จับแล้ว! แก๊งขนแรงงานเถื่อน ฆ่า 3 ศพ ตร.สงขลา ตามรวบได้ครบทีม 5 คน เป็นชาวสมุทรปราการ ยึดรถของกลาง 5 คัน ยังให้การปฏิเสธ อ้างต่างด้าวทะเลาะฆ่ากันเอง แต่รับว่าขนแรงงานเมียนมาจาก จ.สมุทรปราการ มาส่งในพื้นที่เกิดเหตุ ระหว่างทางแรงงานทะเลาะกันในรถแล้วฆ่ากันเอง มาถึงจึงให้นำศพลง ก่อนส่งต่อแรงงานที่เหลือไปนราธิวาส ตร.ไม่เชื่อแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าไว้ก่อน
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีพบศพชายถูกฆ่าหมู่ 3 ศพ และนำไปทิ้งนอนเรียงกันบริเวณชายป่าห่างจากถนนลพบุรีราเมศวร์ เข้าไปราว 200 เมตร ก่อนถึงไปรษณีย์เขต 9 พื้นที่หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมี 1 ศพถูกจับมัดมือมัดเท้าและใช้มีดปาดคอ ส่วนอีก 2 ศพถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าและศีรษะและทั้งสามคนผูกเชือกแดงที่ข้อมือเป็นสัญลักษณ์ และทั้ง 3 ศพเป็นชายอายุราว 30-40 ปี 2 คนและวัยรุ่นอีก 1 คน เบื้องต้นคาดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาถูกแก๊งค้ามนุษย์ฆ่าทิ้ง โดยหลังเกิดเหตุตำรวจระดมทีมสืบสวนจาก 5 หน่วยทั้งชุดสืบสวนสภ.บางกล่ำ ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจกองปราบฯ กองกำกับการ 6 ชุดสืบสวน ตม.สงขลา ตามแกะรอยหาเบาะแสคนร้ายทั้งจากภาพกล้องวงจรปิดและสอบสวนพยานแวดล้อม โดยจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเกิดเหตุมีรถกระบะตู้ทึบ 3 คันขับเข้าออกจากจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นรถขนแรงงานเถื่อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์ ทองด้วง ผกก.สภ.บางกล่ำ เปิดเผยว่าหลังจากมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 คน มีนายชวัลวิชย์ หรือโก้ กว้างขวาง อายุ 22 ปี น.ส.หนึ่งฤทัย ยินดีพิศ อายุ 19 ปี แฟนสาว นายนรินทร์หรืออั้ม อายุ 24 ปี น.ส.กมลวรรณหรือบิ๋ม เปรงปราง อายุ 25 ปี แฟนสาว และนายนาวีหรือมาร์ค ป้อมค่าย อายุ 28 ปี ทั้ง 5 คนเป็นชาว จ.สมุทรปราการ โดยจับกุมได้หมดทั้ง 5 คนแล้วเมื่อวันที่ 19 มี.ค. พร้อมกับยึดรถที่ใช้ ก่อเหตุ 5 คัน จากพื้นที่จ.สมุทรปราการ 2 คัน จากเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 1 คัน และจาก จ.นราธิวาสอีก 2 คัน แยกเป็นรถกระบะตู้ทึบที่ใช้ขนแรงงานเถื่อนและรถนำทาง 3 คัน มีรถกระบะ ไฮลักซ์ รีโว่ สีขาว ทะเบียน 2ฒส 7880 กทม. รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน 2ฒห 618 กทม. ซึ่งสองคันนี้เป็นรถขนแรงงานมาคันละประมาณ 15 คน และรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน 2ฒศ 6278 กทม. ซึ่งเป็นรถนำทาง ส่วนอีก 2 คัน เป็นรถกระบะมีรั้วหรือรถคอกและรถตู้ซึ่งเป็นรถที่มารับช่วงต่อไปส่งที่ จ.นราธิวาส
พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์เผยต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คนให้การอ้างว่าแรงงานต่างด้าวที่ตายเป็นการฆ่ากันเอง โดยบอกว่าก่อนเกิดเหตุขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมามาจากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันที่ 14 มี.ค. มาส่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จุดที่พบศพในเวลาประมาณ 10.30 น.ของวันเดียวกัน ผู้เสียชีวิตทั้งสามคนนั้นขนมากับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเยียน 2ฒห 618 กทม. ที่มีนายนรินทร์หรืออั้มกับน.ส.กมลวรรณหรือบิ๋ม แฟนสาวขับขี่มา และเป็นรถคันที่อยู่ตรงกลาง บอกว่าขับรถมาตามถนน สายเอเชียจนมาถึงช่วง จ.สุราษฎร์ธานี กับ จ.นครศรีธรรมราช ได้ยินเสียงดังผิดปกติท้ายรถเหมือนการต่อสู้กัน จนฝากระโปรงท้ายเปิด จึงหยุดรถและรีบปิดทันที แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามีการฆ่ากันตายในรถ จนขับมาถึงปลายทางในที่เกิดเหตุตอนที่ให้แรงงานต่างด้างลงจากรถจึงรู้ว่ามีการฆ่ากันตายถึง 3 คนจึงให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวยกลงจากรถมาทิ้งไว้ ก่อนที่จะมีรถอีกสองคันซึ่งเป็นกระบะรั้วกับรถตู้มารับช่วงต่อขนแรงงานต่างด้าวไปยังปลายทางที่ จ.นราธิวาส
อย่างไรก็ตามทั้ง 5 รายถูกแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันปิดบัง ซ่อนเร้น ย้ายทำลายศพฯ และร่วมกันซ่อนเร้นให้ที่พักพิง ช่วยเหลือประการใดๆ ให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”
พ.ต.อ.พงศ์พสิษฐ์เปิดเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ยังสอบสวนขยายผลต่อไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมากลุ่มนี้ทั้งต้นทางและปลายทางที่จ.นราธิวาส ซึ่งยังมี ผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อ้างว่าก่อเหตุฆ่าแรงานต่างด้าวด้วยกันนั้นถูกส่งต่อไปยังปลายทางที่จ.นราธิวาส แล้ว ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกว่าได้ข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วหรือไม่หรือว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่