แกนนำถกลับแบ่งรมต.8พรรคนัดอีกรอบ30พค.
อดิศรยังขู่กินรวบ-อับปางก้าวไกลแห่ขอบคุณปากน้ำ

‘พิธา’หย่าศึกชิงประธานสภา ขอไปคุยใน วงเจรจา มั่นใจไม่ถึงขั้นโหวตแข่งกันในสภา ตอนนี้เกี่ยวแขนเดินหน้าตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เผยพรรคร่วมนัดคุย 30 พ.ค. คาดเคลียร์ปัญหาให้จบ ‘โรม’ ย้ำก้าวไกลต้องได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ‘อดิศร’ ปล่อยคลิปเตือนกินรวบ-ระวังอับปาง ด้าน ‘วันนอร์’ ชี้ตามธรรมเนียมพรรคอันดับ 1 จะเป็นเบอร์หนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ ‘เสรีพิศุทธ์’ เชียร์ยกให้ ‘วันนอร์’ เป็นทางออกแก้ขัดแย้ง ‘พิธา’ นำทีมก้าวไกลเดินสายคุยเครือข่ายสุรา-นักธุรกิจรุ่นใหม่-แรงงานสมุทรปราการสัญญา จะทำทุกนโยบายตอนหาเสียงไม่ให้ชาวปากน้ำ ผิดหวัง

‘พิธา’หย่าศึกปธ.สภา-แนะเจรจา
กรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดศึกชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร โดย.ก.ก.ให้เหตุผลเป็นพรรคได้คะแนน อันดับ 1 นอกเหนือจากอำนาจฝ่ายบริหารแล้ว มีความจำเป็นต้องเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติด้วย เพราะมี 3 วาระที่สำคัญมากของก.ก. ที่จำเป็นต้องใช้สถานะ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ในการผลักดัน คือ ผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า ผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นประชาธิปไตยเดินหน้าอย่างราบรื่น และผลักดันหลักการ “รัฐสภาโปร่งใส” และ “ประชาชนมีส่วนร่วม” ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ขณะที่พท.ระบุว่าก.ก.ได้ นายกฯ เบอร์ 1 ไปแล้ว พท.ก็ควรได้ตำแหน่งนี้ เพราะเสียงส.ส.ห่างกันแค่ 10 เสียง

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ก.ก. โพสต์ เฟซบุ๊กระบุ “เรื่อง#ประธานสภา ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่องความเห็นไม่ตรงกันของพรรคร่วมรัฐบาล ที่เล็กมาก ถ้าหากเทียบกับภารกิจที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้พวกเรามา ดังนั้น พรรคร่วมรัฐบาลต้องจับมือเกี่ยวแขนกันไว้ ให้มั่นคง ทำภารกิจยุติสืบทอดอำนาจรัฐประหาร พาประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยให้สำเร็จจงได้ พวกเราต่างก็รับทราบวิธีคิด หลักการ เหตุผล ของทุกฝ่ายชัดเจนแจ่มแจ้งในประเด็นนี้ กันแล้ว

ดังนั้น ผมขอให้เรื่องตำแหน่งประธานสภานี้ ให้พรรคร่วมรัฐบาลกลับไปพูดคุยกันผ่านตัวแทนแต่ละพรรคในวงเจรจาจะดีที่สุด ตอนนี้ ขอให้ทุกพรรคเดินหน้าทำงานปรับจูนนโยบาย ร่วมกัน ตั้งรัฐบาลให้สำเร็จตามความคาดหวังของประชาชน”

แกนนำถกแบ่งกระทรวงแล้ว
นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า ทั้ง 8 พรรคที่ร่วมจับมือกันแล้วต้องร่วมมือปรับจูนพูดคุยกัน ทางที่ดีที่สุดน่าจะกลับไปพูดคุยกันผ่านทีมเจรจาที่เราเคยตั้งไว้ และเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งปรับจูนเรื่องนโยบาย ในช่วงเวลา 1-2 เดือนที่เราต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา “ทุกท่านพูดคุยกับสาธารณชนแล้วว่า เหตุผลคืออะไร ก็น่าจะเพียงพอที่จะนำกลับไป พูดคุยในทีมเจรจา ซึ่งผมเชื่อใจทุกท่าน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าตำแหน่งประธานสภายังต้องเป็นของ ก.ก.หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องให้ทีมเจรจาพูดคุยกัน เวลานี้เชื่อใจ ทุกพรรค เวลาทำงานทางการเมืองต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน ต่อข้อถามว่ารอยร้าวระหว่างพท. กับ ก.ก.จะสมานกันได้หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ได้แน่นอน คิดว่าเป็นเรื่องปกติของการทำงาน อาจมีเห็นไม่ตรงกันอยู่บ้างและพูดคุยกัน เชื่อว่า ทุกอย่างมีทางออก

ต่อข้อถามถึงวันที่ 28 พ.ค.นี้ จะมีการนัดชุมนุมเรียกร้องให้ พท.ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นายพิธากล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงออกและวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของระบบประชาธิปไตย แต่เมื่อมีการพูดคุยกันแล้วและทุกคนฝากความหวังไว้กับเราเยอะมาก ก็ให้เป็นหนึ่ง ในกระบวนการ แต่กระบวนการสำคัญคือ การพูดคุยปรับจูนกัน ทำให้ประเทศเดินหน้า ต่อไปได้ เพราะยังมีงานใหญ่ๆ รออยู่อีกเยอะ

ส่วนจะมีทางออกเรื่องนี้ไว้ในใจหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า คิดว่าทุกท่านมีทางออก ไม่ใช่ เฉพาะตนคนเดียว ต้องให้เกียรติอีก 7 พรรคด้วย เป็นการตั้งรัฐบาลครั้งที่ 30 คงมีอย่างนี้ทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับจะพูดคุยแสดงเหตุผลกันอย่างไร เมื่อถามว่าต้องโหวตเพื่อชิงตำแหน่งประธานสภากันในสภาหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า คงไม่ต้องไปถึงจุดนั้น

ทั้งนี้ก.ก.และพท.มีการคุยปัญหาเก้าอี้ประธานสภาจบแล้ว และยังได้คุยเรื่องแบ่งกระทรวงหลักกันลงตัว ส่วนวันที่ 30 พ.ค. เวลา 14.30 น. พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคประชุมพูดคุยแนวทางและแผนงาน การทำงานร่วมกันหลังการลงนามเอ็มโอยู ที่ทำการพรรคประชาชาติ ย่านดอนเมือง กทม.

‘โรม’ย้ำปธ.สภาต้องเป็นของก.ก.
นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกก.ก. ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนก.ก เชื่อมั่น การมีตำแหน่งประธานสภาจะเกิดประโยชน์หากเป็นคนของก.ก. พูดตรงไปตรงมา ก.ก. มีหลายวาระที่ต้องการผลักดัน และเป็นเรื่องของสังคม เช่น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การทำให้กฎหมายเปลี่ยนประเทศสามารถดำเนินการได้ รวมถึงกลไกที่จะทำให้โครงสร้าง ของสภามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ยืนยันแม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่สามารถทำได้ ประธานสภาไม่ได้ มีแค่การประชุม ก.ก.มีแผนที่ชัดเจน สามารถตอบคำถามประชาชนได้ว่าถ้าได้ตำแหน่งประธานสภาเราจะทำอะไรเพื่อพี่น้องประชาชน และทำอย่างไรให้ประเทศนี้เปลี่ยนแปลง

ถ้าตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นคนที่มีอายุ เท่านั้น เป็น ส.ส.มาหลายสมัย เราไม่เห็นด้วย สิ่งที่ดีที่สุดเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม การเตรียมการทำงานที่จะทำให้ออกมามีคุณภาพมากที่สุด แต่ถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนก็แล้วแต่ต้องเป็นคนจากหลากหลายรุ่น สิ่งสำคัญสภามีข้อบังคับและกฎเกณฑ์กติกาอยู่ ประธานสภาต้องทำให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า พท.ออกเป็นประกาศผ่าน ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กตำแหน่งประธานสภาไม่ใช่วาระของพรรคใดพรรคหนึ่ง จะส่งผล กระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาลและความเชื่อใจต่อพท.หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องความ เชื่อใจเราเชื่ออยู่แล้วในตัวพรรคร่วม ไม่เช่นนั้น คงไม่ร่วมกัน

เหน็บถ้าได้ 141 เสียงคงไม่ขอ
ขอยืนยันก.ก.ไม่ต้องการทำร้ายหรือ เอาเปรียบใคร แต่ต้องการทำเพื่อความเปลี่ยนแปลง “เราต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลง เรามีตำแหน่งไม่ใช่เพื่อตำแหน่ง แต่มีตำแหน่งเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลง” ตำแหน่งประธานสภา มีความสำคัญ และที่สำคัญคือความเป็นกลาง ทำให้เสียงข้างน้อยมีสิทธิมีเสียง เกิดความราบรื่น ในการตรวจสอบถ่วงดุล

ต่อข้อถามว่ายืนยันหนักแน่นว่าหลักการตำแหน่งประธานสภาต้องมาจากพรรคอันดับ 1 นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรามองหลายมิติ ถ้าก.ก.ได้ที่นั่ง 141 ที่ แล้วพท.ได้กลับกันเป็น 151 ที่นั่ง ก.ก.จะไม่บอกเลยว่าจะขอตำแหน่งประธานสภา เพราะเราเข้าใจดีว่าพรรคแกนนำ จัดตั้งรัฐบาลจะได้ตำแหน่งประธานสภาด้วย อายุหรือสมัย ส.ส.ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดในส่วนของ ก.ก.จำนวนสมัยที่ได้เป็น ส.ส.อาจไม่เท่าพรรคอื่น แต่สามารถทำได้

เมื่อถามว่าเก้าอี้ประธานสภาจะเป็นตัว การันตีความเป็นรัฐบาลของก.ก.ด้วยหรือไม่ เนื่องจากหลายคนกังวลหากเสียเก้าอี้ประธานสภา ก.ก.จะถูกลอยแพ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรายังไม่คิดถึงขั้นนั้น บนพื้นฐานที่ทำงานอยู่ทุกคนเราให้ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ เพราะท้าย ที่สุดต้องคุยกันหลายเรื่อง ยืนยันข้อกล่าวหา ก.ก.กินรวบทุกตำแหน่ง ไม่เป็นความจริง

พท.ตอก-ตำแหน่งนี้เอียงไม่ได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพท. กล่าวว่า เดิมทีทั้งสองพรรคมีการตั้งทีมเจรจาในเรื่องต่างๆ อยู่ รวมถึงเรื่องของตำแหน่งประธานสภาด้วย ซึ่งทีมเจรจาของพท.ได้เสนอ เรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่าตำแหน่งประธานสภา ควรเป็นของพท. เพราะก.ก.ได้ตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารไปแล้ว ทางทีมเจรจาของก.ก.ระบุว่าจะรับไปพิจารณาหารือกันภายในแล้วจะประสานกลับมา ซึ่งทางเรารออยู่จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับการประสานกลับมาเพื่อเชิญเราพูดคุยถึงเรื่องนี้ดังนั้น การแถลงหรือพูดเรื่องดังกล่าวของสมาชิกก.ก. ถือว่าเป็นเสียงสะท้อนของบุคคลนั้นๆ ไม่ใช่จากตัวแทนของทีมเจรจา

ทุกพรรคมีสิทธิ์คิดได้ แต่ควรหารือกันด้วยเหตุผลจนได้ข้อสรุปผ่านทีมเจรจาของทั้งสองฝ่ายก่อนที่ใครจะมาแถลงต่อสาธารณะ หากตำแหน่งประธานสภา เป็นของพท. การเดินหน้า ผลักดันกฎหมายต่างๆ ย่อมว่ากันไปตามกฎหมาย กฎระเบียบวาระของสภา ไม่มีอะไรที่ต้องขัดแย้งหรือต้องวิตกกังวล อะไรที่ทำได้ก็ทำ อะไรที่ทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ ทุกเรื่องว่ากันไปตามกฎระเบียบข้อบังคับ ไม่ใช่ว่ากันตามอำเภอใจของใครหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายเสนอให้ตั้งคนกลางอย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) นั่งประธานสภา แทนเพื่อยุติ ปัญหา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทุกเรื่องยืนมาตั้งแต่ต้นว่าต้องพูดคุยในวงเจรจาของสองพรรค เท่านั้น รวมถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งพท.ยืนยันหลักการนี้มาตลอด การพูดคุยข้างนอกมีแต่จะสร้างความแตกแยกและสร้างปัญหามากขึ้น

‘สุธรรม’เชื่อตกลงกันได้
ด้านนายสุธรรม แสงประทุม ว่าที่ส.ส.บัญชี รายชื่อ พท. กล่าวว่า อยากให้ฝ่ายประชาธิปไตย ปรึกษาหารือกัน ยังมีเวลาอีกประมาณ 15 วัน ยังทันที่จะหาคนที่เหมาะสมที่สุดเป็นประธานสภา ไม่ใช่ดีที่สุดสำหรับพรรคใดพรรคหนึ่ง อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างสันติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหานี้จะเป็นแรงกดดันถึงขั้น พท.ถอนตัวจากการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายสุธรรมกล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เชื่อว่า พท.มีวุฒิภาวะทางการเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาว มาเยอะ เชื่อว่าจะรับรู้ความรู้สึกความคาดหวังของประชาชนและเป็นผู้ใหญ่ที่จะนำพาเจตนารมณ์นี้ให้ประสบความสำเร็จได้ เชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรคปรารถนาดีต่อบ้านเมืองและคำนึงถึงความรู้สึกประชาชน อาจมีอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างกระบวนการ อาจดูยุ่งเหยิงบ้าง แต่อยากให้เห็นผลสัมฤทธิ์ที่น่าชื่นชม ตนคาดหวังเช่นนั้น

ต่อข้อถามถึงข้อเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ เป็นประธานสภา หาก 2 พรรคตกลงกันไม่ได้ นายสุธรรม กล่าวว่า ต้องให้สภา เป็นผู้หาคำตอบ ที่ลงทุนเลือกตั้งใช้งบมหาศาลและรอคอยกันมาอยากเห็นดอกผลนี้ปรากฏเป็นจริง ไม่อยากให้มีคำว่าเสียของ เสียโอกาส หนทางข้างหน้ายังมีอีกเยอะที่ต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน เชื่อว่าเรื่อง จุกจิกต่างๆ จะคลี่คลายได้ถ้าร่วมมือร่วมใจกัน

เมื่อถามถึงกรณีมีการเทียบตัวเต็งว่าที่ประธานสภา ระหว่าง 2 พรรค เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพท. หรือนายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าก.ก. นายสุธรรมกล่าวว่า ไม่ขอให้ ความเห็นเรื่องความเหมาะสม ขอให้สภาเป็นผู้ตัดสินเพราะรอบคอบกว่า

‘อดิศร’ปล่อยคลิประวังอับปาง
วันเดียวกัน นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พท. โพสต์คลิปติ๊กต็อกผ่าน ทวิตเตอร์บัญชีส่วนตัว ว่า กินรวบไม่กินแบ่ง แถมระแวงเพื่อนร่วมทาง ไม่นานคงอับปาง จอดข้างทางไร้คนเชียร์

ต้องแสวงหามิตรนะครับ เพื่อนร่วมทางคุณยังไม่ไว้ใจ แล้วคุณจะเดินต่อไปแบบ มีเสถียรภาพได้อย่างไร ประธานสภาต้อง บัลลานซ์ ออฟ เพาเวอร์ (ถ่วงดุลอำนาจ) คุณได้บริหาร คุณจะได้นิติบัญญัติไปคุณต้องได้เสียงเกินครึ่งอย่างเด็ดขาด

ในเมื่อเสียงไม่เกินครึ่ง คุณต้องแบ่งให้คนอื่น ไม่ใช่กินรวบทุกตำแหน่ง ทั้งๆ ทื่ตัวเองสูงแค่ 151 เสียง

จำไว้นะครับ อย่าให้ประชาชนมองว่า เรากำลังแก่งแย่งอำนาจกัน ความเป็นจริง ธรรมชาติในการเป็นรัฐบาลผสมต้องแบ่งกัน ไม่ใช่กินรวบ

ถ้าอยากกินรวบก็เป็นรัฐบาลพรรคเดียว ไปเลย ดีไหม?

‘วันนอร์’ขอให้เคลียร์หลังบ้าน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าปช. อดีตประธานสภา ให้สัมภาษณ์ว่า คุณสมบัติของประธานสภาต้องมีความเหมาะสม หลายประการ เพราะเป็นเบอร์หนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องประสบการณ์เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เท่านั้น แต่ความตั้งใจย่อมสำคัญกว่า ไปจนถึงความเหมาะสม บุคลิกภาพ การวางตัวก็สำคัญ ส่วนวัย อายุ ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับ ยุคสมัยนี้ เดี๋ยวนี้คนหนุ่ม คนเก่งเยอะ อาจดีกว่า ผู้สูงอายุด้วยซ้ำไป

อุปสรรคเวลานี้คือพรรคเสียงข้างมากที่จะจัดตั้งรัฐบาลต้องตกลงทำความเข้าใจกันว่า จะเสนอบุคคลใดเป็นประธานสภา ไม่เช่นนั้นจะขัดแย้งตั้งแต่ตอนต้น เมื่อเข้าไปโหวตในสภาก็จะมีปัญหา ทุกครั้งจะตกลงชื่อบุคคลก่อนเข้าไปสู่การโหวต และตามธรรมเนียมส่วนมากเป็นพรรคอันดับ 1 นอกจากบางครั้งที่มีความจำเป็นเท่านั้น อาจไม่ใช่พรรคอันดับ 1 ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อย ส่วนพรรคอันดับ 2 ที่ร่วมรัฐบาลจะได้โควตารองประธานสภาคนที่ 1 พรรคอันดับ 3 ถูกวางตัวเป็นรองประธานสภา คนที่ 2 ตามลำดับ

ส่วนการต่อรองตำแหน่งประธานสภาของพรรคอันดับ 2 นั้น นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ยังมีเวลาจนกว่าจะมีการรับรอง ส.ส.ทั้ง 500 คน ดังนั้นควรคุยกันภายในให้ตกลงกันได้ระหว่าง หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคของทั้งสองฝ่าย ไม่ควรเอาความขัดแย้งไปกระจายออกข้างนอก ถ้ามัวทะเลาะกันความเชื่อมั่นจะลดไป การสร้าง ความเข้าใจหาข้อตกลงที่ดีควรทำเป็นการภายใน จะดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าพท.ควรยอมถอยหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วงทั้งสองพรรคเพราะเป็นคนนอกพรรค แต่เชื่อว่า การนั่งในตำแหน่งนี้มีความเหมาะสมทั้งสองพรรค ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและความจำเป็น คิดว่าทุกอย่างจะตกลงกันได้

มัวทะเลาะกัน-ความเชื่อมั่นลด
ต่อข้อถามถึงรายชื่อแคนดิเดตประธานสภา ของ ก.ก.ทั้งนายณัฐวุฒิ บัวประทุม และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ว่าที่ ส.ส.กทม. และคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ก.ก. เหมาะสมหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เป็นไปได้ทั้งสองคนเพราะทั้งคู่ มีความสนใจในบทบาทการประชุม ได้ศึกษาข้อบังคับไว้พอสมควร ปรับปรุงอีกนิดหน่อยก็ทำได้ ส่วนตัวมองว่านายณัฐวุฒิก็ทำหน้าที่ได้ ประการแรกมีความตั้งใจสูงและสนใจงานของรัฐสภา จากที่ได้สังเกตตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเขาสนใจงานสภาอย่างมาก ทั้งบทบาท ในกรรมาธิการ รวมถึงการใช้ข้อบังคับให้เป็นไปอย่างมีประโยชน์ต่อการอภิปรายต่างๆ

ขอฝากทั้งสองพรรคให้เลือกคนที่เหมาะสม และทำหน้าที่ได้ดี เพราะไม่ใช่ตัวแทนของพรรค เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นตัวแทนของสมาชิกทั้ง 500 คน เป็นตัวแทนทั้งในและต่างประเทศ จึงต้องมีความสง่างามและทำหน้าที่ในสภาได้ดี พร้อมกัน งานแรกคือการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมสำหรับการโหวตเลือกนายกฯ หลังจากตัวเองได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว ซึ่งต้องนำกฎหมาย ข้อบังคับมาใช้ การดำเนินตามระเบียบวาระ ไปจนถึงการประชุมตลอด 4 ปีให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะถ้าทำหน้าที่ไม่คล่องตัวหรือไม่ได้รับความเชื่อถือการประชุมก็จะขรุขระได้

“ใครเป็นประธานสภาผมก็ยินดีทั้งสิ้น พร้อมจะให้คำปรึกษาหากช่วยเหลือได้ รอบนี้ผมก็เป็นสมาชิกรัฐสภาเช่นกัน ยินดีให้ความร่วมมือ แนะนำ เพื่อให้สภาของเราปฏิรูปและเดินไปด้วยความเรียบร้อย เพราะฝ่ายอื่นปฏิรูปไปเยอะแล้วสภาก็ควรจะปฏิรูป เช่น ไม่ให้ การประชุมเสียเวลาเกินเหตุ” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

‘เสรีพิศุทธ์’หนุน‘วันนอร์’
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ให้สัมภาษณ์ว่า เข้าใจดีทั้ง 2 พรรค เพราะพท.และก.ก.มีคะแนนห่างกันไม่มาก ก.ก.มี 151 เสียง พท. 141 เสียง แต่เป็นห่วงว่า หากพท.ไม่ร่วมรัฐบาลด้วยจะเป็นปัญหาจัดตั้งรัฐบาล จะไปหาเสียงใหม่จากไหน จึงต้องคุยกัน เพื่อหาทางออกร่วมกัน

ส่วนข้อเสนอของนักวิชาการให้พรรคอันดับ 3 คือ นายวันมูหะมัดนอร์ เป็นประธานสภานั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วย เพื่อเป็นคนกลาง และเป็นผู้มีความอาวุโส เคยเป็นประธานสภามาแล้ว รู้กฎระเบียบ อย่างการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชนะเลือกตั้ง ได้เป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ 52 เสียง ได้เป็นประธานสภา แต่หากจะให้ก.ก.กับพท.แบ่งวาระการดำรงตำแหน่งประธานสภาคนละ 2 ปีนั้น ไม่เห็นด้วย เพราะบ้านเมืองไม่ใช่ ตัวตลก แบ่งครึ่งประธานสภาหรือนายกฯ ส่วนการแบ่งโควตารัฐมนตรีนั้น ขึ้นอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลจะให้ดำรงตำแหน่งอะไร พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะมีแค่ 1 เสียง

‘สมชัย’เชื่อเกมต่อรองแลกเก้าอี้
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย สร. กล่าวว่า เชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่ลุกลามเป็นความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรค น่าจะเจรจาตกลงกันได้ ทุกอย่างจบลงด้วยการพูดคุย โดยต้องตกลงให้ได้ภายในวงก่อนที่จะนำมาพูดภายนอก ส่วนตัวเชื่อว่าพท.ไม่ได้อยากได้เก้าอี้ประธานสภา แต่เป็นเกมต่อรองเพื่อให้ได้ของที่เยอะกว่า เช่น โควตาครม. หากนำเก้าอี้รมว.มหาดไทยมาแลกกับประธานสภา อาจจะตกลงกันได้ เพราะก.ก.มองว่า ตำแหน่งประธานสภามีความ สำคัญ จำเป็นต้องได้มา เพื่อไว้คุมเกมในการโหวตเลือกนายกฯ หากต้องไปฟรีโหวตในการ เลือกประธานสภาจริงๆ

มีความเป็นไปได้สูงที่พท.จะได้เป็นประธานสภา เพราะพรรคอื่นๆ อย่างปชป. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) น่าจะลงคะแนนให้ตัวเลือกจากพท. ในกรณีที่มี การชิงตำแหน่งกันแค่ 2 พรรค ส่วนข้อเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์มาดำรงตำแหน่งประธานสภาแทนนั้น ก็เป็นไปได้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องอายุที่นายวันมูหะมัดนอร์ มีอายุมากแล้ว

‘สาธิต’ยุก.ก.โชว์ผู้นำ-ใจกว้าง
นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าปชป. โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ตำแหน่งประธานสภา (รัฐสภา) ภาวะผู้นำ กับคำว่า ประชาธิปไตย” ตำแหน่งประธานสภา เป็นตำแหน่งประธานรัฐสภาด้วย หรือประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ตำแหน่งที่จะไปดำรงตำแหน่งเพื่อสนองนโยบาย พรรคของที่ตัวเองสังกัด ต้องเป็นการเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ ที่ทุกฝ่ายยอมรับถึงความเป็นกลางอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะมาจากพรรคการเมืองแต่เมื่อดำรงตำแหน่งนี้แล้ว ต้องมีความเป็นกลางที่เป็นที่ประจักษ์

พรรคการเมืองเสียงข้างมากอันดับหนึ่งแน่นอนมีสิทธิ์เสนอบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ หากมีบุคคลที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม แต่หากพรรคร่วมใดๆ มีบุคคลที่มีความเหมาะสม ตามคุณสมบัติที่ว่า และเป็นที่ยอมรับของ ทุกฝ่ายโดยแยกแยะตำแหน่งที่ดำรงกับพรรค การเมืองที่สังกัดได้ พรรคร่วมก็สามารถเห็นพ้อง ต้องกันเสนอบุคคลเป็นประธานรัฐสภาได้ โดยใช้หลักการดังกล่าวไปใช้ในการพิจารณา ไม่ต้องถกเถียงหรืออ้างเหตุผลออกสื่อผิดๆ ถูกๆ และเสียบรรยากาศพรรคร่วมรัฐบาลที่จะร่วมกันบริหารประเทศต่อไปซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า

“การให้บุคคลที่มีความเหมาะสมจากพรรคร่วมไปดำรงตำแหน่งประธานสภาไม่ใช่ปัญหาเลย แต่แสดงออกถึงความใจกว้าง เข้าใจระบบ มีวุฒิภาวะแสดงออกถึงการเป็นผู้ให้จะได้ใจพรรคร่วม ไม่ใช่เป็นเด็กเอาแต่ใจ ไม่ฟังผู้ใหญ่หรือคนรอบข้าง การทำงานข้างหน้า จะสมานฉันท์ได้อย่างดี และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ประธานสภา ไม่สามารถเสนอชื่อใครนอกจากที่สภาลงมติเลือกเป็นนายกฯ ได้อยู่แล้ว อย่าไป คิดมากจนเกินไป ยกเว้นมีธงวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองไว้ในอนาคต เดินหน้าตั้งรัฐบาลจะเป็นประโยชน์กับคนที่เลือกตั้งเสียงข้างมากเข้ามาและประเทศไทย” นายสาธิตระบุ

‘สนธิญา’ยื่นยุบก้าวไกล-ฟันพท.
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่น กกต. ให้วินิจฉัยการ กระทำของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการ คณะก้าวหน้า กรณีโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นให้ ก.ก.ยึดมั่นตำแหน่งประธานสภา โดยที่ผู้บริหารหรือใครในก.ก.ไม่ได้ออกมาปฏิเสธแต่พูดไปในทิศทางเดียวกัน เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 มาตรา 29 และไปสู่การถูกยุบพรรคได้ตามมาตรา 92(3) จึงขอให้กกต.วินิจฉัย

นอกจากนี้ กรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปเยี่ยมนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สิงคโปร์ ทั้งที่ น.ส.แพทองธาร เป็นแคนดิเดต นายกฯ พท. พฤติกรรมอยู่ภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญในเรื่องของผลประโยชน์ หรือความทับซ้อน และตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค การเมือง มาตรา 45 ผูกพันถึงมาตรา 92 (3) ขอให้กกต.พิจารณาขัดต่อกฎหมายนี้หรือไม่ เมื่อวินิจฉัยแล้วอาจส่งคำศาลรัฐธรรมนูญ

‘พี่ศรี’รุกจี้สอบ‘เอก-ป๊อก-ช่อ’
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคม องค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้จัดส่งเอกสาร หลักฐานเพิ่มเติม ให้กกต. กรณีเมื่อ 22 พ.ค. 2566 เคยเดินทางไปชี้ให้ กกต.ตรวจสอบ เอก-ป๊อก-ช่อ ครอบงำ ชี้นำก.ก. อันเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 28 และมาตรา29 แห่งพ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กของตนว่า “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ตำแหน่งที่ก.ก.เสียไปไม่ได้เป็นอันขาด พร้อมอธิบายเหตุผลมากมาย นอกจากนั้นวันที่ 25 พ.ค.2566 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ยังออกมาโพสต์สำทับถึงข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “ก.ก.ต้องการเป็น #ประธานสภา เพื่อผลักดันวาระก้าวหน้า ในสังคม” อีกด้วย อันชี้ให้เห็นว่าบุคคลทั้งสอง ซึ่งมิใช่สมาชิกก.ก. กลับมีพฤติการณ์หรือ กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมหรือไม่ รวมทั้ง กก.บห.ก้าวไกลออกมาเคลื่อนไหวสอดรับกับการชี้นำของบุคคลทั้งสอง จึงอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 และ มาตรา 29 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ด้วยหรือไม่

จึงนำความพร้อมพยานหลักฐานมายื่น เพิ่มเติมให้ กกต. เพื่อนำไปตรวจสอบ และวินิจฉัย ประกอบคำร้องเดิมที่เคยชี้เบาะแสไว้แล้ว เพื่อดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไปจนถึงที่สุด เพราะถึงที่สุดแล้วหาก กกต.วินิจฉัยว่าเป็นไปตามการชี้เบาะแสก็สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคที่ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าวได้ ตามมาตรา 92(3)

สุราก้าวหน้า – นายสมบูรณ์ แก้วเกรียงไกร ประธานเครือข่ายสุราแห่งประเทศไทย และตัวแทนสมาคมการค้า ผู้ประกอบธุรกิจคราฟต์เบียร์ เข้าแสดงความยินดีกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมยื่นสนับสนุน สุราก้าวหน้า ที่อาคารอนาคตใหม่ หัวหมาก 12 กทม. เมื่อ 26 พ.ค.

‘ทิม’จับเข่าคุยเครือข่ายสุรา
เมื่อเวลา 13.05 น. ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดต นายกฯ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าที่ส.ส.กทม. แถลงหลังรับหนังสือจากเครือข่ายสุราท้องถิ่นไทย และสมาคมคราฟต์เบียร์ไทย เกี่ยวกับการผลักดันสุราก้าวหน้า และขอให้ส.ว.และส.ส. ช่วยสนับสนุนก.ก.จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ

นายพิธากล่าวว่า ขอให้เครดิตเครือข่ายภาคประชาชนและคราฟต์เบียร์ที่เห็นตรงกับก.ก. ที่อยากเปลี่ยนสินค้าการเกษตรมาเป็นโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นนโยบายเพิ่มผู้ผลิตมากกว่าเพิ่มผู้บริโภค และต้องมีการแก้กฎหมาย เพื่อส่งเสริมเรื่องการผลิต การส่งออก โดยจะเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าในโซเชี่ยลวิจารณ์การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แต่สนับสนุนสุราก้าวหน้า นายพิธากล่าวว่า ทั้งสองอย่างมีทั้งประโยชน์และโทษ ไม่มีอะไรเสรีจริง ต้องควบคุม ให้เหมาะสม สุราเราไม่ได้ต้องการให้บริโภคเพิ่มขึ้นในประเทศ แต่ต้องการเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตรเพื่อสร้างรายได้เป็นทางเลือกมากขึ้นภายในประเทศ ยังเป็นการสร้างความเท่าเทียมของผู้ผลิตทั้งรายเล็กและรายใหญ่

เมื่อถามว่าต้องยกเลิกกฎกระทรวงหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ต้องแก้กฎกระทรวงการคลังเพื่อไม่ให้มีการกีดกันและให้เกิดความเท่าเทียม แต่ในส่วนพ.ร.บ.ต้องพิจารณาอีกครั้ง นี่คือกระดุมเม็ดแรก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการห้ามโฆษณาเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงต่างๆ ทั้งสาธารณสุข วัฒนธรรม ศึกษาธิการ และอุตสาหกรรม เข้ามาเกี่ยวข้อง ตนตั้งใจแก้ ให้ได้ช่วง 100 วันแรกของการเป็นรัฐบาล ซึ่งการแก้กฎกระทรวง และเสนอ ครม.ทำได้ทันทีในขั้นแรก

คนรุ่นใหม่ – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยกับกลุ่ม PT Junior (Potential Team Junior) รับฟังข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนกลยุทธ์การเลือกตั้ง ในปี 2570 ภายใต้กิจกรรม Youth Session Vol.1 ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 พ.ค.

พบนักธุรกิจรุ่นใหม่
ต่อมานายพิธาพร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคและทีมเศรษฐกิจ ก.ก.เข้าพบตัวแทนสภาอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ (Young FTI) ที่โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะทางนโยบาย จากนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตของภาคอุตสาหกรรมไทย

นายพิธากล่าวกับที่ประชุมว่า สิ่งแรกที่เราต้องแสดงให้เห็นก่อนคือไม่ทำงานเป็นแท่งๆ เป็นไซโล แต่ต้องมองภาพใหญ่ว่าการบริหารเศรษฐกิจที่เราต้องการคืออะไร สิ่งที่ก.ก.มองเห็น บทเรียนจากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตมา 40 ปี คือในอนาคตต้องเป็นการเติบโตแบบ inclusive growth เศรษฐกิจโตด้วย และลดความเหลื่อมล้ำ เปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโตด้วย

ส่วนนโยบายในการปฏิรูปภาคอุตสาหกรรม ไทยผ่าน 3F คือ 1.Fair Game ความเท่าเทียมที่จะแข่งกันระหว่างทุนใหญ่กับทุนเล็ก ทุนไทย กับทุนต่างชาติ 2.Firm ground หมายถึงต้องสู้ กันด้วยผลิตภาพ ไม่ใช่สู้กันด้วยการกดค่าแรง 3.Fast growth industries ประเทศไทยต้อง เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และหาช่องว่างโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรม ของไทยไปพร้อมกับโลก เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมยาเพื่อต่อสู้กับโรคอุบัติใหม่ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องบิน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งอุตสาหกรรมชิพและ ซิลิคอนคาไบด์ที่ประเทศไทยยังมีโอกาส

สำหรับอุตสาหกรรมโดรนและการป้องกัน ประเทศ ถ้าประเทศไทยสามารถส่งเสริมนโยบาย offset policy ได้ แทนที่จะซื้ออาวุธจากต่างชาติ เปลี่ยนเป็นการซื้อพร้อมทำให้เกิดการถ่ายทอด เทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ใช้แรงงานและชิ้นส่วนในประเทศแทนที่จะนำเข้า 100%

ช่วงท้ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ฝากความหวัง ในการสร้างความเปลี่ยนแปลง การทำงาน ร่วมกับภาครัฐไว้กับทีมเศรษฐกิจก.ก. ว่าจะทำให้ กระบวนการทำงานรวดเร็ว เปิดกว้างการส่งเสริม นวัตกรรมใหม่ๆ และทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น

ขอบคุณ – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำส.ส.สมุทรปราการขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกลยกจังหวัด โดยมีประชาชนและด้อมส้มแห่ต้อนรับเนืองแน่น ที่ด้านหน้าสำนักงานเทศบาลบางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อ 26 พ.ค.

ถกเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน
เวลา 16.30 น. ที่สำนักงานเทศบาลบางเสาธง จ.สมุทรปราการ นายพิธา พร้อมว่าที่ ส.ส. ปีกแรงงาน ก.ก.ร่วมพบปะพูดคุยกับเครือข่ายผู้ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวน 45 องค์กร กว่า 200 คน เพื่อแลกเปลี่ยนสอบถามเกี่ยวกับนโยบายแรงงานของก.ก.

หลังการหารือ นายพิธาตอบข้อซักถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับความกังวลของผู้ประกอบการ ต่อการขึ้นค่าแรง 450 บาท ตามนโยบายของ ก.ก.ว่า เรื่องค่าแรงต้องไม่ดูที่เหรียญด้านเดียว แต่ต้องดูมิติของการช่วยเหลือเยียวยาเอสเอ็มอีด้วย หากพิจารณาตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราค่าเงินเฟ้อ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของพี่น้องแรงงานในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขค่าแรงที่เหมาะสมคือ 450 บาท หลังหารือกับสภาอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมเยาวชน จะเดินสายหารือกับหอการค้าและสภานายจ้าง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของเหรียญทั้งสองด้าน หากเราแก้ไข พ.ร.บ.แรงงาน ค่าแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอัตโนมัติ การขึ้นค่าแรงต้องขึ้นน้อยๆ ขึ้นบ่อยๆ ถ้านานๆ ขึ้นที จะไม่สามารถบริหารจัดการได้

นายพิธาชี้แจงถึงข้อกังวลของสภาหอการค้า ถึงผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง อาจทำให้มีการ พิจารณาย้ายฐานการผลิตไปประเทศเวียดนามว่า ตนได้รับฟังจากข่าว ยังไม่ได้หารือจริง จึงยังไม่รู้ ข้อกังวล ซึ่งการย้ายฐานการผลิตไปประเทศใด นั้น ต้องดูที่ค่าแรงเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ส่วนเดียว ต้องดูทั้งบุคลากร อัตราการคอร์รัปชั่น ระบบภาษี อัตราการส่งออก และตลาดในประเทศด้วย มั่นใจว่ายังจะสามารถผลักดันนโยบายเพิ่มค่าแรงได้ภายใน 100 วันแรกหลังจากได้เป็นรัฐบาล และหลังจากได้หารือรับฟังข้อมูล จากเครือข่ายแรงงานหลายส่วน ทั้งในและ ต่างประเทศ

สัญญาชาวปากน้ำไม่ทำผิดหวัง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมส่งมอบงาน ให้รัฐบาลใหม่ ทางก.ก.ได้วางบทบาทไว้ให้พรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ นายพิธากล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยลงรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ก.ก. มีนายรอมฎอน ปันจอร์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงว่าที่ส.ส. และผู้สมัครส.ส. ในพื้นที่ชายแดนใต้ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ นโยบายของพรรคมีความชัดเจน ต้องดูว่าแผนที่จะส่งมอบเป็นอย่างไร ต้องเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงได้

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาหัวหน้าคณะพูดคุยเป็นทหารมาตลอด มีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นพลเรือนหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตั้งใจ อยู่แล้ว

เวลา 18.00 น. นายพิธาขึ้นกล่าวปราศรัยขอบคุณประชาชนที่มอบคะแนนเสียงในการเลือกตั้งให้ โดยมีประชาชนกว่า 1,000 คน มาร่วมฟังว่า “ผมบอกพวกคุณแล้วว่าปราการที่นี่แตกแล้ว แตกหรือไม่แตกไม่รู้ 8 เขต ยกจังหวัด” ตนแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 ของพี่น้อง ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนทุกความไว้วางใจทุกโอกาสพี่น้องได้ให้กับก.ก. เราขอให้สัญญากับทุกท่านว่าพวกเรารวมพลังกัน จะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง มาที่สมุทรปราการเคยสัญญาไว้อย่างไร หลังเลือกตั้งก็มาทำตามสัญญาอย่างนั้น

หลังปราศรัย นายพิธาร่วมถ่ายรูปเซลฟี่กับประชาชน โดยประชาชนที่โบกมืออยู่ด้านล่างตะโกนเรียกว่านายกฯ ก่อนที่นายพิธาจะลงจากรถแห่ไปขึ้นรถส่วนตัว มีประชาชนจำนวนมากวิ่งกรูไปล้อมรถ เพื่อขอลายเซ็น และถ่ายรูปต่อ บางคนตะโกนว่าอยากเห็นเลขทะเบียนรถ เนื่องจากต้องการไปเสี่ยงโชค

ส.ว.กิตติศักดิ์โต้ไม่ได้หมายเรียก
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผยจากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ สวมชุดดำบุกเข้าไปทำร้ายประชาชนและพระสงฆ์ภายในวัดหิรัญญารามหรือวัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ว่า คดีดังกล่าวได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว 21 คน ซึ่งติดตามจับกุมได้หมดแล้ว และจากการซักถามก็บอกว่ามีผู้ใช้ให้เข้าไปก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจและไปขอศาลจังหวัดพิจิตรออกหมายจับผู้ใช้ ผู้สั่งการ ซึ่งศาลได้พิเคราะห์แล้วว่าผู้ที่ถูกขอออกหมายจับมีหลักฐานที่พักชัดเจนเป็นหลักแหล่ง จึงเปลี่ยนให้ออก หมายเรียกแทน ซึ่งจะให้มาพบพนักงานสอบสวนสภ.โพทะเล ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ เมื่อถามว่าหลักฐานอะไรทำให้ตำรวจมั่นใจไปขอหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่าไม่สามารถบอกได้ เพราะอยู่ในสำนวน แต่ยืนยันมีหลักฐานชัดเจน หากหมายเรียกในครั้งแรกไม่มาก็จะดำเนินการ ตามขั้นตอนการขอหมายจับ

ส่วนเมื่อถามว่ากรณีนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น เพราะก่อนหน้านี้ผู้ถูกออกหมายเรียก มีประเด็นในเรื่องการโหวตไม่โหวตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพราะคดีดังกล่าวตนได้รับมอบหมายให้ดำเนินการมาตั้งนานแล้วหลายปีก่อนที่จะเลือกตั้งอีกด้วยซ้ำ ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ จะต้องไปตั้งคณะกรรมการกลางร่วมกับ หลายหน่วยงาน ทั้งทางจังหวัดในการร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สิน หากพบว่าทรัพย์สินหาย ก็จะไปดำเนินคดีต่อและสืบต่อว่าทรัพย์สินหายไปไหน

ด้านนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับรายการเช้านี้ที่หมอชิต หลังถูกออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ฐานใช้จ้างวานให้บุกรุกพื้นที่ของวัดและร่วมกันทำร้ายร่างกายว่า ขณะนี้ตนไม่เห็นตัวเอกสารหมายเรียกที่กล่าวถึง ทราบข้อมูลพร้อมๆ กันกับสื่อ หลังจากนี้คงจะรอให้ตำรวจนำหมายเรียกมาแจ้งก่อนถึงจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหา หากพบหลักฐานที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีจริงก็ให้ว่าไปตามหลักฐาน แต่หากคำที่กล่าวหา มาไม่เป็นความจริง ตนเองก็พร้อมที่จะฟ้องกลับ

“ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความไม่พอใจของชาวบ้านในพื้นที่กับกลุ่มผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นผู้ผลิตพระเครื่องให้เช่าบูชา และกลุ่มดังกล่าวยึดวัด จนชาวบ้านในพื้นที่ไม่สามารถเข้าวัดได้ จึงรวมตัวกันขับไล่ขึ้นตามคลิปที่ปรากฏ ส่วนที่ถูกโยงไปเอี่ยวในคดีคาดว่าเป็นเพราะตนเองกำลังตรวจสอบเรื่องการทุจริตของกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เกิดขึ้นภายในวัดอยู่” นายกิตติศักดิ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน