เมื่อวันที่ 2 ต.ค. พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เผยความคืบหน้าคดีสาวใหญ่เมืองประจวบฯ วัย 48 ปี ถูกอุ้มเรียกเงินค่าไถ่ จำนวน 3 แสนบาท โดยสุดท้าย เสียเงินไป 200,000 บาท พร้อมแหวนทอง 2 สลึง อีก 1 วง เหตุเกิดในท้องที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา กระทั่งนำไปสู่การจับกุมตัวนายธาราพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “ต้น ม่องล่าย” อายุ 33 ปี ชาวประจวบคีรีขันธ์ อดีตลูกเขยของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงวันที่ 23 กันยายน 2566 ในข้อหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ โดยมีอาวุธ และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ซึ่งนายต้นให้การภาคเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นสอบสวน โดยมีรายงานด้วยว่า นายต้น เคยต้องคดีมาแล้วราว 5-6 คดี ทั้งยาเสพติด อาวุธปืน และคดีทะเลาะวิวาท อีกทั้งเคยต้องคำพิพากษาจำคุกเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายต้น ฝากขังศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผัดแรก (12 วัน) เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 โดยได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลว่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดียังคงเร่งมือทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้นำพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 2 ราย โดยผู้ต้องหารายที่ 2 ในคดี เป็นชาย ชื่ออักษรย่อ ก. มีหลักฐานระบุว่า เกี่ยวข้องในคดี ทำหน้าที่เป็นคนขับรถ ส่วนผู้ต้องหารายที่ 3 ในคดี เป็นชายมีชื่ออักษรย่อ อ. ซึ่งทั้ง 2 ราย มีความเชื่อมโยงกับนายต้น ผู้ต้องหารายที่ 1 ที่ถูกควบคุมตัวได้ก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าควบคุมตัวทั้งสองราย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งเร่งรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหารายที่ 4 ตามลำดับด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน