เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม (ยธ.) เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้ประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วน เพื่อลดปัญหายาเสพติดให้ได้ภายใน 1 ปี ทั้งแง่ปริมาณผู้เสพ ผู้ขาย ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงหารือเน้นหนักเรื่องการบำบัดดูแลผู้ใช้ผู้เสพ ซึ่งโดยหลักแล้วนโยบายของ สธ. ผู้เสพก็คือผู้ป่วย จึงต้องแบ่งระดับผู้เสพ เพื่อเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู โดยสธ.จะใช้อาการของผู้ป่วยแบ่งกลุ่ม คือ กลุ่มสีแดงผู้ที่ใช้ประจำ มีอาการติดเรื้อรัง มีประมาณ 36,000 คน คิดเป็น 8%, กลุ่มสีเหลืองผู้เสพที่มีอาการ มีจำนวนค่อนข้างเยอะ 423,000 คน คิดเป็น 92% และกลุ่มสีเขียว ผู้เสพที่ไม่มีอาการ หรือเป็นผู้ใช้เฉยๆ ประมาณ 1.46 ล้านคน

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า สองส่วนแรกจะเป็นหน้าที่โดยตรงของ สธ. ที่ต้องนำเข้าสู่การบำบัดในสถานพยาบาล เราได้ประกาศนโยบายเร่งด่วน (Quick Win) ว่า 1 จังหวัดจะต้องมีมินิธัญญารักษ์รองรับ 1 แห่ง รวมๆ แล้วกลุ่มนี้เรามีตัวเลขประมาณ 459,000 ราย แต่อีก 1.46 ล้านคนถือเป็นผู้ใช้ กลุ่มนี้เราทิ้งไม่ได้หากเจอตัว ก็จะมีระบบให้ชุมชนบำบัด เป็นความร่วมมือระหว่าง สธ.กับกระทรวงมหาดไทย (มท.) รวมถึงเป็นการรองรับผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลแล้ว คืนคนเหล่านี้สู่สังคม สังคมก็ต้องรับไปดูแลต่อ ให้อยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขที่สุดนี่คือเป้าหมายของเรา

นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในส่วนของ ยธ.จะดูเรื่องเม็ดเงินงบประมาณที่ใช้ในการบำบัดรักษาฟื้นฟู ที่ถูกจัดอยู่ในงบบูรณาการ ที่มีหลายกระทรวงร่วมดูแล สธ.เป็นเจ้าภาพจึงเน้นว่าทำอย่างไรให้งบประมาณที่ได้มาครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่จะบำบัดรักษามากที่สุด อย่างปี 2566 ของบไป 1.5 แสนล้านบาท แต่ได้มาเพียง 400 กว่าล้านบาท สามารถบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดได้เพียง 69,000 คน จึงต้องมาคุยกันว่าจะต้องช่วยกันดูแลอย่างไร ทั้งนี้ สธ.จะต้องมาออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดจำนวนการถือครอบครองว่า จำนวนเท่าไรจะถือเป็นผู้เสพ ที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันหาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีเหตุผลรองรับ จะเป็น 1 เม็ด 5 เม็ดหรือ 8 เม็ด บนพื้นฐานเหตุผลทั้งมิติด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะนายกฯ ก็ได้ทวงถาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน