นร.ป.5ก้นแตก ลั่นดำเนินคดี

แม่พา 2 นักเรียนชายป.5 ร้องทนายความช่วย ปวดใจลูกถูกครูที่โรงเรียนย่านบางบ่อ สมุทรปราการ ลงโทษใช้ไม้เรียวฟาดจนก้นแตกระบม เด็กเผยถูกครูตีเพราะเล่นกันระหว่างเดินนำไม้กวาดไปเก็บหลังเสร็จกิจกรรมทำความสะอาดโรงเรียน คนละ 13 ครั้ง ระบุครูรายนี้ตีเด็กเป็นประจำ แต่ไม่เคยรุนแรงและมากเท่าครั้งนี้ จนผวา ไม่กล้าไปโรงเรียน ขณะที่ครูยอมรับก่อเหตุจริง แต่ลงโทษเพราะเด็กเอาแต่เล่นระหว่าง ทำกิจกรรม ขณะให้ไปเอาไม้เรียวมายังไม่ยอมใส่ใจ ด้านผอ.โรงเรียนขอเจรจาทำความเข้าใจผู้ปกครอง

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองของ 2 นักเรียนชายชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ประสานขอความช่วยเหลือด้านกฎหมายจาก ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสา กรณีลูกถูกครูชายโรงเรียนดังกล่าวลงโทษด้วยการใช้ ไม้เรียวฟาดก้นอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นบาดแผลฟกช้ำขนาดใหญ่

ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ เผยว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ถูกครูรายดังกล่าวสั่งให้ทำกิจกรรมเก็บกวาดขยะและใบไม้ภายในโรงเรียนพร้อมกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นเรียน หลังทำกิจกรรมเสร็จระหว่างเดินไปเก็บไม้กวาดมีการหยอกล้อเล่นกันกับเพื่อน เมื่อครูรายดังกล่าวมาพบจึงสั่งให้ตนและเพื่อนรวม 3 คนเดินไปหยิบไม้เรียวที่ห้องเรียนกลับมาให้ โดยครูจะนับจำนวนตัวเลขตลอดเวลา เมื่อมาถึงครูนับถึงเลข 18 แต่ครูลดให้เฉลี่ยกันเหลือ 13 ครั้ง จากนั้นใช้ไม้เรียวที่ให้ตนเองและเพื่อนไปเอามาตีที่ก้นหมุนเวียนกันสลับกันจนครบคนละ 13 ครั้ง ยอมรับว่าเจ็บปวดทรมานมาก อีกทั้งครูยังบอกว่าให้ไปฟ้องพ่อแม่เลยครูไม่กลัว

“พอกลับถึงบ้านจึงบอกพ่อแม่ ก่อนพากันไปแจ้งความ ยอมรับว่าเจ็บทรมานมาก เมื่อคืนนอนหงายไม่ได้จนต้องนอนตะแคงข้างเพื่อให้หลับ ที่ผ่านมาถูกครูรายนี้ตีบ่อย เพื่อนๆ ก็ถูกตีบ่อย แต่ไม่เคยถูกตีจนรุนแรงแบบนี้ มีครั้งนี้ตีหลายครั้งและตีแรงมาก อยากให้ครูเลิกตีและใช้งานเด็กๆ ตอนนี้หวดกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน” ด.ช.เอกล่าว

ขณะที่ด.ช.บี (นามสมมติ) นักเรียนอีกรายที่ถูกลงโทษแบบเดียวกัน กล่าวยืนยันว่า ถูกครูตีถึง 13 ครั้งจริง เด็กที่ถูกตีมีทั้งหมด 3 คน ที่ผ่านมาเคยถูกครูคนนี้ตีมาแล้วบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งจะไม่เคยตีซ้ำหลายครั้งแบบนี้ สูงสุดคือ 5 ที เท่านั้น

รอยไม้เรียว – นักเรียนชายวัย 11 ขวบ ชั้นป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โชว์รอยแผลที่ถูกครูตีด้วยไม้เรียวรวดเดียว 13 ครั้งจนแตกบวมระบม ซึ่งมารดาพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดครูแล้ว เมื่อวันที่ 21 มี.ค.

ด้านมารดา ด.ช.บี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทราบเรื่องช่วงค่ำวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ทราบจากปากของลูก ทราบเรื่องคือลูกชายไปขอให้พี่สาวช่วยเอายาทาแผลที่ก้นให้ พอลูกสาวเห็นจึงร้องโวยวายและเรียกตนเองไปดู พอเห็นแผลเขียวช้ำที่ก้นลูกยอมรับว่าตกใจเป็นอย่างมากจนได้พูดคุยสอบถามกับลูกจึงยอมรับว่าถูกครูตี พอเห็นแผลจึงตัดสินใจพาลูกไปแจ้งความเอาเรื่องกับครูรายนี้

ขณะที่มารดาของด.ช.เอ กล่าวว่า สงสารลูกชายที่ถูกกระทำความรุนแรงภายในโรงเรียนแบบนี้ หลังจากที่ทราบเรื่องจากลูกพยายามโทร.สอบถามครูประจำชั้น ซึ่งครูบอกจะรับเรื่องไว้และจะนัดคุยอีกครั้ง แต่ในฐานะหัวอกแม่รับกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ ไม่เคยตีลูกรุนแรงแบบนี้ ที่ผ่านมาลูกเคยมาบอกว่าถูกครูตี แต่ไม่ได้คิดจะเอาเรื่องหรือโทร.ไปสอบถามแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมามีรอยบ้างแค่เล็กน้อย และเข้าใจว่าลูกอาจจะดื้อบ้างอะไรบ้างตามประสาของเด็ก แต่พอมาครั้งนี้บาดแผลที่พบทำให้ยอมรับไม่ได้ สงสารลูกมาก ยิ่งเมื่อคืนนั่งมองลูกชายเอนตัวนอนอย่างทรมานยิ่งช้ำใจ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ผู้ปกครองทั้งสองยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและเรียกร้องให้ต้นสังกัดย้ายครูรายนี้ออกนอกพื้นที่ในระหว่างดำเนินการตาม ขั้นตอนของกฎหมายและวินัย เนื่องจาก เด็กๆ ยังไม่กล้าไปเรียนและยังคงต้องเรียน ที่โรงเรียนแห่งนี้

วันเดียวกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ เผยว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่ครูชายรายดังกล่าว ตีรุนแรงต่อเด็ก ทราบเพียงว่ามีการตีลงโทษเด็กเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรง จะรีบประสานผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ถูกทำโทษเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจถึงเรื่องที่ เกิดขึ้นทั้งหมด

ด้านครูชายผู้ก่อเหตุนำไม้เรียวที่ใช้ลงโทษเด็กมาแสดง โดยมีขนาดใหญ่พอเหมาะมือยาวไม่ต่ำกว่า 80 เซนติเมตร มีผ้าเทปกาวสีชมพูมาพันไว้รอบไม้ พร้อมยืนยันว่าเป็นไม้ที่ใช้ตีเด็กจริง ยอมรับว่าตีคนละ 13 ครั้งจริง แต่ไม่มีเจตนาจะทำโทษเกินกว่าเหตุ หลังจากตีไป ก็ยังไม่เห็นบาดแผลของเด็กจนมาเห็นจากสื่อมวลชน

ส่วนสาเหตุที่ต้องตี ครูรายดังกล่าว อ้างว่า เด็กดื้อและเล่นกันในขณะทำกิจกรรม ส่วน ที่ต้องนับเลขกดดันเด็กให้ไปเอาไม้เรียวนั้น ยอมรับว่านับจริง แต่ก่อนนับพอสั่งเด็กไปเอาไม้เรียวแล้วเด็กไม่ใส่ใจที่จะเดินไปหยิบ ทำให้ต้องบอกนับเลขเพื่อเป็นจำนวนครั้งในการตีลงโทษ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน