หมอชี้หัวใจหยุดเต้น
สลบ8วันกู้ชีพพ้นวิกฤต

แพทย์และครอบครัวเปิดแถลงครั้งแรกอาการพระเอก ‘เอส กันตพงศ์’ ปาฏิหาริย์มีจริงฟื้นขึ้นมาหลังวูบหมดสตินาน 8 วัน ต้องอยู่ในไอซียูนับเดือน เผยเกิดจากภาวะวิกฤตกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันขั้นรุนแรงทำให้หัวใจหยุดเต้น ไตและสมองขาดเลือด ต้องใส่เครื่องพยุงชีพและเครื่องช่วยหายใจ ก่อนเริ่มรักษาให้ยา กระทั่งภาวะรับรู้และสมองดีขึ้นเป็นลำดับ เริ่มเปล่งเสียงสื่อสารได้แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลใกล้ชิดจากทีมแพทย์ร่วมกับกายภาพ ด้าน ‘คริสติน่า’ภรรยาระบุช่วงแรกเอสจำไม่ได้ เชื่อปาฏิหาริย์ทำให้สามีฟื้นกลับมา ขณะที่ ‘เอ ศุภชัย’ ชี้ยังตอบไม่ได้เรื่องงาน ทุกอย่างยังวันต่อวัน เอสเพิ่งพ้นวิกฤตต้องฟื้นฟู แม่ยันภาพถ่ายเอสกับครอบครัวในเพจวัดดังเป็นภาพจริงขณะพร้อมหน้าถวายสังฆทาน

วันที่ 22 มิ.ย. ที่อาคารเอ ห้องคอนเฟอเรนซ์ เซ็นเตอร์ ชั้น 21 (คลินิก) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นพ.อชิรวินทร์ จิรกมลชัยสิริ แพทย์ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ สถาบันโรคหัวใจบำรุงราษฎร์ พร้อมด้วย คิตตี้ คริสติน่า บำรุงรักษ์ ภรรยาพระเอกชื่อดัง เอส กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ นางอชิรญาณ์ ศรีโสม คุณแม่เอส กันตพงศ์ และเอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดนักปั้นชื่อดัง ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าอาการป่วยของเอส กันตพงศ์ จากการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาระยะหนึ่งหลังพระเอกหนุ่มวูบหมดสติขณะทำกิจกรรมบิ๊กดีเบตครั้งที่ 10 ที่ลานพารากอน ศูนย์การค้าสยามพรากอน เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา

นพ.อชิรวินทร์กล่าวว่านับตั้งแต่ผู้ป่วยย้ายมาที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในวันที่ 11 พ.ค. ทีมแพทย์สถาบันโรคหัวใจและทีมแพทย์เฉพาะทางอีกหลายสาขาร่วมกันตรวจวินิจฉัยและรักษา จากการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดสาเหตุความเป็นไปได้มากที่สุดของอาการเอส กันตพงศ์ คือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน ในกรณีของเอสเป็นขั้นรุนแรง การทำงานของหัวใจผิดปกติคือลดลงอย่างมาก ทำให้เกิดภาวะการเต้นของหัวใจผิดจังหวะขั้นรุนแรง เป็นสาเหตุทำให้หัวใจหยุดเต้น

“หลังจากผู้ป่วยย้ายมาจากโรงพยาบาลแห่งแรก ณ ตอนนั้นคุณเอสใส่เครื่องพยุงชีพและเครื่องช่วยหายใจทั้งหมด อยู่ในภาวะวิกฤตมาก แต่หลังจากได้รับการวินิจฉัยที่เป็นไปได้มากที่สุด ทีมแพทย์เริ่มการรักษาโดยการให้ยา ผู้ป่วยมีอาการตอบสนองที่น่าพอใจและดีขึ้นเป็นลำดับ ตั้งแต่เริ่มรักษาก็เริ่มค่อยๆ ลดการใช้เครื่องพยุงชีพและเครื่องช่วยหายใจ การทำงานของหัวใจกลับมาใกล้เคียงปกติ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางของอาการหัวใจล้มเหลวและทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางของหัวใจเต้นผิดจังหวะ” นพ.อชิรวินทร์กล่าว

นพ.อชิรวินทร์กล่าวต่อว่านอกจากนี้เนื่องจากระบบไหลเวียนของเอสหยุดทำงานไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ไตและสมองซึ่งเป็นอวัยวะที่ไวกับการขาดเลือดมากที่สุดในร่างกายเสียหายไปด้วย แต่ ณ วันนี้การทำงานของไตฟื้นกลับมาเป็นที่น่าพอใจ หยุดฟอกเลือดไปแล้ว ผู้ป่วยสามารถกลับมาปัสสาวะได้เองโดยไม่ต้องพึ่งการฟอกไต ในส่วนของสมองหลังจากทีมแพทย์เริ่มพยุงระบบไหลเวียนโลหิตได้ ผู้ป่วยเริ่มฟื้นตัว ภาวะรับรู้และสมองเป็นไปในทิศทางที่ดีตามลำดับ หลังจากนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเพิ่มเติมโดยแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทและร่วมทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูในระยะยาว ต่อเนื่องต่อไป

“ณ วันนี้ ผู้ป่วยย้ายออกมาจากหอผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจแล้ว ตอนนี้อยู่ในหอผู้ป่วยปกติ ส่วนแนวทางการรักษาหลักคือการกายภาพบำบัดฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ รวมถึงฟังก์ชันทั้งหมดที่มีปัญหาช่วงที่หัวใจหยุดเต้นไป โดยคุณเอสนอนไม่ได้สติประมาณ 8 วัน นับตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งแรก หลังจากเริ่มฟื้นตัวโดยการขยับแขนขาก็เริ่มสื่อสารเปล่งเสียงได้ รวมถึงการสื่อสารที่มีความหมาย” นพ.อชิรวินทร์กล่าว

สำหรับระยะเวลาการรักษาตัวที่คนไข้จะกลับมาใช้ชีวิตปกตินั้น นพ.อชิรวินทร์กล่าวว่าเป็นคำถามที่ถามถึงอาการคนไข้ในอนาคต ยังตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของคนไข้ซึ่งแตกต่างกันไปทั้งภาวะของคนไข้เองในแต่ละคนและโรคที่เป็น ส่วนที่ว่า ณ วันนี้คนไข้กลับมากี่เปอร์เซ็นต์แล้วนั้น ใช้คำว่าตื่น มีภาวะรับรู้ และสามารถสื่อสารง่ายๆ ได้ การที่หัวใจหยุดเต้นนานประมาณ 20 นาทีขึ้นไป แล้วคนไข้กลับมาได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ส่วนโอกาสที่จะกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์เราไม่ตัดประเด็นนี้อยู่แล้ว ทุกครั้งที่เราเริ่มการรักษาเราคาดหวังว่าคนไข้จะกลับมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้








Advertisement

พระเอกฟื้น – ภาพที่ครอบครัวเผยแพร่หลังจาก ‘เอส’ กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ พระเอกชื่อดัง ฟื้นจากวูบหมดสตินาน 8 วันต้องอยู่ในไอซียูอีกเกือบเดือน ล่าสุดแพทย์ร.พ.บำรุงราษฎร์ พร้อมแม่และภรรยาเปิดแถลงครั้งแรกเกี่ยวกับอาการและการรักษา เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.

ด้าน คริสติน่า ภรรยา กล่าวว่า “ตอนที่ เอสฟื้นขึ้นมาวันแรกยังอยู่ในภาวะสับสนและยังคิดว่าตัวเองทำงานอยู่ ประโยคแรกที่พูดกับสามีคือที่รัก พวกเราอยู่ตรงนี้กับคุณ ไม่ต้องกังวลอะไร แต่ในเวลานั้นเขายังจำไม่ได้ ส่วนตัวเชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์สำหรับคนไข้ที่อยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้นนานขนาดนี้และฟื้นขึ้นมาได้ขนาดนี้ หลังจากนี้ถือเป็นกำไรทั้งหมดแล้ว ส่วนวาเลนติน่าลูกสาว มีความสุขมากทุกครั้งที่ได้เห็นพ่อ แต่ยากที่จะเข้าใจกับการที่พ่อต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลและไม่สามารถเล่นด้วยกันได้เหมือนที่เคยทำ หวังว่าทุกอย่างจะกลับมาในเร็ววัน สำหรับครอบครัว สามีภรรยาหากฝั่งใดมีปัญหาอีกฝั่งหนึ่งก็ต้องเป็นเหมือนที่พึ่งพิงยามยากลำบาก พยายามยึดลูกสาวและครอบครัวเป็นหลัก ไม่แสดงความอ่อนแอต่อหน้าลูกสาว และคาดหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

“อยากขอบคุณครอบครัว ทุกๆ คนที่มีส่วนร่วมในวันนั้น ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ขอบคุณกำลังใจ น้ำใจ และความห่วงใยทั้งหมดที่ ส่งมา และอยากขอโทษที่ไม่สามารถอัพเดตอาการสามีได้ตลอดเวลา ขอบคุณทุกความเข้าใจที่มีให้กัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกอย่างจะจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง และจะพยายามอัพเดตให้ไวที่สุดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม” ภรรยาพระเอกหนุ่มกล่าว

ขณะที่ เอ ศุภชัย กล่าวว่า “วันที่เดินทางมาเยี่ยม เอสจำได้ว่าเป็นพี่เอ เขาดีใจ แต่คุณหมอบอกว่าความจำจะยังต้องใช้เวลาฟื้นฟู ตอนที่มาเยี่ยมจะพูดถึงวันแรกที่เราเจอกัน วันที่ไปดูตัวเอสครั้งแรกและเปิดไฟส่องไปที่เขา พูดทุกเรื่องในอดีตซึ่งเอสจำได้หมดเลย ส่วนงานของเอสที่ยังค้างไว้ยังตอบไม่ได้ในตอนนี้ว่าจะเริ่มได้เมื่อไหร่ ทุกอย่างยังวัน ต่อวัน ตอนนี้อยากให้โฟกัสสิ่งที่สำคัญที่สุด ตอนนี้เอส อยู่ในฐานะผู้ป่วย เพิ่งพ้นวิกฤต สิ่งสำคัญลำดับแรกคือการฟื้นฟู”

สำหรับกรณีที่เพจวัดดังเผยแพร่ภาพ เอส กันตพงศ์ ในชุดผู้ป่วยนั่งยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้ม โดยมีหลวงพี่อุเทน หรือพระครูปลัดอุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ คิตตี้ คริสติน่า ภรรยา และครอบครัวร่วมเฟรมที่โรงพยาบาลนั้น นางอชิรญาณ์ ศรีโสม คุณแม่เอส กันตพงศ์ เผยว่า “วันนั้นครอบครัวทำสังฆทานและพระท่านมารับสังฆทาน เลยถ่ายรูปด้วยกันปกติ เป็นรูปจริง ครอบครัวอยากขอบคุณโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน สำคัญที่สุดเลยคือช่อง 7 ที่ดูแลทุกอย่างตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน