2 หนุ่มหมดห้าว ศาลไม่ให้ประกันส่งนอนคุก คดีไล่สาดกระสุนในงานสงกรานต์ RCA ปภ.สรุปยอดส่งท้าย 7 วันอันตรายสงกรานต์เดือด ดับรวม 264 ราย เจ็บ 2,208 คน เมาแล้วขับเหมือนเดิม ศปถ.ยิ้มเทียบสถิติย้อนกลัง 3 ปี ยอดอุบัติเหตุ-ตาย-เจ็บลดลง ขณะที่ ‘บิ๊กเด่น’ พอใจเป็นตามแผนที่วางเป้าไว้ แต่หนักใจพื้นที่กรุงเทพฯ ปีนี้เป็นแชมป์ตายรวม 22 ศพ สั่งศึกษาปรับปรุงเป็นบทเรียนในครั้งต่อไป
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาลภายหลังประชุม ครม. ว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนตามถนน เส้นทางต่างๆ ที่ดูแลประชาชนในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์อย่างเหน็ดเหนื่อย ผลที่ออกมาดีขึ้นตามลำดับ ได้รับรายงานอุบัติเหตุมีจำนวนสูงขึ้น แต่เสียชีวิตลดลง ไม่อยากให้มีเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว แต่เป็นสิ่งที่ยาก เพราะรถมีมาก และหลายคนไม่เคารพกฎจราจร ขับรถเร็ว เกินกำหนดในพื้นที่ที่ไม่ควรใช้ความเร็ว คงต้อง ขอความร่วมมือกับประชาชน
“ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เสียสละวันหยุดที่จะได้ อยู่กับครอบครัว ขอบคุณมากที่มาดูแลประชาชน ทำอย่างไรเราจะลดภาระเหล่านี้ให้ได้ เพื่อทุกคน จะได้พักผ่อนกันบ้าง” นายกฯ กล่าว
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุม คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 17 เม.ย. วันสุดท้ายของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 183 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 16 ราย ผู้บาดเจ็บ 202 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 45.36 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 16.94 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.10 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 45.90 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 29.51 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 83.61 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 15.01-16.00 น. ร้อยละ 9.63 ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 21.56
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (11 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (13 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จันทบุรี นครปฐม น่าน ราชบุรี และลำพูน (จังหวัดละ 2 ราย) ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,869 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 54,274 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 279,837 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 39,611 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 11,013 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 10,530 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน (วันที่ 11-17 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,203 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 264 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,208 คน จังหวัดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (68 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ (22 ราย) และจังหวัดที่มี ผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (70 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 2 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง พังงา
ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดี ปภ. และเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เผยว่า จากการรวบรวมข้อมูล สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงการรณรงค์ 7 วัน แห่งความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 พบว่าในภาพรวมจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ และผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ขณะที่ผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 5.04 รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุลดลงร้อยละ 1.55 ส่วนดื่มแล้วขับลดลงร้อยละ 3.26
เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลค่าเฉลี่ยสถิติอุบัติเหตุทางถนนย้อนหลัง 3 ปี ช่วงสงกรานต์ปีนี้จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ ลดลงร้อยละ 13 ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงถึงร้อยละ 15 สาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ รวมถึงจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด โดยพฤติกรรม เสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดเกิดจาก การขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่สวมหมวกนิรภัย
“แม้ว่าการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 จะสิ้นสุดลง แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายยังต้องร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนต้องขอขอบคุณ หน่วยงานทุกภาคส่วน เครือข่ายอาสาสมัคร กลุ่มจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ด้วยความทุ่มเท เสียสละ และร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้” นายบุญธรรมกล่าว
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยในการประชุมปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 ว่า มาตรการควบคุมความปลอดภัยเข้มข้นในช่วงเจ็ดวันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ปี 2566 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.ที่ผ่านมา ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ และบรรลุเป้าหมายที่ทางรัฐบาลตั้งไว้ คือการลดอุบัติเหตุจากค่าเฉลี่ยสามปีย้อนหลังให้ได้ ร้อยละ 5 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนผู้เสียชีวิตมี 264 คน นับว่าลดลงจำนวนมาก เช่นเดียวกับจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ลดลงกว่า ร้อยละ 10 สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวน ผู้เสียชีวิตมากเกินกว่าที่คาดไว้ คือ 22 ราย เจ้าหน้าที่ต้องนำมาปรับปรุงเป็นบทเรียนในครั้งต่อไป
ทำดี มีรางวัล – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบเกียรติบัตรโครงการ ‘ทำดี มีรางวัล’ แก่พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม และตำรวจสน.ชนะสงคราม จากการคลี่คลายสถานการณ์ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ถนนข้าวสาร ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.
“ยอมรับว่าการดำเนินการในปีนี้ยากกว่า ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบในรอบ 3 ปี แต่ถือว่าเป็นปีที่สามารถลดอุบัติเหตุได้ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งภาคีเครือข่าย ฝ่ายปกครองของแต่ละจังหวัดที่ขับเคลื่อนร่วมกับตำรวจทุกวัน ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เน้นบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหาหลัก และจากสถิติพบจับกุมในข้อหาใช้ความเร็วเกินกำหนด และเมาแล้วขับได้มากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นในการบังคับ ใช้กฎหมายเมื่อมีการกระทำผิดด้วย” ผบ.ตร.กล่าว
ที่ สน.มักกะสัน พนักงานสอบสวนเบิกตัว นายณัฐนนท์ เกิดพืช อายุ 41 ปี และนายณัฐพล โสป่าสัก อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงในงานสงกรานต์ ภายในอาร์ซีเอ ออกจากห้องควบคุมไปศาลอาญารัชดาขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก ข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และผิดพ.ร.บ.อาวุธปืน มีและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าหากได้รับการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะหลบหนี
ยิงRCA – ตร.มักกะสันคุมตัวนายณัฐนนท์ เกิดพืช และนายณัฐพล โสป่าสัก ผู้ต้องหา ก่อเหตุยิงในงานสงกรานต์ อาร์ซีเอ ไปฝากขังต่อศาลอาญา ก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำเนื่องจาก ไม่ได้ประกันตัว เมื่อวันที่ 18 เม.ย.
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่สอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้งคู่ตลอดทั้งวัน แต่ยังคงให้การภาคเสธ โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปส่งศาล ผู้สื่อข่าวถามกับนายณัฐนนท์ ว่าทราบหรือไม่ว่าใครเป็นคนยิง ได้คำตอบว่า ไม่รู้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวม พยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
โดยศาลอาญาอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ต่อมาผู้ต้องหายื่นคำร้องประกันตัว และศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ก่อนถูกพาตัว ส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป
