีโชกโชน และหนีประกันชั้นศาล เมื่อวันที่ 4 ก.พ.

ต่อมาวันที่ 3 ก.พ. 66 พล.ต.ต.ธีรเดชนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT 5 นำกำลังเข้าจับกุมนายพงศกรตามหมายจับได้ที่บริเวณหน้าร้าน กิมฮุง ร้านทอง ถ.สุขุมวิท ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ขณะจับกุมนายพงศกรออกอุบายตบตาเจ้าหน้าที่ โดยแสร้งว่าตนมิใช่บุคคลตามหมายจับ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและจะจับกุมตัว

นายพงศกรยังมีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงใช้กำลังตามสมควรในการจับกุม

หลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดชนำกำลังเจ้าหน้าที่ขยายผลการจับกุม โดยเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 945/526 ชั้น 7 อาคาร ซี เลสโต คอนโด สุขุมวิท 13 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 46/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ. 66 พบของกลางหลายรายการ โดยตรวจพบหลักฐานสมุดบันทึกซึ่งมีการบันทึกลักษณะจิตใจ พฤติกรรมของเหยื่อผู้เสียหาย และยังตรวจพบข้อมูลภาพถ่ายของผู้เสียหายที่นายพงศกรใช้แบล็กเมล์ในโทรศัพท์มือถือกว่าหลายภาพ และยังพบอัลบั้มภาพลักษณะนี้กับผู้หญิงรายอื่นอีกไม่ต่ำกว่า 3 คน

จึงนำตัวนายพงศกรส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนหมายจับที่เหลืออีก 2 หมายได้ประสานงานกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบ คีรีขันธ์ และสภ.แม่ปิง ทำเรื่องอายัดตัวต่อไป

จากการสอบสวนนายพงศกรให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนจบการศึกษานิติศาสตร์และเนติบัณฑิตไทย เคยมีอาชีพเป็นทนายความ เป็นเจ้าของ เปิดสำนักงานทนายความอยู่ที่จ.ชลบุรี แต่เข้าไปพัวพันกับกลุ่มชาวต่างชาติสัญชาติออสเตรเลียที่กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด จึงทำให้ไม่ได้เป็นทนาย ช่วงที่ผ่านมาใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ เพราะหนีการประกันตัวชั้นศาล โดยแอบถอดกำไลข้อเท้าทิ้งไปแล้ว ในคดีนี้ยืนยันว่าตนไม่ได้ลงมือข่มขืนผู้เสียหายและไม่ได้ แบล็กเมล์ โดยอ้างว่าหญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายยินยอม เมื่อนัดพบกันแล้วและใบหน้าไม่เหมือนโปรไฟล์ หญิงผู้เสียหายไม่ได้ว่าอะไรเพราะคุยกันเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ฉ้อโกง แต่เป็นการขอยืมเงิน และอ้างว่ายังติดหนี้หญิง ผู้เสียหาย 500,000 บาท แต่เอาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมดแล้วจึงไม่มีคืน ส่วนภายในห้องพบสมุดบัญชีและซิมโทรศัพท์จำนวนมากนั้น เป็นของคนรู้จัก ไม่ได้มีการทำผิดกฎหมายใดๆ ส่วนภาพผู้เสียหายในเครื่องโทรศัพท์เป็นการเอามาจากเว็บไซต์ และเป็นการแลกคอลเสียวกันโดยเต็มใจทั้งสองฝ่าย ยืนยันว่าไม่ได้นำภาพมาแบล็กเมล์ ส่วนคดีอื่นๆที่ยังค้างอยู่เยอะนั้นตนไม่ทราบ

พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพยานหลักฐานได้วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ต้องหา ประกอบกับภาพในโทรศัพท์ของผู้ต้องหานั้นเป็นภาพการวิดีโอคอลลักษณะที่ฝ่ายหญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายเปิดภาพกล้องฝ่ายเดียวในสภาพเปลือยกาย ส่วนฝ่ายคนร้ายนั้นไม่มีการเปิดกล้อง เป็นเช่นนี้จำนวนหลายภาพ รูปแบบและเทคนิคการฉ้อโกงที่น่ากลัวและพยานหลักฐานที่พบสมุดจดในห้องนั้นมีการวิเคราะห์จุดอ่อนของเหยื่อไว้ด้วย คนร้ายในคดีนี้จึงถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง มีจิตวิทยาสูง อาศัยความเชื่อเหยื่อในการดูดวง ตนจะไม่ยอมให้คนเหล่านี้อยู่ร่วมในสังคมกับประชาชนทั่วไปได้ เพราะการกระทำเยี่ยงนี้สามารถทำลายชีวิตคนให้ตายทั้งเป็นได้เลย และขอเตือนภัยไปยังกลุ่มผู้ใช้แอพพลิเคชั่นหาคู่เหล่านี้ ล่าสุดเราพบข้อมูลในโทรศัพท์ของคนร้ายยังคงมียูสเซอร์ออนไลน์ไว้ในระบบแอพฯ หาคู่ชื่อดัง 2 แอพพลิเคชั่น โดยใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “Tom” ใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ ให้ลองตรวจสอบโดยเร็ว หากผู้ใดได้รับความเสียหาย ถูกหลอกลวงไปแล้วหรือกำลังจะหลงเชื่อ สามารถขอ คำปรึกษาได้ทางเพจเฟซบุ๊ก สืบสวนนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ช.ม.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน