เมื่อวันที่ 27 พ.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ ว่า วันที่ 29 พ.ค. เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ชั้น 5 ตนได้นัดหมายนายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อร่วมกันหารือในประเด็นการจำหน่ายสารไซยาไนด์ของโรงงานอุตสาหกรรมที่คณะทำงานชุดคลี่คลายคดีแอมตรวจพบ เพื่อพิจารณาเอาผิดโรงงานและบริษัทที่จำหน่ายสารไซยาไนด์ เพราะนอกจากความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายแล้ว ยังมีความผิดในส่วนของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ อีกด้วย ถ้าพบว่าโรงงาน/บริษัทใดก็ตามมีความผิดเข้าองค์ประกอบดังกล่าว ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะต้องเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นทางโรงงาน บริษัทดังกล่าว จะต้องเข้ามารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนที่สโมสรตำรวจต่อไป

ส่วนประเด็นที่ภายในห้วงสัปดาห์หน้าจะเริ่มมีการขึ้นโครงสำนวนคดีทั้ง 15 สำนวนเพื่อเตรียมสรุปส่งพนักงานอัยการนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า การร้อยเรียงจะไม่ได้เริ่มจากกรณีไหนเป็นกรณีแรก เนื่องจากทั้ง 15 กรณีมีส่วนที่เหมือนกันคือผู้ต้องหาคนเดียวกัน โดยสำนวนจะเริ่มต้นจากการแยกทั้ง 15 สำนวนก่อน จากนั้นพยานหลักฐานอื่นใดก็ตามที่พบจาก 1 ใน 15 สำนวน ก็จะนำมาประกอบเข้ากับสำนวนอื่นๆ ร่วมด้วย และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คณะทำงานก็จะสรุปสำนวนเพื่อนำส่งพนักงานอัยการ อย่างไรก็ตาม สำนวนดังกล่าวจะรวมในกรณีของการแจ้งข้อหาทำลาย ซ่อนเร้นพยานหลักฐาน หรือ ม.184 ทั้งของ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณภูมิ หรือ ทนายพัช และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือรองอ๊อฟ อดีตสามีแอม เข้าไว้ด้วย อีกทั้งขณะนี้ยังคงมีจำนวนผู้เสียหายจากแอม 15 รายเท่านั้น ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับบุคคลอื่นหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ในระหว่างที่เร่งรัดทำสำนวน คณะพนักงานสอบสวนมีการประสานพูดคุยกับพนักงานอัยการอยู่เสมอ แต่รายละเอียดนั้น ขอละเว้นการเปิดเผยเนื่องจากเป็นเนื้อหาสำคัญภายในสำนวน แต่ยืนยันได้ว่าจะมีการส่งสำนวนให้อัยการภายในระยะเวลาการฝากขังผัดที่ 3 แน่นอน ซึ่งปัจจุบันการฝากขังผู้ต้องหายังอยู่ในผัดที่ 2 ขอให้สังคมมั่นใจ พนักงานสอบสวนเราทำงานเต็มที่ทุกวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน