ทั้งเหนือ-ใต้-ตอ. แม่ฮ่องสอนวุ่น ‘สตูล’ก็ยังอ่วม

กรมทรัพยากรธรณีเตือน 12 จว.ทั้งเหนือ-ใต้-กลาง-ตะวันออก ระวังดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก เหตุฝนตกหนักในรอบ 24 ช.ม. บางแห่งตกสะสมปริมาณฝนกว่า 300 ม.ม. ชั้นดินอุ้มน้ำมาก ส่วนที่แม่ฮ่องสอน ฝนตกกลางดึก น้ำป่าทะลักท่วมถนน ซัดจยย.จมหาย ส่วนหนุ่มคนขับปีนขึ้นต้นไม้หนีตายได้ทัน ที่พิมาย โคราช ก็อ่วม ฝนตกหนักหลายชั่วโมงน้ำท่วมถนน บ้านเรือน ชาวบ้านเก็บข้าวของหนีวุ่น ด้านประจวบฯ ลมพัดแรง ต้นไม้ล้มทับบ้านพังหลายหลัง สตูลฝนตก 5 วันติดกัน ต้องปักธงแดงเตือนภัย

ฝนถล่มแม่ฮ่องสอน-ซัดจยย.จม
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 5 ก.ย. เกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอนนานกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลทะลักท่วมถนน ทางเข้าหมู่บ้านห้วยแก้วล่าง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ระหว่างนั้นมีชาย วัยรุ่นคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเส้นทางน้ำท่วมถูกน้ำป่าพัดรถจักรยานยนต์จมหายไปกับกระแสน้ำ ส่วนชายคนดังกล่าวหนีน้ำปีนขึ้นต้นไม้ได้อย่างปลอดภัย หลังน้ำลดลงแล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชายวัยรุ่นคนดังกล่าวลงจากต้นไม้ ส่วนรถจักรยานยนต์ถูกน้ำป่าพัดไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร

นอกจากนี้ยังมีต้นไม้โค่นล้มขวางถนน และน้ำป่าพัดเศษซากไม้และก้อนหินมาทับถมเส้นทางในหลายจุด

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานช่วยกันระดมค้นหานายคำตัน ชมพู อายุ 42 ปี ชาวบ้านบ้านใหม่ที่ออกไปหาปลาขณะฝนตกและถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปบริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านใหม่ ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ดำน้ำค้นหาหลายชั่วโมง แต่ยังไม่พบร่าง พบเพียงเสื้อ กางเกงและรองเท้า กองอยู่ริมฝั่ง

ส่วนที่บ้านไม้สะเป่ ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เกิดฝนตกหนัก กอไผ่บนภูเขาสไลด์ลงมาทับนายกือ คีรีทรัพย์ทวี ชาวบ้านไม้สะเป่ บาดเจ็บสาหัส ชาวบ้านช่วยนำส่งโรงพยาบาลในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน

นอกจากนี้น้ำป่าไหลลงลำห้วยแม่สะมาด ลำห้วยแม่จ๋า ลำน้ำแม่สอย ลำน้ำแม่สะงี ลำน้ำแม่สะ และแม่น้ำปาย มีปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำ ลำห้วยต่างๆ ต้องขนข้าวของที่จำเป็นออกจากบ้านเรือน หลบหนีไปอยู่ยังที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว

‘พิมาย’อ่วม-ฝนหนักท่วมบ้าน
ส่วนที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ในพื้นที่อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง น้ำป่าไหลหลากท่วมถนนทางหลวง สายพิมาย-ชุมพวง บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านพุทรา หมู่ที่ 9 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย มีระดับน้ำสูง 30 ซ.ม. ระยะทางประมาณ 600 เมตร รถจักรยานยนต์และ รถเล็กสัญจรผ่านไปมาลำบาก ตำรวจสภ.พิมาย อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก 31 พิมาย งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลรังกาใหญ่นำป้ายแจ้งเตือน น้ำท่วมและสัญญาณไฟแจ้งเตือนคอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ผู้ใช้รถ ใช้ถนน เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว เกรงว่ารถจะตกไหล่ทาง และเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ขณะเดียวกันน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ในที่ลุ่มกว่า 10 หลัง








Advertisement

จากรายงานลักษณะสภาพอากาศของสถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 12.00 น.วันนี้จนถึงเวลา 12.00 น.วันพรุ่งนี้ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง พบว่ามีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ สำหรับเกษตรกรขอให้กักเก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตร

พิษฝน – เจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมเรือท้องแบนพร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่โดนฝนถล่มหนักต่อเนื่องทั้งคืน จนเกิด น้ำท่วมขังสูงใน พื้นที่เทศบาลเมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 6 ก.ย.

มุกดาหารอ่วมฝนถล่มทั้งคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จ.มุกดาหาร ฝนตกตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองมุกดาหาร เร่งออกช่วยขนย้ายสิ่งของ ตลอดจนสัตว์เลี้ยงให้ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกตลอดทั้งคืน สาเหตุจากผนังกั้นน้ำห้วยแข้ และการถมดินปิดร่องระบายน้ำ

นายอดุลย์ ศิริมันต์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองมุกดาหาร เปิดเผยว่า เช้ามืดวันนี้นำ เจ้าหน้าที่พร้อมเรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จากสำนักงานป้องกันภัย จ.มุกดาหาร ออกช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะชุมชนศรีประเสริฐ 2-3 กว่า 10 หลังคาเรือนที่ถูกน้ำท่วม หลังฝนตกตลอดทั้งคืนถึงเช้า สาเหตุน้ำท่วมชุมชนหลายแห่งภายในเทศบาลเมืองมุกดาหาร เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยน้ำเริ่มเอ่อท่วมตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 6 ก.ย. บางแห่งระดับน้ำสูง 70-80 ซ.ม. เจ้าหน้าที่ช่วยขนย้ายสิ่งของ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนสัตว์เลี้ยงไปไว้บนที่สูงและมีบางส่วนนำไปฝากไว้ที่บ้านญาติ สาเหตุที่น้ำท่วมเพราะมีการก่อสร้างและถมดินปิดทางระบายน้ำ ทำให้บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มเกิดน้ำท่วมขัง เนื่องจากน้ำไม่มีทางระบายออก

ประจวบฯวุ่นลมซัดบ้านพัง
วันเดียวกัน นายสุวิทย์ เยื่อใย นายกอบต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายธนกิจ แทนคุณ ปลัดอบต.เกาะหลัก นายมานพ ครุฑเผือก กำนันตำบลเกาะหลัก ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่น หมู่ 7 และบ้านมะขามโพรง หมู่ 9 ต.เกาะหลัก อ.เมือง หลังเมื่อวันที่ 5 ก.ย. มีลมกระโชกแรง ทำให้บ้านเรือนชาวบ้าน อาคารบ้านพัก และต้นไม้ถูกลมพัดล้มพังเสียหาย

นายธนกิจเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีบ้านเรือนของประชาชนเสียหายจำนวนหลายหลัง กระเบื้องแตก หลังคาหลุดปลิว 8 หลัง ต้นมะพร้าว และต้นไม้ขนาดใหญ่ ล้มกีดขวางถนน 2-3 จุด จึงนำเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยกันใช้เครื่องเลื่อยยนต์ตัดต้นไม้เคลียร์ออกจากพื้นผิวถนน เพื่อเปิดการจราจร พร้อมทั้งประสานงานส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

สตูลฝนถล่ม-ปักธงแดงเตือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.สตูล หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันตลอด 5 วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลท่วมพื้นที่อ.ละงู จ.สตูล ขณะนี้เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมขังรอการระบาย ขณะที่ฝนยังคงตกหนักตลอดตั้งแต่ช่วงเที่ยงวานนี้ ระดับน้ำใน พื้นที่อ.ควนโดนเริ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ประจำฝายดูสนต้องคอยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และช่วงเย็นระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงมีคำสั่งให้ปักธงเหลืองบริเวณคลองดูสน ซึ่งเป็นคลองสายหลักของอ.ควนโดน ให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด กระทั่งหลังเที่ยงคืนมีการประกาศเตือนและเปลี่ยนจากธงเหลืองเป็นธงแดงแจ้งเตือนภัยให้พี่น้องชาวอ.ควนโดน เพื่อเตรียมพร้อมและยกสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อรองรับสถานการณ์ได้ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากติดธงแดง ปรากฏว่าในพื้นที่ ม.7 บ้านปันจอร์ ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน จ.สตูล น้ำจากคลองดูสนเริ่มไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนในหมู่บ้านหลายสายและท่วมพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ ม.7 ขณะนี้ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มปกคลุมไปด้วยเมฆฝนตลอดเวลาและมีฝนตกลงมาโปรยปราย

เตือน 12 จว.ระวังดินถล่ม-น้ำป่า
วันเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แจ้งประกาศเตือนภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระยะ 2-3 วันนี้ โดยขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไปพื้นที่ จ.ตาก แม่ฮ่องสอน น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล เฝ้าระวังภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระหว่างวันที่ 6-7 ก.ย. 66 โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินถล่มอ.เมือง ปาย สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, อ.ท่าสองยาง แม่ระมาด อุ้มผาง จ.ตาก, อ.ปัว บ่อเกลือ แม่จริม จ.น่าน, อ.เมือง มะขาม ขลุง เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี, อ.เขาสมิง บ่อไร่ เกาะช้าง จ.ตราด, อ.เมือง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ สุขสำราญ จ.ระนอง, อ.เมือง ตะกั่วป่า กะปง คุระบุรี ท้ายเหมือง จ.พังงา, อ.เมือง กะทู้ ถลาง จ.ภูเก็ต และอ.ละงู มะนัง ทุ่งหว้า จ.สตูล เนื่องจากมีฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ชั่วโมง ได้มากกว่า 100 ม.ม. และมีฝนตกอย่างต่อเนื่องสะสม 3 วัน วัดปริมาณน้ำฝนรวมได้มากกว่า 300 ม.ม. ทำให้ชั้นดินอุ้มน้ำไว้มาก อาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินถล่มได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน