กอดนัวว่อนโซเชี่ยล แต่งหญิง-บิกินีเล่นน้ำ

เจ้าคณะจังหวัดลพบุรีรุด วัดเขาวงพระจันทร์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังเพจดังโพสต์ภาพ ‘มนต์รักปาท่องโก๋’ 2 สงฆ์กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันวาบหวาม เจ้าอาวาสเผยเป็นพระจากกรุงเทพฯ มาช่วยงานประเพณีขึ้นเขาวงพระจันทร์ เจ้าอาวาสวัดที่ถูกอ้างชื่อระบุเคยอยู่ในสังกัดแต่ลาสึกไปหลายปีแล้ว ชาวบ้านโคกสำโรงชี้เป็นอดีตเลขานุการเจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ถูกพระสูงวัยที่เคยอยู่ร่วมกุฏิ สีฟ้าหวานแหววอาละวาดเพราะไปติดสามเณร จนต้องเผ่นออกจากวัด ชาวบ้านเปิดกุฏิถึงผงะ ทั้งภาพลับ อวัยวะสิ่งเทียม ซุกไว้อื้อ

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดเขาวงพระจันทร์ ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี พระครูภัทรปัญญาวุธ เจ้าคณะอำเภอโคกสำโรง นายสิทธา ภู่เอี่ยม นายอำเภอโคกสำโรง ว่าที่ร้อยตรีเกรียงไกร ภาชนะทิพย์ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ รรท.ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี ตำรวจ สภ.โคกสำโรง เข้าสอบสวนและ ฟังคำชี้แจงจากพระมหาธวัชชัย สิริธโช เจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์

สืบเนื่องจากเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ลงภาพพระหน้าหวาน บางภาพสวมผ้าเหลืองกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับชายอยู่ พร้อมเขียนข้อความว่า เผยมนต์รักปาท่องโก๋…อ้อมกอดที่อบอุ่นของพระสงฆ์ 2 รูปภายใต้วงแขนที่ความหวานขัดใจชาวพุทธก่อนถึงวันวาเลนไทน์ ส่วนพฤติกรรมเด็กอนุบาลก็รู้ว่าไม่ควรทำ!

พระมหาธวัชชัย กล่าวว่า กรณีภาพในโซเชี่ยลกับเพจดังนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานที่ของวัด และพระรูปดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงมาช่วยงานประเพณีขึ้นเขาวงพระจันทร์ ระหว่างวันที่ 22 ม.ค.-12 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยพระรูปดังกล่าวได้ลงชื่อว่าพระธนสรัญวิลัย ระบุวัดสาครสุ่นประชาสรรค์ เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยพระรูปดังกล่าวเคยมาช่วยงานของวัดเมื่อปีที่ผ่านมา เห็นว่าเจตนาดี และมีพระหลายวัด หลายพื้นที่ที่มาช่วยงานก็ให้พักอยู่ที่บริเวณวัดรวมกับพระวัดอื่นๆ โดยไม่ทราบว่าต้นสายปลายเหตุเป็นมาเช่นไร

“หลังเสร็จงานได้ให้ปัจจัยในการเดินทางกลับ จนมาทราบวันนี้ว่ามีเรื่องอื้อฉาว โดยระบุชื่อวัดด้วย ต้องขอปฏิเสธว่าทางวัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว คงจะเป็นเรื่องส่วนตัวของพระธนสรัญวิลัยเอง และขอยืนยันว่าในโซเชี่ยลนั้นไม่ใช่ที่วัด เพราะได้จัดสถานที่หลับนอนในเต็นท์รวมกับพระรูปอื่นๆ กว่า 100 รูป” เจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์กล่าว

ต่อมาพระเทพเสนาบดีสอบถามไปยัง เจ้าอาวาสวัดสาครสุ่นประชาสรรค์ กรุงเทพฯ ถึงเรื่องดังกล่าว โดยปลายสายเป็นเจ้าอาวาส กล่าวว่าพระธนสรัญวิลัย เคยมาบวชที่วัดแล้วสึกไปนานแล้ว ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด และไม่ทราบว่าไปทำเรื่องอื้อฉาวในพื้นใดเช่นกัน

ปาท่องโก๋ – ภาพอื้อฉาวพระภิกษุขณะถอดจีวรกอดกันแน่นเป็นปาท่องโก๋ เผยแพร่ในโลกออนไลน์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากการตรวจค้นกุฏิพระรูปดังกล่าวในจ.ลพบุรี พบสิ่งลามกอนาจารไม่เหมาะสมจำนวนหนึ่ง








Advertisement

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไปยังวัดอีกแห่งใน ต.ห้วยโป่ง อ.โคกสำโรง หลังมีกระแสข่าวว่า พระรูปดังกล่าวเคยจำวัดอยู่ โดยชาวบ้านยืนยันว่า พระรูปดังกล่าวเป็นอดีตเลขานุการเจ้าคณะตำบลแห่งหนึ่ง และอดีตเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 2564 ปีแรกๆ บูรณปฏิสังขรณ์วัด และปฏิบัติตามกิจของสงฆ์อยู่ได้สักระยะหนึ่ง

ต่อมาปลูกกุฏิลักษณะคล้ายกับรีสอร์ตภายในบริเวณวัด ท่ามกลางการคัดค้านของชาวบ้าน แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากมีลูกศิษย์และชาวบ้านบางกลุ่มให้การสนับสนุน กุฏิหลังดังกล่าวทาสีฟ้าใช้งบประมาณไป 4 แสนบาทเศษ ติดแอร์ 2 ตัว มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน หลังจากนั้นมีพระ อีกรูปอายุประมาณ 50 ปีเศษ มีรถหรูราคาแพงมาอยู่ด้วย โดยเจ้าอาวาสเรียกว่าป๊า (พ่อ) ประมาณ 2 พรรษา พระสูงอายุก็ออกจาก วัดไป

ชาวบ้านอีกราย ระบุว่า ตั้งแต่เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวมาอยู่ และพระที่มาอยู่ด้วยนั้นไม่เคยปฏิบัติกิจของสงฆ์เช่นพระรูปอื่นๆ ไม่เคยออกบิณฑบาต ตื่นสาย วันๆ ขลุกอยู่แต่ในห้องแต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง จนมีผู้นำท้องถิ่นเข้าไปตักเตือน กลับถูกข่มขู่และมีเรื่องบาดหมางกับชาวบ้านอยู่เรื่อยมา เป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านที่เริ่มเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าอาวาส หลังจากพระอายุมากที่มาอยู่ด้วยได้ออกจากวัดไป มีสามเณรชื่อบาสมาอยู่ด้วย ครั้งนี้ชาวบ้านเริ่มเห็นพฤติกรรมความสนิทสนมของเจ้าอาวาสกับเณรบาสที่มักแสดงบทรักและความหึงหวงซึ่งกันและกัน

หลังจากนั้นพระอายุมาก ที่เรียกป๊า (พ่อ) กลับมาที่วัดอีกครั้ง มาครั้งนี้ได้ขับรถหรูยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด พร้อมรถเบนซ์ที่มีชายฉกรรจ์ขับมาอีกคัน มาขับไล่และขับรถไล่ชนสามเณรบาส และคำขู่อาฆาตจากพระอายุมาก และชายฉกรรจ์ คาดว่าน่าจะเกิดจากความโกรธแค้น หึงหวงที่นำสามเณรเข้ามาปรนเปรอ จนทั้งคู่อยู่วัดไม่ได้หนีแอบไปสึกที่วัดแห่งหนึ่งในอ.บ้านหมี่ แต่ไม่ได้กล่าวคำสึก เพียงแต่เปลี่ยนจีวรเป็นชุดขาวแบบฆราวาส รวมระยะเวลาเป็นเจ้าอาวาส 1 ปี 10 เดือน หลังจากนั้นทางชาวบ้านได้เปลี่ยนสีของกุฏิจากสีฟ้ามาเป็นสีเหลือง

ชาวบ้านช่วยกันยืนยันว่า ขณะเข้าไปตรวจสอบภายในกุฏิ ต้องตกตะลึงเมื่อพบชุดเสื้อผ้า ชุดชั้นในหวานแหวว รองเท้า อวัยวะสิ่งเทียม สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งยังพบภาพสะเทือนใจชาวพุทธที่ เจ้าอาวาสได้บันทึกลับไว้ เป็นภาพกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับพระด้วยกัน รวมถึงภาพที่สลัดผ้าเหลืองจากวัดไปเที่ยวชายทะเลกับคู่ขา ใส่บิกินีเล่นน้ำ หลังจากนั้นไม่มีผู้พบเห็น อดีตเจ้าอาวาสเข้ามาป้วนเปี้ยนภายในวัดอยู่สักระยะ จนมาทราบอีกครั้งว่า แต่งกายเป็นพระมาช่วยวัดเขาวงพระจันทร์ ไม่รู้ว่าขณะนี้เขาเป็นพระจริงหรือพระปลอม แต่ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี กำชับ ทุกวัดในเขตพื้นที่จังหวัดลพบุรี ห้ามรับไว้หรือผู้ใดพบเห็นให้แจ้งสำนักพุทธฯ หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน