แฉพี่ม.5พิเรนทร์ โวยร.ร.-ปัดสวะ

แม่สุดทนระบบโซตัสในโรงเรียนประจำ ร้อง ‘เพจสายไหมต้องรอด’ แฉรุ่นพี่ม.5 ร.ร.ชื่อดัง ในจ.เพชรบุรี โหดทารุณพิเรนทร์ สั่งลงโทษนักเรียนรุ่นน้องให้กระโดดลงไปแช่ในบ่อเกรอะ แถมนำน้ำอุจจาระมาราด ทั้งห้าม ล้างตัว จนเกิดแผลติดเชื้ออักเสบ สุดท้ายตัดสินใจให้ลูกชาย 2 คนลาออกกลางคัน ย้ำส่งมาเป็นนักเรียน ไม่ใช่เป็นนักโทษ หน่ายร.ร.-ครูประจำหอไม่รับผิดชอบ แถมโยนความผิด อ้างเด็กสมัครโดดลงไปเอง ลั่นต้องเอาผิดกับร.ร.-รุ่นพี่ถึงที่สุด ‘เอกภพ เหลืองประเสริฐ’ ชี้ศธ.บกพร่องปล่อยให้มีการทำร้ายร่างกาย และละเมิดสิทธิ พร้อมพาผู้เสียหาย แจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.ชะอำ

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. น.ส.กรภัทร อายุ 38 ปี พาด.ช.เอ อายุ 13 ปี และ ด.ช.บี อายุ 14 ปี ลูกชาย เข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากลูกชายทั้ง 2 คน ถูกรุ่นพี่โรงเรียนประจำชื่อดังแห่งหนึ่งในจ.เพชรบุรี สั่งลงโทษอย่างทารุณไร้เหตุผล ให้ลงแช่ในบ่อเกรอะ และลงโทษแบบทหาร จนเกิดบาดแผลติดเชื้อรักษาไม่หาย ซึ่งทางโรงเรียนและครูหอพักไม่แสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้

ด.ช.เอ และด.ช.บี สองพี่น้องผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดช่วงปลายเดือนม.ค. สาเหตุมาจากคนในหอตื่นสายตอนเวลา 05:40 น. เพราะไม่มีคนมาปลุก แต่ตามกฎระเบียบของหอต้องตื่น 05:30 มาออกกำลังกาย และในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ก็มีประเด็นเรื่องทำความสะอาดหอไม่สะอาด และไม่เก็บอุปกรณ์ ทั้งที่ตนเก็บอุปกรณ์เรียบร้อยและทำความสะอาดแล้ว

ด้วยสาเหตุดังกล่าว ในเวลาประมาณ 4 โมงเย็นหลังเลิกเรียน จึงถูกรุ่นพี่ชั้นม.5 ของหอพัก สั่งลงโทษรวมนักเรียน ม.1 ถึง ม.4 ซึ่งตนทั้งสองก็โดนไปด้วย โดยสั่งให้ทุกคนกระโดดลงไปแช่ในบ่อเกรอะหลายนาที ก่อนสั่งให้ขึ้นจากบ่อ โดยไม่ล้างตัวและลงโทษตามวิธีการทหาร เช่น ดันพื้น ลุกหมอบ กลิ้งไปกลิ้งมาจนเป็นแผลทั่วร่างกาย ทั้งยังนำน้ำอุจจาระมาเทราดพวกตนด้วย

จากนั้น น้องผู้เสียหายทั้ง 2 คนจึงแจ้งให้แม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ของผู้เสียหายจึงรีบเดินทางมารับน้องไปรับรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลทันทีในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าแผลติดเชื้อ ผ่านไปหนึ่งเดือนก็ยังรักษาไม่หาย และมีท่าทีว่าจะอักเสบมากขึ้น

แม่ของน้องผู้เสียหายกล่าวว่า ได้เดินทางไปถามข้อเท็จจริงกับคุณครูประจำหอ ปรากฏว่าครูประจำหอบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ โดยอ้างว่าเด็กสมัครใจโดดลงไปเอง และเป็นไปตามธรรมเนียมรุ่นพี่ปกครองรุ่นน้อง ที่ต้องบ่มเพาะอบรมให้รุ่นน้องมีระเบียบวินัย และยังท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดี อีกทั้งอัดคลิปทำทีให้นักเรียนรุ่นพี่พูดกล่าวหาว่าลูกตนสมัครใจโดดลงไป ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริง ลูกชายถูกสั่งให้โดดลงไปและต้องทำตามด้วย ความกลัว

สำหรับทางโรงเรียนเองก็บ่ายเบี่ยงที่จะพูดคุยหลายครั้ง จนล่าสุดนัดหมายกับทางโรงเรียนพร้อมรุ่นพี่หอพักให้มาพูดคุยกันในวันที่ 19 ก.พ. ยังไม่ระบุเวลาที่แน่ชัด แต่ยืนยันว่าหลังจากนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทั้งโรงเรียนและรุ่นพี่คนที่ลงโทษ ตอนนี้ให้ลูกลาออกจากโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ตนไม่เข้าใจว่าการสร้างเสริมวินัยนักเรียน ทำไมต้องทำเกินกว่าเหตุเช่นนี้ ตนส่งลูกให้มาเป็นนักเรียน ไม่ใช่มาเป็นนักโทษ ก่อนหน้านี้ ด.ช.เอเคยถูกลงโทษเมื่อเดือนธ.ค. 2565 ด้วยการลุกนั่งถึง 200 ครั้ง จนโรคหอบหืดกำเริบและรักษาไม่หาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอาการของโรคนี้แล้ว จึงมาร้องเรียนให้สายไหมต้องรอด ช่วยเป็นตัวกลางในการแจ้งความดำเนินคดีกับทางโรงเรียน และตีแผ่เรื่องราวระบบโซตัสในโรงเรียนประจำที่ยังหลงเหลืออยู่สู่สังคม








Advertisement

ด้านนายเอกภพกล่าวว่า เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการออกกฎควบคุมมิให้เกิดการทำกิจกรรมในลักษณะของการทารุณกรรมในสถานศึกษา ทั้งที่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นการทำร้ายร่างกาย และละเมิดสิทธิ การนำนักเรียนชั้นมัธยมศึกษามากระทำการเช่นนี้ โดยเฉพาะนำน้ำอุจจาระนั้น โหดร้ายและส่งผลกระทบต่อจิตใจเด็กอย่างมาก กลายเป็นแหล่งบ่มเพาะเชื้อโรคอันส่งผลต่อสุขภาพของเด็ก หากเป็นในค่ายทหาร ครูฝึกที่สั่งเช่นนี้มีสิทธิติดคุกได้ ต่อให้อ้างว่าเป็นธรรมเนียมประเพณี ก็เป็นประเพณีที่ล้าสมัยแล้วในยุคปัจจุบัน ไม่ควรมีระบบโซตัสเกิดขึ้นอีก ยังมีอีกหลายวิธี ในการสร้างเสริมและบ่มเพาะวินัยแก่นักเรียนด้วยสันติวิธี และไม่ใช้กำลังความรุนแรง เช่นนี้

“หลังจากนี้ผมจะพาผู้เสียหาย ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เข้มงวดกวดขันและป้องกันปราบปรามการทารุณกรรมและประเพณีโซตัสในสถานศึกษามากขึ้น” นายเอกภพกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน