จากกรณีคนร้ายเป็นชายสวมชุดไรเดอร์ฟู้ดแบรนด์ดัง รูปร่างผอมสูงราว 170 ซ.ม. อายุไม่เกิน 30 ปี สวมหมวกกันน็อกคลุมปิดหน้า ชิงสร้อยคอทองคำ เส้นละ 2 บาท 4 เส้น รวม 8 บาท มูลค่าเกือบ 3 แสนบาท จากห้างทองเยาวราช หัวหิน ถ.ชมสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีดำ-ส้มหลบหนีไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค.66 นั้น

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.หัวหิน ร่วมกับสืบจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบตัวผู้ก่อเหตุคือนายนรภัทร เทียมอุทัย อายุ 25 ปี ชาว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเขาน้อย อ.หัวหิน เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน และกระจายกำลังติดตามจับกุมตัวไปตามพิกัดต่างๆ ที่คาดว่านายนรภัทรจะหลบซ่อนตัว กระทั่งทราบว่านายนรภัทรหลบไปกบดานอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงพยายามกดดันทุกช่องทางเพื่อให้มอบตัว

ชิงทอง – ตำรวจหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ คุมตัวนายนรภัทร เทียมอุทัย ไรเดอร์ฟู้ด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพบุกชิงทองในห้างทองเยาวราช หัวหิน สอบสวนเบื้องต้นให้การอ้างต้องการหาเงินไปใช้หนี้เพื่อน เมื่อวันที่ 15 ส.ค.

กระทั่งเวลา 11.00 น. นายนรภัทรพร้อมครอบครัวเข้ามอบตัวที่สภ.หัวหิน โดยยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำจริง เนื่องจากต้องการหาเงินไปใช้หนี้เพื่อน ยอมรับว่าประกอบอาชีพไรเดอร์ 1 ปี รายได้ไม่ดีนัก จึงกู้เงินจากเพื่อน 5 หมื่นบาทเพื่อลงทุนเช่าพระเครื่องมาขายทำกำไร แต่พระเครื่องที่ซื้อมาไม่สามารถขายได้ และถูกเพื่อนทวงเงินทำให้เครียดจัด จึงก่อเหตุ

นายนรภัทรรับสารภาพด้วยว่า ระหว่างหลบหนีทำสร้อยคอทองคำหล่นหาย 2 เส้น เพราะถือไว้ไม่ได้ใส่กระเป๋า จึงเหลือติดตัวมาแค่ 4 บาท นำไปจำนำได้เงิน 90,000 บาท ก่อนหนีไปกบดานที่กรุงเทพฯ โดยเช่าโรงแรมแถวรัชดาอยู่นาน 2 สัปดาห์ และไม่ยอมใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองติดต่อครอบครัว แต่พยายามติดต่อทางอื่น กระทั่งเงินหมด อีกทั้งถูกตำรวจกดดันอย่างหนักจึงตัดสินใจเข้ามอบตัว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน