ฎีกาชี้โหดเหี้ยม ยิงฆ่าปล้นทอง
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามชั้นต้นและอุทธรณ์ สั่งประหารชีวิตสถานเดียว ‘ผอ.กอล์ฟ’ บุกยิงฆ่าปล้นทองกลางห้างดังเมืองลพบุรี คดีดังเมื่อปี 63 ศาลชี้พฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ กระทำต่อผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นถึงผอ.โรงเรียนควรมีจิตสำนึกที่ดีให้สมกับอาชีพครู แต่กลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์ จึงไม่มีเหตุสมควรลดโทษให้
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ศาลอาญา ศาลอ่าน คำพิพากษาศาลฎีกาคดีตามที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด และ ผู้เสียหายอีก 10 ราย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 41 ปี อดีตผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2563 จำเลยใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์ ร้านทองออโรร่าในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อปี 2563
สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2564 ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่างกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานมีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน, ฐานมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครอง จำคุก 6 เดือน, ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุสมควร จำคุก 3 ปี, ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพิ่มความสะดวกในการจะกระทำผิดให้ประหารชีวิต, ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิต, ฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีและใช้อาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะ ให้ประหารชีวิต
เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว ปรับ 1,000 บาท ริบของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด รวมทั้งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บรรดาโจทก์ร่วมที่ 1 จำนวน 180,000 บาท, โจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 99,000 บาท, โจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 130,000 บาท, โจทก์ร่วมที่ 4 จำนวน 2,200,000 บาท, โจทก์ร่วมที่ 5 จำนวน 750,000 บาท, โจมร่วมที่ 6-8 จำนวน 2,250,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 9-10 จำนวน 750,000 บาท ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและพิจารณาแล้วอุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จากนั้นจำเลยยื่นฎีกาขอให้ศาลลดโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวนายสิทธิชัย หรืออดีตผอ.กอล์ฟ มาจากเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โดยก่อนฟังคำพิพากษานั้น นายสิทธิชัยมีโอกาสพูดคุยกับพ่อแม่สั้นๆ ว่าแว่นสายตาที่ใช้อยู่สภาพไม่ทนทาน อยากเปลี่ยนแว่นใหม่ ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าอยู่ในเรือนจำได้ทำอะไรบ้าง ผอ.กอล์ฟกล่าวว่าสอนหนังสือให้เด็ก
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยยื่นฎีกาขอให้ศาลลดโทษ โดยอ้างเหตุผลประกอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าพฤติการณ์ของจำเลยเป็นการกระทำอย่างอุกอาจในห้างสรรพสินค้าอันเป็นที่สาธารณะ กระทำต่อผู้บริสุทธิ์มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน รวม 4 คน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องด้วย อันเป็นพฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ จำเลยเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนควรมีจิตสำนึกที่ดี ให้สมกับมีอาชีพเป็นครู ควรประพฤติตัวให้เป็นเยี่ยงอย่างกลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์ ที่จำเลยขอความปรานีจากศาลเพื่อลดโทษให้ จึงไม่มีเหตุสมควร ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลันสิ้นคำพิพากษาศาลฎีกา นายสิทธิชัยถึงกับก้มหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวนายสิทธิชัยไปควบคุมไว้ เพื่อนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวางต่อไป