เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงวานนี้ (25 ก.พ.) เกิดลมพายุพัดแรงในตัวเมืองลพบุรี เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายคันคลองชลประทาน ลพบุรี-บ้านแพรก ม.8 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้หักโค่นล้มหลายต้นกีดขวางถนน ต้องปิดถนนระยะทางกว่า 1 ก.ม. ตำรวจสภ.เมืองลพบุรี และสภ.ท่าหิน ได้ระดมกำลังให้การจราจรในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน จากการตรวจสอบพบมีเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาด 12.20 เมตรต่อสตับ โค่นล้ม 11 ต้น อุปกรณ์บนเสาไฟ ทั้งสายไฟ สายสื่อสาร เสียหายเป็นระยะทางกว่า 500 ม. หม้อแปลงเสียหาย 2 เครื่อง เสาไฟส่องสว่างหักโค่น 3 ต้น
เร่งซ่อม – เจ้าหน้าที่กฟภ.ลพบุรี เร่งซ่อมแซมเสาไฟฟ้าริมถนนสายลพบุรี-บ้านแพรก ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี โค่นล้ม 11 ต้น ทำให้ไฟดับเป็นวงกว้าง โดยพบมีมือดี ลอบขโมยนอตยึดโคนเสา ประสานตำรวจเร่งตามจับตัวมาดำเนินคดี เมื่อวันที่ 26 ก.พ.
ความเสียหายดังกล่าวส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองลพบุรี ต.ท่าหิน ต.ป่าตาล ต.โพธิ์เก้าต้น ต.โก่งธนู ประชาชนเดือดร้อนกว่า 2 พันครัวเรือน โดยนายเฉลียว โก่งเกษร ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ลพบุรี ได้ระดมทีมงาน 6 ทีม และการไฟฟ้าใกล้เคียง เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.พัฒนานิคม โคกสำโรง และท่าวุ้ง เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนได้ใช้ไฟอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังพบว่าเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งอยู่ข้างศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนคันคลองชลประทานต้นหนึ่งมีร่องรอยของนอตที่ยึดเสาไฟฟ้ากับเสาสตับหายไปหลายอัน เป็นสาเหตุให้เสาไม่มีนอตยึด ซึ่งน่าจะมีมือดีขโมยถอดเอาไปขายโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิด ประกอบกับในช่วงเช้ามีลมกระโชกแรงจึงทำให้เสาต้นดังกล่าวเกิดโยกคลอน น้ำหนักของสายไฟฟ้าและสายสื่อสารจึงดึงเสาไฟโค่นล้มระเนระนาดดังกล่าว
โดยวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.) เจ้าหน้าที่นิติกรของการไฟฟ้าลพบุรีจะได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.ลพบุรี เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดรายนี้มาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนค่าเสียหายในเบื้องต้นประเมินอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท
