ไม่ให้ลงเลือกตั้ง ห้ามรับตำแหน่ง

ศาลฎีกาสั่งตัดสิทธิ์ ‘ช่อ พรรณิการ์’ ห้ามลงสมัครเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งการเมืองตลอดไป จากความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง หลังโดนร้องกรณีโพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กพาดพิงสถาบัน ต่อมาป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด ยื่นฟ้องต่อศาล จนนำมาสู่คำพิพากษา

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษา คดี คมจ. 1/2565 ที่คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้อง ยื่นขอให้วินิจฉัย กรณีกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ โพสต์ข้อความพาดพิงสถาบัน

ศาลมีคำพิพากษาว่า น.ส.พรรณิการ์ กระทำการอันเป็นการแสดงออกต่อสถาบันที่ไม่เหมาะสมหรือมิบังควรอย่างยิ่ง เป็นการไม่เคารพต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ที่ต้องพิทักษ์ไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ผ่านมาตั้งแต่ก่อนดำรงตำแหน่งสส.และเมื่อดำรงตำแหน่ง สส. ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับมาตรฐานจริยธรรมฯ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้เพิกถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดไป รวมถึงไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 แต่ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการไม่ยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรฐานจริยธรรมฯ จึงยังไม่เห็นสมควรเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

ทั้งนี้ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือ ต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ น.ส.พรรณิการ์ กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจ เชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างมิบังควร อันเป็นพฤติการณ์หรือการ กระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐาน ทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และน.ส.พรรณิการ์ เป็น สส. ได้รับโปรดเกล้าฯ และได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก็ได้ระบุว่า จะปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ

ต่อมาวันที่ 28 ก.พ. 2565 ที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ชี้มูล น.ส. พรรณิการ์ วานิช หรือช่อ อดีต สส.บัญชี รายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงิน แผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ที่บังคับใช้กับ สส. กรณีโพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊กที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควร

ด้านน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความ หลังศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป รวมถึงไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า “ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและความเป็นห่วงจากทุกๆ ช่องทางค่ะ คำพิพากษาศาลในวันนี้เป็นการตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง หมายความว่าลงสมัคร สส. หรือแข่งขันการเลือกตั้งทุกระดับไม่ได้ รับตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้

แต่สำหรับงานการเมืองที่ทำอยู่ตอนนี้ ไม่มีใครมาพรากสิทธิไปจากช่อได้ค่ะ ทุกอย่างจึงยังเหมือนเดิมทุกประการ ภารกิจการเมืองของช่อในนามคณะก้าวหน้ายังดำเนินต่อไป รวมถึงการเป็นผู้ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราเดินทางมาไกลขนาดนี้จะไม่หยุดเดินกลางคันจนกว่าจะถึงเส้นชัย ตัวเราอยู่ตรงไหน ตำแหน่งใด ไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งสำคัญคือประเทศไปได้ไกลแค่ไหนต่างหาก








Advertisement

ปล. คดีนี้เกิดจากโพสต์เฟซบุ๊กของช่อตั้งแต่สมัยก่อนเป็น สส. มีการดำเนินคดีทั้งคดีอาญา ข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และคดีจริยธรรมนักการเมือง ก่อนหน้านี้ศาลอาญายกฟ้องคดี พ.ร.บ.คอมฯ ไปแล้วนะคะ แต่อัยการยื่นอุทธรณ์ก็ต้องสู้กันต่อ ส่วนคำพิพากษาที่ออกวันนี้เป็นการตัดสินว่าผิดจริยธรรม สส.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน