โชว์หลักฐานอ้างเป็นเหยื่อ สั่งขยายผลกลุ่มรถโบราณ มีสวมทะเบียนอีกกว่า50คัน
เรียกสอบเพิ่มพระเอกหนุ่ม ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ ปมเอี่ยวโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ ตร.สอท.ประชุมขยายผลเฟสสอง เอาจริงเตรียมล้างบางแก๊งสวมทะเบียนรถ สาวไส้ ยันต้นทาง หลังพบกลุ่มคนเล่นรถโบราณ ครอบครองรถสวมทะเบียนกว่า 50 คัน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปราม การโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) นำโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปจร.ตร. ร่วมกับกรมขนส่งทางบกทางบก และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดปฏิบัติการ “พลิกถนนล่า รหัสโจรกรรม” จับ 2 ผู้ต้องหา แก๊งสวมทะเบียนรถ โดยแอบใช้รหัสยูสเซอร์เนม-พาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่ขนส่ง เข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลรถยนต์ จากนั้นไปแจ้งหายเพื่อทำเล่มทะเบียนใหม่ ก่อนนำไปจำนำหรือขาย โดยปูพรมยึดรถได้ 65 คัน มูลค่ากว่า 77 ล้านบาท สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่มีทั้งดารานักแสดงดัง ในจำนวนนี้มีพระเอกชื่อดังอักษรย่อ “ม” กลุ่มไฮโซและคนเล่นรถโบราณ เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายเรียกดาราคนดังกล่าวมาสอบปากคำ ก่อนที่ต่อมาทาง ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ นักแสดงชื่อดังได้ออกมายอมรับว่าเป็นดารา “ม” ที่มีชื่อเอี่ยวโยงแก๊ง ดังกล่าว หลังซื้อรถมาจากรุ่นพี่ที่รู้จักแต่ยังไม่ได้ของ ซึ่งทางรุ่นพี่ก็คืนเงินมาให้ แต่ทะเบียนรถเป็นชื่อตนไปแล้ว พร้อมยืนยัน ความบริสุทธิ์ใจเตรียมให้ปากคำกับทางตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท. เปิดเผยว่า ทางชุดทำงานได้ออกหมายเรียกนักแสดงหนุ่มเข้าให้ปากคำแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้มีการให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในเบื้องต้นว่าซื้อรถ ต่อมาอีกทอดหนึ่ง ไม่ใช่การซื้อซากรถแล้วนำมาประกอบ ซึ่งเป็นการซื้อรถมาพร้อมกับเอกสารทะเบียนเล่ม จึงไม่รู้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม ซึ่งในส่วนนี้เพื่อความชัดเจนจะต้องเรียกนักแสดงหนุ่มให้ปากคำ พร้อมนำเอกสารหลักฐานมาแสดง ส่วนจะเป็นวันเวลาใดนั้นอยู่ระหว่างการประสาน นอกจากนี้ ต้องสอบพยานแวดล้อม รวมทั้งบุคคลที่สามที่ดาราหนุ่มอ้างว่ามีการ ติดต่อซื้อขายกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อนำมาดูด้วยว่ามีเจตนาว่าซื้อโดยไม่รู้ว่ารถคันนี้เป็นรถไม่ถูกต้อง หรือรู้อยู่แล้ว แต่ตั้งใจ จงใจซื้อ โดยยังไม่เชื่อในคำให้การ ทั้งหมดของนักแสดงหนุ่ม
ในส่วนของการขยายผล ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มที่มีรถโบราณที่ไม่ได้จดทะเบียน เป็นรถเถื่อนและแอบสวมทะเบียนทำผิดกฎหมาย จำนวนกว่า 50 คัน ชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนกำลังขยายผลจับกุม โดยจะจับกุมเครือข่ายรายใหญ่ให้ได้ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มักจะนำซากมาจากที่อื่นแล้วนำมาประกอบ ก่อนจะจดทะเบียนปลอมและขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบ ทั้งที่ผิดกฎหมาย โดยในวันที่ 7 ส.ค. จะเรียก ชุดทำงานและพนักงานสอบสวน หารือวางแนวทางในการขยายผลเพื่อที่จะสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ขยายผลการจับกุม พร้อมเน้นย้ำให้ชุดทำงานดำเนินการรัดกุม ทำงานตรงไปตรงมา หากพบพยานหลักฐาน เชื่อมโยงไปที่กลุ่มบุคคลใดที่ส่อไปในการ กระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป